Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 43

ตอนที่ 43 นายควรยกโทษให้เมื่อเป็นไปได้งั้นเหรอ? ไม่

 

 

ตอนบ่ายในห้องเรียนห้องเดิม ลู่โจวกำลังถูกสัมภาษณ์จาก[หัวกั๋วชิงเหนียน]

 

จะว่าไปมันเป็นการสัมภาษณ์ครั้งที่สองของเดือนนี้

 

การสัมภาษณ์ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ครั้งนี้นักข่าวของหัวกั๋วชิงเหนียนบอกลู่โจวว่าการสัมภาษณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ลงหนังสือพิมพ์เท่านั้น แต่คลิปวีดีโออาจถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ลู่โจวจึงกังวลเล็กน้อยเมื่อเริ่มการสัมภาษณ์

 

นักข่าวสาวสวยเป็นคนสัมภาษณ์เขา น้ำเสียงของเธอไพเราะคล้ายคลึงกับเสียงของผู้ประกาศทางวิทยุ

 

หญิงสาวยิ้มแล้วกล่าว “สวัสดีค่ะ นักศึกษาลู่ เราเริ่มเลยได้ไหม?”

 

ลู่โจวพยักหน้าแล้วกล่าว “ครับ เชิญถามมาได้เลย”

 

“เธอไม่ต้องกังวล คำถามเรียบง่ายมาก” นักข่าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม เธอพยักหน้าส่งสัญญาณให้ช่างกล้องก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงมืออาชีพ “ก่อนอื่นเลย ฉันอยากถามว่าปกติคุณเรียนอย่างไร? มีเคล็ดลับอะไรไหม?”

 

ลู่โจวคิดสักครู่แล้วตอบ “ผมไม่มีเคล็ดลับอะไรเลยจริงๆ ผมแค่ไปเรียนในห้องสมุด มันก็ไม่ได้แตกต่างจากนักศึกษาคนอื่นมากนัก”

 

“จริงเหรอคะ? งั้นฉันต้องคิดว่านักศึกษาลู่ต้องเป็นอัจฉริยะแน่เลย” นักข่าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวต่อ “จากการสัมภาษณ์นักศึกษาคนอื่น เราได้ยินว่าคุณยังทำงานพาร์ทไทม์อยู่ ฉันอยากถามว่าคุณเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยได้อย่างไร?”

 

ลู่โจวหัวเราะแล้วกล่าว “เหตุผลที่ผมทำงานเป็นเพราะสถานการณ์ทางการเงินของครอบครัว ผมคิดว่าถ้าคุณจัดการเวลาของตนเองได้ดี คุณก็จะสามารถทั้งเรียนและทำงานไปด้วย”

 

ในขณะเดียวกันในใจของเขา เขาก็กำลังคิดตรงกันข้าม

 

ทำงานไม่ได้ส่งผลต่อการเรียนงั้นเหรอ?

 

เหลวไหลทั้งเพ!

 

นักข่าวถาม “ฉันได้ยินมาว่าคุณมีน้องสาวเรียนมัธยมปลายงั้นหรือ?”

 

ลู่โจวตอบ “ครับ เธอกำลังจะขึ้นมอห้าหลังซัมเมอร์นี้”

 

นักข่าวยิ้มแล้วถามต่อ “คุณอยากพูดอะไรกับน้องสาวและเพื่อนนักเรียนคนอื่นที่กำลังสอบเข้ามหาลัยไหมคะ?”

 

ลู่โจวหันไปมองกล้องแล้วยิ้มอย่างสดใส “ผมเอาใจช่วยครับ!”

 

การสัมภาษณ์จบลงแล้ว

 

คำถามสุดท้ายเป็นจำพวก’การแฝงโฆษณา’ที่มหาลัยร้องขอ ส่วนคำถามอื่นลู่โจวตอบไปตามตรง

 

การสัมภาษณ์สิ้นสุดลงและนักข่าวของหัวกั๋วชิงเหนียนก็เก็บอุปกรณ์ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของมหาลัย พวกเขายังต้องเขียนรายงานจากการสัมภาษณ์นักศึกษาคนอื่นอีก

 

สำหรับมหาลัยจินหลิง การโต้เถียงครั้งนี้อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ ไม่เพียงแต่จะเคลียร์ความคับข้องใจเท่านั้น พวกเขายังสร้างชื่อในสื่ออีกด้วย

 

จะมีมหาลัยไหนอีกที่ผลิตนักศึกษาปริญญาตรีที่มีความสามารถเช่นนี้?

 

แม้ว่านักศึกษาจะไม่ได้รับการปลูกฝังจากทางมหาลัย แต่มันก็ยังเป็นเกียรติของมหาลัย!

 

ในการประชุมผู้นำมหาลัยครั้งก่อน อาจารย์ใหญ่สวี่เจี้ยนพูดชื่อของลู่โจวถึงสองครั้งซึ่งทำให้ภาควิชาคณิตศาสตร์ได้หน้าอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณบดีหลู่ หน้าเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มตลอดครึ่งประชุมหลัง

 

อะไรที่นับว่าเป็นความสำเร็จของภาควิชาคณิตศาสตร์?

 

สิ่งนี้แหละที่นับว่าเป็นความสำเร็จ!

 

เจ้าหน้าที่ส่งขวดน้ำให้ลู่โจวแล้วเขาก็ยกน้ำขึ้นมาจิบ แต่แล้วจู่ๆเขาก็เห็นคณบดีหลู่เดินมาหาเขา

 

คณบดีตบบ่าลู่โจวแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอสัมภาษณ์ได้ดีมาก ผู้นำมหาลัยเรียกตัวอาจารย์แล้วบอกกับอาจารย์ว่าเธอไม่ต้องทำงานพาร์ทไทม์อีก ให้ลาออกจากงานอย่างจัดพัสดุหรือแจกใบปลิวไปเสีย ถ้าเป็นไปได้พยายามอย่าทำ ถ้าเธอลำบากอะไร ทางมหาลัยก็ยังมีทุนให้”

 

ประโยคนี้บอกกลายๆว่าทุนการศึกษาหน้าเป็นของเขา

 

ลู่โจวถามอย่างสงสัย “แล้วสอนพิเศษโอเคไหมครับ?”

 

“แน่นอน! อาจารย์จะสนับสนุนด้วยมือทั้งสองข้าง!”คณบดีหลู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม เขากล่าวต่อ “มหาลัยไม่ได้อยากห้ามเธอทำงาน มันก็แค่…ตอนที่เลือกงาน คิดถึงประเภทงานที่จะทำด้วย พยายามอย่าเลิกงานที่ต้องเหนื่อยและเสียเวลาเปล่า”

 

อันที่จริงคณบดีลู่กลัวว่าคนอื่นจะนินทาเอา

 

จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนบิดเบือนเรื่องราวแล้วถามทางมหาลัยว่าทำไมถึงบังคับนักศึกษาที่ยอดเยี่ยมแบบนั้นไปแจกใบปลิวหรือไปแต่งตัวเป็นมาสคอต? แล้วถ้าพวกเขาถามล่ะว่าทุนการศึกษาอยู่ไหน? พวกเขาจะทำยังไง?

 

ลู่โจวได้ยินคณบดีพูดก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

เขามีความสุขมากที่ได้ไปสอนพิเศษต่อ

 

ทุนการศึกษามีเพียงหมื่นหยวนเท่านั้น แถมมันยังได้แค่ครั้งเดียว เขาไปสอนพิเศษยังได้เงินเยอะกว่าอีก

 

“เอ้อ มีอีกเรื่อง” คณบดีหลู่กล่าวและกระแอม จากนั้นเขาก็หัวเราะ “มหาลัยของเราตัดสินใจฟ้องร้องคนที่สร้างผลกระทบต่อชีวิตของเธอช่วงก่อนอย่างเป็นทางการ ทนายความที่ฟ้องร้องคือศาสตราจารย์หวังไห่เซิงจากคณะกฏหมาย เราจะไม่ทำลายเขา แต่อย่างน้อยเราจะทำให้เขาชดใช้ในราคาที่เขาสมควรโดน! เธออาจต้องไปเป็นพยานในชั้นศาล นั่นไม่มีปัญหาใช่ไหม?”

 

การเชิญศาสตราจารย์ทางด้านกฏหมายไปศาลค่อนข้างไม่สุภาพกับฝ่ายตรงข้ามเลย

 

บางทีอาจมีกระทั่งนักศึกษากฏหมายสองสามคนไปยืนอยู่ในศาลด้วย

 

ลู่โจวจินตนาการภาพนี้ในใจ

 

เขาลุกขึ้นยืนทันทีแล้วกล่าว “ผมไม่คิดมาก! ถ้าผมจำเป็นต้องไปก็โปรดแจ้งผมด้วย!”

 

นักศึกษาอัจฉริยะต้องใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้าม!

 

ให้อภัยงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้

 

สำหรับแมลงแบบนี้ คุณต้องฆ่าให้ตาย!

 

ก่อนหน้านี้ลู่โจวไม่ได้ฟ้องร้องเขาเพราะเขาไม่มีเวลาและพลังงานมากพอไปฟ้อง ตอนนี้มหาลัยเสนอช่วยเขา เขาย่อมไม่ปฏิเสธ เขาแทบอดใจรอขึ้นศาลไม่ไหว

 

การสัมภาษณ์จบลงและลู่โจวก็เดินไปตึกวิจัย

 

ก่อนหน้านี้เขาบอกศาสตราจารย์ถังเกี่ยวกับข้อเสนอที่เขาได้รับ ศาสตราจารย์ถังบอกให้เขาไปหาที่ออฟฟิศและอยากพูดคุยกับเขา

 

“…ข้อเสนอครึ่งล้าน? เธอปฏิเสธไปจริงๆ?” ศาสตราจารย์ถังถามเมื่อได้ยินการตัดสินใจของลู่โจว เขาพบว่ามันยากจะเชื่อ เพราะเขารู้ว่าลู่โจวกระหายเงินแค่ไหน

 

ครึ่งล้านหยวน

 

ศาสตราจารย์ถังได้ยินนักศึกษาปริญญาโทสองคนพูดถึงเรื่องนี้ พวกเขาบ่นเรื่องที่ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่โชคดีแบบนี้บ้าง ต่อให้มันเป็นแค่สองแสนห้าหมื่นหยวน พวกเขาก็คงยอมรับ

 

“ศาสตราจารย์ ผมคิดอย่างชัดเจนแล้ว ผมอยากอุทิศช่วงวัยรุ่นกับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ความฝันต้องมาก่อนเงิน” ลู่โจวกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

ศาสตราจารย์ถังพลันตระหนักว่าเจ้าหนูนี่ไม่ใช่แค่หิวเงินเท่านั้น เขายังมีนิสัยไม่ดีอย่างอื่นด้วยเช่นกัน

 

มันเป็นความไม่ซื่อสัตย์…เขาชอบโม้…

 

แต่สุดท้ายแล้ว เรื่องนี้ก็ดูไม่ได้แย่นัก?

 

อย่างน้อย เขาก็มีความสามารถพอ มันยังดีกว่าเหล่าคนที่เย่อหยิ่งแต่ไม่มีความสามารถ

 

“อาจารย์ยินดีมากที่เธอสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด อนาคตของเธอสดใสกว่าเงินครึ่งล้านแน่นอน ตอนแรกอาจารย์มีแผนจะเกลี้ยกล่อมไม่ให้เธอไปทำงาน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่จำเป็นแล้ว…”

 

ศาสตราจารย์ถังชะงักก่อนจะพูด “นอกจากนี้เรื่องคำเชิญจากมหาลัยนิวยอร์ก ในฐานะศาสตราจารย์จากมหาลัยจินหลิง อาจารย์หวังว่าเธอจะอยู่ที่นี่ แต่ในฐานะอาจารย์ อาจารย์ต้องบอกเธอเลยว่าคำเชิญจากมหาลัยนิวยอร์กเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ของเธอ เธอต้องคิดให้ดี”

 

ถ้าเขาเป็นนักศึกษาที่ดีทั่วๆไป จินหลิงคงไม่สนใจ เพราะจะอยู่หรือไปก็ไม่ได้มีความหมายกับมหาลัย อย่างไรก็ตามสำหรับนักศึกษาที่มีความสามารถอย่างลู่โจวนั้นแตกต่างกัน ท้ายที่สุดแล้วนักศึกษาปริญญาตรีที่ตีพิมพ์วิทยานิพนธ์SCIนั้นน่าประทับใจ เขาอาจกระทั่งมีโอกาสได้รับเหรียญฟีลดส์ตั้งแต่เริ่มเรียนปริญญาโทร

 

ไปเรียนต่างประเทศอย่างอเมริกา?

 

ดูเหมือนจะแพง

 

ไม่ต้องพูดถึงปัญหาเรื่องภาษาและวัฒนธรรมอีก

 

ลู่โจวคิดเล็กน้อยแล้วส่ายหน้า เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมคิดว่าผมไม่ไป มหาลัยจินหลิงไม่เลวแล้ว ผมบอกน้องสายแล้วด้วยว่าผมจะรอเธออยู่ที่นี่”

 

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าศาสตราจารย์ถัง เขากล่าว “ดีมากที่คิดแบบนั้น ผู้นำมหาลัยขอให้อาจารย์สอนอุดมการณ์ให้เธอ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่จำเป็นแล้ว ถ้าเธออยู่ที่มหาลัยจินหลิง อาจารย์สัญญากับเธอเลยว่าเธอจะได้รับทุนการศึกษาและสามารถเข้าปริญญาโทและเอกได้เลยโดยไม่ต้องสอบเข้า”

 

ลู่โจวยิ้ม “นั่นมัน…ขอบคุณมากครับ!”

 

“นี่เป็นหน้าที่ของเรา” ศาสตราจารย์กล่าวพร้อมกับพยักหน้า เขายิ้มแล้วกล่าวเสริม “เอาล่ะ อาจารย์ไม่มีอะไรให้พูดแล้ว ไปตอบมหาลัยนิวยอร์กเถอะ จากนั้นก็เตรียมตัวแข่งการสร้างแบบจำลอง อาจารย์หวังว่าจะได้เห็นชื่อของเธอในรายชื่อผู้ชนะอันดับหนึ่ง”

 

ลู่โจวยิ้มพยักหน้า “ครับ!”

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

The Overachiever's Black Tech System, 学霸的黑科技系统
Score 6.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Scholar’s Advanced Technological Systemหลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล “ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?” “ไม่ได้” “เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?” “ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset