วันถัดมา ทุกสำนักข่าวต่างก็เขียนข่าวเรื่องพิธีมอบรางวัล
[นักวิชาการชื่อดัง ลู่โจว ชนะรางวัลวิทยาศาสตร์ธรรมชาติอันดับหนึ่ง!]
[ผู้ชนะรางวัลวิทยาศาสตร์ธรรมชาติอันดับหนึ่งที่อายุน้อยที่สุด!]
[ช็อก ผู้ชนะรางวัลวิทยาศาสตร์ธรรมชาติอันดับหนึ่งปีนี้มีสามคน! และหนึ่งในนั้นก็อายุเพียงยี่สิบสี่ปีเท่านั้น!]
[รางวัลสูงสุดของจีน รางวัลวิทยาศาสตร์ธรรมชาติอันดับหนึ่งที่ท่านไม่รู้]
[…]
เช่นเดียวกับรางวัลคราฟอร์ด ลู่โจวชนะรางวัลวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและได้รับความสนใจอย่างมาก
ไม่ว่าสื่อจะพยายามสร้างภาพให้ลู่โจวหรือปั่นกระแสให้ลู่โจวเอาคอนเทนต์ แต่เพราะการรายงานข่าวอย่างท่วมท้น ชื่อ’ลู่โจว’จึงร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง
นอกจากความสำเร็จของลู่โจว ผู้คนก็พูดถึงอายุของลู่โจวเช่นกัน
คนส่วนใหญ่คิดว่าลู่โจวสมควรได้รับรางวัลแล้ว และคณะกรรมการตัดสินได้ถูกต้องมาก
แน่นอนว่ามันต้องมีบางคนไม่เห็นด้วยเช่นกัน
บางคนก็คิดว่ามันเป็นการตัดสินอย่างลวกๆ เพราะการมอบรางวัลวิทยาศาสตร์ธรรมชาติให้แก่คนที่อายุต่ำกว่าสี่สิบปีมันไร้สาระมาก
เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่บนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น มหาวิทยาลัยต่างๆ ก็มีการพูดคุยเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
ณ โรงอาหารสถาบันวิทยาศาสตร์จีน
นักวิจัยสองคนที่พึ่งรับปริญญาเอกกำลังทานมื้อเที่ยงไปพลางคุยกันไปพลาง
“นายได้ข่าวไหม? ปีนี้มีผู้ชนะรางวัลวิทยาศาสตร์ธรรมชาติอันดับหนึ่งสามคน”
นักวิจัยสวมแว่นกล่าวอย่างสะเทือนอารมณ์ “ฉันได้ยินว่าตั้งแต่ราวปี 1980 นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีผู้ชนะสามคน ฉันว่าคณะกรรมการคงตัดสินลำบาก ไม่กี่ปีมานี้ไม่มีผู้ชนะสักคน แต่ปีนี้มีถึงสาม มีคนเก่งเยอะจริงๆ”
นักวิจัยร่างท้วมเลิกคิ้วและหันมามองเขา
“นายคิดว่ามันเป็นเรื่องดีไหม?”
“ทำไมถึงไม่ใช่เรื่องดีล่ะ? วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศเราเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ แถมยังมีอิทธิพลในแวดวงวิชาการนานาชาติมากขึ้นเรื่อยๆ อีก มันจะไม่ดีได้ยังไง?”
นักวิจัยร่างท้วมถาม “แต่เขาเป็นศาสตราจารย์พรินซ์ตันไม่ใช่เหรอ? เขานับเป็นพวกเราด้วยเหรอ?”
นักวิจัยสวมแว่นเอาเนื้อใส่หม้อแล้วส่ายหน้า
“กกของรางวัลวิทยาศาสตร์ธรรมชาติอันดับหนึ่งนั้นชัดเจน ผู้ชนะรางวัลต้องเป็นพลเมืองจีน เกณฑ์การให้รางวัลคือมีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เขาไม่เคยสละสัญชาติจีน ทำไมเขาจะเป็นผู้ชนะรางวัลไม่ได้ล่ะ? ตอนกษัตริย์เบลเยียมมอบบรรดาศักดิ์อัศวินให้เดอลีงย์ เขาก็ทำงานอยู่ที่สถาบันการศึกษาขั้นสูงพรินซ์ตัน นายมองแค่ผิวเผิน ไม่ได้มองจุดสำคัญ!”
นักวิจัยร่างท้วมถาม “แล้วนายรู้ได้ไงว่าเขาจะกลับมาอยู่ที่จีน?”
นักวิจัยสวมแว่นรู้สึกขบขัน
“ฉันจะบอกให้ ด้วยความสามารถของเขา ถ้าเขาต้องการ บนโลกนี้เขาจะไปเป็นพลเมืองประเทศไหนก็ได้ทั้งนั้น แต่เขาก็ยังเป็นพลเมืองจีนและถือพาสปอร์ตจีนอยู่ แค่นี้ก็อธิบายความภักดีของเขาได้แล้ว เมื่อเทียบกันแล้วศาสตราจารย์ที่ได้รับตำแหน่งนักวิชาการแล้วออกไปจากประเทศนี่มัน…”
“เกียรติยศของเขาคือเกียรติยศของประเทศ ความฉลาดของเป็นเกียรติยศของโลกวิชาการจีน แทนที่จะหาเรื่องว่าเขา ฉันว่านายเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า”
นักวิจัยร่างท้วมขมวดคิ้ว “แต่อายุของเขา…”
นักวิจัยสวมแว่นกล่าว “อายุทำไม? มันดีต่อคนหนุ่มสาวของประเทศ! รัฐกำลังบอกว่าตราบใดที่คุณเก่งพอ อายุไม่ใช่ปัญหา นายมีปัญหาอะไรป่ะเนี่ย?”
นักวิจัยร่างท้วมยิ้มและไม่ได้พูดอะไร
คำพูดของนายเหมือนจะถูกนะ…
แต่ปัญหาคือเราเก่งไม่พอ
จะไม่ให้ฉันอิจฉาเหรอ?
…
มีการถ่ายรูปหลังพิธี และพิธีก็จบลงตอนกลางคืน
คืนวันถัดมาจะเป็นงานเลี้ยงรับรองที่จัดโดยรัฐ
นี่ต่างจากงานเลี้ยงที่สต็อกโฮล์ม เพราะงานเลี้ยงครั้งนี้ดีกว่าและเป็นพิธีการมากกว่า
นอกจากนี้นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่โจวได้เห็นงานเลี้ยงหรูของจริง
มีอาหารหลากหลายชนิด และแบ่งเป็นประเภทต่างๆ อาหารแต่ละจานมีเอกลักษณ์ในตัว น่าเสียดายที่ลู่โจวลงลิ้มรสอาหารทุกจานไม่ได้
ในฐานะผู้ชนะรางวัลวิทยาศาสตร์ธรรมชาติอันดับหนึ่ง มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะเป็นจุดสนใจ
ลู่โจวตอบนักวิชาการทุกคนที่ชวนเขาคุยอย่างสุภาพ
นอกจากนักวิชาการธรรมดาที่มาชวนเขาคุย ผู้ชนะรางวัลวิทยาศาสตร์ธรรมชาติอีกสองคน นักวิชาการหลี่และนักวิชาการถังก็มาคุยกับลู่โจวเช่นกัน
ลู่โจวไม่ค่อยรู้เรื่องเกษตรมากนัก ดังนั้นเขาจึงคุยกับนักวิชาการหลี่อยู่สองสามคำก่อนจะอวยพรให้กันและแยกกันไป
ทิศทางการวิจัยของนักวิชาการถังคือพอลิเมอร์ เขาจึงมีเรื่องให้คุยกับลู่โจวมาก…
“ศาสตราจารย์ลู่ ช่วงนี้คุณกำลังวิจัยอะไรอยู่?”
ลู่โจวยิ้ม “คุณหมายถึงด้านวัสดุศาสตร์หรือด้านคณิตศาสตร์ล่ะ?”
ถังเปิ่นจงประหลาดใจ เขากล่าว “วิจัยคณิตศาสตร์และวัสดุศาสตร์พร้อมกันเหรอ?”
ปกติแล้ว การทำวิจัยสองอย่างพร้อมกันก็ไม่ธรรมดาแล้ว แต่การวิจัยสองสาขาพร้อมกันเนี่ยไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
เมื่อลู่โจวเห็นสีหน้าประหลาดใจของนักวิชาการถัง เขาก็ยิ้มแล้วกล่าว “ไม่ใช่สองอย่างพร้อมกัน ด้านวัสดุส่วนใหญ่เป็นฝีมือของทีมวิจัยของผมที่ซิลิคอนแวลลีย์กับจินหลิงและร่วมมือกับทีมวิจัยสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ วิทยานิพนธ์ส่งไปเนเจอร์แล้ว ส่วนเนื้อหาเฉพาะ ผมเกรงว่าผมคงเผยแพร่ก่อนตีพิมพ์ไม่ได้ ผมพูดได้แค่ว่ามันเกี่ยวข้องกับวัสดุตัวนำยิ่งยวด”
นักวิชาการถังยิ้ม “วัสดุตัวนำยิ่งยวดเหรอ? ผมจะตั้งตารอเนเจอร์ฉบับถัดไปแล้วกัน!”
…
หลังงานเลี้ยงของรัฐ ลู่โจวก็ก้าวขึ้นรถเมอร์ซิเดส
หวังเผิงสตาร์ทรถแล้วขับออกไปอย่างเชี่ยวชาญ
ลู่โจวสัมผัสถึงลมเย็นๆ พัดผ่านเขาจากหน้าต่าง เขารู้สึกสร่างขึ้นมาบ้าง
เขาหันไปถามหวังเผิง “คุณทานอะไรมายัง?”
หวังเผิงกล่าว “ยังครับ เดี๋ยวผมค่อยไปหาทาน”
ลู่โจวกล่าว “เอ้อ ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?”
หวังเผิงกล่าว “เชิญเลยครับ”
ลู่โจวถาม “ผมต้องออกโรงแรมตอนไหน?”
หวังเผิงที่กำลังบังคับพวงมาลัยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ศาสตราจารย์ลู่ คุณอยู่ได้ตามต้องการเลย”
“ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เดี๋ยวมันจะสร้างปัญหาให้พวกคุณมากไป” ลู่โจวส่ายหน้า “งั้นพอผมกลับจินหลิง ฝากเช็คเอาท์ด้วยนะ”
หวังเผิง “…”
อันที่จริงมันไม่มีเรื่องอย่างเช็คเอาท์ออกจากห้องหรอก
เพราะโรงแรมนี้ไม่เปิดให้คนภายนอก แขกคนสำคัญระดับประเทศหรือบุคลากรทางทหารที่มีสถานะพิเศษเท่านั้นที่อาศัยอยู่โรงแรมนี้ได้
ต่อให้มีเงินก็อยู่ไม่ได้
หลังลู่โจวกลับโรงแรม เขาก็แขวนเสื้อก่อนจะไปอาบน้ำ เมื่อเขาเป่าผมจนแห้ง เขาก็มานอนทอดกายอยู่บนเตียง
เมื่องานเลี้ยงจบลง มันก็หมายความว่าธุระที่ปักกิ่งของเขาเสร็จหมดแล้ว
นอกจากนี้เพราะรางวัลวิทยาศาสตร์ธรรมชาติอันดับหนึ่งของเขา ภารกิจของระบบจึงเสร็จสมบูรณ์ ตอนแรกเขาวางแผนจะรับรางวัลภารกิจตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่เขาดันยุ่งเกินไป
เขาไม่อาจปล่อยให้มันล่าช้าได้อีก
ลู่โจวเข้าสู่มิติสีขาวบริสุทธิ์และเดินไปหยุดตรงหน้าจอข้อมูลโปร่งใส เขาอ่านข้อความตรงกลางหน้าจอ
[ขอแสดงความยินดีด้วยที่ทำภารกิจรางวัลสำเร็จ!]
………………………………….