“แล้วสำหรับคุณล่ะ? คิดว่าเราควรจะทำยังไงดี?”
ลู่โจวพลันมองไปยังเหอหมิงฉวนที่กำลังขอคำแนะนำอย่างสุภาพ
นี่ถือเป็นคำถามที่ตอบยากมาก
ลู่โจวไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เขาทำหน้าที่เพียงแค่รับผิดชอบเฉพาะด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น
หลังจากคิดอยู่ประมาณห้านาที ลู่โจวก็กล่าวคำพูดออกมา “นี่เป็นคำถามที่ไม่ควรถามมาเลยนะ ฉันเป็นแค่นักวิชาการ ไม่ใช่นักการทูต สิ่งเดียวที่ฉันสามารถรับประกันได้ก็คือโครงการวิจัยนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมของเราจะต้องสำเร็จก่อนปี 2025”
ทันทีที่พูดถึงเรื่องนี้ ลู่โจวก็เงียบไปชั่วครู่และมองไปยังเหอหมิงฉวน
“ถ้าต้องการคำตอบ ฉันก็คิดว่าประเด็นสำคัญของคำถามนี้คือเราวางแผนจะใช้เทคโนโลยีนี้อย่างไรมากกว่า”
“แล้วมันใช้ยังไงล่ะ?”
ลู่โจวพยักหน้า “นั่นแหละ”
มันถือเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะผูกขาดเทคโนโลยีที่เป็นที่รู้จักกันอยู่แล้ว
ในสถานการณ์ด้านเทคโนโลยี ความยากในการแก้ปัญหาแต่ละอย่างจะลดลงอย่างทวีคูณ
เช่นเดียวกับโครงการแมนฮัตตันที่มุ่งเน้นไปที่นักวิทยาศาสตร์ในประเทศทางตะวันตกทั้งหมดยกเว้นเยอรมนี มีการระดมคนมากกว่าหนึ่งหมื่นคนเพื่อเข้าร่วมโครงการนี้ อีกทั้งยังมีการใช้เงินทุนกว่าสองพันล้านดอลลาร์เพื่อทดสอบระเบิดปรมาณูลูกแรกด้วย ด้วยเหตุนี้ ประธานาธิบดีทรูแมนถึงกับบ่นว่าต้นทุนในการพัฒนาระเบิดปรมาณูนั้นมากพอที่จะซื้อทั้งจักรวาลได้เลย…
แม้ว่าคำพูดของประธานาธิบดีทรูแมนจะดูเกินจริงไปหน่อย แต่มันก็สะท้อนให้เห็นว่าเงินทุนและค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ใช้นั้นสูงไม่น้อยเลย
ถึงกระนั้น หลังการทดสอบนิวเคลียร์ เห็นได้ชัดว่าทรัพยากรของพวกเขานั้นยังไม่เพียงพอ
และหากโครงการ STAR-2 ประสบความสำเร็จ ทางจีนเองก็คงไม่สามารถผูกขาดเทคโนโลยีนี้เพื่อได้รับเงินปันผลจากการปฏิวัติพลังงานได้
ทั้งนี้ หลักการเพิ่มผลกำไรให้สูงที่สุดก็คือการขยายอิทธิพลโดยอาศัยข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยีของตัวเอง และกลายเป็นผู้สร้างมาตรฐานของสาขาเพื่อให้อีกฝ่ายกลายเป็นผู้ไล่ตาม
แน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราสามารถใช้พลังงานฟิวชันเป็นชิปต่อรองเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการเมืองและการปกครองที่ทางฝั่งจีนต้องการได้
เหอหมิงฉวนที่เงียบไปชั่วครู่พลันกล่าวคำพูดออกมา
“เราไม่ได้พูดถึงปัญหานี้กับคุณในที่ประชุมเลย”
ลู่โจวพยักหน้า “ฉันเข้าใจ ยังไงอนาคตก็ยังอีกไกล”
“แต่สิ่งที่ฉันอยากจะบอกก็คือถ้าเราวางแผนที่จะเป็นเพียงแค่ผู้มีส่วนร่วมในชุมชนระหว่างประเทศ มันก็ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะต่อการแลกเปลี่ยนความยินยอมของสหรัฐอเมริกาด้วยความสนใจที่มีเหตุมีผล”
“แต่ถ้าเรามีความทะเยอทะยานมากกว่านี้เพื่อที่จะเป็นผู้สร้างกฎ…” ลู่โจวเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ความเจ็บปวดและความท้อถอยที่ต้องเผชิญบนเส้นทางแห่งความสำเร็จถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เหอหมิงฉวนก็เผยท่าทีที่เปลี่ยนไป
ผู้สร้างกฎเกณฑ์…
ดูเหมือนว่า…
มันจะเป็นคำที่มีความสำคัญไม่น้อย
เหอหมิงฉวนที่กำลังกำหมัดแน่นพลันคลายมือออกและหายใจเข้าเฮือกใหญ่
ลู่โจวไม่ใช่ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ เขาเป็นเพียงแค่ผู้แสดงความเห็นเท่านั้น ในตอนนั้นเอง เขาพลันรู้สึกว่าตนจำเป็นต้องไปคุยกับเลขาธิการของประเทศอย่างเหอหมิงฉวนโดยตรงเสียแล้ว
เหอหมิงฉวนพลันกล่าวคำถามขึ้นทันใด
“แล้วถ้าเราต้องออกจาก ITER จะเกิดอะไรขึ้นกับโครงการ STAR-2 ล่ะ?”
ลู่โจวครุ่นคิดสักครู่และตอบด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล “มันต้องได้รับผลกระทบแน่ แต่คงไม่มากนัก!”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของลู่โจว สีหน้าของเหอหมิงฉวนก็เปลี่ยนไป
“ถ้าเป็นอย่างที่คุณบอก มันก็น่ารู้สึกโล่งอกโล่งใจไม่น้อย! ผมจะนำความเห็นของคุณไปหารือกับเบื้องบนเอง”
ลู่โจวพยักหน้า
“อย่าลืมล่ะ”
ทั้งสองไม่ได้นั่งอยู่ในห้องทำงานนานจนเกินไป
ทั้งคู่วางน้ำชาบนมือพร้อมลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องทำงาน
ทั้งสองเดินลงมายังชั้นล่าง เหอหมิงฉวนพลันคิดว่าเขาต้องการที่จะโบกมือทักทายคณบดีสวี่สักหน่อย
ในตอนนั้นเอง ทันทีที่คณบดีสวี่เห็นลู่โจวยืนอยู่คนเดียวที่ชั้นล่าง เขาก็รีบเดินตรงเข้ามา
“คุยกันเสร็จแล้วงั้นเหรอ?”
“ใช่ เสร็จแล้วครับ” ลู่โจวเผยยิ้ม “ผมขอโทษด้วยที่นั่งอยู่ในห้องทำงานนานเลย”
“ไม่ต้องคิดมาก เรื่องปกติ เรื่องของนายสำคัญกว่าอีก” คณบดีสวี่พลันตวัดมือและเผยยิ้ม จากนั้นก็ยื่นเอกสารบนมือให้กับลู่โจว
“มันก็แค่เอกสารคุ้มครองสำนักงานน่ะ ฉันเองก็จัดการพวกงานเชิงธุรกิจได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก เมื่อครู่ฉันไปที่ห้องทำงานเชิงทฤษฎีมา ยังไงก็เถอะ นี่คือเอกสารของนาย”
ทันทีที่ได้รับเอกสาร ลู่โจวก็พลันถามขึ้น “ระเบียบการเหรอครับ?”
คณบดีสวี่เผยยิ้มและตอบกลับ “ไม่อยากจะเป็นศาสตราจารย์ของที่นี่หรือยังไงกัน? ฉันเซ็นสัญญานี้เรียบร้อยแล้ว นายได้ทำงานที่นี่แล้ว!”
“เร็วขนาดนั้นเลย?” ลู่โจวเผลอพูดออกมา
คณบดีสวี่เผยยิ้ม “ยังคงมีคนมีความฝันอีกมากเลยที่ต้องถูกตัดสินไปก่อนเวลาที่ควร”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลู่โจวก็เผยยิ้ม “ยังไงก็เถอะ ฉันจะเซ็นชื่อให้เสร็จแล้วเอามาส่งในวันพรุ่งนี้”
คณบดีสวี่ “อย่าถามนะว่าจะได้เงินเดือนเท่าไหร่ต่อปี”
ลู่โจวพลันรู้สึกเขินอายเกินกว่าจะยิ้มออกมา
“ยังไงก็เถอะ ผมก็รู้หรอกว่ามันเขียนอยู่ในสัญญา แต่คุณบอกผมตอนนี้เลยไม่ได้หรือยังไงกัน?”
“เดี๋ยวนายก็รู้เลยแหละน่า”
จากนั้น คณบดีสวี่เองก็เผยยิ้มและพูดต่อ “เมื่อปลายปีที่แล้ว เราเคยคุยกันเรื่องเงินเดือนปีละสี่ถึงห้าล้าน ทั้งเงินค่าที่พักหรือค่ารักษา…. ถึงเงินที่ได้ไปจะไม่เยอะมากเท่าไหร่ แต่เราก็ยังยื่นข้อเสนออื่นให้แก่นายได้ แล้วก็สำหรับเงินทุนวิจัย นายเองก็เป็นผู้จัดการของโครงการที่มีมูลค่ากว่าสี่หมื่นล้าน ฉันเดาว่าตัวเองคงไม่ต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสำหรับโครงการวิจัยโครงการอื่นแล้วแหละ ยังไงก็เถอะ ถ้านายมีอะไรที่ต้องการ ฉันก็พร้อมที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่!”
ลู่โจวพลันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ยังไงก็เถอะ มันก็ต้องสูงกว่าเงินเดือนที่สถาบันพรินซ์ตันอยู่แล้ว”
ในฐานะมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศจีนมหาวิทยาลัยชิมูมักจะจ่ายเงินให้กับ “นักวิชาการทุน” ราวหนึ่งจุดเจ็ดล้านต่อปี
สองล้านคือเงินเดือนประจำปีในอัตราที่สูงที่สุดของเหล่านักวิชาการ
สำหรับเงินเดือนประจำปีหลายสิบล้านบาทที่ถูกพาดหัวอยู่ในหนังสือพิมพ์ มันก็แทบจะไม่มีความสำคัญอะไรเลย เพราะว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัย ผลประโยชน์รวมถึงเงินทุนเริ่มต้นการวิจัยนั้นสำคัญกว่ามาก
ตัวคณบดีเองก็ได้เงินเดือนปีละกว่าสี่ล้าน ซึ่งเกือบจะสองเท่าของมาตรฐานสูงสุด ลู่โจวเชื่อว่าการตัดสินใจเช่นนี้ทำให้ตัวคณบดีสวี่เองต้องแบกรับความกดดันเอาไว้ไม่น้อย
สำหรับลู่โจวแล้ว เงินเดือนประจำปีนั้นไม่สำคัญมากนัก มันไม่ใช่เรื่องแรกที่เขานึกถึงด้วยซ้ำ
แต่ทว่า ความสนใจของสถาบันเก่ายังคงทำให้เขาประทับใจอยู่มาก…
…
เมื่อมีการแก้ไขปัญหาด้านพลังงานแล้ว ปัญหาต่างๆจะคลี่คลาย แต่ถึงอย่างไร ปัญหาใหม่ๆ ก็ต้องตามมาทีหลังอยู่ดี
สักวันมันก็ต้องเกิดขึ้น
แผนการในปัจจุบันก็ไม่ต่างอะไรกับเค้กที่ยังอบไม่เสร็จ อย่างน้อย มันก็มีแค่หลิ่น ซึ่งสามารถเปรียบได้กับวิธีการทางเทคนิค ถึงอย่างไร ทุกคนก็คงจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น พวกเขาเองก็ต้องรอให้ทุกอย่างพร้อมก่อน แต่ทว่า แล้วมันจะเป็นยังไงล่ะ?
สิ่งที่เกิดขึ้นกับโครงการ ITER ในวันนี้นั้นเป็นเพียงภาพตัวอย่างของอนาคต
ในคืนนั้น
ณ สำนักงานในกรุงปักกิ่ง
ผู้อำนวยการหลู่ที่กำลังสูบบุหรี่อยู่พลันมองไปยังโต๊ะตรงหน้า
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา เขาก็ยังคงจัดการประชุมอยู่
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ล่าสุด ผู้อำนวยการหลู่เองก็พลันขมวดคิ้วด้วยความปวดหัว
แม้ว่าพวกเขาจะเคยคาดการณ์ถึงการกระทำของสหรัฐฯเอาไว้แล้ว แต่ทว่า มันก็กระทันหันเสีจนคนส่วนมากแทบจะไม่ทันตั้งตัวกันเลยทีเดียว
เห็นได้ชัดว่าชาวอเมริกันต้องการที่จะถล่มโครงการ STAR-2
ทันใดนั้น เสียงเคาะที่ประตูห้องทำงานก็ดังขึ้น
ผู้อำนวยการหลู่รีบโยนบุหรี่ทิ้ง แล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน
“เข้ามาได้”
เลขาของเขาพลันเปิดประตูและเดินเข้ามา
ทันทีที่มองไปยังเลขา “ได้ไปเจอศาสตราจารย์ลู่โจวมาหรือเปล่า?”
เหอหมิงฉวนพยักหน้า
“เพิ่งจะเจอกันเมื่อตอนบ่ายเองครับ”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รีบรายงานสิ่งที่คุยกับลู่โจวเมื่อบ่ายออกมา
ทันทีที่ได้ยินรายงานการพูดคุยของลู่โจวและเหอหมิงฉวน ผู้อำนวยการหลู่ก็พลันเคาะลงบนโต๊ะสักพักหนึ่ง
“เขาว่างั้นเหรอ?”
เหอหมิงฉวนพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่ครับ เขายืนยันกับผมเองเลย ถึงแม้ว่าพวกเราจะถูกเตะออกจากโครงการ ITER โครงการ STAR-2 เองก็จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย!”
ท้ายที่สุดแล้ว คิ้วที่เหี่ยวย่นก็เปลี่ยนเป็นความโล่งใจ
“อ่า เข้าใจแล้ว!”
การยืนยันจากปากของลู่โจวเองน่าจะเป็นข่าวดีที่สุดที่เขาได้ยินมาในวันนี้เลย
ถึงอย่างไร แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว!
………………………………………………