ลู่โจววางสาย
ภายในยี่สิบนาที ลู่โจวก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
ลู่โจวออกจากห้องน้ำแล้วลงไปชั้นล่าง
จากนั้นเขาก็เห็นศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนที่กำลังหอบหายใจอยู่ตรงหน้า
เฟฟเฟอร์แมนถามทันที “คุณแก้มันได้แล้วจริงๆ เหรอ? สมการนาเวียร์-สโตกส์เนี่ยนะ?”
ลู่โจวมองศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนที่กำลังกลืนน้ำลาย
“…คุณอยากพักหายใจก่อนไหม?”
“ไม่ ไม่เป็นไร” เฟฟเฟอร์แมนใช้มือพิงประตู “บอกฉันหน่อยคุณทำยังไง?”
เฟฟเฟอร์แมนมักจะอ่อนโยนและเป็นคนง่ายๆ เขาไม่เคยจริงจังแบบนี้มาก่อน
ลู่โจวบอกได้ว่าเฟฟเฟอร์แมนอยากรู้คำตอบมาก
“…เรื่องมันยาว ตามผมมา”
ลู่โจวหันหลังและเดินขึ้นบันได
ลู่โจวพาเฟฟเฟอร์แมนขึ้นชั้นสอง เดินไปห้องหนังสือ เก็บกวาดโต๊ะกับพื้นก่อนจะหยิบเอาต้นฉบับที่มีกว่าร้อยหน้าออกมา เขาเอาต้นฉบับให้ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมน
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนรับต้นฉบับมาแล้วเริ่มคิดพร้อมกับฟังลู่โจวพูดไปด้วย
“ผมอ้างอิงจากวิทยานิพนธ์แมนิโฟลด์Lที่ผมพึ่งตีพิมพ์ลงคณิตศาสตร์ประจำปีไม่นานมานี้ ถ้าคุณยังไม่ได้อ่าน ผมแนะนำให้คุณอ่านวิทยานิพนธ์สองฉบับพร้อมกัน”
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนเมินคำแนะนำของลู่โจวและยืนพลิกหน้ากระดาษอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้พูดอะไร
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
ในที่สุดเขาก็วางวิทยานิพนธ์ลงแล้วกล่าวอย่างสะเทือนอารมณ์
“…น่าเหลือเชื่อ มันน่าเหลือเชื่อมาก!”
เวลาหนึ่งชั่วโมงไม่พอที่จะทำความเข้าใจแนวคิดหลักของวิทยานิพนธ์ แต่สำหรับเฟฟเฟอร์แมน เวลาเท่านี้พออ่านวิทยานิพนธ์แบบคร่าวๆ แล้ว
การพิสูจน์ข้อคาดการณ์คณิตศาสตร์สำคัญต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากทั้งชุมชนคณิตศาสตร์ แต่หลังอ่านไปชั่วโมงหนึ่ง เฟฟเฟอร์แมนก็หาข้อผิดพลาดไม่เจอเลย
แนวคิดและคำพูดของวิทยานิพนธ์ราบรื่น เคร่งครัด หมดจดและเป็นระเบียบมาก
เฟฟเฟอร์แมนส่วนใหญ่รู้สึกประหลาดใจกับวิธีทางคณิตศาสตร์อันชาญฉลาดของลู่โจว
“มันน่าตกใจจริงๆ” ลู่โจวชงกาแฟสองถ้วย เขาส่งให้เฟฟเฟอร์แมนถ้วยหนึ่งก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงติดตลก “ตอนที่ผมพิสูจน์ขั้นตอนสุดท้าย แม้แต่ผมก็ตกใจกับตัวเอง”
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนรับกาแฟมา จากนั้นเขาก็ส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่ มันไม่ใช่พิสูจน์ขั้นสุดท้าย คุณไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองทำ”
ลู่โจวถาม “คุณหมายความว่ายังไง?”
“คุณใช้แมนิโฟลด์ L เพื่อแนะนำวิธีเรขาคณิตเชิงอนุพันธ์ในสมการเชิงอนุพันธ์ย่อย คุณประสบความสำเร็จในการรวมหลักการของจิตวิทยาเชิงทอพอโลยี…ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน”
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนรู้สึกกระหายน้ำเล็กน้อย เขาจึงจิบกาแฟ
หลังจากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงกึ่งติดตลก
“กรอมอฟผู้ที่เสนอแนวคิด pseudo-holomorphic curves เข้ากับเรขาคณิตเชิงอนุพันธ์ และคิดค้นเรขาคณิตแบบซิมเพลคติก และชิวเฉิงถงผู้เสนอวิธีอนุพันธ์ย่อยเข้ากับเรขาคณิตเชิงอนุพันธ์ เป็นบิดาผู้ก่อตั้งการวิเคราะห์เชิงเรขาคณิต ในความเห็นของฉัน แมนิโฟลด์ L ก็มีความสำคัญพอๆ กัน ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะคิดถึงการตั้งชื่อสาขาคณิตศาสตร์ใหม่นี้”
ลู่โจวไม่อยากคิดถึงชื่ออื่น
“มาคุยเรื่องตั้งชื่อกันทีหลังเถอะ ตอนนี้ผมอยากพัก”
เฟฟเฟอร์แมนตอบกลับมาหนักแน่นมาก เขากล่าวทันที “ไม่! คุณยังพักไม่ได้จนกว่าคุณจะแปลงไฟล์ต้นฉบับเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์!”
เฟฟเฟอร์แมนไม่ได้เหมือนล้อเล่น ลู่โจวจึงกล่าว “…แต่ผมเลื่อนอัปโหลดวิทยานิพนธ์สักสองสามวันไม่ได้เหรอ? ผมได้รับเชิญไปบรรยายหนึ่งชั่วโมง พวกเขายอมให้ผมเลื่อนแน่นอน”
ฉันเป็นนักวิชาการชื่อดังระดับโลก พวกเขาต้องให้เวลาฉันเพิ่มใช่ไหม?
ฉันไม่ได้จงใจเลื่อน ฉันแค่เหนื่อยเกินไป
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนส่ายหน้า
“คุณเลื่อนอัปโหลดได้ แต่มันเป็นวิทยานิพนธ์ร้อยหน้า คุณจะเลื่อนนานแค่ไหนล่ะ? ไม่ต้องพูดถึงคุณต้องแก้ไขรายละเอียดวิทยานิพนธ์อีก ฉันจะส่งจดหมายไปสภาคณิตศาสตร์นานาชาติให้ สิ่งที่คุณต้องทำตอนนี้ก็คือจัดระเบียบวิทยานิพนธ์ภายในสามวัน อย่างช้าสุดหนึ่งอาทิตย์”
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนวางถ้วยกาแฟไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกประตูไป
อย่างไรก็ตามจู่ๆ เขาก็นึกอะไรออก
เฟฟเฟอร์แมนสูดหายใจลึกๆก่อนหันกลับมามองลู่โจว
“เอ้อ ฉันเกือบลืม ฉันต้องกล่าวขอบคุณ”
“ขอบคุณ?” ลู่โจวยิ้ม “ขอบคุณทำไม? คุณก็เป็นสมาชิกทีมโปรเจกต์วิจัย NS เหมือนกัน”
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนส่ายหน้า “ไม่ ฉันไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น”
เขาหยุดไปราวสามวิก่อนจะกระแอมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรือสร้างคลื่นบนผิวน้ำหรือเครื่องบินเจ็ทสร้างความปั่นป่วนบนท้องฟ้า นักคณิตศาสตร์และนักฟิสิกส์เชื่อว่าสมการนาเวียร์-สโตกส์สามารถทำนายปรากฏการณ์นี้ได้…”
ลู่โจวอึ้ง
จู่ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนเคยได้ยินคำพูดแบบนี้มาก่อน
ลู่โจวตอบ “…แม้ว่าสมการนาเวียร์-สโตกส์จะถูกเสนอตอนศตวรรษที่ 19 แต่เรามีความเข้าใจสมการนี้น้อยมาก”
“ถูกต้อง” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้ลู่โจว “ดังนั้นเราเป็นนักวิชาการคนแรกของโลกที่พลิกโฉมประวัติศาสตร์ของคณิตศาสตร์และท้าทายปริศนาของสมการนาเวียร์-สโตกส์”
ห้องหนังสือเงียบไปชั่วครู่
ในที่สุดลู่โจวก็นึกออกว่าเขาได้ยินคำพูดทำนองนี้จากไหน
“…นี่เป็นคำแถลงจากสถาบันเคลย์ตอนงานประชุมคณิตศาสตร์มิลเลนเนียมที่สถาบันฝรั่งเศสใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกล่าว “ตอนวันที่ 24 พฤษภาคม ปี 2000 ที่งานประชุมคณิตศาสตร์มิลเลนเนียมสถาบันฝรั่งเศส สถาบันเคลย์ได้ประกาศเจ็ดปัญหารางวัลมิลเลนเนียม หนึ่งในนั้นก็คือสมการนาเวียร์-สโตกส์ นี่เป็นคำแถลงเกี่ยวกับสมการนาเวียร์-สโตกส์”
“และฉันก็เป็นคนพูดคำแถลงนี้เอง”
ลู่โจวอึ้ง
เขารู้ว่าเจ็ดปัญหารางวัลมิลเลนเนียมถูกสร้างโดยสถาบันเคลย์ และเขาก็รู้เรื่องงานประชุมคณิตศาสตร์มิลเลนเนียมที่ถูกจัดขึ้นที่สถาบันฝรั่งเศส
แต่เขาไม่คิดเลยว่าคนที่เสนอสมการนาเวียร์-สโตกส์ให้เป็นหนึ่งในปัญหารางวัลมิลเลนเนียมจะเป็นสมาชิกทีมโปรเจกต์วิจัยของเขา
แบบนี้มันก็แทบจะเหมือนว่าเขาเอาชนะคนที่เขียนข้อสอบเลยสิ…
ก็ได้ คำพูดแบบนี้ไม่เหมาะสมเท่าไหร่
‘เอาชนะ’ไม่ใช่คำพูดที่ถูกต้อง
“ขอแสดงความยินดีด้วยศาสตราจารย์ลู่” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกล่าว เขาจับมือขวาของลู่โจวไว้แน่น “คุณเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และฉันเป็นสักขีพยานช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้!”
“อย่าลืมอัปโหลดวิทยานิพนธ์ให้ทันเวลา อีกอย่างรักษาต้นฉบับนี้ด้วย วันหนึ่งมันอาจกลายเป็นของที่สมควรเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์”
เฟฟเฟอร์แมนยิ้มก่อนจะเดินจากไป
ขณะที่ลู่โจวมองอีกฝ่ายเดินจากไป เขาก็ยิ้มและส่ายหน้า
เขาดูต้นฉบับในมือแล้วพูดเสียงแผ่ว “…พรินซ์ตันเป็นสถานที่ที่วิเศษจริงๆ”
…………………………………