ตอนที่ 468 ยักษ์ใหญ่ผู้มีประสบการณ์ (รีไรท์)
โดย
Ink Stone_Fantasy
หลังจากนั้น ลู่โจวก็พลันพูดคุยกับชายชราเป็นเวลานาน
หัวข้อที่ถูกกล่าวถึงส่วนใหญ่คือรายละเอียดของนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุม
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของทางเลือก ข้อดีและข้อเสียรวมถึงปัญหาทางเทคนิคและสิ่งใดที่ควรจะถูกแก้ไข
เนื่องจากเรื่องที่กำลังคุยกันนั้นยู่นอกเหนือสาขาอาชีพของเขา นักวิชาการอู๋จึงไม่สามารถพูดอะไรแทรกได้ เขาทำเพียงแค่นั่งฟังราวกับเป็นคนธรรมดา
ลู่โจวใช้ภาษาที่เป็นกลางที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่ออธิบายในสิ่งที่ยากจะเข้าใจ
แน่นอน นอกเหนือจากเรื่องนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมแล้ว ยังมีแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างสิ่งอื่นในประเทศจีนอีกด้วย
สำหรับการเจรจาหลังจากกลับมาที่จีน ลู่โจวไม่ได้พูดอะไรมาก อีกทั้ง ชายชราก็ไม่ได้ถาม
เพราะโดยพื้นฐานแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ไม่พิเศษอะไรมากนัก
แม้ว่าเขาจะไม่พูดอะไร แต่เดี๋ยวก็จะมีคนจัดการให้เอง
หลังจากออกมาจากบทสนทนา ลู่โจวก็เดินมาที่ลาดจอดรถ มีชายคนหนึ่งกำลังรอเขาอยู่
ชายคนนั้นคือหวังเผิง คนขับรถของลู่โจว
“คุยกันจบแล้วเหรอ?”
“จบแล้ว” ลู่โจวกล่าว
หวังเผิงพยักหน้าและไม่ถามต่อ
ไม่ว่าลู่โจวจะกำลังพูดถึงเรื่องอะไร มันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาที่จะอยากรู้
ลู่โจวพลันกล่าวคำพูดขึ้นมาทันทีที่หวังเผิงคาดเข็มขัดนิรภัย
“เอาล่ะ เราจะไปไหนกันต่อ? ฉันไม่เคยมาที่นี่สักหน่อย”
แม้ว่าชายชราจะสร้างข้อตกลงและตัดสินใจในที่ประชุมแล้ว แต่วิธีการดำเนินการยังคงต้องมีการหารือในการประชุมภายในระดับสูงอยู่
การวิจัยเกี่ยวกับนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมถือเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อย
ในครั้งนี้ ลู่โจวต้องไปปักกิ่งสองวัน วันแรกคือต้องรอผลการหารือของเบื้องบน และในวันที่สอง เขาจำเป็นต้องหารือกับนักวิชาการด้านนิวเคลียร์ฟิวชันทางฝั่งจีนด้วย
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของลู่โจว หวังเผิงที่จับพวงมาลัยอยู่ก็เผยยิ้ม
“เดี๋ยวก็รู้ คิดว่าตัวเองจะไม่มีที่ซุกหัวนอนหรือยังไงกันล่ะ?”
…
ลู่โจวพักที่เดียวกับที่เขาเคยพักเมื่อมาปักกิ่งครั้งก่อน
ทันทีที่เห็นลู่โจว ผู้จัดการหวังก็พลันหัวเราะออกมาพร้อมทักทายเขาด้วยความตื่นเต้นและถามด้วยรอยยิ้ม
“ศาสตราจารย์ลู่ เอาชาเพิ่มหน่อยไหม?”
“พอก่อน ขอบใจมาก” ลู่โจวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ผู้จัดการหวังเผยยิ้ม “จะสุภาพเกินไปแล้ว ถ้าต้องการอะไรอีก ก็บอกได้เลยนะ”
แต่ครั้งนี้ ลู่โจวไม่ได้ให้ติ้ปเขาเลย
เขารู้ดีว่าโรงแรมแห่งนี้เป็นสถาบันของรัฐ และหากเขาให้เงินกับผู้จัดการหวังไป มันก็จะทำให้เขาเดือดร้อนแน่
และทุกครั้งที่เขากลับมาที่ประเทศจีน ลู่โจวก็มักจะนำของขวัญชิ้นสองชิ้นกลับมาด้วย
และหลังจากที่เขาลุกขึ้น ลู่โจวก็พลันหยิบซองชาไปด้วยสองซอง
ระหว่างที่ผู้จัดการหวังกำลังเดินอยู่ ลู่โจวก็นึกถึงเรื่องบางเรื่องได้ จากนั้น เขาจึงกล่าวคำพูดออกมา
“ใช่แล้ว ผู้จัดการหวัง…”
“ว่าไงครับ?”
ลู่โจวมองไปรอบตัวและถามคำถาม “ที่นี่มีห้องประชุมไหม?”
ผู้จัดการหวังเผยยิ้ม “แน่นอน ถ้าจะใช้ห้องตอนไหนก็บอกแล้วกัน”
ลู่โจวพยักหน้า “งั้นวันมะรืนนี้ครับ”
“ได้เลย” ผู้จัดการหวังตอบกลับ
…
เมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ของจีนที่เคยเข้าร่วมโครงการ ITER นี่ก็เป็นเวลาสิบเอ็ดปีแล้วตั้งแต่ปี 2007
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นจากจดหมายที่มาจากสถาบันฟิสิกส์ตะวันตกเฉียงใต้ของอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ที่ส่งมาให้แก่คณะกรรมการกลาง
ผู้ที่เขียนคำร้องคือนักวิชาการผานชางฮง ซึ่งเป็นคณบดีของสถาบันฟิสิกส์ตะวันตกเฉียงใต้ของอุตสาหกรรมนิวเคลียร์
แม้ว่าในวันนี้ นักวิชาการผานจะลาออกจากตำแหน่งแล้ว แต่ในสาขานิวเคลียร์ฟิวชันควบคุม สุภาพบุรุษชราท่านนี้ยังคงมีอิทธิพลอย่างมากในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิ
หลังจากการประสานงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในที่สุด ลู่โจวก็ได้พบกับผู้ทรงคุณวุฒิที่คอยสนับสนุนประเทศจีนให้เข้าร่วมโครงการ ITER ณ ห้องประชุมของโรงแรม
“สวัสดีครับ นักวิชาการผาน ผมรอท่านมานานแล้ว” ลู่โจวยื่นมือขวาขึ้นมาอย่างสุภาพทันทีที่เห็นสุภาพบุรุษชรา
“ผมก็รอคุณมานานแล้วเหมือนกัน” นักวิชาการผานพลันจับมือกับลู่โจวและกล่าวคำพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมได้ยินมาว่าศาสตราจารย์ลู่ทั้งอายุน้อยแล้วก็เป็นคนดีด้วย ไม่เคยคิดเลยว่าคุณจะเก่งกว่าผม ลองคิดถึงการเป็นเด็กสิ คงมีพละกำลังมากเลยใช่ไหมล่ะ!”
ลู่โจวยิ้มและเผยท่าทีอย่างสุภาพ “นั่งลงก่อนสิครับ”
หลังจากนั่งลงที่โต๊ะประชุม บริกรของโรงแรมก็รินชาให้แต่ละคน จากนั้นเขาก็เดินออกไปทางประตู
ลู่โจวกำลังเตรียมตัวในการพูด เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
แต่ทว่า นักวิชาการผานพลันถามขึ้นก่อนที่เขาจะอ้าปากเสียอีก
“คุณคิดว่าเครื่อง Stellarator มีศักยภาพไหม?”
ลู่โจวพลันพยักหน้าทันทีที่ได้ยินคำพูดที่ไม่คาดคิด “มีสิครับ”
นักวิชาการผานมองไปยังลู่โจวและถามต่อไป “แน่ใจนะ?”
“แน่ใจครับ”
“ทำไมถึงแน่ใจล่ะ?”
“สัญชาตญาณครับ”
ความหยั่งรู้โดยสัญชาตญาณ?
ทันทีที่ได้ยินคำตอบที่ไม่คาดคิด นักวิชาการผานก็มองไปยังใบหน้าที่ไม่สั่นไหวของลู่โจว จากนั้นเขาจึงส่ายหัว “สัญชาตญาณจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์งั้นหรือ? น่าสนใจดี ดูคุณจะเชื่อมั่นในตัวเองมากเลยนะ”
“ใช่ครับ” ลู่โจวพยักหน้าและพูดอย่างเป็นธรรมชาติ “ถ้าผมไม่เชื่อมั่นในตัวเองก่อน ผมจะทำให้คนอื่นเชื่อได้อย่างไรกัน?”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น นักวิชาการผานก็เผยยิ้มพร้อมคิดว่ามันไม่ถูกและไม่ผิด มันเป็นเพียงคำพูดง่ายๆ
“ถ้าเป็นแบบนั้น นายก็กำลังพูดโน้มน้าวผมใช่ไหม? ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณจะพูดให้ชายแก่คนนี้เชื่อได้ยังไง?”
ลู่โจวเผยยิ้มและพูดต่อ
“นิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมเป็นโครงการเชิงระบบ ปัญหาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องมีตั้งแต่เรื่องของฟิสิกส์พลาสมา การวิจัยวัสดุไปจนถึงการวิจัยเทคโนโลยีสารสนเทศ โครงการนี้จึงต้องอาศัยความร่วมมือของหน่วยงานวิจัยอื่น สำหรับผม มันยากมาก แค่คนเดียวทำไม่สำเร็จหรอกครับ”
ลู่โจวมองไปยังนักวิชาการผานพร้อมหยุดพูดไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็กล่าวคำพูดออกมาด้วยความจริงใจ
“ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น นักวิชาการผานก็ตกใจเล็กน้อย เขาคงจะไม่คาดหวังว่าลู่โจวจะมาขอความช่วยเหลือเช่นนี้
แม้ว่าจะมีความตั้งใจเพียงชั่วครู่ หลังจากครุ่นคิด เขาก็ส่ายหัว
“ผมช่วยคุณไม่ได้หรอก เครื่อง STELLARATOR ไม่ใช่แนวทางการวิจัยของผมเลย ยิ่งไปกว่านั้น ผมก็แก่มากแล้ว ผทขอไปพร่ำสอนเด็กนักเรียนเสียจะดีกว่า”
หลังจากนั้น เขาก็พูดต่อ
“อันที่จริง บุคคลสำคัญที่รับผิดชอบเรื่องการวิจัยนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมในประเทศนี้ก็คือนักวิชาการโจว ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ ลองไปคุยกับเขาดูก็ได้”
ลู่โจวส่ายหัว “งานวิจัยของนักวิชาการโจวส่วนใหญ่เป็นเรื่องเครื่องโทคาแมคเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสนับสนุนแนวคิดของผม”
นักวิชาการผานไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเผยสีหน้าเมินเฉย
นี่ไม่ใช่แค่คำถามเกี่ยวกับวิธีการทางเทคนิคแล้ว แต่มันถือเป็นเรื่องใหญ่แห่งแวดวงวิชาการเลย
ไม่เพียงแค่นั้น จะไม่มีใครได้เห็นเงินหลายพันล้านดอลลาร์เลย จะไม่มีใครรู้ว่ามันจะมาจากไหน มันจะมีทั้งบุคคลที่ต่อต้านและต้องการสิทธิ์ในการครอบครอง
เงินทุนเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น และยังมีเรื่องอำนาจภายในระบบเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
มันไม่ใช่แค่เรื่องวิชาการเพียงอย่างเดียว
ไม่นานนัก ลู่โจวก็พูดขึ้น
“อันที่จริงแล้ว เมื่อวานนี้ ผมได้ติดต่อกับผู้บริหารระดับสูงและได้รับการสนับสนุนด้านนโยบายและการค้ำประกันเงินทุนมา โครงการใหม่จะถูกดำเนินการไปพร้อมกับโครงการเครื่องโทคาแมค”
ท่าทีของนักวิชาการผานเปลี่ยนไปเล็กน้อย “คุณเคย… ติดต่อกับผู้บริหารระดับสูง?”
ลู่โจวพยักหน้า “ใช่แล้ว”
ถ้าเป็นแบบนี้…
จากนั้น ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ในความเงียบ นักวิชาการผานดูเหมือนจะลังเล
ลู่โจวไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่รอคำตอบ
ระหว่างที่มองไปยังไอที่ลอยอยู่บนแก้วน้ำชา ชายชราก็ขมวดคิ้วและมองไปยังลู่โจวพร้อมเผยยิ้ม
“ผมจะลองดูก็ได้”
ทันใดนั้น ใบหน้าของลู่โจวก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขายื่นมือขวาขึ้นมา
“ขอบคุณมากครับ!”
……………………………………………