ตอนที่ 476 ตำแหน่งความสามารถพิเศษ (รีไรท์)
โดย
Ink Stone_Fantasy
ระหว่างที่ยืนอยู่ชั้นล่างของสถาบันการศึกษาขั้นสูงจินหลิง มีอีกหลายคนที่ได้สัมผัสประสบการณ์เดียวกับเขา ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน
มีการคัดเลือกเรซูเม่มากมายนับหมื่น แต่ไม่มากเกินกว่าที่จะได้รับคำเชิญเพื่อให้มาสัมภาษณ์
และมีเพียงหนึ่งในห้าของผู้สมัครเท่านั้นที่จะสามารถผ่านการสัมภาษณ์ได้ ไม่ว่าในกรณีใด โอกาสของทุกคนจะเท่าเทียมกัน
ส่วนจะผ่านการคัดเลือกหรือไม่นั้น คงต้องดูกันที่ทักษะส่วนตัว
แน่นอนว่านอกจากนักวิจัยทางการแล้ว ก็ยังมีผู้ช่วยนักวิจัย นักวิจัยร่วมและตำแหน่งอื่นรออยู่
แม้ว่าการปฏิบัติต่อบุคคลที่อยู่ตำแหน่งเหล่านี้อาจจะไม่น่าสนใจเท่านักวิจัยทางการ ถึงกระนั้น คนส่วนมากก็ต้องการที่จะอยู่ในตำแหน่งเหล่านั้น
แต่สำหรับเขาแล้ว มีเพียงเหตุผลเดียว
เพราะนี่คือห้องทดลองของบุคคลที่ได้รับรางวัลโนเบล แม้ว่าที่อื่นจะมีงานวิจัยแบบเดียวกัน แต่สถาบันนี้ก็มีโอกาสมากกว่าสถาบันอื่นในจีน…
…
การสรรหาบุคลากรถือเป็นหน้าที่ของหยางสวี่
ลู่โจวมั่นใจในความสามารถของหยางสวี่ไม่น้อย ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ถามอะไรมากนัก เพียงแค่พูดเรื่องสาขาเพิ่มเติมของฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ซึ่งนอกเหนือจากวัสดุศาสตร์
ทว่าก็แตกต่างจากข้อกำหนดการรับสมัครของสถาบันวิจัยวัสดุ หากเป็นผู้สมัครที่เชี่ยวชาญทั้งสองสาขา ลู่โจวก็ขอให้พวกเขาแนบหัวข้อการวิจัยประยุกต์เอาไว้ในประวัติด้วย
หากการสัมภาษณ์ได้รับการอนุมัติให้ผ่าน ใบสมัครโครงการวิจัยที่เกี่ยวข้องจะถือเป็นรายงานส่วนแรก ซึ่งพร้อมที่จะรับบุคคลที่ผ่านให้เข้ามาได้ทันที
คำถามคือช่วงฝึกงานคือเมื่อไหร่?
ด้วยเหตุนี้ หากเปรียบเทียบกับเรื่องของการส่งเรซูเม่แล้ว ลู่โจวจะให้ความสำคัญกับเรื่องการฝึกงานมากกว่า
และจากรายงานส่วนแรก สามารถสะท้อนให้เห็นอะไรหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ในการสมัครขอทุนวิจัยหรือประสบการณ์ในเรื่องอื่น…
นอกจากนี้ หากเทียบกับการเพิ่มจำนวนกว่าสองร้อยคนของสถาบันวัสดุคำนวณ สถาบันฟิสิกส์และสถาบันวิจัยคณิตศาสตร์ที่ซึ่งยังไม่ได้รับการจัดตั้งขึ้นของลู่โจวนั้นจะรับคัดเลือกนักวิจัยเพียงยี่สิบคนเท่านั้น
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว สถาบันการศึกษาขั้นสูงก็เช่นกัน การสร้างสมประสบการณ์ไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน การเพิ่มจำนวนคนก็เช่นกัน
แม้ว่าลู่โจวจะมีต้นแบบที่เกี่ยวข้องกับวิธีการคัดลอกแบบจำลองจากสถาบันพรินซ์ตันอยู่ในหัวแล้ว แต่วิธีการเฉพาะก็ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่ดี
เขาหวังว่าจะได้พบกับเส้นทางที่เหมาะสมในระหว่างที่พยายามก้าวไปข้างหน้าเพื่อสร้างสถาบันวิจัยในอุดมคติของตนเอง
นี่ไม่ใช่งานที่ง่าย แต่มันคุ้มค่าที่จะลอง
หลังจากสามวันของการสัมภาษณ์และการคัดกรอง รายชื่อของนักวิจัยทางการก็ได้ข้อสรุปแล้ว
น่าแปลก นอกจากนักวิจัยทางการจะมีจำนวนกว่าสองร้อยคนแล้ว นักวิจัยที่อยู่ในระดับปริญญาเอกกว่าห้าร้อยคนยินดีที่จะอยู่เป็นผู้ช่วยวิจัย
หลังจากการรับสมัครนักวิจัยเพิ่ม สถาบันวัสดุเชิงคำนวณได้เปลี่ยนจากสถาบันวิจัยเอกชนขนาดเล็กที่มีนักวิจัยทางการเพียงยี่สิบคนเป็นสถาบันวิจัยวัสดุที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ
ในที่นี้จะมีการกล่าวถึงแค่จำนวนของนักวิจัยและอุปกรณ์เท่านั้น จะไม่มีการกล่าวถึงจำนวนเอกสารหรือผลของการวิจัยเลย
ถึงกระนั้น ทั้งความสามารถของนักวิจัยและอุปกรณ์ก็มารวมกันอยู่ที่นี่แล้ว ที่เหลือก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา
ถึงอย่างไร นั่นก็คืออนาคต เมื่อมีการจ้างคนมาแล้ว ตำแหน่งของความสามารถก็กลายเป็นอีกปัญหาหนึ่ง
ทางสภาเมืองจินหลิงก็ได้ให้ความสนใจอย่างมากกับการก่อสร้างสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูง
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ส่งเงินให้โดยตรง แต่โดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาก็ได้มอบที่ดินให้แก่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงให้เป็นที่พักของพนักงานโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ที่ดินนั้นจะอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยหลัก และมันอยู่ในเขตพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทค
ถึงอย่างไร ที่ดินผืนใหม่ก็เพิ่งจะเสร็จสิ้น การประมูลอพาร์ทเมนต์จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนที่อพาร์ทเมนท์จะถูกส่งมอบให้กับสถาบัน
ในด้านของสถาบันการศึกษาขั้นสูงตั้งแต่เดือนมกราคม ผู้ที่ผ่านการสัมภาษณ์จะต้องมาที่นี้และเริ่มงานใหม่ของตัวเอง
“ตอนนี้ พวกชาวต่างชาติก็คงจะเช่าบ้านกันอยู่” ลู่โจวกล่าวในที่ประชุม “จนกว่าการก่อสร้างที่พักของพนักงานจะเสร็จสมบูรณ์ นักวิจัยจะได้รับเงินสนับสนุนค่าเช่าเดือนละสองพัน”
ค่าเช่าบ้านโดยเฉลี่ยใกล้มหาวิทยาลัยอยู่ที่ประมาณสามพันหยวนต่อเดือน ดังนั้น เงินช่วยเหลือค่าที่พักสองพันหยวนจึงค่อนข้างดีไม่น้อย สำหรับผู้ช่วยนักวิจัยและตำแหน่งอื่น ๆ พวกเขาก็จะได้รับเงินช่วยเหลือค่าที่อยู่อาศัยประมาณหนึ่งหยวนต่อเดือนเช่นกัน
ในกรณีนี้ สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงจะต้องใช้จ่ายเงินอุดหนุนที่อยู่อาศัยมากกว่าหนึ่งล้านหยวนต่อเดือน
หยางสวี่ส่ายหัว “เรื่องนั้นน่าจะจัดการได้ยากเนื่องจากคนเช่าเยอะเกินไป อีกทั้ง ที่อยู่อาศัยแถวนี้ก็แออัด ไม่เพียงแต่เราจะมีปัญหาเรื่องค่าเช่าเท่านั้นนะ แต่เราจะมีปัญหาเรื่องการจราจรด้วย”
“แล้วคุณมีวิธีที่ดีกว่านี้ไหมครับ?” ลู่โจวถามกลับ
“มันก็ยังมีอยู่แหละ… แต่ว่าก็ขึ้นอยู่กับคุณ”
“อะไรเหรอครับ?”
ท่าทีของหยางสวี่นั้นเปลี่ยนไป “ดูเหมือนที่พักของเจ้าหน้าที่แล้วก็อาจารย์จะสร้างเสร็จแล้ว…”
ลู่โจวขมวดคิ้ว
ไม่จำเป็นต้องถาม ดูเหมือนว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าหยางสวี่ต้องการจะสื่ออะไร
เห็นได้ชัดว่าเขาต้องเป็นคนไปจัดการเอง…
…
ในวันรุ่งขึ้น ณ ห้องทำงานอธิการบดีของมหาวิทยาลัยจินหลิง ลู่โจวได้ไปเยี่ยมอาจารย์ใหญ่สวี่ทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับปัญหาหลายอย่างที่สถาบันการเรียนรู้ระดับสูงต้องเผชิญ
ในระหว่างที่ลู่โจวจะกำลังอ้าปากพูดออกมานั้น อาจารย์ใหญ่สวี่ก็พูดแทรกขึ้นมาพร้อมเผยยิ้ม
“นี่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่พักอาศัยของที่พักของเจ้าหน้าที่แล้วก็อาจารย์ในจินหลิงก็สร้างเสร็จแล้วแหละ แต่ยังไม่มีใครอยู่เลย ถ้าคุณต้องการห้องเพิ่ม ก็บอกกันได้เลย”
“มันจะดีไหมล่ะครับ?” ลู่โจวถาม
“ไม่มีอะไรดีไปเสียหมดหรอก” อาจารย์ใหญ่สวี่เผยยิ้ม “โครงการที่คุณสร้างเป็นโครงการระดับประเทศเชียวนะ ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังเคยช่วยพวกเราเอาไว้มากมาย แค่เรื่องที่พัก บอกเลยว่าสบายมาก”
แม้แต่ห้องปฏิบัติการของกเคมียังถูกยืมไปตั้งสองปี ดังนั้น การให้อาคารอพาร์ตเมนต์ของพนักงานนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
นอกจากนี้ สถาบันการศึกษาขั้นสูงจินหลิงยังมีเชื่อมโยงกันกับมหาวิทยาลัยจินหลิงอีกด้วย พวกเขาเคยร่วมมือในโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาก่อน
และนอกเหนือไปจากนั้น สิ่งที่จะทำให้อาจารย์ใหญ่สวี่ไม่ลังเลที่จะตัดสินใจในครั้งนี้เลยคือโครงการวิจัยของลู่โจวนั้นมีมูลค่ากว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์
แนวคิดของโครงการวิจัยหนึ่งพันล้านเหรียญคืออะไรกัน?
หากแปลงเป็นเงินหยวน มันก็ตกประมาณเจ็ดพันล้าน
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงมหาวิทยาลัยจินหลิงซึ่งเป็นกองทุนวิจัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนเลย มันมีการระดมทุนประจำปีมากกว่าห้าพันล้านด้วยซ้ำ
สำหรับพื้นที่ของโครงการวิจัยหนึ่งพันล้านเหรียญนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างห้องปฏิบัติการจำนวนมากขึ้นมา
ทว่า การที่สาขาฟิสิกส์นั้นเป็นสาขาหลัก ก็อาจจะทำให้มีปัญหาตามมาได้
ในทางตรงกันข้าม ที่พักของเจ้าหน้าที่และอาจารย์ในวิทยาเขตจะเพียงพอหรือไม่?
ถึงกระนั้น ก็ยังไม่มีใครรู้
เมื่อเห็นว่าอาจารย์ใหญ่สวี่สัญญาเช่นนั้น ลู่โจวก็ไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติม
จากนั้น อาจารย์ใหญ่สวี่ก็เผยยิ้มและกล่าวคำพูดต่อ
“เอาล่ะ ยังไงคุณก็อยู่ที่นี่แล้ว ผมอยากจะบอกอะไรสักหน่อย”
“อะไรเหรอครับ?”
“หลังจากนี้อีกไม่กี่สัปดาห์ จะมีการจัดงานมอบรางวัลประจำปีสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยจินหลิง”
การรับรางวัลนั้นประกอบไปด้วยวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยกว่าเก้าร้อยกว่าแห่ง บุคคลที่ถูกเลือกจะถือเป็นบุคคลที่ดีที่สุด อีกทั้งรางวัลนั้นยังเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ รางวัลประจำปีจึงถือเป็นหนึ่งในรางวัลสำคัญอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้
โดยหลักการแล้ว รางวัลนี้สามารถรับได้เพียงแค่ครั้งเดียว แต่เท่าที่ลู่โจวจำได้ เขารับรางวัลนี้มาแล้วสองครั้ง
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลู่โจวก็กระแอมและพูดขึ้น “ผมเองก็เรียนจบมาหลายปีแล้วนะ คุณยังจะให้รางวัลผมอีกเหรอ?”
อาจารย์ใหญ่สวี่เผยยิ้มและกล่าวคำพูด “นายได้ทั้งเหรียญฟีลด์สแล้วก็รางวัลโนเบล ไม่ต้องมาถามหารางวัลเลย ก็แค่อยากจะบอกว่าถ้านายมีเวลา ผมก็อยากให้คุณช่วยมามอบรางวัลให้กับพวกนักศึกษาจบใหม่หน่อยน่ะ”
การมอบรางวัล…
อาจจะเป็นเพราะลู่โจวถูกพูดถึงมากเกินไป อีกทั้งเขายังเป็นคนที่ได้รับเหรียญฟีลด์สและรางวัลโนเบลซึ่งเป็นรางวัลยักษ์ใหญ่พร้อมกัน เรื่องการมอบรางวัลคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ก็ได้ครับ” ลู่โจวกล่าวพร้อมเผยยิ้ม “ยังไงก็เถอะ ถ้าถึงวันงานแล้ว ก็บอกผมด้วยแล้วกัน”
อาจารย์ใหญ่สวี่เผยยิ้มและพยักหน้า “ได้เลย ต้องขอบคุณล่วงหน้าด้วย!”
………………………………