ตอนที่ 482 ขดลวดที่ยาวหนึ่งเมตรครึ่ง (รีไรท์)
โดย
Ink Stone_Fantasy
ในเดือนกุมภาพันธ์ ทั่วทั้งเมืองจินหลิงเต็มไปด้วยหิมะ
ลู่โจวแทบจะอยู่ห้องทดลองทั้งวัน
แม้ว่าลู่โจวต้องการจะซื้อบ้าน แต่เขาแทบจะไม่ได้กลับไปนอนพักเลย มันก็น่าเสียดายอยู่หน่อย
โชคดีที่ไม่กี่วันก่อนวันปีใหม่ งานวิจัยทั้งหมดก็เสร็จสมบูรณ์ นี่ทำให้ลู่โจวถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แท้จริงแล้ว งานพวกนี้ไม่จำเป็นต้องทำให้เสร็จก่อนปีใหม่ก็ได้
ถึงอย่างไร ถ้าเขาจัดการทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว ก็จะได้มีเวลาเตรียมตัวเดินทางไปเยอรมนี
ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ลู่โจวเองก็ต้องติดตามผลการวิจัยอยู่เสมอเพื่อดำเนินการในภายหลัง
ลู่โจวพลันเขียนอีเมลและส่งให้กับศาสตราจารย์แคริเบอร์ที่อยู่เยอรมนี จากนั้นเขาก็รีบสวมเสื้อคลุมและเดินออกมาจากสถาบัน
เมื่อออกมาด้านนอก ลู่โจวสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเฮือกใหญ่ และก่อนกลับบ้านเขาได้แวะไปชมที่สถาบันดวงดาวจำลอง
ความหนาวเย็นไม่ได้ทำให้ความกระตือรือร้นของเหล่าคนงานหยุดลง เช่นเดียวกับโครงการที่เพิ่งสร้างนี้
และเกือบทุกครั้งที่ลู่โจวเดินผ่านที่นี่ เขารู้สึกได้ว่ามันแตกต่างจากเมื่อก่อน
ด้วยการสนับสนุนทรัพยากรมนุษย์และวัสดุ ความคืบหน้าของโครงการจึงใช้เวลาเพียงไม่กี่วันและกำลังดำเนินไปด้วยความรวดเร็ว
ทันทีที่เห็นลู่โจวเดินมา หัวหน้างานจึงเผยยิ้มกว้างและกล่าวทักทาย
“ลมอะไรหอบคุณมาแถวนี้ล่ะ?”
“ผมกำลังกลับบ้านน่ะ ก็เลยแวะมาหน่อย แล้วก็ว่าจะหาที่เที่ยวด้วย เหนื่อยกับงานมาหลายวันแล้ว”
“แล้วมันยากขนาดไหนล่ะ?”
ในตอนนี้ โครงการเองยังสร้างไม่เสร็จ อีกทั้งยังไม่มีการจัดประชุมต่อ
และสำหรับอาหารค่ำในปีนี้ พวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะไปกินนอกสถานที่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
หลังจากพูดคุยกับลู่โจวเพียงไม่กี่คำ หัวหน้าคนงานก็มองไปยังสถาบันวิจัยที่อยู่ไม่ไกล เขาเพ่งมองและพูดด้วยความกระตือรือร้น “คุณเคยบอกว่าถ้าประเทศได้ใช้นิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุม หรือพวกไฟฟ้านั่นน่ะ เราจะประหยัดค่าไฟต่อปีได้เท่าไหร่นะ?”
“ผมไม่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์สักหน่อย คงบอกตัวเลขที่ถูกต้องไม่ได้หรอก”
หลังจากหยุดคิดสักพัก ลู่โจวก็พูดต่อ “แต่แน่นอน ถ้าวันนั้นมาถึง อุตสาหกรรมไฟฟ้าของประเทศเราจะนำไปสู่การพัฒนาแบบก้าวกระโดดเลยล่ะ”
แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้เรียนเศรษฐศาสตร์ แต่สัญชาตญาณก็บอกกับเขาได้ว่ามูลค่าของสิ่งนี้นั้นวัดด้วยเงินไม่ได้
“แบบก้าวกระโดด?”
“มันก็พูดยากอยู่นะ บางทีอาจจะเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมไปเลยก็ได้” ลู่โจวพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก
การปฏิวัติอุตสาหกรรม…
เป็นคำพูดที่ไกลตัวไม่น้อย…
แม้ในประวัติศาสตร์อารยธรรมของมนุษย์ การปฏิวัติอุตสาหกรรมเพิ่งเกิดไปสามครั้งเท่านั้น
เมื่อมองไปที่อาคารที่อยู่ไม่ไกล เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงอนาคตในวันข้างหน้า
…
เทศกาลหิมะในเมืองจินหลิงนั้นผ่านไปเร็ว มันเริ่มหมดฤดูแล้ว
สำหรับเมืองส่วนใหญ่ในยุโรปเหนือ บ้านทุกหลังคงถูกห่อหุ้มไปด้วยหิมะสีขาว
ศาสตราจารย์แคริเบอร์นั้นอาศัยอยู่ที่อ่าวบอลติกในเขตชานเมืองกรีฟสวัลด์ที่เงียบสงบ เขากำลังนั่งอยู่ในห้องทดลองหินเกลียวเซเว่นเอ็กซ์และตรวจสอบอีเมล
และรอการประมวลผลของอีเมลทั้งหมดที่ยังไม่ได้อ่าน
ศาสตราจารย์แคริเบอร์ที่กำลังเปิดอ่านอีเมลอย่างสบายใจก็ไปสะดุดตากับอีเมลฉบับหนึ่ง
ลู่โจว?
ทันทีที่เห็นชื่อนั้น ศาสตราจารย์แคริเบอร์ก็รีบกดเข้าไปอ่านเนื้อหาของอีเมลทันที
[เรียนศาสตราจารย์แคริเบอร์ สวัสดีครับ]
[อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันปีใหม่ของจีนแล้ว สำหรับโอกาสนี้ ก็ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงและโชคดีนะครับ]
[อีกอย่าง ผมมีข่าวดีที่คิดว่าคุณน่าจะสนใจมาบอก…]
หลังจากอ่านตรงนี้ ดวงตาของศาสตราจารย์แคริเบอร์ก็เบิกกว้าง และท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป
ถ้าเป็นคนอื่นที่พูดแบบนี้ เขาอาจจะไม่เชื่อ
แต่นี่คือคำพูดที่มาจากลู่โจว แม้ว่าศาสตราจารย์แคริเบอร์จะไม่รู้ว่าลู่โจวกำลังจะพูดเรื่องอะไร เขาไม่สามารถคาดเดาได้เลย
[เราได้ลองใช้หลายต่อหลายทางเลือกเพื่อปรับปรุงปัญหาความแรงของสนามแม่เหล็กที่ไม่เพียงพอ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ด้วยวัสดุตัวนำยิ่งยวดที่ทำจากคาร์บอนก็ทำให้ประสบความสำเร็จ]
[คุณเองก็น่าจะรู้ ท่ามกลางปัญหาทางวิศวกรรมมากมายที่จำกัดต่อการเพิ่มขึ้นของความแรงของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือการขยายขนาดของขดลวดในระหว่างที่กำลังตรวจสอบตัวนำทองแดงออกไซด์ และไม่ว่าจะเป็นวัสดุทองแดงออกไซด์หรือช่องระบายฮีเลียมเหลว ปริมาตรที่อยู่ในแม่เหล็กตัวนำยิ่งยวดทั้งหมดนั้นก็มีไม่มากนัก]
[ในการแก้ปัญหา เราได้ใช้ความพยายามอย่างมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเพิ่มอุณหภูมิการถ่ายโอนของวัสดุตัวนำยวดยิ่งให้มากที่สุด อีกทั้งยังต้องทำให้ใกล้เคียงกับอุณหภูมิห้องมากที่สุดเพื่อลดอุปกรณ์ระบายความร้อนทั้งหมดลง]
[แท้จริงแล้ว เพราะแนวคิดนี้ เราจึงได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม และเรารู้แล้วว่าการแก้ปัญหานี้ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการเปลี่ยนอุณหภูมิ]
[ในกรณีของวัสดุทองแดงออกไซด์ การรักษาตัวนำทองแดงออกไซด์ให้อยู่ภายใต้อุณหภูมิการถ่ายโอนของตัวนำยิ่งยวดก็ถือเป็นอย่างหนึ่ง แต่ปัญหาที่ยากที่สุดในตอนนี้คือการที่ทองแดงออกไซด์นั้นทำความร้อนได้ไม่ดีนัก ซึ่งบางครั้งมันก็ไม่เพียงพอ]
[และสำหรับวัสดุตัวนำยิ่งยวด กราฟีนเองก็มีคุณสมบัติที่เหนือกว่าทั้งในด้านการแช่และการกระจายความร้อนตามความยาว ในทางทฤษฎี ความร้อนนั้นสามารถสูงได้ถึงห้าพันสามร้อยเคลวิน]
[คุณเองก็เป็นวิศวกร คงจะรู้ว่ามันหมายถึงอะไร]
การอ่านจดหมายฉบับนี้จนจบนั้นถือเป็นอะไรที่จริงจังมาก นั่นทำให้ศาสตราจารย์แคริเบอร์เผยยิ้มและส่ายหัว
แน่นอนว่าเขารู้ความหมายของมัน แม้ว่าค่าการนำความร้อนของวัสดุ SG-1 จะไม่สูงเกินไปหรือเท่ากับห้าพันสามร้อยเคลวิน ค่าการนำความร้อนมากกว่าหนึ่งพันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้การนำความร้อนของทองแดงออกไซด์ดีขึ้น
แล้วรู้ไหม แม้ว่าจะเป็นทองแดงบริสุทธิ์ แต่การนำความร้อนจะอยู่ที่สี่ร้อยเอ็ดเคลวินเท่านั้น
สิ่งนี้หมายความว่ายังไงกัน?
ในแง่วิศวกรรม ถ้าความยากในการรักษาทองแดงออกไซด์ที่อุณหภูมิการถ่ายโอนตัวนำยิ่งยวดคือสิบ แสดงว่าความยากทางวิศวกรรมในการรักษาตัวนำกราฟีนที่อุณหภูมิการถ่ายโอนตัวนำยิ่งยวดจะมีค่าเพียงหนึ่งหรือน้อยกว่านั้น
แท้จริงแล้ว ในวัสดุสายเคเบิลหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางชนิด กราฟีนเองถูกใช้เป็นตัวระบายความร้อนที่มีคุณภาพสูงกว่ากราไฟท์
แต่ปัญหาคือคุณสมบัติตัวนำยิ่งยวดของวัสดุ SG-1 จะสะท้อนในมุมที่ทับซ้อนกันของวัสดุสองมิติ
แล้วคุณวางแผนที่จะแปรรูปวัสดุ SG-1 ไปเป็นขดลวดอย่างไร?
มันไม่ได้ง่ายเหมือนการตัดเค้ก
ไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่ต้องแลกมาเลย…
ทว่า ระหว่างที่เขากำลังอ่านอยู่นั้น ศาสตราจารย์แคริเบอร์ก็หยุดชะงักลง
ช่วงท้ายของอีเมล…
[อันที่จริง ได้ค้นพบวิธีที่เหมาะสมแล้ว แม้ว่ามันอาจดูไม่น่าเชื่อถือนัก แต่เรารู้แล้วว่าจะต้องใช้ขดลวดยาวหนึ่งเมตรครึ่ง]
ทันใดนั้น ศาสตราจารย์แคริเบอร์ก็พลันตกใจจนเกือบตกเก้าอี้
หลังจากให้ความสนใจกับสถานการณ์ตรงหน้า ผู้ช่วยของเขาก็เข้ามาพร้อมรีบพูดขึ้น “เกิดอะไรขึ้นครับ? ศาสตราจารย์?”
“ไม่มีอะไร” เขาวางแขนไว้บนเก้าอี้และยืนขึ้น “จองตั๋วให้ที ฉันจะต้องไปเมืองจินหลิง ประเทศจีน”
ผู้ช่วยคนนั้นรีบหยิบปากกาขึ้นมา
“ช่วงเวลาไหนครับ?”
ศาสตราจารย์แคริเบอร์กล่าวอย่างจริงจังโดยไม่ลังเล
“ตอนนี้เลย!”
……………………………………