ตอนที่ 481 ประเด็นที่น่าสนใจ (รีไรท์)
โดย
Ink Stone_Fantasy
โฮ่วจินลี่กระแทกเครื่องมือที่อยู่ในมือลงกับโต๊ะ ตอนนี้เขาแทบวิเคราะห์อะไรไม่ได้เลย
อย่างน้อยเขาก็ต้องทำการวิเคราะห์การเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์ให้เสร็จก่อน
แน่นอนว่าจะเป็นการดีกว่า ถ้าหากได้ใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนเพื่อสแกนให้แม่นยำมากขึ้น
เขารู้สึกเริ่มอยากมีห้องทดลองเป็นของตัวเองบ้างแล้ว…
ภายใต้การถอนหายใจ โฮ่วจินลี่เริ่มรู้สึกลังเลและมองไปยังถุงขยะสีดำในมือ
ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ไม่ได้ทิ้งมันลงถังขยะ แต่กลับขว้างไปที่โต๊ะทดลอง
หลังจากทำการจดบันทึกการทดลองกับเพื่อนร่วมงาน หยู่ซุนก็ถามขึ้นมาอย่างสงสัย
“แล้วไอ้เจ้านี่ล่ะ?”
“ฉันจะเปิดโปรแกรมคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเพื่อดูว่าจะสามารถใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนได้ไหม… แล้วก็จะทำการวิเคราะห์องค์ประกอบของไอ้เจ้านี้สักหน่อย ฉันแค่รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย”
หยู่ซุนที่ได้ยินเช่นนั้นจึงถามเพิ่ม “นี่ไม่ใช่กากคาร์บอนใช่ไหม? มีงานวิจัยอะไรเกี่ยวข้องกับมันไหม?”
แน่นอนมันอาจเป็นสารตกค้างของด่างทับทิม หรือส่วนผสมอย่างอื่นก็ได้
ยิ่งทำการทดลองไปเรื่อย ๆ ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจจะแปลกไปจากเดิม ซึ่งเขาก็ไม่ได้แปลกใจอะไร
โฮ่วจินลี่หยิบถุงขยะขึ้นมาอีกครั้ง “ฉันว่ามันต่างจากกากคาร์บอนนิดหน่อย นายไม่รู้สึกเหรอ?”
“รู้สึกอะไร?”
“ลองแตะมันสิ”
หยู่ซุนพลันขมวดคิ้ว
เขาไม่รู้ว่านี่มันคืออะไรกันแน่ อีกอย่างเขาอาจจะเข้าใจผิดว่ามันเป็นกากคาร์บอน ถึงกระนั้น ทั้งคู่ก็มองหน้ากันและไม่พูดอะไรออกมา
…
แท้จริงแล้ว
ทั้งวัสดุตัวนำยิ่งยวดกราฟีนและวัสดุ SG-1 นั้นถือเป็นสิ่งใหม่
สำหรับสถาบันวิจัยวัสดุที่ทำการวิจัยในเรื่องคาร์บอนนาโนหรือตัวนำยิ่งยวด แม้ว่าพวกเขาอาจจะเคยได้ยินชื่อของมันจากการประชุมฤดูใบไม้ร่วง แต่พวกเขาเองก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียดที่ลงลึกไปมากกว่านั้น
ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นวัสดุที่ควรค่าแก่การตรวจสอบ
โฮ่วจินลี่ไม่ใช่คนเดียวที่สนใจปัญหาที่พบในการทดลองวัสดุ SG-1 และเขาก็ไม่ใช่คนเดียวที่เจาะลึกแนวคิดของการวิจัย แต่เขาเองอาจจะเป็นคนเดียวที่สนใจในขยะทดลองที่กำลังจะถูกทิ้ง
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ใช้เวลาอยู่กับการเขียนรายงานการบันทึกการทดลอง
อีกทั้งรายงานนี้ก็ถูกส่งต่อไปยังโต๊ะทำงานของลู่โจว…
“สสารสีดำปริศนาที่เกิดระหว่างการเตรียมวัสดุ SG-1?”
ทันทีที่เห็นรายงานการทดลองบนมือของเขา สีหน้าของลู่โจวก็แปลกไป
มันใช่กากคาร์บอนหรือไม่?
เรียกได้ว่าเป็นหัวเรื่องที่ตรงกับการทดลองแบบพอดิบพอดี…
หลังจากมองดูหัวข้อนั้น ลู่โจวก็มองไปยังเนื้อหาที่ถูกเขียนและอ่านทีละบรรทัด
ในสถาบันการศึกษาขั้นสูงจินหลิง นอกเหนือจากมูลนิธิวิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติและกองทุนวิจัยของเทศบาลแล้ว การประยุกต์ใช้อุปกรณ์เพื่อการระดมทุนถือเป็นทางเลือกของกองทุนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของสถาบัน
หากทิศทางการวิจัยที่เลือกนั้นสอดคล้องหรือเกี่ยวข้องกับสถาบัน ตราบใดที่สามารถระบุหัวข้อของการวิจัยได้อย่างชัดเจนในรายงานการทดลอง อัตราที่วิจัยจะผ่านก็ค่อนข้างสูง
ลู่โจวเป็นคนจัดหาเงินทุนมาจำนวนมาก เขาให้การสนับสนุนนักวิจัยที่ให้ความสนใจกับปัญหาที่พบในการทดลอง แม้ว่าการค้นพบเหล่านั้นจะไม่เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจก็ตาม ขอแค่เป็นการค้นพบที่มีความหมายและสำคัญก็พอ
ถึงกระนั้นการวิจัยวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังมากมายในประวัติศาสตร์ก็มักจะถูกค้นพบจากสถานการณ์ที่คล้ายกัน
ลู่โจวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เซ็นชื่อลงไป
โดยทั่วไปแล้วรายงานการทดลองก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร อย่างน้อยเขาก็มีความคิดว่าปัญหานั้นควรค่าแก่การเสี่ยงที่จะแก้ไข
รายงานการทดลองกว่าสิบฉบับได้รับการอนุมัติ และมีอีกสี่ฉบับที่ไม่เป็นไปตามบรรทัดฐานด้วยเหตุผลหลายประการ
ลู่โจวที่เสร็จงานของตัวเองแล้วพลันลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปด้านหลังเพื่อชงกาแฟ
ทันใดนั้นเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“ประตูไม่ได้ล็อก เข้ามาได้เลย”
ทันทีที่ประตูเปิด หยางสวี่ก็ปรากฏตัว
ไม่กี่วันที่ผ่านมาในนามของสถาบันวัสดุคำนวณ เขาได้ไปที่สำนักงานเพื่อเยี่ยมเยียนเหล่านักวิจัยและแลกเปลี่ยนความรู้ และตอนนี้เขาก็กลับมาแล้ว
เมื่อมองไปยังลู่โจวที่กำลังชงกาแฟ เขาก็ถามขึ้น “ไม่คิดจะหาเลขาบ้างหรือไง?”
“ยังไม่ถึงเวลา” ลู่โจวเผยยิ้มพร้อมยกกาแฟสดที่ชงขึ้นมา “ฉันมีเทคนิคการชงกาแฟด้วยล่ะ อยากลองทำดูหน่อยไหม?”
หยางสวี่เผยยิ้มและพูดติดตลก “ไม่ลองได้ไงล่ะ? ผู้ชนะรางวัลโนเบลถึงกับจะสอนด้วยตัวเองเลยนะ”
หลังจากหยิบแก้วกาแฟขึ้นมา หยางสวี่ก็ได้จิบและลังเลเล็กน้อย
“ใส่ลงไปเลยหรือยังไงกัน?”
“ถ้าจะใส่ลงไปเลย น้ำต้องร้อนก่อนนะ แล้วก็อย่าลืมเติมน้ำเพิ่มด้วย” จากนั้น ลู่โจวพลันกระแอมและเปลี่ยนประเด็น “แล้วสถานการณ์ของเราตอนนี้เป็นยังไงบ้างล่ะครับ?”
หยางสวี่กล่าวออกมาอย่างสบายใจ “สถานการณ์เป็นใจอยู่นะ มีศาสตราจารย์หลายคนเลยที่สนใจโครงการวิจัยร่วมกันของเรา อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถช่วยเราแบ่งหัวข้อการทำวิจัยไปได้เยอะเลยล่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลู่โจวก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“ดีมากเลยครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก” หยางสวี่พลันโบกมือและเผยยิ้ม “ยังไงมันก็เป็นงานของผมเหมือนกัน”
นิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุมถือป็นโครงการขนาดใหญ่ แค่เนื้อหาอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะแยกประเด็นสำคัญออกมากว่าหนึ่งร้อยหัวข้อ สิ่งนี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น อีกทั้ง ยังไม่มีการคาดการณ์แบบคำนวณอีกด้วย
โครงการวิจัยเหล่านี้อาศัยความรู้จากมหาวิทยาลัยหลายแห่งในเมืองจินหลิง ซึ่งรวมถึงสถาบันวิจัยระดับสูงที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ด้วย
เห็นได้ชัดว่ามันถือเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจทั้งหมด หากไม่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอื่น โครงการนี้ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
วัสดุถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะคาร์บอนนาโน
หลังจากนั้นไม่กี่วัน หยางสวี่ก็ยังต้องไปที่เมืองซุยมู่ เพราะยิ่งมีพันธมิตรมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยกันได้มากขึ้นเท่านั้น
หลังจากหยุดพูดไปชั่วครู่ หยางสวี่ก็กล่าวต่อ “ใช่แล้ว มีอีกอย่างหนึ่ง เมื่อคืนนี้ บริษัท Baosheng Group ส่งอีเมลมา พวกเขาร่างโครงสร้างแผนการผลิตภาคอุตสาหกรรมของวัสดุ SG-1 เรียบร้อยแล้ว”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลู่โจวก็รู้สึกสนใจขึ้นอีกครั้ง
ในแง่ขององค์กร บริษัท Baosheng Group ก็ถือเป็นพันธมิตรหลักและทำหน้าที่รับผิดชอบในการแก้ปัญหาการผลิตทางอุตสาหกรรมของวัสดุ SG-1
ทั้งสองฝ่ายเสริมข้อได้เปรียบพร้อมกับลงนามในข้อตกลงการวิจัยแบบร่วมมือกัน ส่วนทางสถาบันนั้นมีหน้าที่แก้ไขปัญหาทางเทคนิค บริษัท Baosheng Group เองก็มีหน้าที่รับผิดชอบในการแก้ปัญหาการออกแบบวิธีดำเนินงานการผลิตเฉพาะ
ในตอนนี้ บริษัท Baosheng Group เองก็ได้ร่างแผนการผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้ว
สำหรับลู่โจว นี่อาจจะเป็นข่าวที่ดีที่สุดที่เขาได้ยินมาในวันนี้เลยก็ว่าได้
“เสร็จแล้วเหรอ? งั้นเดี๋ยวผมจะได้ส่งอีเมลกลับไป”
หยางสวี่พยักหน้า “ส่งไปเลย เพื่อให้การออกแบบขั้นสุดท้ายของสายการผลิตเสร็จสมบูรณ์ พวกเขาต้องการให้เราส่งนักวิจัยหลายคนไปช่วยนะ”
ลู่โจวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “งั้นส่งคนไปสองสามคนก็ได้ครับ แล้วก็ค่อยคัดเลือกผู้สมัคร แต่ผมว่าอย่าช้ามากล่ะ”
“ได้เลย”
หยางสวี่พยักหน้าและหันหลังกลับเพื่อเดินออกไปจากห้องทำงาน
ลู่โจวมองไปยังปฏิทินที่มุมโต๊ะและมองไปที่หลังของหยางสวี่
สำหรับปีนี้ทุกอย่างใกล้เข้ามาแล้ว
ดูเหมือนว่าเขากำลังจะก้าวขึ้นไปอีกขั้น…
…………………………………………………