“ได้แน่นอน…”
ลู่โจวผายมือให้ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนมาทางไวท์บอร์ด
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนหยิบปากกาแล้วจ้องมองไวท์บอร์ดชั่วครู่ จากนั้นเขาก็เริ่มลงมือเขียน
คาบเรียนจบลงแล้ว แต่ไม่มีใครออกห้องบรรยายสักคน
ทุกคนรวมไปถึงลู่โจวต่างก็มองไวท์บอร์ดตาไม่กะพริบ
ลู่โจวดูสิ่งที่ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนเขียน แววตาเขาค่อยๆเปล่งประกาย
สุดยอด…
นี่เป็นส่วนที่น่าสนใจของคณิตศาสตร์
วิธีที่ใช้ไม่ได้ ไม่ว่าจะลองกี่ครั้ง มันก็ไม่ได้ผล
แต่เมื่อมีคนทำวิธีที่อาจได้ผล เราก็จะรู้สึกถึงชัยชนะเบื้องหน้า
แม้เฟฟเฟอร์แมนจะยังเขียนไม่เสร็จ แต่ลู่โจวมั่นใจเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าวิธีนี้ถูก
เป็นไปตามคาด ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ไม่ทำให้เขาผิดหวัง
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนเติมขั้นตอนคำนวณที่เหลืออย่างรวดเร็วแล้วเขียนบรรทัดสุดท้าย
[Pμi:= μi – (Δ^-1)·δi·δj·μj]
มีความปั่นป่วนเกิดขึ้นในห้องเรียน แม้ว่าเนื้อหาจะยากเกินไปสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี แต่ยังไงเสียที่นี่ก็เป็นพรินซ์ตัน นักศึกษาทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ล้วนอยู่แนวหน้าของสาขาวิชา
พวกเขาคิดวิธีไม่ได้ แต่พวกเขาเข้าใจได้
เห็นได้ชัดว่าความเร็วการทำความเข้าใจของพวกกเขาช้ากว่าลู่โจว แต่ก็เป็นเหมือนลู่โจว พวกเขาเห็นความยอดเยี่ยมของขั้นตอนการคำนวณของศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมน
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนวางปากกาลงแล้วอ่านการคำนวณตั้งแต่แรกจนจบอย่างละเอียด จากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วกล่าว “โจทย์นี้ไม่ง่ายเลย…มันยากเกินไปหน่อยสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี”
ลู่โจวกระแอม “ดังนั้นมันจึงเป็นคำถามกระตุ้นความคิด”
ลู่โจวแค่วางแผนบรรยายให้นักศึกษาฟังเท่านั้น เขาจะไม่เขียนปัญหาการวิจัยบนไวท์บอร์ดถ้าไม่มีนักศึกษาจำนวนมากสนใจ
แน่นอน ลู่โจวไม่คิดว่าผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้จะนั่งอยู่แถวหลังห้องบรรยาย
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกลับมาให้ความสนใจกับเนื้อหาบนไวท์บอร์ด เขาลูบคางแล้วพูดด้วยท่าทางครุ่นคิด
“(Δ^-1)·δi·δj ถูกกำหนดเป็นฟูเรียร์มัลติพลายเออร์ของ ξiξj/|ξ|2…แต่สิ่งที่ฉันอยากรู้คือต่อให้คุณมีสมการอนุพัทธ์ของ Pμi แต่มันมีประโยชน์อะไร? ฉันไม่ค่อยเข้าใจ…คุณช่วยอธิบายได้ไหม?”
“แน่นอน” ลู่โจวยิ้ม “แต่ฉันต้องการไวท์บอร์ดอันใหม่”
“พรินซ์ตันมีไวท์บอร์ดมากมาย ฉันจะหามาให้”
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนออกห้องบรรยายไปแล้วกลับมาพร้อมกับไวท์บอร์ด
ลู่โจวลบกระดานไวท์บอร์ดอันใหม่แล้วหยิบปากกาขึ้นมา จากนั้นเขาก็เริ่มอธิบายไปพลางเขียนไป
“ถ้าเราได้ Pμi: = μi-(Δ^-1)·δi·δj·μj…”
งานวิจัยของลู่โจวขึ้นอยู่กับขั้นตอน “Pμi:=?” ดังนั้นเขาจึงได้สมการอนุพัทธ์มาทันที
มันฟังดูยาก
แต่ที่จริงมันง่ายมาก
ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เขาต้องทำก็คือการใช้ข้อสรุปใหม่เพื่อสานต่อแนวคิดเดิม
อย่างไรก็ตาม…
[
จู่ๆ ลู่โจวก็หยุดเขียน
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนพลันเกิดความสนใจขึ้นมา
ลู่โจวหันกลับมามองเฟฟเฟอร์แมน
“คุณคิดยังไง?”
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนลูบคาง “มัน…น่าสนใจ”
นักศึกษามองทั้งสองที่กำลังยืนอยู่ที่โพเดียมอย่างเงียบๆ พวกเขากลัวไปขัดกระบวนการคิดของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง
ในอเมริกาไม่มีที่ไหนเคารพความรู้มากเท่าพรินซ์ตันอีกแล้ว
ห้านาทีผ่านไป จู่ๆ ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนก็พูดขึ้น
“ดูเหมือนปัญหานี้จะแก้ไม่ได้ง่ายๆ”
ลู่โจวยังคงจ้องมองไวท์บอร์ด เขาพยักหน้า “คุณพูดถูก”
ถ้าปัญหานี้แก้ได้ง่าย สถาบันเคลย์คงไม่รวมมันอยู่ในปัญหารางวัลมิลเลนเนียมหรอก
“แต่ฉันแปลกใจที่คุณมาถึงขั้นตอนนี้ได้” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกล่าว “สมการนาเวียร์-สโตกส์เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ มันเป็นพื้นฐานของกลศาสตร์การไหล แต่มันก็เป็นปัญหาสมการเชิงอนุพันธ์ย่อยด้วย ถ้าใครหาผลเฉลยที่ราบรื่นของสมการได้ ไม่เพียงแต่จะเป็นเกียรติยศต่อความฉลาดของมนุษย์เท่านั้น แต่มันยังส่งผลต่อสาขาวิชาต่างๆ อย่างล้ำลึกด้วย”
ดิเยอดอนเนเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบอว์บากิกรุ๊ป และ’คณิตศาสตร์เกียรติยศต่อความฉลาดของมนุษย์’เป็นหนึ่งในคำพูดอันโด่งดังของเขา ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนไม่เห็นด้วยกับมุมมองของบอว์บากิกรุ๊ป แต่เขาเห็นด้วยกับคำพูดนี้
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนยิ้มและเริ่มปรบมือ
“ฉันคิดว่านี่เป็นการบรรยายที่เป็นประโยชน์มาก…แม้ว่าเราอาจไม่ใช่ผู้ตัดสินที่ดีที่สุดก็ตาม…พวกคุณคิดเห็นยังไง?”
เขาหันไปมองเหล่านักศึกษา
คำตอบนั้นชัดเจนจากเสียงปรบมือ
เมื่อได้ยินเสียงปรบมือ ลู่โจวก็อดยิ้มไม่ได้
แม้ว่าเขาไม่ได้พูดอะไร แต่เขาก็รู้สึกค่อนข้างภาคภูมิใจ
ความรู้สึกถึงความสำเร็จในห้องเรียนนั้นต่างจากการบรรยายเผยแพร่ผลงานทางวิชาการอย่างจริงจัง
ดูเหมือนแม้เขาจะไม่ค่อยมาให้พวกนักศึกษาเห็นหน้า แต่เหล่านักศึกษาก็ยังชอบเขามาก
“เอ้อ ฉันแก้ปัญหาได้แล้ว” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ส่วนคำนวณบนไวท์บอร์ดแล้วเอ่ยถาม “คุณยังรักษาสัญญาอยู่ไหม?”
ลู่โจวอึ้ง
“สัญญา?”
หญิงสาวผมน้ำตาลแดงยกมือขึ้นมา “ศาสตราจารย์ คุณบอกว่าใครที่แก้ปัญหานี้ได้จะไปเป็นศิษย์เรียนปริญญาเอกกับคุณได้”
ห้องเรียนหัวเราะกันอย่างครึกครื้น
ลู่โจวกระแอม “เลิกหยอกกันเล่นได้แล้ว”
“ไม่ๆ ฉันไม่ได้หยอก” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกล่าว เขายิ้มแล้วพูดต่อ “ถ้าคุณต้องการ ฉันก็ไม่คิดมากถ้าจะเอาปริญญาเอกอีกใบ”
แม้ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนจะพูดเหมือนไม่ได้ล้อเล่น แต่ลู่โจวคิดว่าเขาล้อเล่นแน่นอน
เมื่อเทียบกับศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ที่ไปจากพรินซ์ตัน เฟฟเฟอร์แมนอยู่อีกขั้วหนึ่งของ’ความหยิ่งยโส’ มีแต่เขาเท่านั้นแหละที่พูดจาหยอกล้อแบบนี้
เมื่อเห็นลู่โจวงง เฟฟเฟอร์แมนก็กระแอมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าเดิม
“ก็ได้ เพราะคุณไม่มีแผนรับฉันเป็นนักศึกษาปริญญาเอก งั้นฉันหวังว่าคุณจะช่วยฉันได้”
ลู่โจวถาม “ช่วยอะไรครับ?”
“มันเกี่ยวกับการมีอยู่ของความราบรื่นของสมการนาเวียร์-สโตกส์” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันอยากแก้ปัญหานี้กับคุณ!”
………………………………..