ระหว่างที่ลู่โจวพูดประโยคนั้นขึ้นมา ทั้งห้องบรรยายก็เงียบสงัด
หลังจากนั้น ทั้งห้องบรรยายก็เต็มไปด้วยความโกลาหล
ลู่โจวพลันได้ยินเสียงผู้คนกระซิบและโต้เถียงกัน
เห็นได้ชัดว่ามีหลายคนที่จำได้ว่าเขาเป็นใคร
แน่นอน ยังมีอีกหลายคนที่สับสนและรอคอยที่จะดูผลลัพธ์ต่อไป
ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เลื่องลืออาจไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนรู้จัก อาจมีแค่ผู้คนที่เข้าถึงงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
สำหรับนักวิชาการส่วนใหญ่ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะอ่านเอกสารวิจัยทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสาขานี้ นับประสาอะไรกับการค้นคว้านอกสถานที่
เว้นแต่จะมีการศึกษาวิธีการแก้ปัญหาเรขาคณิตในสมการเชิงอนุพันธ์ย่อยเชิงลึก หรือมีการศึกษาและการพิสูจน์ว่าสมการดังกล่าวนั้นมีจริงและแม่นยำ ไม่งั้นผู้คนที่ได้ยินเรื่องสมการรูปตัวแอลต้องสับสนแน่ว่ามันคืออะไร
ไม่ต้องพูดถึงสมการมิลเลนั่มหรือสมการนาเวียร์-สโตกส์เลย สมการเหล่านั้นได้รับการแก้ไขในเวลาไม่ถึงปีด้วยซ้ำ
แน่นอน… งานวิจัยของศาสตราจารย์บอทแธมนั้นเกี่ยวข้องกับสมการเหล่านี้ เขามีความรู้ไม่น้อยเลยเกี่ยวกับสมการรูปตัวแอล
ถึงกระนั้น มันก็ดูจะเป็นเรื่องที่ยากเกินไปสำหรับคนส่วนใหญ่
ไม่ต้องพูดถึงลู่โจว ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลจากต่างประเทศเลยด้วย ศาสตราจารย์บอทแธมจำหน้าเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ!
ไม่มีรูปถ่ายหรืออะไรเลย…
ศาสตราจารย์บอทแธมเผยหน้าแดงและพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ
ถ้าคุณเป็นคณิตศาสตร์ คุณต้องรู้เรื่องสมการรูปตัวแอลแน่
ศาสตราจารย์บอทแธมหายใจเข้าเฮือกใหญ่พร้อมกล่าวคำพูดออกมา
“ผมใช้ผิดตรงไหนกันล่ะ?”
พูดตามตรงก็คือเขาไม่คิดว่าตัวเองผิดเลยด้วยซ้ำ
เขาพลันตรวจดูเอกสารวิจัยนับครั้งไม่ถ้วน
ไม่ว่าศาสตราจารย์บอทแธมจะตรวจสอบสักกี่ครั้ง เขาก็เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่ากระบวนการคำนวณของตนนั้นสมบูรณ์แบบ
ลู่โจวพลันถอนหายใจพร้อมมองไปยังศาสตราจารย์บอทแธมที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองทำผิดพลาดไป
“งั้นผมขอใช้กระดานดำหน่อยได้ไหม?”
แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อลู่โจว แต่ศาสตราจารย์บอทแธมก็อนุญาต
ถึงจะเสียหน้ายังไง แต่ก็ต้องมีน้ำใจไว้ก่อน
ศาสตราจารย์บอทแธมพลันมองไปยังลู่โจวด้วยสีหน้าไม่พอใจ เขาเริ่มปลอบใจตัวเอง
ในทางกลับกัน ผู้ชมทั้งหลายพลันจ้องมองไปยังลู่โจวที่กำลังก้าวขาขึ้นเวที
เขาหยิบยางลบขึ้นมาเพื่อลบกระดานดำตรงหน้า
ลู่โจวพลันคิดถึงช่วงเวลาที่ได้ใช้กระดานดำสอนเด็กนักเรียน จากนั้น เขาก็เริ่มลบจากตรงกลางก่อน
ตอนนี้บนกระดานดำไม่เหลืออะไรที่เกี่ยวข้องกับศาสตราจารย์บอทแธมอยู่แล้ว หลังจากลบเสร็จ ลู่โจวก็พลันโยนยางลบทิ้งและหยิบชอล์กขึ้นมา
“ผมว่าคุณยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับสมการท่อรวมแมนิโฟลด์รูปตัวแอลอยู่นะ วิธีการทางเรขาคณิตเชิงอนุพันธ์เป็นเหมือนเครื่องมือในการแก้สมการเชิงอนุพันธ์ย่อย แต่มันไม่สามารถเอามาใช้ในทางตรงแบบนี้ได้ ขั้นตอนแรกคือเราต้องสร้างสมการเชิงเส้นคู่…”
สำหรับสาขาฟิสิกส์คณิตศาสตร์ สถานการณ์เช่นนี้เป็นเรื่องที่ปกติมาก
ทั้งนี้ ยังคงมีเครื่องมืออีกมากในสาขาคณิตศาสตร์ที่น่าสนใจ แม้ว่านักฟิสิกส์จะไม่จำเป็นต้องเข้าใจเครื่องมือทั้งหมด แต่พวกเขาก็ต้องรู้วิธีการใช้ ซึ่งบางอย่างจะใช้โดยตรงไม่ได้
ถ้าใช้มันถูกแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับการค้นพบทางฟิสิกส์ครั้งใหม่
แต่ถ้าใช้ผิด…
สิ่งที่อยู่ในเอกสารวิจัยของศาสตราจารย์บอทแธมดูเหมือนว่าจะใช้ไม่ได้
จากนั้น ลู่โจวก็ลบเนื้อหาบางส่วนในเอกสารออก
[△=(ie+∫e^b)df’]
“เราต้องดูจากอสมการชวาร์ซที่ผมเขียนตรงนี้ก่อน ถ้าแก้สมการตรงนี้ได้ ต่อไปเราก็จะต้องกำหนดวิธีแก้ปัญหาสมการและตัวแปรเชิงเส้น จากนั้นก็ต้องเปลี่ยนมันให้เป็นสมการอินทิกรัลโดยที่ ie จะต้องกลายเป็น 5df”
ศาสตราจารย์บอทแธมมองไปยังการคำนวณบนกระดานดำและเริ่มรู้สึกปวดหัว
ลู่โจวแทบจะไม่หยุดเขียนเลย
แค่ติดตามความคิดของลู่โจว ศาสตราจารย์บอทแธมก็รู้สึกลำบากแล้ว
ดูเหมือนลู่โจวจะพร้อมบอกทุกคนในที่ประชุมมากว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
แต่ถ้าทั้งหมดนี้มาจากคนเพียงคนเดียว…
มันจะเป็นอะไรที่น่ากลัวไม่น้อย!
กว่าศาสตราจารย์บอทแธมจะเข้าใจทั้งหมด ก็น่าจะใช้เวลาร่วมสัปดาห์…
นักวิชาการส่วนใหญ่ที่นั่งอยู่พลันรู้สึกตกใจทันทีที่เห็นการเปรียบเทียบของลู่โจว
ดูเหมือนว่าเอกสารวิจัยของศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ฟิวชั่นจะเก่าเกินไปแล้ว
การที่ศาสตราจารย์บอทแธมคำนวณผิดน่าจะมาจากสาเหตุนี้หรือเปล่า?
อย่างที่รู้กันว่าสาขาฟิสิกส์เป็นอะไรที่ยากไม่น้อย
แต่ทว่า ก็ยังมีนักวิชาการอยู่จำนวนหนึ่งที่ตั้งใจฟังและเข้าใจเนื้อหาบนกระดานดำอย่างแท้จริง
ท่ามกลางผู้คนในห้องบรรยาย มีเพียงคนกลุ่มนี้เท่านั้นที่สามารถชื่นชมคุณค่าในการคำนวณของลู่โจวได้อย่างลึกซึ้ง
สำหรับลู่โจว แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
หลังจากเขียนการคำนวณบรรทัดสุดท้ายเสร็จ ลู่โจวก็ตรวจดูพร้อมกับพยักหน้า
“ตามหลักแล้ว มันก็น่าจะได้ประมาณนี้แหละ”
“ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ค้นพบฟิสิกส์แบบใหม่ แต่นี่ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยเลย”
“ผมเองก็ไม่ได้ศึกษาเครื่องโคคาแมกมากเท่าไหร่ ก็เลยยังตัดสินใจในเรื่องพื้นผิวแม่เหล็กที่ผุพังแบบนี้ด้วยข้อสรุปเพียงข้อเดียวได้ แต่ในความคิดของผม ถ้าลองพิจารณาถึงความไม่แน่นอนของกระแสภายในของพลาสมาแล้ว แม้ว่าเราจะปรับแก้ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ขดลวดที่อยู่ภายในเครื่องปฏิกรณ์ก็ยากที่จะควบคุมด้วยสนามแม่เหล็ก…”
ลู่โจวพยักหน้าให้ศาสตราจารย์บอทแธมพร้อมวางชอล์คไว้บนโต๊ะและเดินลงจากเวที
ช่วงเวลาที่ฝีเท้าของลู่โจวก้าวลงจากเวทีแล้ว เสียงปรบมือก็พลันดังขึ้นทั่วหอประชุม
ในไม่ช้า เหล่านักวิชาการและศาสตราจารย์ที่ยังคงมึนงงอยู่ก็เริ่มปรบมือเสียงดัง
ทันทีที่ได้ยินเสียงปรบมือนั้นดังกึกก้องไปทั่วห้องโถง ศาสตราจารย์บอทแธมเองก็พูดอะไรไม่ออก เขาพลันเงียบไปชั่วครู่และถ่ายรูปบนกระดานดำเอาไว้
เขารู้สึกเสียใจไม่น้อย
แต่อย่างน้อย รายงานการประชุมครั้งนี้ก็ยังคงมีประโยชน์อยู่บ้าง…
…
เมื่อมองไปยังสูตรสมการบนกระดานดำ ศาสตราจารย์บอทแธมเองก็พลันจดทุกอย่างลงไปในสมุดบันทึก
ฉันเป็นใครกัน?
ฉันอยู่ที่ไหนกัน?
ใครกำลังฟังรายงานของฉันอยู่กัน?
ในตอนนั้นเอง เฟยจิงและเตียนซือหลี่ก็เผยสีหน้าสุดประหลาดใจ
“ศาสตราจารย์ลู่… สุดยอดไปเลย”
แม้ว่าจะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ท่าทีของทั้งสองก็แสดงออกมาแบบนั้น
เฟยจิงพลันคิดว่าถึงแม้ว่าจะมานั่งกับศาสตราจารย์ยูจินซอง เขาก็คงจะไม่เข้าใจอะไรมากแน่
ในตอนนั้นเอง เฟยจิงก็ได้ยินเหล่านักวิชาการและศาสตราจารย์หลายคนพูดคุยกันถึงลู่โจว
“อ่า ใช่แล้ว”
แต่ทว่า เขาพลันตระหนักได้ถึงบางสิ่งที่ผิดพลาดทันทีที่มองไปยังสมุดบันทึกในมือ
“ไม่น่าจะใช้ได้แล้ว…”
เฟยจิงเผยยิ้ม
“มันไม่ต่างอะไรกับกระดาษเปล่าเลย”
พวกเขาพลันจดสมการที่ผิดพลาดมากว่าครึ่งชั่วโมง
ทั้งนี้ ลู่โจวเป็นเหมือนศาสตราจารย์ในดวงใจสำหรับพวกเขาไปแล้ว
ทั้งสองสบตากันและเงียบไปชั่วครู่
ไม่น่ารีบจดกันเร็วขนาดนี้เลย…
……………………………………………