การประชุมดำเนินต่อไปจนถึงช่วงเย็น
สำหรับรายละเอียดทางเทคนิคของ “ระบบควบคุมลิเทียมนิวตรอนเหลว” ลู่โจวและเหล่านักวิจัยคนอื่นได้ทำการหารือกันอย่างละเอียดแล้ว
แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้จัดทำแผนเฉพาะ แต่พวกเขาก็ได้ข้อสรุป วิธีการทางเทคนิครวมถึงกรอบการทำงานจากที่ประชุมแล้ว
ต่อมา พวกเขาจะต้องสรุปรายงานการประชุมและกำหนดคำถามทั้งหมด จากนั้นก็ต้องเปิดการประชุมอภิปรายเพิ่มอีกครั้ง
โดยพื้นฐานแล้ว พวกเขามักจะวางแผนได้ค่อนข้างยอดเยี่ยม
กำหนดเวลาสำหรับการประชุมครั้งต่อไปคืออีกสามวัน ด้วยเหตุนี้ ทั้งลู่โจวและเหล่านักวิจัยก็จะได้พักบ้าง
อย่างแรกเลยคือ ทุกคนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนกันเลยตลอดทั้งปี ในบางครั้ง พวกเขาก็ต้องการเวลาที่จะได้อยู่กับครอบครัว เพื่อนหรือแฟนบ้าง และอย่างที่สอง ลำแสงนิวตรอนที่เกิดจากปฏิกิริยาฟิวชันนั้นสามารถสร้างความเสียหายกับวัสดุผนังชั้นแรกได้
ไม่เพียงแต่เหล็กออสเทไนติคที่เป็นวัสดุโครงสร้างจะทำให้เกิดรูพรุนเท่านั้น แต่มันยังทำให้ชั้นของเศษโลหะพลันผุดขึ้นมาบนพื้นผิวได้อีกด้วย
ต้องบอกเลยว่านี่ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจไม่น้อย
ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ก็เถอะ
แม้แต่ลู่โจว ซึ่งเป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลเองก็ไม่คิดถึงทฤษฎีไหนขึ้นมาเพื่ออธิบายปรากฏการณ์นี้ได้ แต่การคาดการณ์เบื้องต้นของเขาก็คือวัสดุพื้นผิวอาจเกิดจากความเครียดที่มาจากความร้อน และอาจจะมีเพียงแค่การทดลองพลาสมาในดวงดาวจำลองเท่านั้นที่สามารถอธิบายอะไรแบบนี้ได้
ถึงอย่างไร ลู่โจวเองก็ไม่ได้ทำการศึกษาประเด็นนี้ในเชิงลึกเสียเท่าไหร่
เนื่องจากต้องมีการขนย้ายอุปกรณ์การทดลอง การทดลองครั้งต่อไปจะต้องรออย่างน้อยหนึ่งเดือนหลังจากนั้น
ทันทีที่กลับถึงบ้าน ท้องป้าก็มืดสนิทเสียแล้ว
ทันทีที่ลู่โจวเปิดประตูและเดินเข้าไป โดรนขนาดเล็กที่มีสี่ใบพัดก็แล่นผ่านหน้าเขาไป
“กลับมาแล้ว!”
ลู่โจวมองไปยังสิ่งของตรงหน้าพร้มเผยยิ้มกว้างออกมา
มันเป็นอะไรที่ลู่โจวคิดถึงไม่น้อย เขาเรียกโดรนลำนี้ว่า “หนูน้อย” มันเป็นของขวัญจากหนึ่งในสมาชิกของชมรมโดรนพรินซ์ตัน
ลู่โจวได้นำมันกลับมาที่ประเทศจีนด้วยเพื่อทำการดัดแปลง จากนั้นเขาก็เชื่อมระบบมันเข้ากับเสี่ยวไอ
และสำหรับ “ของเล่นใหม่” ที่บินได้ตรงหน้า เสี่ยวไอก็ดูจะชอบมันไม่น้อย หลังจากที่เสี่ยวไอร้องขอ ลู่โจวเองก็ได้ติดตั้งลำโพง เปลี่ยนมอเตอร์พร้อมทั้งดัดแปลงใบพัดใหม่ให้ด้วย
นอกจากโดรนตรงหน้าแล้ว ลู่โจวเองก็ยังมีอุปกรณ์อัจฉริยะรวมถึงหุ่นยนต์กวาดบ้านอีกด้วย นอกจากมันจะช่วยดูแลบ้านแล้ว มันยังช่วยเสี่ยวไอทิ้งขยะและทำความสะอาดห้องอีกด้วย
แน่นอน แม้ว่าเสี่ยวไอจะใช้อุปกรณ์เหล่านี้ได้ แต่ลู่โจวเองก็ได้กำหนดข้อจำกัดและข้อตกลงในการใช้เอาไว้แล้ว
อย่างเช่น อุปกรณ์บางอย่างก็สามารถใช้ในบ้านได้เท่านั้น หรือไม่ก็ห้ามบินโดรนเข้าไปในบ้านของคนอื่น และห้ามเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ที่แตกง่าย
ทั้งนี้ เสี่ยวไอเองก็เชื่อฟังคำสั่งของลู่โจวอย่างเคร่งครัด ท้ายที่สุดแล้ว อุปกรณ์อัจฉริยะเหล่านี้ก็ได้ถูกลงโปรแกรมและรหัสให้คำตามคำสั่งเอาไว้แล้ว
[ศาสตราจารย์ ช่วยอะไรหน่อยได้ไหม?]
ลู่โจวถอดรองเท้าพร้อมเดินเข้าไปยังห้องนั่งเล่น “ว่าไงนะ?”
เสี่ยวไอพลันกล่าวคำพูดระหว่างที่กำลังบังคับโดรน
[ช่วยเพิ่มจอแสดงผลเข้าไปในโดรนให้หน่อยได้ไหม? พอได้ยินเสียงของผู้หญิงคนอื่นแบบไม่เห็นหน้าแล้วมันเขินยังไงก็ไม่รู้]
ลู่โจวพลันขมวดคิ้ว
เสียงผู้หญิงคนอื่นเป็นยังไงกัน? ไม่ใช่เสียงของกูเกิลหรือยังไง? ถ้าไม่ชอบก็แค่เปลี่ยนเป็นเสียงของผู้ชาย แค่นั้นเลย
หรือเสี่ยวไอต้องการที่จะอัพเกรดระบบ?
ในตอนนี้ ลู่โจวพลันคิดว่าเสี่ยวไอดูจะต้องการมากเกินไปแล้ว…
“ไว้ก่อนแล้วกัน” ลู่โจวตอบกลับ
[ทำไมล่ะ?]
ลู่โจวถอนหายใจพร้อมมองไปยังเสี่ยวไอที่อยู่ตรงหน้า
ยังคงจะถามต่ออีกเหรอ?
นั่นเป็นเพราะมันเป็นอะไรที่ลำบากสำหรับลู่โจวไม่น้อย
นอกจากนั้น ลู่โจวเองก็ยังไม่รู้เลยว่าถ้าทำตามคำขอไปเรื่อยๆ มันจะเป็นยังไงต่อไป
มันเหมือนกับการเพิ่มภาระให้ลู่โจวโดยไม่จำเป็น
[งั้นช่วยติดตั้งแขนให้หน่อยได้ไหม? ส่วนที่เหลือเดี๋ยวจัดการเองก็ได้”]
ทันทีที่ได้ยินคำขอที่ไม่มีเหตุผลเช่นนั้น ลู่โจวก็อดไม่ได้ที่จะกระแอมออกมา “จะให้ฉันทำให้หมดทุกอย่างเลยหรือยังไงกัน? ฉันไม่ใช่หุ่นยนต์นะ”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เสี่ยวไอก็เงียบพร้อมกับหยุดบังคับโดรนไปชั่วครู่
แต่ทว่า ลู่โจวก็พลันส่ายหัวและเดินไปยังห้องน้ำ
เขาพลันสวมชุดนอนและเดินไปยังห้องครัวเพื่อชงกาแฟหนึ่งแก้ว จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนพร้อมนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
ในระหว่างนั้น เนื่องจากเขามีงานวิจัยหลายงานที่ต้องจัดการ เขาจึงไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาอะไรมากนัก ลู่โจวพลันคิดว่าสิ่งที่สามารถดึงดูดสายตาของคนทั้งโลกก็คือเอกสารงานวิจัยที่เป็นแบบรายงาน และมันต้องเป็นวิจัยที่เกี่ยวข้องกับประเด็นร้อนในช่วงนี้
ตั้งแต่ลู่โจวได้รับรางวัลโนเบล เขาก็ให้ความสนใจกับข่าวของตัวเองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และลู่โจวก็ไม่ค่อยชอบการสัมภาษณ์จากผู้สื่อข่าวสักเท่าไหร่
ถึงอย่างไร ทั้งสื่อในและต่างประเทศก็พุ่งความสนใจมายังตัวเขา แต่ดูเหมือนประเด็นเรื่องนี้จะไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย
นั่นเป็นเพราะลู่โจวเองก็มีผลงานวิจัยใหม่เข้ามาเรื่อยๆ
หลังจากอ่านข่าวไปนิดหน่อย ลู่โจวก็พลันหยิบแก้วขึ้นมาจิบกาแฟ
รายงานในประเทศเกี่ยวกับนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมนั้นเกี่ยวข้องกับเครื่องจักร STAR และเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ ถึงกระนั้น โจวเฉิงฟู่เองก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาไม่รู้จะออกมาโจมตีลู่โจวยังไงด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับข่าวในประเทศแล้ว ประเด็นหลักที่ลู่โจวสนใจก็ยังคงอยู่ในระดับสากล
ความสำเร็จของเครื่องจักร STAR จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเหล่านักวิจัยในสาขานิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมได้ทั้งหมด อีกทั้ง ยังช่วยกระตุ้นคนบางกลุ่มได้อีกด้วย
สิ่งที่ลู่โจวอยากรู้ในตอนนี้คือปฏิกิริยาของคนรอบข้างที่มีต่อประเด็นนี้
ในตอนนั้นเอง ก็มีข่าวหนึ่งที่ทำให้ลู่โจวถึงกับต้องเพ่งความสนใจ
มันคือข่าวจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น
รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมต่อหน้าผู้สื่อข่าว อีกทั้งเขายังได้ตอบโต้ข่าวลือที่ว่าสหรัฐฯตั้งใจที่จะถอนตัวจากองค์กร ITER
“จุดยืนของสหรัฐฯในการวิจัยเกี่ยวกับแหล่งพลังงานในอนาคตยังคงไม่เปลี่ยนแปลง”
“เราลงทุนไปหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในโครงการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับพลังงานฟิวชันตั้งแต่ปี 1950 เพราะแบบนี้ งานวิจัยของเราที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีฟิวชันแบบควบคุมจะต้องอยู่ในระดับแนวหน้าของโลกเป็นแน่”
“ผมขอย้ำตรงนี้เลยว่าสหรัฐฯไม่มีแผนที่จะถอนตัวออกจากโครงการ ITER ยังไงก็เถอะ ผมยังไม่เห็นเอกสารลับอะไรบนโต๊ะทำงานเลยด้วยซ้ำ”
“เราจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับเหล่านักวิจัยในการศึกษาพลังงานฟิวชัน และเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะขยายอิทธิพลของสถาบันวิจัยในด้านนี้ต่อไป”
“หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เราจะดำเนินการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันเชิงสาธิตแบบควบคุมภายในปี 2030 แล้วเราก็จะทำการธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีฟิวชันแบบควบคุมในปี 2050!”
“เราจะทำงานที่เริ่มไปแล้วให้เสร็จสิ้น แล้วเราก็จะบรรลุพันธสัญญาที่มีต่อประเทศพันธมิตร…”
ลู่โจวตั้งใจฟังคำพูดของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯในวิดีโอมาก
“ดูเหมือนว่าชาวอเมริกันจะรีบร้อนไปหน่อยนะ…”
ลู่โจวสามารถเขียนจดหมายถึงหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้
เมื่อเทียบกับแนวโน้มในวงกว้างของนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุม ทั้งจีนและรัสเซียก็ต่างได้เปรียบในเทคโนโลยีบางอย่าง อีกทั้ง พวกเขายังสามารถกระตุ้นคณะกรรมการงบประมาณของรัฐสภาให้ประหยัดเงินได้
การแข่งขันกันในเรื่องนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมในอนาคตได้เริ่มขึ้นแล้ว
แต่แล้ว ลู่โจวพลันตระหนักได้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต มันจะไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ การบิน อวกาศหรือวิศวกรรมนิวเคลียร์ แต่ทว่า หลังจากนี้ คงจะเป็นเรื่องยากสำหรับเหล่านักวิจัยในสาขาฟิวชันแบบควบคุมในการขอวีซ่าในการข้ามประเทศแล้ว…
………………………………………