เสียงปรบมือดังขึ้นทั่วห้องบรรยาย
ลู่โจวเดินลงมาจากเวทีระหว่างที่ผู้คนต่างกำลังปรบมือ
ณ ประตูห้องบรรยาย หลังจากที่ลู่โจวได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อแล้ว คณบดีอู๋โจวฮัวและศาสตราจารย์หลายต่อหลายคนก็เดินเข้ามาหาลู่โจว
คณบดีอู๋เผยรอยยิ้มอันอบอุ่นพร้อมกล่าวทักทาย
“ขอบคุณสำหรับสุนทรพจน์เมื่อครู่ด้วยนะครับศาสตราจารย์ลู่”
เมื่อได้ยินเสียงข้างกาย ลู่โจวก็รู้สึกเปลี่ยนไป
คณบดีอู๋เองตั้งใจฟังการบรรยายตั้งแต่ต้น แต่กับเหล่านักศึกษาดูแล้วน่าจะไม่ได้รู้สึกเช่นเดียวกัน
ลู่โจวเผยยิ้มพร้อมกล่าวอย่างถ่อมตัว “ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ มันก็แค่ความเข้าใจส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องการวิจัยนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมเท่านั้น อ๋อ แล้วก็การวิจัยพลาสมาความหนาแน่นสูงด้วย ถึงแม้มันอาจจะฟังดูน่าเบื่อก็เถอะ”
ในขณะนั้นเองศาสตราจารย์คนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างลู่โจวก็กล่าวคำพูดพร้อมเผยยิ้มออกมา “หือ? น่าเบื่อตรงไหน? มันฟังดูมีประโยชน์มากเลยต่างหากล่ะ”
“มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”
ทันใดนั้นคณบดีอู๋โจวฮัวก็แนะนำบุคคลข้างกาย “นี่คือศาสตราจารย์หลี่ฉางเซียแห่งสถาบันฟิสิกส์นิวเคลียร์ของมหาวิทยาลัยจีน”
“สวัสดีครับ ศาสตราจารย์หลี่” ลู่โจวยื่นมือขวาออกไป
“อ่า สวัสดีครับ” ศาสตราจารย์หลี่ฉางเซียกล่าวทักทายและเผยยิ้ม “ผมได้ยินมาว่าศาสตราจารย์ลู่อายุไม่มาก แต่ก็ไม่คิดว่าตัวจริงจะดูเด็กขนาดนี้”
“ผมว่าคุณก็เหมือนกันแหละ” ลู่โจวเผยยิ้ม
“อย่าคิดว่าเห็นว่าผมมีผมดำแล้วจะไม่แก่นะ อายุผมล่อไปจะสามสิบห้าแล้ว” ศาสตราจารย์หลี่พลันหัวเราะพร้อมพูดติดตลก
“สามสิบห้าก็ยังไม่เรียกแก่หรอกครับ” ลู่โจวกล่าว “แล้วศาสตราจารย์กงล่ะ? ผมได้ยินมาว่าเขาเป็นหัวหน้าสถาบันฟิสิกส์นิวเคลียร์”
ศาสตราจารย์หลี่กระแอมพร้อมตอบกลับ “เขาไม่ได้อยู่ที่สถาบันวิจัยแล้ว”
“เขาเกษียณไปแล้วเหรอครับ?”
ศาสตราจารย์หลี่เผยยิ้ม “ไม่ใช่แบบนั้น… แต่ตอนนี้เขาเป็นรองนายกเทศมนตรีของเมืองเหิงโจว แล้วก็ยังเป็นประธานคณะกรรมการเทศบาลของสมาคมจิ่วซานด้วย นั่นหมายความว่าเขาไม่มีส่วนร่วมในกิจการของสถาบันอีกแล้วไงล่ะ”
เขาเข้าไปยุ่งเรื่องการเมืองแล้ว
ลู่โจวพยักหน้าและถามต่อ
“แล้วใครเป็นคนดูแลสถาบันฟิสิกส์นิวเคลียร์ตอนนี้ล่ะครับ?”
ศาสตราจารย์หลี่พยักหน้า “ก็ผมเองนี่แหละ”
ลู่โจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น
ลู่โจวดูจะไม่เชื่อในความสามารถของศาสตราจารย์หลี่สักเท่าไหร่ นั่นเป็นเพราะว่าทีมวิจัยที่มีเหล่าศาตราจารย์ที่ยังอายุน้อยหรือวัยกลางคนเป็นผู้นำส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยเก่งนัก
เนื่องจากการวิจัยต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก มันจึงเป็นเรื่องสำคัญในการกำหนดว่าใครควรจะเป็นผู้นำทางวิชาการและใครที่เหมาะสมในแบบไหนบ้าง
คณบดีอู๋โจวฮัวจ้องมองลู่โจวพร้อมกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ศาสตราจารย์หลี่ของเราอายุน้อยก็จริง แต่ความสามารถของเขาจะทำให้คุณต้องประหลาดใจมากเลยล่ะ! แล้วพวกโครงการ STELLARATOR ก็เป็นโครงการของสถาบันเขาเองด้วย อีกทั้ง ศาสตราจารย์หลี่ยังช่วยให้มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียร่วมมือกับเราได้อีกด้วย เขาเป็นคนเซ็นโครงการ STELLARATOR H-1 กับมือของเขาเองเลยนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ศาสตราจารย์หลี่ก็รู้สึกเขินอายจึงกล่าวถ่อมตัว “เป็นเพราะศาสตราจารย์กงปูทางเอาไว้แล้วมากกว่าครับ”
“อย่าเข้าใจผิดไป ตอนแรกผมดูจะไม่เชื่อในความสามารถของศาสตราจารย์หลี่ก็จริง แต่ตอนนี้เริ่มแปลกใจขึ้นมาแล้ว” เมื่อมาถึงจุดนี้ลู่โจวก็มองไปยังศาสตราจารย์หลี่และเผยยิ้ม “ถ้าไม่รังเกียจ ช่วยพาผมไปที่สถาบันฟิสิกส์นิวเคลียร์ด้วยได้ไหม?”
ศาสตราจารย์หลี่พยักหน้าทันที “แน่นอน ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
สถาบันฟิสิกส์นิวเคลียร์ตั้งอยู่ในมุมที่เงียบสงบของวิทยาเขตในมหาวิทยาลัยหยู๋ฮัว
เห็นได้ชัดว่าสาขาฟิสิกส์นิวเคลียร์และวิศวกรรมนิวเคลียร์นั้นแตกต่างกันมาก มหาวิทยาลัยหยู๋ฮัวมีชื่อเสียงในสาขาวิศวกรรมนิวเคลียร์ไม่น้อย ซึ่งต่างจากในอดีต
ด้วยเหตุนี้สถาบันดังกล่าวจึงไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก และส่วนมากก็มักจะขึ้นอยู่กับแผนกฟิสิกส์นิวเคลียร์ ส่วนทีมวิจัยนั้นก็ถูกแบ่งออกเป็นสองทีม ซึ่งก็คือ “ทีมฟิสิกส์นิวเคลียร์ฟิวชันและพลาสมา” กับ “ทีมฟิสิกส์อนุภาคและฟิสิกส์นิวเคลียร์”
เดิมทีคณบดีอู๋โจวฮัวได้วางแผนที่จะนำทีมเหล่านั้นกลับมาอีกครั้ง แต่ลู่โจวก็ปฏิเสธข้อเสนอไปเพราะไม่ต้องการรบกวนการทำงานของเหล่านักวิจัยในมหาวิทยาลัย
ยิ่งคนเยอะก็จะยิ่งไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
หลังจากที่ศาสตราจารย์หลี่พาลู่โจวมาถึงสถาบันฟิสิกส์นิวเคลียร์ ทั้งคู่ก็ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องขอบเขตของนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมได้ทั้งในและต่างประเทศ
เมื่อพูดถึงความคืบหน้าของโครงการ ITER ใบหน้าของศาสตราจารย์หลี่ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ตอนนี้การวิจัยเรื่องเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมได้ในระดับสากลกำลังเข้าสู่ขั้นตอนที่รวบรัด ตามตารางเวลาของโครงการ ITER เครื่องปฏิกรณ์แบบสาธิตมีแผนจะสร้างที่ปารีสในปี 2025 ทั้งนี้ประเทศของเราเองก็มีแผนจะสร้างอีกหนึ่งเครื่องในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมได้อาจกลายเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษนี้เลยก็ได้นะ”
“แต่ดูเหมือนว่ามันจะมีมูลค่าไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ?” ลู่โจวกล่าว
ศาสตราจารย์หลี่เผยยิ้ม “มันเป็นเรื่องของอนาคต”
หลังจากเดินชมรอบสถาบันแล้ว ลู่โจวก็มาถึงห้องทำงานของศาสตราจารย์หลี่
ทั้งคู่เดินเข้าไปด้วยความเหนื่อยล้าเล็กน้อย ลู่โจวจึงเดินไปนั่งบนโซฟาในห้องทำงานทันที
ศาสตราจารย์หลี่นั่งอยู่ตรงข้ามพร้อมบอกให้นักศึกษาปริญญาเอกรินน้ำชาให้สองถ้วย
“ผมแทบไม่มีโอกาสได้เจอคุณเลย ผมเองมีคำถามอยู่สองสามข้อที่อยากจะถามเรื่องฟิสิกส์พลาสมา ผมถามตอนนี้ได้ไหม?”
ลู่โจวจิบชาพลันกล่าวคำพูดพร้อมรอยยิ้ม “ทำตัวตามสบายเถอะ ถามมาได้เลย”
ศาสตราจารย์หลี่พยักหน้าอย่างจริงจัง
“ตอนนี้เรากำลังทำการศึกษากระบวนการเชื่อมต่อไอออนแล้วก็กระบวนการเชื่อมต่อพลาสมา ซึ่งเราพบว่าคลื่นไอออนของไซโคลตรอน แล้วก็กระบวนการเชื่อมต่อพลาสมาเป็นอะไรที่ทำได้ยากมาก คุณมีคำแนะนำอะไรหน่อยไหมล่ะ?”
เมื่อได้ยินคำถาม ลู่โจวก็คิดชั่วครู่
“ตอนที่อยู่ในห้องทดลอง ผมก็เห็นงานวิจัยเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน บทความน่าจะถูกตีพิมพ์อยู่ในข่าวสารฟิสิกส์ประจำวัน แต่ผมเองก็จำชื่อหัวข้อเฉพาะของมันไม่ค่อยได้ คุณน่าจะลองไปหาดูนะ”
“ถ้าจำไม่ผิดตามเนื้อหาของเอกสารวิจัย การเพิ่มความหนาแน่นของพลาสมาตรงกึ่งกลางหรือเพิ่มความหนาแน่นของผนังชั้นนอก หรือไม่ก็การลดขอบเขตของการย่อยสลายลงน่าจะช่วยแก้ไขปัญหาของคลื่นไอออนของไซโคลตรอนได้ มันเรียกว่าวิธีการควบคู่พลาสมา แต่ถ้ายังไม่แน่ใจ คุณก็ลองใช้แบบจำลองแผ่นพลาสมากับการจำลองกระบวนการเชื่อมต่อคลื่นไอออนของไซโคลตรอนแล้วก็พลาสมาดูก่อนก็ได้นะ”
ศาสตราจารย์หลี่พยักหน้าอย่างครุ่นคิดพร้อมจดสิ่งที่ลู่โจวพูดลงสมุดบันทึก
ลู่โจวเผยยิ้ม “แล้วมีปัญหาอื่นอีกไหมล่ะครับ?”
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”
ทันใดนั้นเองศาสตราจารย์หลี่ก็รีบถามลู่โจวถึงปัญหาทางทฤษฎีที่เขาพบในการศึกษาค้นคว้า
ลู่โจวพลันให้คำตอบไปทีละคำถาม
สรุปแล้วทั้งคู่นั่งอยู่ในห้องทำงานเกือบชั่วโมง
ศาสตราจารย์หลี่เผยยิ้มและปิดสมุดบันทึก “ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมล่วงเวลามาเยอะเลย”
ลู่โจวเผยยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย “ไม่เป็นไรหรอก จากที่ได้หารือกับคุณ ผมก็รู้สึกมีแรงบันดาลใจขึ้นมา”
หลังจากหยุดพูดไปพักหนึ่ง เขาก็กล่าวต่อ “แล้วเรื่องของ STELLARATOR H1-HELIA ในตอนนี้ล่ะ? เป็นไงบ้าง?”
เมื่อได้ยินลู่โจวพูดถึงเรื่อง STELLARATOR H1 ศาสตราจารย์หลี่ก็เงียบไปชั่วครู่ “ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากนิดหน่อย ผมเพิ่งจะทำการประมูลเสร็จไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วเอง แต่เท่าที่คาดว่าทุกอย่างน่าจะเริ่มในปีนี้แหละ”
“ดูจะนานไปหน่อยนะ” ลู่โจวพลันส่ายหัว “ผมจำได้ว่าโครงการนี้เริ่มมาสิบเจ็ดปีกว่าแล้ว”
“ก็ใช่” ศาสตราจารย์หลี่ถอนหายใจและพูดอะไรไม่ถูก “แต่เราไม่มีทางที่จะตามศาสตราจารย์กงทัน เขาถอนตัวออกจากโครงการไปนานแล้ว อีกอย่างมันยังคงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างรับมือยากสำหรับสถาบันด้วย ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนเราคงไม่ยืดเวลามานานขนาดนี้”
ลู่โจวพยักหน้าอย่างครุ่นคิดพร้อมมองไปรอบห้องทำงาน
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดเขาก็พูดสิ่งที่อยากทำในวันนี้ออกมา
“ยังไงก็เถอะ สถาบัน STAR STELLARATOR ของจินหลิงก็กำลังจะสร้างเสร็จแล้วแหละครับ”
เขาหยุดพูดไปชั่วครู่พร้อมจ้องมองไปยังใบหน้าของศาสตราจารย์หลี่
“คุณสนใจที่จะไปดูหน่อยไหมล่ะครับ?”
…………………………………………………