Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 436 ปัญหาของเวนเดลสไตน์เซเว่นเอ็กซ์ (รีไรท์)

เมื่อวิทยานิพนธ์ต้นฉบับถูกส่งข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังอีเมลของศาสตราจารย์แคริเบอร์แล้ว การประชุมสุดจริงจังก็พลันถูกจัดขึ้นในหอประชุมของห้องทดลองเวนเดลสไตน์เซเว่นเอ็กซ์

บุคคลที่นั่งอยู่ที่นี่ก็มีศาสตราจารย์แกนเซอร์ เฮซิงเกอร์ ผู้อำนวยการของสถาบันมักซ์พลังค์ หัวหน้าของสมาคมเฮล์มโฮลทซ์จากศูนย์วิจัยเยอรมันและเหล่านักวิชาการอีกมากมาย

ถ้าศาสตราจารย์เลเซอร์สันยังไม่ลาออกไป เขาก็คงได้นั่งอยู่ตรงนี้ด้วย

เนื่องจากเทคโนโลยีเทคโนโลยีอะตอมโพรบฮีเลียมสามนั้นมีบทบาทสำคัญและเติบโตมากขึ้นในการศึกษาพลาสมา ของทีมโครงการอะตอมโพรบฮีเลียมสามเองก็เติบโตขึ้นเช่นกัน

แต่ทว่า คนที่กำลังนั่งอยู่ในห้องประชุมแห่งนี้กลับไม่ใช่ศาสตราจารย์เลเซอร์สัน แต่เป็นผู้ช่วยของเขา เฟิร์น บูชเชอร์ ซึ่งเป็นชายที่อายุเพียงสามสิบปีเท่านั้น เนื่องจากต้องนั่งข้างคนใหญ่คนโต ท่าทีของเด็กใหม่ก็ดูจะแปลกไปเล็กน้อย อันที่จริง เขาไม่กล้าแม้แต่จะพูดในที่ประชุมเลยด้วยซ้ำ

เหตุใดบรรยากาศการประชุมถึงเคร่งเครียดเช่นนี้…

นั่นเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว

เมื่อเดือนที่แล้ว เวนเดลสไตน์เซเว่นเอ็กซ์ได้ถูกนำไปติดตั้งกับไดเวอร์เตอร์ระบายความร้อนด้วยน้ำ

เดิมที ตามแผนการของสถาบันสถาบันมักซ์พลังค์ ไดเวอร์เตอร์ระบายความร้อนด้วยน้ำจะถูกนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาเรื่องอุณหภูมิของห้องปฏิบัติการ

แต่ทว่า ผลลัพธ์ของมันไม่ได้เป็นอย่างที่คาดคิดเอาไว้

เมื่อพลาสมาอุณหภูมิหนึ่งร้อยล้านองศาถูกกักขังภายในสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ไดเวอร์เตอร์ระบายความร้อนด้วยน้ำก็จะต้องมีประโยชน์อย่างแน่นอน แต่ทว่า อุณหภูมิของผนังชั้นแรกนั้นกลับสูงกว่าที่การคาดการณ์

เนื่องด้วยพลังงานความร้อนจำนวนมหาศาลนี้ไม่สามารถควบคุมได้นี้ อุณหภูมิของวัสดุผนังชั้นแรกจึงสูงขึ้นเรื่อย ๆ และสุดท้าย มันจะค่อย ๆ ไปส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของเส้นทางโคจรของสเตลลาเรเตอร์

เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์อันตราย เจ้าหน้าที่จึงต้องปิดอุปกรณ์ทุกชนิดและยุติการทดลองก่อนกำหนด

ท้ายที่สุดแล้ว ทันทีที่ติดตั้งไดเวอร์เตอร์ระบายความร้อนด้วยน้ำสำเร็จ ไดเวอร์เตอร์ก็สามารถรักษาพลาสมาที่มีอุณหภูมิสูงได้เพียงหกนาทีเท่านั้น

เมื่อเทียบกับเครื่องโทคาแมคตามทิศทางของการวิจัยหลักสากลแล้ว มันถือเป็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างน่าพอใจไม่น้อย

แต่สำหรับเครื่องสเตลลาเรเตอร์แล้ว ความสำเร็จนี้ถือเป็นความล้มเหลวอย่างไม่ต้องสงสัย

ศาสตราจารย์แคริเบอร์พลันมองไปยังงานวิจัยในมือ เขาต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการที่มาร่วมนั่งโต๊ะประชุมพร้อมกับสรุปรายงาน

“ไดเวอร์เตอร์ระบายความร้อนด้วยน้ำถูกติดตั้งเสร็จแล้ว แต่ปัญหาในตอนนี้ก็คือข้อจำกัดของพลาสมายังไม่สมบูรณ์ตามที่เราคาดการณ์เอาไว้”

“อ้างอิงจากข้อมูลที่ได้มา เริ่มตั้งแต่วินาทีที่สองร้อยยี่สิบเจ็ด… พลาสมาที่ยังคงไม่เกาะติดกับผนังชั้นแรกนั้นกลายเป็นสาเหตุหลักของการสะสมความร้อน ท้ายที่สุด มันทำให้ความร้อนสะสมนั้นมีมากเกินกว่าที่จะถูกทำให้เย็นลงด้วยไดเวอร์เตอร์”

หลังจากได้ฟังรายงานของแคริเบอร์แล้ว ศาสตราจารย์เอดอร์จากสมาคมเฮล์มโฮลทซ์พลันกล่าวคำพูดออกมา “หมายความว่ายังไงกันที่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ไดเวอร์เตอร์ระบายความร้อน? เราควบคุมพลาสมาไม่ได้งั้นรึ?”

แม้ว่าห้องปฏิบัติการเวนเดลสไตน์เซเว่นเอ็กซ์เป็นของสถาบันมักซ์พลังค์ แต่การออกแบบภายในของเครื่องสเตลลาเรเตอร์นั้นถูกสร้างร่วมกันโดยสถาบันมักซ์พลังค์และสมาคมเฮล์มโฮลทซ์จากศูนย์วิจัยเยอรมัน

ในฐานะองค์กรวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเยอรมนีรองจากสมาคมมักซ์พลังค์ สมาคมเฮล์มโฮลทซ์นั้นยังคงมีหลายเรื่องที่ต้องการจะพูดเกี่ยวกับพลังงานฟิวชัน

“มันไม่ได้อยู่เหนือการควบคุมครับ แต่มันเป็นความพิเศษตามธรรมชาติของพลาสมา แม้แต่พลังงานจากดวงดาวก็ไม่สามารถทำให้อนุภาคพลาสม่าโคจรรอบแทร็กได้ มันจะมีพลาสม่าอยู่สองสามตัวที่มักจะชนผนังอยู่เสมอ แต่มันก็อยู่ในขอบเขตของข้อผิดพลาดที่ยอมรับได้”  แคริเบอร์พลันตอบกลับ

ศาสตราจารย์เอดอร์พลันขมวดคิ้ว “แค่อนุภาคไม่กี่ตัว?”

“มันก็แค่การคาดเดาน่ะครับ แน่นอนว่าผมระบุจำนวนที่เฉพาะเจาะจงไม่ได้หรอก ผมบอกได้แค่ว่าถ้าเอาไปเทียบกับเครื่องโทคาแมค เราเองก็ทำได้ดีมากแล้วในแง่ของข้อจำกัดของสนามแม่เหล็ก” แคริเบอร์กล่าว

เมื่อเห็นว่าทั้งสองไม่ลงรอยกัน ศาสตราจารย์เฮซิงเกอร์จึงกระแอมและขัดจังหวะการโต้เถียงระหว่างทั้งคู่

“ตอนนี้เรารู้ถึงปัญหาแล้ว แทนที่จะมาทะเลาะกัน เราควรที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาสิ”

ทันทีที่ทั้งคู่หยุดพูด ศาสตราจารย์เฮซิงเกอร์ก็กล่าวคำพูดต่อ

“ตอนนี้เรามีสองทางแก้ หนึ่งคือต้องเปลี่ยนรูปแบบการควบคุม และสองคือต้องเปลี่ยนระบบระบายความร้อน”

พวกเขาต้องเลือกระหว่างการลดพลาสมาบนผนังชั้นแรกด้วยการควบคุมสนามแม่เหล็กไฟฟ้าให้แม่นยำมากขึ้น หรือการเปลี่ยนไดเวอร์เตอร์ให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้มากขึ้น…

“การปรับปรุงรูปแบบการควบคุมเป็นเรื่องที่ยากมาก” ศาสตราจารย์แคริเบอร์ส่ายหัว “ถ้ามีวิธีการแก้ไขที่ดีกว่านี้ เราก็คงจะใช้มันไปแล้ว”

บูชเชอร์ ผู้ที่ไม่มีโอกาสพูดเลยก็พยายามที่จะพูดแทรกขึ้น “แล้วถ้าเปลี่ยนไดเวอร์เตอร์ระบายความร้อนแทนล่ะครับ?”

“ใช้ไม่ได้หรอก แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนไปแล้ว แต่มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี” ศาสตราจารย์เฮซิงเกอร์ส่ายหัว “กุญแจสำคัญของปัญหาในตอนนี้คือเราต้องให้เกียรติสิ่งที่เราเคยทำสำเร็จไปแล้ว เราเหลือเวลาอีกแค่ไม่เกินสองปีนะ”

บรรยากาศในห้องประชุมค่อนข้างตึงเครียด ทุกคนแทบจะไม่ได้พูดอะไรออกมา

ดังที่ศาสตราจารย์เฮซิงเกอร์กล่าว… เวลาเป็นกุญแจสำคัญของทุกสิ่ง

ไดเวอร์เตอร์ระบายความร้อนไม่ใช่ตู้เย็น มันเป็นโครงการระดับเล็ก แต่ละขั้นตอนนั้นก็ยากเป็นพิเศษ การประกอบขึ้นใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นับประสาอะไรกับการออกแบบอุปกรณ์

ในช่วงสิบห้าปีที่ผ่านมา พวกเขาจะต้องใช้เวลาทั้งหมดสามปีในการติดตั้งไดเวอร์เตอร์ระบายความร้อนด้วยน้ำลงบนเวนเดลสไตน์เซเว่นเอ็กซ์

ทว่า ตอนนี้เหลือว่าอีกแค่สองปีเท่านั้น พวกเขาไม่มีเวลาออกแบบและประกอบไดเวอร์เตอร์ระบายความร้อนด้วยน้ำได้ทันแน่

อันที่จริง การกำหนดเวลาที่เฉพาะเจาะจงกับวิทยาศาสตร์ถือเป็นเรื่องที่โง่เขลาไม่น้อยเลย

แม้แต่คนที่มีความชำนาญมากที่สุดในสาขาใดสาขาหนึ่งก็ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าเทคโนโลยีชิ้นหนึ่งจะต้องใช้เวลาสร้างนานเท่าใด

มันอาจจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ หรืออาจจะผิดพลาดไปเลยก็ได้

แต่ทว่า ถ้าพวกเขาไม่กำหนดเวลาเช่นนี้ ก็คงจะไม่มีใครมาลงทุนกับพวกเขาแน่

ณ เวลาเที่ยงตรง การประชุมถูกยุติชั่วคราว การประชุมถูกเลื่อนไปเป็นตอนช่วงบ่ายสอง

แคริเบอร์กำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารชั้นหนึ่งของห้องทดลอง เขาสั่งกาแฟมาหนึ่งแก้วและนั่งริมหน้าต่างพร้อมเปิดแล็ปท็อปเพื่อทำงาน เขามักจะเปิดดูกล่องอีเมลที่ไม่ได้อ่านอยู่เป็นประจำ

“คำเชิญตรวจสอบวิทยานิพนธ์?”

ทันทีที่มองไปยังอีเมลในกล่องจดหมาย คิ้วของแคริเบอร์ก็กระตุกด้วยความสนใจ

อันที่จริง เขาไม่ใช่นักฟิสิกส์พลาสมา เขาเป็นวิศวกรที่คอยจัดการเรื่องพลังงานพลาสมาและนิวเคลียร์ฟิวชันต่างหาก

นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับเครื่องโทคาแมคแล้ว เครื่องสเตลลาเรเตอร์นั้นได้รับความนิยมน้อยกว่าอีก อีกทั้ง สถาบันการวิจัยส่วนมากก็ไม่ถนัดเรื่องนี้ด้วย

ครั้งสุดท้ายที่เขาได้รับคำเชิญให้ตรวจสอบวิทยานิพนธ์คือเมื่อห้าปีที่แล้ว

อันที่จริง เขาไม่อยากเสียเวลาพักการประชุมเพื่ออ่านวิทยานิพนธ์นักหรอก แต่ทว่า ขนาดแคริเบอร์เองก็ยังทนความอยากรู้อยากเห็นของตนเองไม่ได้ เขาพลันเปิดวิทยานิพนธ์ขึ้นมาในทันใด

แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักฟิสิกส์พลาสมา แต่เขาก็ทำงานอยู่ในสถาบันมักซ์พลังค์ เขาไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่เป็นทฤษฎีเลยแม้แต่น้อย ทว่า… เขาเองก็ยังคงมีความสามารถในการตรวจทานวิทยานิพนธ์ต้นฉบับอยู่

แบบจำลองทางคณิตศาสตร์เรื่องความปั่นป่วนของพลาสมา?

ทันทีที่เห็นบทคัดย่อของวิทยานิพนธ์ คิ้วของศาสตราจารย์แคริเบอร์ก็กระตุกอีกครั้ง

แบบจำลองเชิงปรากฏการณ์วิทยา?

เขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

หลังจากที่ได้อ่านบทคัดย่อแล้ว ศาสตราจารย์แคริเบอร์ก็ไปอ่านที่ส่วนหลักต่อ ทว่า ทันทีที่เขาเห็นสูตรการคำนวณที่เกินขอบเขตความเข้าใจ คิ้วของเขาก็พลันกระตุกอีกครั้งในทันที

ในฐานะวิศวกร ความรู้คณิตศาสตร์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่ถึงอย่างไร สูตรในรายงานเหล่านี้ยังคงอยู่นอกเหนือขอบเขตความรู้ของตน และนั่นทำให้เขารู้สึกมึนงงไม่น้อย

แค่สร้างแบบจำลองปรากฏการณ์วิทยาขึ้นมา มันจำเป็นต้องใช้วิธีการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนขนาดนี้เลยหรือ?

ระหว่างที่ศาสตราจารย์แคริเบอร์กำลังสับสน ภาษาที่ใช้บรรยายในวิทยานิพนธ์ก็พลันช่วยให้เขาเข้าใจและทำให้นึกถึงใครคนหนึ่ง

ทันทีที่เขาพลันมองไปยังชื่อของผู้เขียน แคริเบอร์ก็ถึงกับอ้าปากค้าง

ผู้ชายคนนี้…

ศาสตราจารย์แคริเบอร์ที่กำลังส่ายหัวเผยรอยยิ้มและยอมแพ้ให้กับสูตรที่ซับซ้อนตรงหน้า เขาพลันเลื่อนไปอ่านตรงส่วนบทสรุป

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์แคริเบอร์ก็ยอมรับว่าตอนแรกเขาไม่เห็นด้วยกับกับวิทยานิพนธ์

แต่ยิ่งอ่านมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งจริงจังมากขึ้นเท่านั้น

ทันใดนั้น เขาก็เผยยิ้มและหยิบโทรศัพท์ออกมา

“ไอเกอร์… เดี๋ยวฉันจะส่งวิทยานิพนธ์ไปให้ ฝากพิมพ์ออกมาที”

ไอเกอร์เป็นผู้ช่วยของศาสตราจารย์แคริเบอร์ที่มักจะรับผิดชอบในงานเบ็ดเตล็ดประจำวันส่วนใหญ่ เช่น การจัดตารางเวลาและเอกสาร

โดยปกติแล้ว วิทยานิพนธ์ที่ยังไม่ได้รับการเผยแพร่นั้นไม่ควรส่งให้บุคคลทั่วไปอ่าน แต่หากมันเป็นเพียงการสื่อสารภายใน มันก็ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิ

ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับผู้วิจารณ์ทั้งหลาย หากพวกเขาได้อ่านวิทยานิพนธ์ต้นฉบับและยังไม่เข้าใจ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนที่มีความรู้และชื่อเสียงทางวิชาการ

“โอเคครับ ต้องการให้พิมพ์ออกมาทั้งหมดเท่าไหร่ครับ?” ไอเกอร์กล่าว

“ตอนบ่ายมีประชุมกี่คน ก็พิมพ์ตามจำนวนนั้นแหละ!”

 …………………………………………………….

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

The Overachiever's Black Tech System, 学霸的黑科技系统
Score 6.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Scholar’s Advanced Technological Systemหลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล “ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?” “ไม่ได้” “เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?” “ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset