สุดท้ายลู่โจวก็ไม่ได้เขียนตุ้ยเหลียนแนวนอน
อย่างไรก็ตามเขามีความคืบหน้างานวิจัยเรื่องสมการนาเวียร์-สโตกส์อย่างไม่คาดคิด
“สมการนาเวียร์-สโตกส์บนปริภูมิแบบยุคลิด R3 สามารถเขียนเป็น ∂tμ = Δμ + B (μ, μ) โดยที่ B เป็นตัวดำเนินการเชิงเส้นคู่บนสนามเวกเตอร์โดยไม่มีไดเวอร์เจนซ์ และ μ …”
ลู่โจวรีบจดลงกระดาษและพึมพำไปด้วย ทันใดนั้นเขาก็หยุดมือแล้วส่ายหน้า
“ฉันบอกว่าฉันจะไม่แตะคณิตศาสตร์ตอนอยู่บ้าน แต่ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้…”
ลู่โจวหยุดเขียน เขายัดกระดาษไว้ในกระเป๋าเดินทางและวางแผนจะวิจัยต่อตอนกลับไปพรินซ์ตัน
เขามีเวลาทั้งปีเพื่อทำการวิจัยทุกอย่างที่เขาอยากทำ
แต่เขาอยู่กับครอบครัวได้แค่เวลานี้เท่านั้น…
…
ลู่โจวไม่ได้ทำการวิจัยอะไรเลยตลอดช่วงวันหยุด กลับกันเขาต้องใจพักผ่อนอย่างมีความสุขแทน
ลู่โจวพักไปครึ่งเดือนและรู้สึกเปี่ยมไปด้วยพลังงาน ทั้งร่างกายและจิตใจของเขาเหมือนได้รับการเกิดใหม่
โดยเฉพาะอาหารที่บ้านทำให้เขารู้สึกอยากอาหารเพิ่ม
น่าเสียดายที่ต่อให้เขากินเท่าไหร่น้ำหนักเขาก็ไม่เพิ่ม
ลู่โจวมีวันหยุดตรุษจีนที่ผ่อนคลายและมีความสุข
หลังผ่านช่วงตรุษจีน ลู่โจวก็บอกลาที่บ้านแล้วเดินทางกลับพรินซ์ตัน
ลู่โจวขึ้นรถไฟความเร็วสูง จากนั้นเขาก็ขึ้นรถไฟใต้ดินมุ่งหน้าสู่สนามบิน
ขณะที่ลู่โจวกำลังนั่งอยู่ที่เทอร์มินอลไถเว่ยป๋อเล่นฆ่าเวลา จู่ๆ เขาก็ได้รับข้อความจากเฉินยู่ซาน
เฉินยู่ซาน [รุ่นน้องตัวน้อย นายกลับมหาวิทยาลัยตอนไหน?]
เมื่อลู่โจวเห็นข้อความบนหน้าจอ เขาก็พิมพ์ตอบ
[ผมกำลังขึ้นเครื่อง]
ติ๊ง!
ลู่โจวได้รับคำตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
เฉินยู่ซาน [อ๊ะ นายไม่รอฉัน นายทำได้ไง ?…?]
ลู่โจว “…?”
คุณไม่ได้บอกฉันหนิว่าอยากบินกลับด้วย…
แต่จะว่าไป เฉินยู่ซานทำตัวน่ารักแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ลู่โจวอ่านข้อความแล้วแทบจะคิดว่ามันมาจากเสี่ยวไอ
เขาขึ้นเครื่องไปเซี่ยงไฮ้ จากเซี่ยงไฮ้ เขาก็บินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกต่อ
หลังบินมานานกว่ายี่สิบชั่วโมง ในที่สุดลู่โจวก็ลากกระเป๋าเดินทางออกจากสนามบินฟิลาเดลเฟีย
ศิษย์เขา เจอริก อยู่ในรถฟอร์ด กำลังรออยู่ที่ลานจอดรถสนามบิน อันที่จริงเจอริกรอมาพักหนึ่งแล้ว
พอเขาเห็นลู่โจวเดินออกจากสนามบิน เขาก็โบกไม้โบกมือด้วยความตื่นเต้นก่อนจะเปิดท้ายรถ
“ศาสตราจารย์ คุณกลับมาสักที! วันหยุดเป็นไงบ้าง?”
ลู่โจวยิ้ม “ไม่เลว พวกคุณล่ะ? ช่วงที่ฉันไม่อยู่ สบายกันดีไหม?”
เจอริกยิ้ม “ดีครับ แต่ตอนศาสตราจารย์ไม่อยู่ มันเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป”
เจอริกสตาร์ทรถและขับรถพาลู่โจวกลับเมืองพรินซ์ตันอันเงียบสงบ
เมืองนี้เหมือนมีบรรยากาศที่อัศจรรย์ ลู่โจวรู้สึกเหมือนตัวเองกลับมายังเส้นทางที่ถูกต้อง
ลู่โจวพักอยู่ที่บ้านวันหนึ่ง
วันถัดมา เขาตื่นแต่เช้าตรู่และทานอาหารเช้าก่อนไปหาศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนที่สถาบันการศึกษาขั้นสูง
พอเขามาถึงออฟฟิศของศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมน เขาก็เห็นศิษย์ปริญญาเอกของเฟฟเฟอร์แมนหลายคนอยู่ข้างในออฟฟิศกับเขาด้วย
เมื่อศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนเห็นลู่โจวอยู่หน้าประตูออฟฟิศ เขาก็หยุดเขียนทันทีแล้วพูดด้วยน้ำเสียงยินดี “วันหยุดเป็นไงบ้าง?”
ลู่โจวตอบ “ก็ดีครับ ผมไม่ได้หยุดยาวแบบนี้มาพักหนึ่งละ”
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกล่าว “นั่นสิ แต่จากนี้ไปคุณอาจเริ่มยุ่งแล้ว”
ลู่โจวยิ้มบางๆ
“ผมพร้อมแล้ว”
ทั้งสองตั้งทีมวิจัยสมการนาเวียร์-สโตกส์มาสักพักแล้วและมีความคืบหน้าค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามลู่โจวต้องกลับไปรับรางวัลที่จีน การวิจัยจึงหยุดชั่วคราว
อย่างไรก็ตามแม้ว่าลู่โจวจะหยุด แต่ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนไม่ได้หยุดวิจัย อันที่จริงเขากำลังศึกษาปัญหาที่พวกเขาพบกันระหว่างวิจัย
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนลุกจากโต๊ะแล้วไปข้างหน้าต่าง เขาถามทันที “คุณสูบไหม?”
ลู่โจวตอบ “ไม่สูบ ทำไมครับ?”
“ไม่มีอะไร ดีแล้วที่ไม่สูบ” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกล่าวและจุดบุหรี่ เขาส่งบุหรี่ให้ลู่โจวก่อนจะกล่าว “แต่บางครั้ง มันก็ให้แรงบันดาลใจที่คาดไม่ถึง”
ลู่โจวรับบุหรี่มาจากศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนและมองดูควันบุหรี่
ควันบุหรี่ค่อยๆลอยขึ้นไปบนอากาศและหายไปในที่สุด
มันเป็นเหมือนของเหลวที่มีสัมประสิทธิ์ความหนืดต่ำ
ลู่โจวจ้องมองบุหรี่ที่ลุกไหม้อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถาม “คุณอยากบอกอะไรผม?”
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนยิ้ม “บ่อยครั้ง ของเหลวที่เราศึกษาก็เป็นแบบนี้ มันเป็นการเคลื่อนที่แบบบราวน์และสูญเสียความสามารถในการคาดเดาโดยสมบูรณ์ แม้แต่คณิตศาสตร์ก็อธิบายสภาวะที่วุ่นวายนี้ได้”
ลู่โจวไม่ได้พูดอะไร กลับกันเขารอเฟฟเฟอร์แมนพูดจบอย่างอดทน
“ช่วงนี้ฉันกำลังคิดถึงปัญหาที่คุณทิ้งไว้” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกล่าวและเดินไปที่กระดานดำ เขาหยิบชอล์กขึ้นมาแล้วยิ้ม “ครั้งก่อนเราได้ Pμi:= Ii-(Δ^-1)·δi·δj·μj ฉันทำการวิเคราะห์และพบสิ่งที่น่าสนใจเข้า…”
เขาเขียนบนกระดานดำ
[
นี่เป็นผลการวิจัยของลู่โจวที่เขาเขียนบนกระดานดำครั้งก่อน
แต่ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนได้ทำการวิจัยเพิ่ม
“ด้วยสนามเวกเตอร์ที่ไม่กระจายตัวของสวาร์ซ μ0 ช่วงเวลา I ⊂ [0, + ∞) เรากำหนดผลเฉลยทั่วไป H10 ของสมการนาเวียร์-สโตกส์เป็นสมการอินทิกรัล μ(t) แมพปิ้ง μ→H10df(R3)…”
เขาเขียนบนกระดานดำอีกครั้ง
[μ(t)=e^(t△)·μ0+∫e^(t-t’)△B(μ(t’), μ(t’))dt’]
[…]
เมื่อนักศึกษาปริญญาเอกสองคนในออฟฟิศดูกระดานดำ พวกเขาก็สับสนกับสิ่งที่เห็น จากนั้นพวกเขาก็หันกลับมาสนใจงานของตัวเองต่อ
อัจฉริยะกำลังแก้ปัญหา…
ฉันไม่เข้าใจอะไรเลย…
เฟฟเฟอร์แมนเขียนสูตรคำนวณบรรทัดสุดท้ายเสร็จแล้ววางชอล์กลง จากนั้นเขาก็หันไปมองลู่โจว
“คุณคิดว่าไง?”
ลู่โจวจ้องมองกระดานดำอยู่พักหนึ่ง “คุณสร้างสมการเชิงอนุพันธ์ย่อยที่คล้ายกับสมการนาเวียร์-สโตกส์เหรอ?”
“ถูกต้อง!” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกล่าวด้วยน้ำเสียงสบายๆ “ฉันสร้างดำเนินการเชิงเส้นคู่เชิงนามธรรม B’ ซึ่งคล้ายกับตัวดำเนินการเชิงเส้นของออยเลอร์ B ใน μ(t) แต่มันก็ต่างจาก B เหมือนกัน”
“ถ้าเราพิสูจน์ว่าข้อสรุปที่แข็งแกร่งกว่านี้เป็นจริง…”
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนยิ้ม “งั้นเราก็พิสูจน์ได้ว่าข้อสรุปเดิมเป็นจริงเช่นกัน!”
…………………………………