เครื่องบินลำนี้น่าจะเป็นเครื่องบินที่ทำให้ลู่โจวเหนื่อยที่สุด
อีกทั้ง ยังเป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุดอีกด้วย
ลู่โจวเลิกคิ้วขึ้นและเดินไปตามทางเดินของเครื่องบินด้วยใบหน้าที่เหนื่อยล้า
เมื่อลองคิดดูแล้ว นี่ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเช่นนี้
อีกทั้ง ยังมีเรื่องของนักเรียนของตัวเอง…
หรือจะเป็นเพราะความหล่อของลู่โจว?
หวังเผิงที่รออยู่ด้านนอกรีบเดินเข้าไปช่วยลู่โจวยกกระเป๋าเดินทางจากมือไปทันที
“มึนหัวไหม?”
“ฉันยังไม่ได้นอนเลย” ลู่โจวพลันหาวเสียงดัง
หวังเผิงพลันมองไปยังลู่โจวด้วยสีหน้าที่แปลกไป
“ยังไม่ได้นอน?” ลืมตาอยู่ได้ยังไงตั้งสิบกว่าชั่วโมง?
ใช่แล้ว ลู่โจวแทบจะไม่ได้นอนมาเป็นเวลาเกือบสิบชั่วโมง
“อย่าเพิ่งพูดเลยดีกว่า” ลู่โจวกระแอมและรีบจบบทสนทนา “พาไปส่งที่บ้านที ตอนนี้ฉันอยากนอนมากเลย”
หวังเผิงพยักหน้า “แล้วต้องการให้ฉันช่วยอะไรอีกไหม?”
“ไม่ต้องแล้ว”
…
หลังจากถึงประเทศจีน ลู่โจวก็ได้ลงทุนในโครงการนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมทันที
ท้ายที่สุดแล้ว นักวิจัยของสถาบันซอฟต์แวร์และสถาบันจินหลิงก็ได้เสร็จสิ้นการจัดทำโครงการควบคุมพลาสมาแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ พวกเขาพลันวุ่นกับเรื่องการไหลทะลักของพลาสมา
และเกือบจะในเวลาเดียวกัน การสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว
อีกทั้ง ปัญหาของขดลวดตัวนำยิ่งยวดก็ได้รับการแก้ไขแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของคอมพิวเตอร์ควบคุมหลักหรือรูปแบบการควบคุมร่วม ทว่า มีเพียงสิ่งเดียวที่ลู่โจวต้องการในตอนนี้
นั่นคือการทดลอง
หลังจากการประชุม ลู่โจวก็ได้สรุปแผนการทดลองขั้นต่อไป เขาพลันสร้างตารางการทำงานของแต่ละหน่วยงานวิจัยขึ้นมาจนถึงวันที่ทำการทดลอง ท้ายที่สุดแล้ว การทดลองครั้งต่อไปจึงถูกกำหนดในวันที่ 20 สิงหาคม
ทั้งนี้ ลู่โจวเองก็ได้รายงานเรื่องการทดลองที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ให้แก่รัฐบาลจินหลิงทราบแล้ว
สิ่งที่ลู่โจวไม่คาดคิดก็คือมันอาจจะเป็นการทดลองที่ธรรมดาในตอนแรก แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันจะไม่ต่างอะไรกับกฎอัยการศึกเลย
ณ วันที่ยี่สิบสิงหาคม สถาบันดวงดาวจำลอง
ลู่โจวพลันกระแอมและพูดกับหัวหน้ากลุ่มกองทัพที่เดินเข้ามา นอกจากนี้ เขาสังเกตเห็นรถหุ้มเกราะและเฮลิคอปเตอร์จอดอยู่ตรงทางเข้าสถาบันอีกด้วย
“ไม่ต้องตกใจไป นี่ไม่ใช่การทดสอบนิวเคลียร์สักหน่อย”
ผู้บังคับการกรมทหารไดเผยยิ้มและกล่าวคำพูด “ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับศาสตราจารย์ลู่ เราก็แค่เผื่อเอาไว้ หัวหน้าเขตทหารโทรมาอธิบายให้ผมฟังเรียบร้อยแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้น เราจะได้นำประชาชนออกมาได้”
แต่ถ้ามันเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา มันก็คงจะเป็นเรื่องยาก…
ลำแสงนิวตรอนของปฏิกิริยาฟิวชันและรังสีแกมมาของปฏิกิริยาฟิชชันนั้นแตกต่างกันมาก
สำหรับผิวของลำแสงนิวตรอน มันเป็นอะไรที่มีประโยชน์ไม่น้อย
ลู่โจวพลันอธิบายการทดลองอย่างจริงจัง “ต้องบอกก่อนว่านิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมได้ของเรานั้นปลอดภัย มันไม่ใช่ระเบิดสักหน่อย”
หัวหน้ากลุ่มพลันยืนฟังอย่างสงบนิ่ง “เรารู้แล้ว ก็แค่เผื่อเอาไว้ก่อนน่ะครับ”
ลู่โจวพลันขมวดคิ้ว
จากนั้น ลู่โจวก็ไม่ได้พูดอะไรต่อทันทีที่รู้ว่าหัวหน้ากลุ่มกองทัพไม่ได้ขัดอะไร
ถึงอย่างไร ลู่โจวก็พลันมองไปยังรถหุ้มเกราะและเฮลิคอปเตอร์ที่จอดอยู่ด้านนอกอีกครั้ง
ไม่ช้า ลู่โจวก็เดินไปยังห้องทดลองที่อยู่ทางฝั่งเชิงภูเขาพร้อมกับหัวหน้าผู้บังคับการกรมทหารไดและลูกน้อง
ทันใดนั้น เหล่านักวิศวกรและนักวิจัยของสถาบันก็ได้มาทำงานตามหน้าที่ของตนแล้ว
นอกจากนี้ ลู่โจวก็พลันสังเกตเห็นชายหญิงสองคนที่สวมเสื้อผ้าสุดผ่อนคลายอีกด้วย
ดวงตาของหญิงสาวคนนั้นพลันเป็นประกายทันทีที่เห็นลู่โจว
“สวัสดีค่ะ ศาสตราจารย์ลู่ ฉันชื่ออู๋ชิงชิง เป็นนักข่าวจากสำนักข่าวจินหลิง แล้วนี่ก็คือผู้ช่วยของฉันเอง ฉางอาน”
ชายหนุ่มคนนั้นถือกล้องเข้ามาใกล้พร้อมพยักหน้า
“สวัสดีครับ ศาสตราจารย์ลู่!”
ลู่โจวพลันขมวดคิ้วและมองไปยังเซิ่งเซียนฟู่ที่อยู่ตรงหน้า “เอานักข่าวมาทำไมกัน?”
เซิ่งเซียนฟู่พลันตอบกลับ “ไม่ใช่ฝีมือฉันนะ ฉันแค่เห็นพวกเขารออยู่หน้าประตูตั้งแต่เช้าแล้ว… ก็เลยคิดว่าคุณชวนพวกเขามาดูการทดลองด้วย”
อู๋ชิงชิงพลันรีบอธิบายทันทีที่ได้ยินลู่โจวพูดแบบนั้น
“รัฐบาลเชิญพวกเรามาที่นี่เพื่อสัมภาษณ์เองค่ะ… แต่ถ้าเรามารบกวนการวิจัย เดี๋ยวพวกเขาออกไปข้างนอกแทนก็ได้ค่ะ”
ลู่โจวพลันถอนหายใจ “งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก แต่หลังจากเริ่มการทดลอง พวกคุณต้องเงียบด้วยนะ อย่าเสียงดัง อย่าเดินไปไหนมาไหน อย่าเปิดเสียงโทรศัพท์ แล้วก็ถ้าอยากจะถ่ายรูป ก็ต้องนั่งยองๆ ด้วยนะ”
ทั้งในสาขาฟิสิกส์เชิงทฤษฎีและฟิสิกส์พลาสมา สถาบันวิจัยหลายแห่งทั้งในและต่างประเทศดูเหมือนจะชอบโฆษณาชวนเชื่อประเภทนี้ไม่น้อย ตัวอย่างทั่วไปคือ รายการ CERN ที่จัดการแถลงข่าววันเว้นวัน
ถึงอย่างไร ลู่โจวก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้ นอกเหนือจากความสำเร็จในการทดลองขั้นสุดท้าย เขาก็ไม่มีอะไรจะเผยแพร่
ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งเหล่านั้นในทางทฤษฎีก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร
อู๋ชิงชิงพลันตอบกลับ “โอเค เราเข้าใจแล้ว งั้นก่อนเริ่มการทดลอง เราขอสัมภาษณ์คุณหน่อยได้ไหม?”
ลู่โจวครุ่นคิดถึงเรื่องนี้และกล่าวคำพูดขึ้น “ผมมีเวลาไม่มากนะ”
“คำถามสัมภาษณ์ของเราเป็นคำถามง่ายๆ ค่ะ ไม่ทำให้คุณเสียเวลาแน่นอน” อู๋ชิงชิงกล่าวพร้อมเผยยิ้มและหยิบสมุดบันทึกออกมา “เมื่อพูดถึงคำว่านิวเคลียร์ หลายคนก็ดูจะสนใจในเรื่องนี้ ฉันอยากจะถามศาสตราจารย์ลู่ว่านิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมได้นั้นปลอดภัยจริงอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวหรือไม่? แล้วถ้าเกิดการรั่วไหลของนิวเคลียร์ล่ะคะ?”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลู่โจวก็เผยยิ้มกว้าง
“คุณเคยเห็นระเบิดไฮโดรเจนไหมล่ะ?”
อู๋ชิงชิงรู้สึกลังเล “ฉันเคยเห็นแต่ในหนัง”
จากนั้น ลู่โจวก็พูดต่อ “ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น คุณก็อาจจะเห็นลำแสงโผล่ขึ้นมา หรือไม่ก็ไม่เห็นอะไรเลย จากนั้น อุณหภูมิที่สูงกว่าหนึ่งร้อยล้านองศาจะระเหยเป็นหยดน้ำ และก่อนที่คุณจะถูกไฟคลอก คุณอาจจะถูกจุดชนวนด้วยน้ำในร่างกายได้ แต่ผมรับประกันได้เลยว่าพวกคุณจะไม่รู้สึกตัวเลยล่ะ”
ทั้งคู่เผยหน้าซีดพร้อมมองไปยังลู่โจว
“แล้วก็ทั้งหมดที่ผมบอกไป…มันไม่ใช่เรื่องจริง!”
“ฮ่าๆ” อู๋ชิงชิงพลันหัวเราะออกมา “คุณนี่เป็นคนที่น่าขันเสียจริง”
นักวิทยาศาสตร์กำลังล้อเล่นอยู่?
บอกตามตรง มันไม่ตลกเลยแม้แต่น้อย
ทันใดนั้น ลู่โจวก็พลันพูดต่อ “ไม่ต้องกังวลไปหรอก ปฏิกิริยาฟิวชันแล้วก็ปฏิกิริยาฟิชชันนั้นแตกต่างกันมาก อีกทั้ง การทดลองในครั้งนี้ก็เกี่ยวข้องกับพลาสมา มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับปฏิกิริยาฟิวชันเลยแม้แต่น้อย”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น อู๋ชิงชิงก็พลันถามขึ้นอย่างรวดเร็ว “แล้วอะไรคือความแตกต่างระหว่างการทดลองการกักขังพลาสมาแล้วก็การจุดระเบิดปฏิกิริยาฟิวชันล่ะคะ?”
“ความแตกต่างคือเราใช้การฉีดไฮโดรเจนเข้าไปแทนที่จะใช้ไอโซโทปเชื้อเพลิงนิวเคลียร์”
ในระหว่างการพูดคุยกัน เหล่าวิศวกรที่แก้ไขข้อบกพร่องของอุปกรณ์ได้ทำการเตรียมการขั้นสุดท้ายก่อนการทดลองเสร็จสิ้นแล้ว
จากนั้น ลู่โจวพลันส่งสัญญาณไปยังนักข่าวทั้งสองให้เงียบและเก็บโทรศัพท์มือถือ จากนั้นลู่โจวก็พลันมองไปยังเซิ่งเซียนฟู่
“พร้อมไหม?”
เซิ่งเซียนฟู่พยักหน้า “พร้อมแล้ว”
ลู่โจวพยักหน้าและมองไปยังนาฬิกาสีเงินที่สวมอยู่บนข้อมือ
ยังเหลือเวลาอีกสองนาที การทดลองจะเริ่มตอนสามโมง
การเตรียมการก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว
ในตอนนี้ ทั่วทั้งห้องทดลองพลันเงียบสงัด
จากนั้นไม่นาน ลู่โจวก็พลันกล่าวคำพูดขึ้นมา
“มาเริ่มกันเลย!”
………………………………………