Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 444 ก็แค่อยากจะชวนไปทานข้าว (รีไรท์)

อพาร์ตเมนต์นักศึกษาวอร์ตัน มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย

เฉินยู่ซานที่กำลังหลับอยู่ถูกปลุกด้วยเสียงเรียกเข้ามือถือที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน

ตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยงคืน

เธอบ่นพึมพำเล็กน้อย พร้อมกับยื่นมือคลำหามือถือที่วางอยู่บนบริเวณโต๊ะข้างเตียง จากนั้นก็กดปุ่มแล้วนำมือถือขึ้นมาแนบหูทันที

“สวัสดีค่ะ?”

เมื่อเฉินเป่าฮัวได้ยินเสียงลูกสาวของตนเองยังงัวเงีย เขาจึงลังเลที่จะกล่าวต่อ

“ลูกนอนไปแล้วหรือ?”

เมื่อได้ยินเสียงชายชราจากปลายสาย เฉินยู่ซานก็พลันหาวและบ่นออกมา

“พ่อ! ก่อนจะโทรมาช่วยดูเวลาหน่อยได้ไหม?… ตอนนี้เที่ยงคืนแล้วนะ!”

เฉินเป่าฮัวกระแอมเล็กน้อยและกล่าวคำพูด “ก็ตอนแรกพ่อคิดว่ามันยังช่วงหัวค่ำ แต่ไม่คิดว่ามันจะดึกขนาดนี้…”

” แล้วพ่อมีธุระอะไรล่ะ? แต่ถ้ามันไม่สำคัญอะไร หนูก็จะขอไปนอนต่อ…” เฉินยู่ซานพลันหาวในขณะที่พูดยังไม่จบประโยค

เธอเคยชินกับการที่พ่อเป็นคนแบบนี้มานานแล้ว บางที เธอเองก็ยังสงสัยเลยว่าเขาไปแต่งงานกับแม่ได้อย่างไร

ช่วงนี้เธอกำลังยุ่งอยู่กับการเขียนวิทยานิพนธ์ และงานที่คอยแทรกเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน ส่งผลให้เธอง่วงนอนมากในตอนนี้

แต่ถ้าให้เทียบกับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่ถูกใช้เป็นแรงงานฟรี เธอก็โชคดีกว่ามาก

อันที่จริง เธอยังกังวลเรื่องการกระทำของคุณมิเชลอยู่ด้วย

มีคำกล่าวว่า “เราไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่เกิดไปแล้วได้”

ถึงแม้ว่ามันจะไม่ถูกไปเสียหมด แต่มันก็มีเรื่องที่ดูจริงอยู่บ้าง

ทุกครั้งเวลาที่เฉินยู่ซานมองหน้าเธอ เธอก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ขัดใจ มันเกือบจะเหมือนกับว่าหัวหน้าของเฉินยู่ซานพยายามที่จะเป็นอะไรที่มากกว่ามิตรภาพของครูและนักเรียน…

 มันจึงทำให้เธอเริ่มสงสัยว่า หากเธอคิดที่จะก้าวข้ามความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับนักศึกษา…คนอื่นจะมองว่าไม่ดีหรือไม่

เพราะฉะนั้น ช่วงวันหยุดเทศกาล เธอจึงตัดสินใจรีบเขียนวิทยานิพนธ์ฉบับจบการศึกษานี้ให้เสร็จโดยเร็ว เพราะเธอจะได้ไปจากที่นี่เสียที

เฉินเป่าฮัวรู้สึกลำบากใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินลูกสาวหาว

ดังนั้น เขาจึงไม่ยื้อเวลาโดยการพูดวกไปวนมาอีก

“พ่อก็แค่มีเรื่องอยากจะถามน่ะ”

“เรื่องอะไรล่ะคะ?” เฉินยู่ซานตอบ

เฉินเป่าฮัวพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไหนบอกพ่อมาสิ ความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับลู่โจวตอนนี้เป็นยังไง?”

เมื่อเฉินยู่ซานได้ยินประโยคนี้ เธอก็พลันขดตัวในผ้าห่มและเงียบไปชั่วครู่

“ก็แค่เพื่อน…จะเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไงกันล่ะคะ? เหมือนหนูจะเคยบอกพ่อไปแล้วนะ”

เฉินเป่าฮัวไม่อยากเชื่อเท่าไหร่นัก เขาจึงเอ่ยถามอีกครั้ง “แค่เพื่อนแน่เหรอ?”

เฉินยู่ซานตอบด้วยรอยยิ้มมุมปาก “พ่อจะถามทำไมกัน? เดี๋ยวนะ… นี่พ่อกำลังวางแผนทำอะไรอยู่ใช่ไหม?”

เฉินเป่าฮัวลุกลี้ลุกลนเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว

อันที่จริง เขาก็แค่กำลังเป็นห่วงลูกสาวของตนเท่านั้น

แต่ถึงอย่างไร นี่ก็ไม่ใช่เขาคนเก่าแล้ว เพราะตอนนี้ เขาเป็นถึงหัวหน้าแผนกองค์การของพรรคคอมมิวนิสต์จีนแล้ว

แม้ว่าเขาจะเข้าใจถึงความสำคัญของลู่โจวที่มีต่อประเทศว่ามันยิ่งใหญ่เพียงไหน แต่เฉินยู่ซานก็ยังคงเป็นลูกสาวของเขาอยู่ และเขาก็มีลูกสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น

ถ้าทั้งสองเข้ากันได้ มันก็คงจะดี แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นเลย…

“ไม่มีอะไรหรอก พ่อแค่อย่าถามดูน่ะ”

เฉินเป่าฮัวครุ่นคิดเล็กน้อย แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็พลันตัดสินใจ

อันที่จริง เขาอยากจะบินไปอเมริกาด้วยตัวเองด้วยซ้ำ นอกจากนี้ เขาเองก็ยังอยากที่จะคุยกับลู่โจวต่อหน้า

“เดี๋ยวอีกไม่กี่วันพ่อจะไปอเมริกานะ ลูกช่วยพ่อนัดเจอลู่… เอ๊ย ลูกช่วยติดต่อศาสตราจารย์ลู่ให้หน่อย พ่ออยากคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวน่ะ”

ทว่า เฉินยู่ซานก็พลันหาวและไม่ได้คิดอะไร “โอเค งั้นพ่อก็ไปคุยกับเขาเลย ยังไงตอนนี้หนูขอนอนก่อนนะ”

เฉินเป่าฮัวพยักหน้า “งั้นก็พักผ่อนเถอะลูก”

“ฝันดีค่ะ!”

เธอโยนมือถือลงข้างเตียงพร้อมกับมุดเข้าไปในผ้าห่มทันที

ทันใดนั้น เธอก็พลันรู้สึกว่าแก้มที่หนุนอยู่บนแขนกำลังร้อนผ่าวราวกับมีไอร้อนมากระทบข้างแก้มทั้งสองด้าน

ไม่นานนัก เธอก็พลันตระหนักถึงบางสิ่ง

เธอไม่ได้คิดให้ดี เธอยังไม่ได้คิดให้ทะลุทั้งแต่แรก

เราควรจะบอกเขาเรื่องนี้ยังไงดีนะ?

หรือควรจะบอกไปว่า “พ่อฉันอยากจะเจอคุณ… แบบนี้เหรอ?”

หรือจะบอกว่า “ฉันอยากให้คุณมาพบพ่อฉันหน่อย?”

อันที่จริง ประโยคไหนก็ฟังดูแย่ไปหมด!

แม้เฉินยู่ซานจะรู้สึกง่วงนอนมาก แต่เธอก็อดที่จะคิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้ จนสุดท้าย เธอก็ทำได้แต่มุดหัวในผ้าห่มแล้วขยี้ไปมา

ให้ตายเถอะ! เราควรทำยังไงดีเนี่ย?!

วันรุ่งขึ้น ลู่โจวมาที่ห้องปฏิบัติการตามเวลา และเริ่มการทดลองของวันนี้ทันที

เพราะความช่วยเหลือจากคอนนี่ทำให้เขาสามารถเติมสารกราฟีนชนิด N และชนิด P ลงบนวัสดุ จากนั้น ลู่โจวก็กรองและติดฉลากตัวอย่างกราฟีนขนาดเล็กเอาไว้ตรงหัวมุม หลังจากนั้น พวกเขาวางตัวอย่างไว้ในกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องกราดและเริ่มการสังเกตโครงสร้างจุลภาคของตัวอย่าง

พวกเขาจำเป็นต้องหาแถบพลังงานสองวงที่มีโครงสร้างวงกระจายเป็นศูนย์ให้พบ

ตำแหน่งของแถบพลังงานทั้งสองถูกกำหนดเอาไว้ในทางทฤษฎีแล้ว มันควรอยู่ที่จุดตัดของแถบเชิงเส้นสองเส้น ที่เรียกกันว่าจุดไดแรค

ถึงอย่างไร การประยุกต์ใช้ทฤษฎีนี้เป็นเรื่องยากมาก

ทว่า การค้นพบนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาลต่ออุตสาหกรรมของวัสดุตัวนำยิ่งยวดทั้งหมด

นอกจากคอนนี่แล้ว ศาสตราจารย์จิริกก็อยู่ที่นี่เช่นกัน

เพื่อให้การรวบรวมข้อมูลและการวิจัยวัสดุตัวนำยิ่งยวดเสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด ลู่โจวจึงได้คัดเลือกผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีอินทรีย์เอาไว้แล้ว

แม้ว่าศาสตราจารย์จิริกจะศึกษากราฟีนเป็นหลัก แต่เขาก็เผยให้เห็นถึงความสนใจอย่างมากหลังจากได้ฟังเรื่องโครงการวิจัยของลู่โจว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินว่าเงินทุนของโครงการนั้นสูงถึงแปดหลัก ศาสตราจารย์จิริกจึงระงับโครงการของตัวเองทันที และมาที่นี่พร้อมกับทีมวิจัยของตน

ศาสตราจารย์จิริกที่ยืนอยู่ข้างลู่โจวพลันกล่าวคำพูด ”นี่ก็เดือนตุลาคมแล้วนะ”

ลู่โจวพลันส่องกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนและตอบกลับ “ครับ”

“ตอบแค่นี้เองเหรอ?”

ลู่โจวหยุดส่องกล้องจุลทรรศน์และถามกลับ ”เดือนตุลาคม… แล้วมันทำไมเหรอครับ?”

ศาสตราจารย์จิริกรู้สึกสับสนและถามกลับ ”คุณไม่สนใจรางวัลโนเบลประจำปีนี้หรือ”

ลู่โจวถอนหายใจและตอบกลับ “ถ้าผมเอาแต่สนใจเรื่องรางวัลโนเบล ก็คงไม่ต้องไปทำอย่างอื่นพอดี”

ชิริกยักไหล่และทำสีหน้าทำอะไรไม่ถูก

“ก็ได้ คงพูดกับนายเรื่องนี้ไม่ได้สินะ ตอนแรกฉันคิดว่านายจะตื่นเต้นเสียอีก แล้วอีกอย่าง แบบจำลองทางทฤษฎีที่นายสร้างขึ้นมาเมื่อปีที่แล้วนั้นเจ๋งมากเลยนะ”

“เวลาจะเป็นตัวบอกทุกอย่างเองแหละครับ อีกอย่าง ผมไม่ได้มาอยู่ที่นี่เพราะต้องการรับรางวัลโนเบลอย่างเดียวสักหน่อย”

ในระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน โทรศัพท์มือถือของลู่โจวก็ดังขึ้น

ศาสตราจารย์จิริเผยท่าทีที่แปลกไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น

ลู่โจวรับรู้ได้ทันทีว่าศาสตราจารย์จิริกกำลังคิดอะไรอยู่ ไม่นานนัก เขาจึงถอนหายใจ “ผมรู้นะว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกน่า… แต่เดี๋ยวผมขอออกไปรับสายนี้ก่อนก็แล้วกัน”

ศาสตราจารย์ชิริกพลันกล่าวติดตลก “ทำไมไม่รับสายตอนนี้เลยล่ะ? แล้วถ้ามันเป็นเบอร์จาก จะเป็นอย่างไรถ้ามาราชบัณฑิตสภาด้านวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดนล่ะ?”

“ตื่นนอน! เฉพาะวันที่หนึ่งตุลาคมเท่านั้น!”

แต่ทว่า เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่เบอร์จากราชบัณฑิตสภาด้านวิทยาศาสตร์แห่ง  โดยปกติแล้ว การโทรหาผู้ได้รับรางวัลโนเบลจะเกิดขึ้นก่อนการประกาศ

และการประกาศชื่อผู้ชนะรางวัลโนเบลของสาขาเคมีก็น่าจะเป็นวันที่สี่ตุลาคม

ไม่ต้องพูดถึงเลย ลู่โจวรู้ดีว่าตนไม่ได้รับรางวัลโนเบลแน่

ไม่ช้า ลู่โจวก็รับสายและวางโทรศัพท์ไว้ข้างหู

“สวัสดีครับ?”

“อ่า รับสักที…”

เมื่อลู่โจวได้ยินน้ำเสียงของเธอที่ดูจะไม่เป็นธรรมชาติ เขาก็พลันถามขึ้น ”มีอะไร?”

เฉินยู่ซานก็พลันกล่าวคำถาม “วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ นายว่างไหม?”

ลู่โจวรู้สึกสับสน “อ่า ก็ว่าง… ทำไมล่ะ?”

“ไม่มีอะไรหรอก” เฉินยู่ซานเผยยิ้ม “ก็แค่รู้สึกว่าไม่ได้เจอนายมานานแล้ว เลยอยากจะชวนกินข้าวด้วยสักหน่อย”

……………………………………………

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

The Overachiever's Black Tech System, 学霸的黑科技系统
Score 6.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Scholar’s Advanced Technological Systemหลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล “ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?” “ไม่ได้” “เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?” “ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset