มีการอภิปรายกันอย่างเข้มข้นทั่วโลก และลู่โจวที่เก็บตัวอยู่ที่บ้านย่อมรู้เรื่องนี้
งานวิจัยเขาไม่ราบรื่นเหมือนอย่างที่คิด แต่เขามั่นใจในผลสุดท้าย
ถ้าสมการนาเวียร์-สโตกส์เป็นเหมือนเขาวงกต งั้นทางออกก็อยู่แค่หลังกำแพง การผ่านกำแพงนี้ไปก็เป็นแค่เรื่องของเวลา
เหลือเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์ก่อนสิ้นเดือน
งานวิจัยของเขาเข้าสู่ขั้นตอนที่สำคัญที่สุด
ความสำเร็จและความล้มเหลวกั้นกันแค่เส้นบางๆ
มาถึงจุดนี้แล้วไม่จำเป็นต้องรออีก
ลู่โจวสูดหายใจลึกๆแล้ววางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ จากนั้นเขาก็ตั้งเวลาไว้หนึ่งร้อยหกสิบแปดชั่วโมง
เขากดปุ่มจับเวลาแล้วหลับตา
พอเขาลืมตา ม่านตาดำเขาก็หายไป สิ่งที่เหลืออยู่ในตัวเขามีแค่ความเย็นชาและความเยือกเย็น
การเพิ่มประสิทธิภาพทางประสาทสัมผัสแบบนี้ไม่ใช่การเพิ่มกำลังสมอง หรือเพิ่มความคิดเชิงตรรกะ แต่เป็นการเพิ่มแรงบันดาลใจทางคณิตศาสตร์
มันเหมือนกับว่าตัวเลขทั้งหมดเป็นเพื่อนของเขา และภาพทั้งหมดถูกแปรเปลี่ยนเป็นรูปทรงเรขาคณิต
ลู่โจวคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้เป็นอย่างดี
คณิตศาสตร์เป็นภาษาแห่งพระเจ้า
เวลานี้ เขาเป็นพระเจ้าผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จ!
…
หนึ่งวันก่อนเส้นตายการส่งวิทยานิพนธ์งานประชุม IMU เมฆครึ้มปกคลุมทั่วท้องฟ้า ฝนค่อยๆโปรยลงมาก่อนที่พระอาทิตย์จะค่อยๆ ปรากฏบนเส้นขอบฟ้า
ฝนตกทั้งเช้า แถมยังดูไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ
เวร่าถือร่มเดินมาที่ห้องเรียนของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยอาจารย์และช่วยบรรยายแทนลู่โจว
แม้ว่านักศึกษาแทบไม่ได้เห็นหน้าลู่โจวเลย แต่พวกเขาก็ชอบผู้ช่วยอาจารย์คนนี้
โดยเฉพาะหลังเวร่าได้พิสูจน์ข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ ชื่อเสียงของเธอในหมู่นักศึกษาปริญญาตรีจึงเพิ่มขึ้นสูงเสียดฟ้า นักศึกษาหลายคนที่ไม่ได้เรียนทฤษฎีจำนวนก็เริ่มมาฟังคลาสของเธอ
ตอนท้ายการบรรยาย เวร่าก็ปล่อยให้นักศึกษาถามคำถามตามปกติ
ทันใดนั้นเองสาวเอเชียผมดำก็ยกมือขึ้น
“มิสพุลยุย ศาสตราจารย์ลู่ได้ผลการวิจัยรึยัง?”
นักศึกษามหาวิทยาลัยปกติคงไม่ให้ความสนใจกับงานประชุมไอเอ็มยูแต่พรินซ์ตันไม่ใช่มหาวิทยาลัยปกติ
โดยเฉพาะนักศึกษาที่กำลังเรียนคลาสทฤษฎีจำนวนระดับสูง แผนการในอนาคตของพวกเขาคือการศึกษาคณิตศาสตร์บริสุทธิ์ที่สถาบันการศึกษาขั้นสูง มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะสนใจงานประชุมไอเอ็มยู
ด้วยเหตุนี้ นักศึกษาหลายคนจึงสนใจคำตอบของเวร่า
พวกเขาต่างก็สงสัยว่างานวิจัยสมการนาเวียร์-สโตกส์ของศาสตราจารย์ลู่ไปถึงไหนแล้ว
เวร่ามองนักศึกษาคนนั้นแล้วส่ายหน้า
“ฉันไม่ทราบ ฉันเกรงว่าคงมีแต่ศาสตราจารย์ลู่ที่ตอบคำถามนี้ได้”
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผมหยักศกยกมือขึ้นถาม “มิสพุลยุย คุณคิดว่าเขาจะแก้สมการนาเวียร์-สโตกส์สำเร็จไหม?”
เมื่อเวร่าได้ยินคำถามนี้ เธอก็ตอบอย่างไม่ลังเล “ได้แน่นอน”
สาวเอเชียถาม “ทำไม?”
เวร่ายิ้มและใช้นิ้วเคาะโพเดียมเบาๆ
จากนั้นเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“เพราะฉันเชื่อในตัวเขา”
ความเชื่อของเธอไม่ได้อิงจากตรรกะทางคณิตศาสตร์ มันเป็นความเชื่อที่บริสุทธิ์
แน่นอนความเชื่อของเธอไม่ได้ไม่สมเหตุสมผล
ไม่ว่าจะเป็นบรรยายที่เบิร์กลีย์ ข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ หรือบรรยายสี่สิบห้านาทีที่งานประชุมนักคณิตศาสตร์นานาชาติที่ใกล้จะถึงนี้…
หญิงสาวขี้อายคนนั้นเป็นคนทำด้วยตัวเอง หญิงสาวที่ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการทำงานร้านอาหาร หญิงสาวที่มองดูโลกคณิตศาสตร์ด้วยความชื่นชม
หญิงสาวไม่เคยจินตนาการเลยว่าเธอจะทำได้
ทุกสิ่งเหมือนปาฏิหาริย์
เธอเชื่อว่าลู่โจวเป็นคนทำให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ไม่มีอะไรที่ลู่โจวทำไม่ได้
ทันใดนั้นเองฝนก็หยุดลง
เมฆครึ้มค่อยๆ หายไป ท้องฟ้าปรากฏสายรุ้งเจ็ดสี
ลู่โจวที่อยู่พรินซ์ตันเช่นกันก็เห็นสายรุ้งนี้
เขาวางปากกาลง มองออกไปข้างนอกเงียบๆแล้วจ้องมองดูสายรุ้ง
ทันใดนั้นหน้าจอโทรศัพท์ก็สว่างวาบ เสียงแจ้งเตือนของตัวจับเวลาดังขึ้นมา
ลู่โจวปิดเสียงและปลดล็อกหน้าจอ เขาเห็นสายที่ไม่ได้รับมากมาย
บางสายก็มาจากอาทิตย์ก่อน บางสายก็เป็นของวันนี้
ลู่โจวเลือกหมายเลขที่มีจำนวนมิสคอลสูงสุดแล้วโทรกลับไป
มีคนรับสายแทบจะในทันที น้ำเสียงที่กังวลดังมาจากปลายสาย
“โอ้พระเจ้า ถ้าคุณไม่รับ ฉันอาจจับรถไปหาที่บ้านแล้ว คุณรู้ไหมว่าวันนี้วันอะไร?”
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนปกติจะเป็นคนง่ายๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่โจวเห็นเขาไม่พอใจ
ลู่โจวขยับโทรศัพท์ออกห่างจากหน้าแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ “มีผลไม้ลดราคาที่วอลมาร์ตเหรอ?”
เฟฟเฟอร์แมน “…”
ได้ยินประโยคนี้ เฟฟเฟอร์แมนแทบโกรธจนเลือดขึ้นหน้า
เขาสูดหายใจลึกๆสงบตัวเอง จากนั้นเขาก็ตะคอกใส่โทรศัพท์
“วันส่งวิทยานิพนธ์! เส้นตายแล้ว! จากกฎการประชุมไอเอ็มยูผู้บรรยายต้องเปิดเผยเนื้อหาบรรยายสองเดือนก่อนงานประชุมและอัปโหลดวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวข้องภายในหนึ่งเดือน…ถามจริง คุณไม่ได้ลืมใช่ไหม?”
“ผมจะลืมได้ไง?” ลู่โจวหาว “…แต่ผมจำได้ว่าเราเลื่อนส่งวิทยานิพนธ์ได้ใช่ไหม?”
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมน “…เปลี่ยนหัวข้อบรรยายเถอะ ยังมีโอกาสอยู่”
แม้ว่าลู่โจวจะเลื่อนการอัปโหลดวิทยานิพนธ์ได้ แต่เฟฟเฟอร์แมนไม่คิดว่าสมเหตุสมผล
แทนที่จะยอมรับความล้มเหลวในวินาทีสุดท้าย เขาควรแก้ไขความผิดพลาดของตัวเองตอนนี้เลย
นอกจากสมการนาเวียร์-สโตกส์ ลู่โจวมีเนื้อหาอีกมากมายที่นำไปบรรยายได้
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่ทำ
“ทำไมฉันต้องเปลี่ยนล่ะ?”
ปลายสายเงียบไปชั่วครู่
เสียงของเฟฟเฟอร์แมนสั่นเครือ เขาพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“…คุณแก้ได้แล้ว?”
“ผมแก้สมการนาเวียร์-สโตกส์ไม่ได้ อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่ได้ เราหาผลเฉลยทั่วไม่พบ” ลู่โจวกล่าว เขาเปลี่ยนไปถือโทรศัพท์ด้วยมืออีกข้างแล้วพูดอย่างมั่นใจ “แต่ผมสัญญาว่าคุณจะมีผลเฉลยที่ราบรื่น!”
………………………………….