หลังจากที่ลู่โจวกลับมาจากประเทศบราซิล เขาก็เริ่มค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับปรากฏการณ์ความปั่นป่วนของพลาสมาที่แสนน่าพิศวง
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ไปพักผ่อนที่อื่น
แต่วิถีชีวิตของลู่โจวก็เป็นปกติมาก เขามักจะนอนอยู่ในห้องของตนที่สถาบันพรินซ์ตันเพื่อทบทวนและศึกษาเรื่องราววิจัยที่ตนเองสนใจ
ถึงอย่างไรแล้วการวิจัยปรากฏการณ์ความปั่นป่วนของพลาสมาไม่ได้ง่ายไปกว่าการแก้สมการนาเวียร์-สโตกส์เลยแม้แต่น้อย
ทั้งสองต่างก็มีความยากที่ไม่เหมือนกัน
ถ้าให้เปรียบเทียบ อย่างแรกนั้นเท่ากับการใช้เครื่องมือทางคณิตศาสตร์เชิงนามธรรมเพื่อพิสูจน์การมีอยู่จริงของผลเฉลยที่ราบเรียบ แต่ทว่า อย่างหลังนั้นเทียบเท่ากับการค้นหาคำตอบพิเศษของสมการนาเวียร์-สโตกส์เลย
ในปัจจุบัน ผู้คนทั่วโลกสามารถหาวิธีแก้สมการนี้ได้เพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ด้วยเหตุนั้น สำหรับโลกของคณิตศาสตร์ สมการเหล่านี้ถือเป็นสมการที่พิเศษอยู่พอสมควร
สำหรับนักวิจัยส่วนมากที่ค้นคว้าเรื่องพลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณหรือคณิตศาสตร์เชิงประยุกต์ พวกเขามักจะใช้แบบจำลองในการทดลองเชิงสังเกตอยู่เป็นประจำ อีกทั้งพวกเขายังใช้ตัวแปรหลายสิบตัวเป็นเหมือนตัวทดสอบเชิงประจักษ์อีกด้วย แต่ทว่า ข้อมูลทั้งหมดนี้ไม่เพียงพอต่อลู่โจวเลยแม้แต่น้อย
ถึงกระนั้น ดูเหมือนว่าลู่โจวจำเป็นต้องค้นคว้าการวิจัยทั้งหมดนี้ด้วยตนเอง นั่นเป็นเพราะมันไม่มีงานวิจัยเกี่ยวข้องอะไรให้ค้นคว้าเลยสักนิด
แต่แน่นอน… ลู่โจวเองก็ยังคงมีเครื่องมือบางอย่าง
ลักษณะทางกายภาพภายนอกหรือวัตถุโทโปโลยีของสมการนาเวียร์-สโตกส์เองก็ถือเป็นตัวช่วยทางคณิตศาสตร์ที่มีประโยชน์ไม่น้อย
ไม่เพียงแค่นั้น หลังจากลู่โจวกลับมาจากการประชุม ระดับคณิตศาสตร์ของเขาก็เปลี่ยนจากหกเป็นเจ็ดแล้ว ห่างจากระดับสูงสุดเพียงสามเท่านั้น นอกจากนี้ ทั้งสัญชาตญาณและพรสวรรค์ด้านคณิตศาสตร์ของลู่โจวก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก
อันที่จริง ถึงลู่โจวจะไม่มั่นใจว่าตนจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ แต่เขาก็ยังมั่นใจไปประมาณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วว่าตนจะต้องทำสำเร็จแน่
สิ่งที่ลู่โจวต้องการตอนนี้ก็คงเป็นไม่ใช่สิ่งใดอื่นนอกจาก… เวลา
สามสัปดาห์หลังจากกลับมายังสถาบันพรินซ์ตัน… มันก็เกือบจะสิ้นเดือนสิงหาคมแล้ว ลู่โจวพลันได้รับอีเมลจากสถาบันเคลย์ในที่สุด
[เรียนศาสตราจารย์ลู่โจว ผมชื่อเจมส์ คาร์ลสัน ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาคณะวิทยาศาสตร์ของสถาบันคณิตศาสตร์เคลย์]
[จากการประเมินโดยผู้วิจารณ์ทั้งสิบสองคนและการแสดงความคิดเห็นจากองค์การคณิตศาสตร์ระหว่างประเทศ พวกเราเชื่อแล้วว่าคุณสามารถพิสูจน์สมการนาเวียร์-สโตกส์ได้สำเร็จ]
[วิธีแก้สมการนี้จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการและการประยุกต์ใช้ทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ให้ก้าวไกลได้มากขึ้น พวกเราต้องขอขอบอย่างจริงใจที่คุณมีส่วนร่วมในแวดวงคณิตศาสตร์และโลกของวิทยาศาสตร์]
[ตามคำแนะนำของศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมน พวกเราเล็งเห็นว่างานวิจัยของคุณนั้นมีความสำคัญอย่างมาก หลังจากคณะกรรมการได้ทำการลงคะแนนเสียงแล้ว ทางสถาบันคณิตศาสตร์เคลย์จึงตัดสินใจที่จะมอบเงินรางวัลหนึ่งล้านดอลลาร์ให้แก่คุณ…]
โดยปกติแล้ว ถึงแม้ว่าใครจะแก้ปัญหารางวัลมิลเลนเนียมได้ พวกเขาก็จะไม่ได้เงินรางวัลในทันทีทันใดเช่นนี้
ตามกฎแล้ว ทางสถาบันจะต้องให้เจ้าของงานวิจัยตีพิมพ์และเผยแพร่ผลงานของตนเองลงในวารสารที่มีชื่อเสียงอย่างน้อยสองปีก่อน นอกจากนี้ งานวิจัยเหล่านั้นจะต้องได้รับการยอมรับจากชุมชนคณิตศาสตร์ระดับโลกอีกด้วย… หลังจากนั้น ทางสถาบันเคลย์จึงจะตัดสินใจแจกเงินรางวัลหนึ่งล้านดอลลาร์ให้ทีหลัง
แต่ถึงอย่างไร กฎนี้ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดตามความเหมาะสม
อย่างในกรณีของศาสตราจารย์พีเลอร์แมน เขาไม่เคยตีพิมพ์วิจัยของตนเองลงวารสารเลย เพราะแบบนั้น เคลย์สันหรือประธานของสถาบันคณิตศาสตร์เคลย์จึงไม่ได้ตัดสินใจมอบเงินรางวัลให้กับเขา
ยิ่งไปกว่านั้น เคลย์สันเองก็ไม่เคยพบพีเลอร์แมนอีกด้วย
เนื่องจากงานวิจัยของลู่โจวนั้นได้รับการยอมรับจากองค์การคณิตศาสตร์ระหว่างประเทศ งานของเขาจึงน่าดึงดูดเป็นพิเศษ อีกทั้ง ลู่โจวยังสามารถตอบคำถามในที่ประชุมได้อย่างกระจ่างอีกด้วย ด้วยหตุนั้น จึงไม่มีใครกล้ากังขาในการได้รับรางวัลของเขาเลยแม้แต่น้อย
นั่นคือเหตุผลที่สถาบันคณิตศาสตร์เคลย์ตัดสินใจเช่นนี้
ทั้งนี้ ข้อความในอีเมลก็ถูกระบุเอาไว้ชัดเจน
นอกจากนี้ สถาบันเคลย์ได้แนบเงื่อนไขการรับรางวัลเอาไว้ให้ด้วย
ในฐานะสถาบันคณิตศาสตร์ชั้นนำ ลู่โจวจะต้องมีพิธีมอบรางวัลที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
สถานที่จัดพิธีมอบรางวัลหนึ่งล้านดอลลาร์อยู่ที่สถาบันฝรั่งเศส มันเป็นสถานที่ที่ถูกจัดขึ้นโดยสถาบันคณิตศาสตร์เคลย์และสมาคมคณิตศาสตร์ยูโรเปียน
อันที่จริง ยังไม่มีใครรู้เลยด้วยซ้ำว่าพิธีนั้นจะออกมาเป็นเช่นไร
ถึงแม้ว่าพีเลอร์แมนจะเป็นนักคณิตศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์การคาดเดาของอ็องรีปวงกาเรได้ แต่เขาก็ยังไม่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชนมากเท่าที่ควร ถึงแม้พีเลอร์แมนจะสามารถพิสูจน์สมการทั้งหมดได้เยอะแยะมากมาย แต่เขาก็ไม่เคยได้เข้างานมอบรางวัลเช่นนี้เลย
ทั้งนี้ ถ้าหากเคลย์สันส่งคำเชิญรับรางวัลมาให้เมื่อเดือนก่อน ลู่โจวก็คงจะตื่นเต้นและดีใจจนซื้อตั๋วเครื่องบินรอเพื่อเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลแล้ว รางวัลหนึ่งล้านดอลลาร์ก็ถือว่าเป็นเงินที่เยอะพอสมควร
ทว่าตอนนี้งานวิจัยของลู่โจวเรื่องความปั่นป่วนของพลังพลาสมากำลังเข้าสู่ขั้นวิกฤติ เขาไม่ต้องการที่จะไปไหนเลยด้วยซ้ำ
ลู่โจวครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนที่จะตอบรับคำเชิญอย่างสุภาพ ลู่โจวบอกกับทางสถาบันเคลย์ว่างานวิจัยของเขากำลังมีปัญหา เพราะเหตุนั้น เขาจะต้องหาวิธีแก้ไขมันให้ได้เสียก่อน ลู่โจวไม่มีเวลาบินไปปารีสเพื่อรับรางวัลในตอนนี้ แต่ถึงกระนั้น มันก็ไม่ใช่ว่าลู่โจวไม่ต้องการเงินรางวัลอีกต่อไปแล้ว แน่นอนว่าเขายังต้องการอยู่ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ลู่โจวก็พลันแนบเอกสารและเลขบัญชีธนาคารผ่านการส่งอีเมลไป
อันที่จริง ลู่โจวอยากให้พวกเขาโอนเงินผ่านทางธนาคารมากกว่า
และสำหรับเหรียญรางวัลและใบเกียรติบัตร ถ้าทางสถาบันส่งมาให้ทางไปรษณีย์ได้… มันก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย
ทว่า เมื่อเคลย์สันได้อ่านอีเมลตอบกลับของลู่โจว… เขาแทบจะถ่มน้ำลายใส่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทันที
มันถือเป็นเรื่องที่น่ารำคาญมากกว่าตอนที่พีเลอร์แมนปฏิเสธการรับรางวัลเสียอีก
ถ้าลู่โจวไม่ต้องการเงินรางวัล มันยังพอเข้าใจได้… แต่เขาต้องการให้ทางสถาบันโอนเงินรางวัลผ่านทางบัญชีธนาคารเนี่ยนะ?! ให้ตายเถอะ!
ทำไมพวกนักวิจัยช่างนิสัยแปลกเช่นนี้?!
ถึงกระนั้น เคลย์สันตอบอีเมลของลู่โจวไปว่า ‘ถ้าจะให้โอนให้ผ่านธนาคาร คงเป็นไปไม่ได้หรอก’
เหตุผลนั้นง่ายมาก
ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหารางวัลมิลเลนเนียมทั้งสองเรื่องของลู่โจวจะได้รับการยกย่องไปแล้ว แต่มันก็ยังไม่มีพิธีมอบรางวัลแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งนี้ ถ้าหากลู่โจวต้องการเงินรางวัล เขาต้องมาที่ปารีสเท่านั้น!
และแน่นอน อีเมลของเคลย์สันยังระบุอีกด้วยว่าเขาเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของลู่โจว
ถ้าหากว่าลู่โจวไม่ว่างจริง ๆ เคลย์สันก็พร้อมจะจัดงานมอบรางวัลที่เหมาะสมให้ที่อื่น เพียงแค่ลู่โจวต้องบอกวันและเวลาที่ว่างมาเท่านั้น
ทว่า ทันทีที่ลู่โจวได้อ่านอีเมลตอบกลับ เขาก็พลันรู้สึกรำคาญในความเรื่องมากของเคลย์สันไม่น้อย
สถาบันเคลย์นั้นตั้งอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งมันไม่ไกลจากลู่โจวมากนัก ลู่โจวสามารถไปที่นั่นได้โดยไม่จำเป็นต้องบิน เขาสามารถขับรถฟอร์ดไปได้อย่างสบาย
ถึงกระนั้น ผู้คนในสถาบันกลับไม่พอใจที่จะจัดพิธีมอบรางวัลที่อื่น พวกเขาต้องการจัดงานที่ปารีสเท่านั้น
สำหรับการเข้าร่วมพิธีมอบรางวัล ลู่โจวจะต้องเสียเวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์
ทว่า ลู่โจวเองก็มีเรื่องที่สำคัญที่ต้องทำ เขาเลยไม่อยากเสียเวลาตั้งหนึ่งสัปดาห์ไปอย่างเปล่าประโยชน์
ลู่โจวพลันครุ่นคิดก่อนจะเขียนอีเมลตอบกลับไป
[ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครบว่าตัวเองจะว่างช่วงไหน… บางที ถ้าหากงานวิจัยเรื่องความปั่นป่วนของพลาสมาเสร็จแล้ว ผมเองก็น่าจะมีเวลาไปรับรางวัลอย่างแน่นอน]
หลังจากเขียนจบ เขาก็ส่งอีเมลไปในทันที ลู่โจวพลันกดปิดแท็บอีเมลและเริ่มศึกษาข้อมูลวิจัยที่ตนเองกำลังทำอยู่บนคอมพิวเตอร์อีกครั้ง
ศาสตราจารย์เคลย์สันได้อ่านอีเมลของลู่โจวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยนอกจากจะมองไปยังเลขาของตน… ดาร์ฟ
ดาร์ฟพลันถอนหายใจพร้อมกล่าวคำพูด “นี่อาจจะเป็นการปฏิเสธที่ดีที่สุดที่เราได้รับก็ได้”
ดาร์ฟไม่เคยเรียนหรือศึกษาเรื่องกลศาสตร์ของไหล เขาไม่ได้อยู่ในแวดวงวิชาการด้วยซ้ำ… ทว่าเขาก็ได้ทำงานให้กับสถาบันที่มีความเป็นเลิศเช่นนี้มานานแล้ว
ทุกคนรู้กันดีว่านักวิชาการที่มีชื่อเสียงมักจะมีอารมณ์เหมือนสายน้ำที่ไหลเชี่ยว ทั้งนักคณิตศาสตร์และนักฟิสิกส์ ทุกคนจำเป็นต้องดิ้นรนและพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการกันทั้งนั้น
ไม่ต้องพูดถึงลู่โจวและวิจัยของเขาเลย ความสำเร็จนี้จะต้องได้มาด้วยความยากเย็นอย่างแน่นอน
อันที่จริง ดาร์ฟคิดว่าอีเมลของลู่โจวนั้นคือการปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาและสุภาพที่สุดแล้ว
เคลย์สันพลันถอดแว่นและบีบลูกบอลขนาดเล็กในมือ
“ฉันไม่เข้าใจเลย… ทำไมกัน? เงินหนึ่งล้านดอลลาร์เชียวนะ… ไม่อยากได้กันหรือไง?”
เคลย์สันรู้สึกเหนื่อยไม่น้อย
เขาเคยสัมผัสกับความรู้สึกนี้ตอนที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสถาบัน และตอนนี้เขาก็เป็นประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์แล้ว แต่ความรู้สึกเช่นนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด
อันที่จริง สิ่งที่เคลย์สันต้องการทำก่อนเกษียณก็คือการได้มอบเงินและเหรียญรางวัลมูลค่าหนึ่งล้านดอลลาร์ให้แก่นักวิจัยที่คู่ควรโดยใช้ห้องโถงใหญ่ของสถาบันฝรั่งเศส…
แต่เหตุใดความปรารถนานี้จึงยากที่จะบรรลุขนาดนี้? ทั้งที่เขามีโอกาสได้แจกเงินรางวัลตั้งสองครั้งสองครา!
………………………………..