สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือบุคคลที่กำลังคุยกับนักข่าวอยู่ในวิดีโอ ในตอนนั้นเอง กระทรวงพลังงานของสหรัฐอเมริกาต่างก็พลันนั่งลงในห้องทำงานและมองดูรูปภาพของลู่โจว
แต่ทว่า เพอร์รี่กลับเผยสีหน้าที่ไม่สบายใจเท่าไหร่นัก…
เพียงแค่ครึ่งเดือน สถาบันวิจัยฟิวชันแบบควบคุมได้ในจินหลิงก็ได้สร้างความก้าวหน้าระยะยาวในเรื่องข้อจำกัดของพลาสมาขึ้นมาเพื่อเขย่าวงการฟิสิกส์
ถึงอย่างไร ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา เพอร์รี่เองก็ได้รับอีเมลจากสถาบันอื่นมามากกว่าสามสิบฉบับ
อีเมลส่วนมากถูกส่งมาจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งอเมริกาและห้องปฏิบัติการของสถาบันพรินซ์ตัน
โดยเฉพาะอีเมลเข้าร่วมจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งอเมริกาที่ถูกลงนามโดยอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จูฉีเหวิน
ถึงกระนั้น นอกเหนือจากความสำคัญของพลังงานแห่งอนาคตของนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมได้แล้ว ก็ยังคงมีแนวคิดหลักอีกอย่างหนึ่งที่เป็นสิ่งสำคัญ นั่นก็คือเงิน
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยสืบราชการลับจากซีไอเอมาเข้าร่วมด้วย
เมื่อได้เห็นข้อมูลของลู่โจว ไม่ว่าจะเป็นเกียรตินิยมหรือตำแหน่งทางวิชาการอันน่าทึ่งของเขา ทางกระทรวงพลังงานของสหรัฐอเมริกาเองก็ต้องการข้อมูลที่มากกว่านี้ ถึงอย่างไร เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมก็เป็นอะไรที่ยังคงมีอยู่มากในหลายประเทศ
แต่ทว่า สิ่งที่น่าปวดหัวก็คือเรื่องราวทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป
ก่อนที่เครื่องจักร STAR จะกักเก็บพลาสมาได้เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ไม่มีใครเชื่อเลยด้วยซ้ำว่าลู่โจวจะทำเรื่องนี้สำเร็จ แม้แต่เหล่าชาวจีนเองก็ไม่เชื่อ
ถ้าเป็นแบบนั้น การกักเก็บพลาสมาเอาไว้สักสองนาทีก็คงไม่ใช่เรื่องที่ยากไปหรอกใช่ไหม?
ทั้งนี้ ทั้งหมดคือคำพูดของผู้บริหารโครงการพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชันทั้งสิ้น
“มันสิ้นเปลืองเกินไป…”
เพอร์รี่พลันสบถออกมาพร้อมโยนข้อมูลที่อยู่ในมือไว้ที่โต๊ะทำงาน
สำหรับเรื่องความสำคัญของเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุม ถึงไม่มีใครบอก เพอร์รี่ก็รู้ดีว่าใครในเรื่องนี้
อย่างที่ทราบดี เขาเองก็รู้ดีกว่าคนอื่น
แต่เมื่อเทียบกับรายงานของซีไอเอแล้ว เพอร์รี่ต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญคนอื่นมากกว่านี้
เพอร์รี่เอนกายพิงเก้าอี้ทำงานพร้อมครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้น เขาก็พลันลุกขึ้นมาพร้อมผลักประตูและเดินออกไปจากห้องทำงาน
เขากล่าวคำพูดขึ้นพร้อมมองไปยังผู้ช่วยตรงหน้า
“โทรหาผู้จัดการโครงการ NIF แล้วก็หัวหน้าโครงการนิวเคลียร์ฟิวชันด้วย ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน ฉันก็หวังว่าจะได้พบในเร็ววัน”
“ได้เลยครับ”
ทันทีที่เห็นสีหน้าจริงจังของเพอร์รี่ ผู้ช่วยเองก็ตระหนักได้เลยว่ามันต้องเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยแน่ จากนั้น เขาจึงรีบเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ทันที
เพอร์รี่พยักหน้าและเดินออกไป
ก่อนจะเริ่มการประชุม เขาต้องไปที่ทำเนียบขาวก่อน
แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งพร้อมหยุดเดินและหันกลับไปมองผู้ช่วยที่กำลังยกโทรศัพท์แนบหู
“ติดต่อพวกซีไอเอด้วย อย่าลืมบอกให้พวกเขาส่งคนที่เชื่อถือได้มาล่ะ”
…
ประมาณหกหรือเจ็ดปีที่แล้ว โครงการ NIF ที่มีมูลค่ากว่าสามพันล้านดอลลาร์ถูกปิดตัวลง ซึ่งมันส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการวิจัยฟิวชันแบบควบคุมของสหรัฐฯทั้งหมด นอกจากนี้ ความคาดหวังของการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมทั้งหมดก็ดูจะมืดแปดด้าน
ทุกอย่างและทุกสิ่งเกือบถูกยกเลิกไปทั้งหมด ถ้าไม่ใช่เพราะอุปกรณ์จุดระเบิดด้วยเลเซอร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาแทนที่ ทางคณะกรรมการงบประมาณของรัฐสภาก็คงจะยกเลิกทุกอย่างไปแล้ว
จนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเสียเงินไปกับเครื่องโทคาแมกจำนวนไม่น้อยเลย แต่ทว่า กองทุนในตอนนี้ก็ไม่ได้ดีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสภาพแวดล้อมขนาดใหญ่ของแต่ละประเทศที่กำลังแข่งขันกัน และหากสหรัฐฯตั้งใจที่จะถอนตัวจากองค์กร ITER จริงๆ อนาคตของอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมทั้งหมดก็ไม่ต่างอะไรกับธุรกิจสีเทา
ถึงอย่างไร ก็คงจะไม่มีใครคิดว่าสถาบันหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้หุบเขาจะกลายเป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้ความสนใจ…
ณ ปัจจุบัน เอ็ดโมเสส ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าองค์กร NIF แห่งชาติลอเรนซ์ลิเวอร์มอร์กำลังนั่งอยู่ในสำนักงานของกระทรวงพลังงาน
ส่วนคนที่นั่งอยู่ข้างเขาก็คือเทอร์รี่ โบรเกอร์ ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการฟิวชันแบบควบคุมของพรินซ์ตัน นอกจากทั้งสอง ยังมีเหล่านักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญในสาชานิวเคลียร์ฟิวชันมากมายที่เขาคุ้นเคย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาถูกเรียกโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แต่ทว่า ครั้งนี้ไม่เหมือนกับอดีต คราวนี้กระทรวงพลังงานเรียกได้ว่าไม่ต้องเสียงบประมาณอะไรเลย…
ทั้งสองสบตาและถอนหายใจพร้อมกัน
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่แค่คนในกระทรวงพลังงานเท่านั้นที่นั่งอยู่ที่นี่ แต่ยังรวมถึงผู้ชายที่สวมสูทสีดำพร้อมแว่นกันแดดอีกด้วย ที่ซึ่งดูจะไม่เข้ากับใครเลยอีกด้วย
“ขอแนะนำตัวก่อนเลย ผมชื่อเฮล์ม มาจากซีไอเอ”
ทันทีที่ได้ยิน เอ็ดโมเสสก็เลิกคิ้วและรู้สึกสนใจ
“พวกซีไอเอมาสนใจในโครงการ NIF ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“ผมไม่ได้สนใจในโครงการ NIF แต่ผมสนใจห้องทดลองเสียมากกว่า” ชายที่ชื่อเฮล์มพลันชี้ปากกาลูกลื่นไปยังอีกคนหนึ่ง “คุณโบร็อค ผมได้ยินมาว่าคุณเคยทำงานกับศาสตราจารย์ลู่โจวใช่ไหม?”
โบร็อคพยักหน้าพร้อมตอบกลับ “ใช่”
“คุณคิดว่าเขาเป็นคนยังไงกัน?”
“คุณไปถามคำถามนี้กับพวกผู้ช่วยหรือลูกศิษย์ของเขาเสียดีกว่านะ ผมไม่ได้คุยกับเขาทุกวันสักหน่อย เราคุยกันเฉพาะแค่ตอนทำงานเท่านั่นแหละ”
“ผมหมายถึงการทำงานนั่นแหละ” เฮล์มพลิกสมุดบันทึกไปอีกหน้า “คนของเราสังเกตเห็นว่าเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว กองทุนต่างประเทศแห่งหนึ่งได้มีส่วนร่วมในงานวิจัยในโครงการของเขา”
“ช่วงนั้น เขายังคงอยู่ที่พรินซ์ตัน เขาทำงานเป็นที่ปรึกษาของโครงการ HE-3 เป็นเพราะเขามีเงินทุนไม่มากพอ ก็เลยจำเป็นต้องหาเงินทุนเพิ่มเพื่อให้โครงการวิจัยดำเนินต่อไป ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากมากก็เถอะ”
“คุณช่วยอธิบายเนื้อหาของโครงการ HE-3 ได้ไหม?” เฮล์มถามขึ้น
“หัววัดสถานะอะตอมเฮชสามถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการสังเกตการณ์เคลื่อนที่ของพลาสมาภายในอุปกรณ์ฟิวชัน… โครงการนี้มีการส่งมอบเทคโนโลยีที่สำคัญให้กับสถาบัน STAR ด้วย อีกทั้ง มันยังเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญต่อนิวเคลียร์ฟิวชันไม่น้อย แต่ถ้าคุณไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมบอกไป ก็ไปปรึกษาศาสตราจารย์ฟิสิกส์ของคุณได้เลย” โบร็อคตอบกลับ
เฮล์มจดสิ่งที่ได้ยินลงไปในสมุดบันทึกอย่างรวดเร็ว “ขอโทษที พอดีสถาบันของผมสอนเกี่ยวกับจิตวิทยา ไม่ใช่ฟิสิกส์”
“งั้นก็ไปเรียนที่โรงเรียนมัธยมใหม่เสียสิ” โบร็อคพูดเสียงเบา
ถึงอย่างไร ไม่ว่าเฮล์มจะได้ยินหรือไม่ก็ตาม เขาก็ไม่ได้สนใจโบร็อคมากนัก จากนั้น เขาก็พลันมองไปยังโมเสสชั่วขณะ
“ถ้าคุณไม่พึ่งพาเทคโนโลยีในห้องทดลอง ผมเองก็อยากรู้ว่าทำไมสถาบันวิจัยที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่ถึงหนึ่งปีถึงสร้างผลลัพธ์ที่น่าทึ่งเช่นนี้ออกมาได้”
เอ็ดโมเสสพลันกระแอม “ไม่ใช่เรื่องใหญ่หลวงอะไรเลย คนจีนส่วนมากยอมทุ่มเงินให้กับเทคโนโลยีนี้อยู่แล้ว แม้ว่าปัญหาส่วนใหญ่ที่เราพบสามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องใช้เงิน แต่ถ้ามีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวแล้ว หลายอย่างก็ต้องต่างออกไปแน่”
เพอร์รี่ที่นั่งอยู่ในห้องประชุมพลันพูดขึ้นมา “คุณเองก็ใช้เงินไปไม่น้อยกว่าพวกเขาหรอก หมายความว่ายังไงกัน? ไม่ได้ใช้เงินเลยหรือยังไง?”
เอ็ดโมเสสเผยท่าทีเปลี่ยนไป “ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น รับประกันได้เลยว่าเงินทั้งหมดที่ได้มาถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่าแล้ว แต่ยังไงก็เถอะ ารลองผิดลองถูกก็เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยอยู่แล้ว”
จากนั้น เฮล์มก็พลันมองไปยังสมุดบันทึกบนมืออีกครั้ง เขาพลันกล่าวคำถามขึ้นมาหลังจากนั้น
คำถามส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับโครงการ ITER และสถาบันการวิจัยเครื่อง STELLARATOR
ถึงอย่างไร การประชุมใช้ดำเนินการไปเป็นเวลาประมาณสองชั่วโมง
หลังจากการประชุม เพอร์รี่ก็สั่งให้พวกผู้เชี่ยวชาญที่นั่งอยู่ในห้องประชุมหยุดพูดและตั้งใจฟังคำถามของเฮล์มให้ดี
“แล้วคุณคิดยังไงล่ะ?”
ทั้งนี้ ซีไอเอเฮล์มเองก็เคยทำงานในระบบการทูตมาก่อน แต่ทว่า เพอร์รี่ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจอะไรเขาเสียเท่าไหร่
เฮล์มตั้งสติและใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้น เขาก็จดบางอย่างลงไปในสมุดบันทึกพร้อมกล่าวคำพูด
“อ้างอิงจากข้อมูล สถาบันฮัววากีเองก็ได้เปิดตัวโครงการเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันแบบควบคุมเชิงสาธิตขึ้นมา ยังไงก็เถอะ จากการสอบถามก่อนหน้านี้ นอกเหนือจากเอกสารที่อยู่ในวารสารวิทยาศาสตร์แล้ว ความเข้าใจในเรื่องเครื่อง STELLARATOR จากผู้เชี่ยวชาญของเราก็แทบจะเป็นศูนย์”
“อย่างที่บอกไป เราคิดว่าทั้งชาวจีนและเหล่านักวิจัยหรือผู้เชี่ยวชาญก็ต่างยืมเทคโนโลยีแล้วก็ได้รับประสบการณ์มากมายจากโครงการ ITER แต่แล้ว พวกเขาก็ขโมยเทคโนโลยีจากเราไป พวกเขาไม่แบ่งปันงานวิจัยที่มีให้ใครเลยด้วยซ้ำ ผมเลยคิดว่านี่มันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรมากๆ”
เพอร์รี่เลิกคิ้วด้วยความสนใจ “แล้วยังไงต่อ?”
“ผมก็เลยอยากจะแนะนำให้มีการเจรจากับฝ่ายจีน และสั่งให้สถาบัน STAR เปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคเพิ่มเติมด้วย” เฮล์มหยุดพูดไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็กล่าวต่อด้วยน้ำเสียงสุดจริงจัง “หรือไม่ก็… ไล่พวกเขาออกไปจากโครงการ ITER ให้หมด!”
……………………………………