หลังจากมีข่าวว่าสถาบันฮัววากีประกาศถอนตัวจากข้อตกลง ITER ความโกลาหลในเวทีระหว่างประเทศทั่วโลกก็เกิดขึ้น
มีสื่อหลักมากมายที่รายงานเหตุการณ์และทำการวิเคราะห์รวมถึงแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว
รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐและโฆษกกลุ่มพลังงานของสหภาพยุโรปต่างได้ย้ำหลายครั้งแล้วว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการของ ITER เพราะความมุ่งมั่นของรัฐสมาชิกในการแก้ปัญหาพลังงานนั้นมีความสอดคล้องกัน แต่สื่อมวลชนและแวดวงวิชาการต่างก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันดูจะเป็นเหมือนการสร้างมุมมองในแง่ลบเสียมากกว่า
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ยังแสดงความคิดเห็นอีกว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ ITER ล่มสลาย
นี่เป็นเรื่องจริงทั้งในระดับสากลและในระดับประเทศ
แม้ว่าข่าวนี้จะโผล่มาเพียงแวบเดียว แต่มันก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแอปพลิเคชั่นชื่อดังมากมาย ประเด็นเรื่องนี้ได้ถูกนำไปถกเถียงในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก มากเสียจนติดการค้นหายอดนิยมสิบอันดับแรก
แม้ว่าความนิยมในหัวข้อที่เกี่ยวข้องนี้จะลดลงไปอย่างรวดเร็ว แต่มันก็นำไปสู่การถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง
[บางคนก็ต้องยกย่องฝ่ายจีนที่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผลของผู้แทนสหรัฐฯ ส่วนบางคนก็เชื่อว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ปัญหาใดๆ ได้ และบางคนก็ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการวิจัยนิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุมภายในประเทศ]
[มีข่าวลือว่าประเทศจีนได้ถอนตัวจากองค์กร ITER เนื่องจากสถาบันดวงดาวจำลองไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงขององค์กร]
[ข่าวจริงหรือข่าวปลอม?]
[ว่ากันว่าจริง! เพื่อนบ้านที่ทำงานอยู่ที่สถาบันวิจัยนิวเคลียร์ฟิวชั่นเป็นคนบอกมา! ว่ากันว่าสถาบันวิจัยนิวเคลียร์วิจัยฟิวชั่นแบบควบคุมในประเทศจีนและศาสตราจารย์ลู่อาจจะต้องทนทุกข์]
[อุปกรณ์สตาร์เป็นผู้นำของโลกหรือยังไง?]
[มันเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ใช่แค่สถาบันดวงดาวจำลองเท่านั้นที่ศึกษาเกี่ยวกับนิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุม ตามข้อตกลงของ ITER แล้ว ความคืบหน้าของสถาบันวิจัยเกี่ยวกับนิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุมนั้นจะต้องถูกแบ่งปันกับรัฐสมาชิกอื่นๆ ถึงอย่างไร สถาบันดวงดาวจำลองเองก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของการวิจัยอย่างครบถ้วน!]
[ถ้าเป็นเรื่องจริง มันก็น่าเสียดายไม่น้อย…]
[เรื่องนี้มีช่องโหว่! โครงการวิจัยระดับชาติแบบนี้! ผลงานวิจัยสาธารณะเป็นสิ่งที่หน่วยงานวิจัยสามารถตัดสินใจเองได้หรือไม่?]
[พวกคุณจะไปรู้อะไรเรื่องสัญญา? พวกคุณกล้าพูดไหมล่ะว่าสถาบันดวงดาวจำลองไม่ได้ปกปิดความก้าวหน้าของการวิจัย?]
[…]
“มันน่าโมโหจริงๆ!” เสี่ยวหยานพูดด้วยท่าทางขุ่นเคือง “คนพวกนี้กำลังพูดเรื่องไร้สาระโดยไม่รู้อะไรเลย!”
มันเป็นเรื่องที่น่าโมโหไม่น้อย…
คนเหล่านี้กำลังพูดเรื่องที่ตัวเองไม่รู้จริง
ในตอนนั้นเอง ลู่โจวที่กำลังกินข้าวอยู่ก็พลันกล่าวคำพูดขึ้น
“อย่าเล่นโทรศัพท์เวลากินข้าวสิ”
เสี่ยวหยานตะโกนอย่างไม่พอใจพร้อมวางโทรศัพท์ลง
“นี่พี่! พี่คงไม่สนใจพวกผู้คนอินเทอร์เน็ตหรอกใช่ไหม?”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลู่โจวก็เผยยิ้มและเผยท่าทีที่ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก “ร้อยพ่อพันแม่ ผู้คนมีเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน นายทำให้ทุกคนพอใจไม่ได้หรอก ยังไงก็เถอะ ทำตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ”
โลกนี้ถูกครอบงำโดยผู้คนที่น่าเบื่ออยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการหรือบุคคลที่ทำอาชีพอื่น เมื่อใดก็ตามที่บุคคลเหล่านั้นดังแล้ว พวกเขาก็จะแทบไม่มีพื้นที่ส่วนตัวอีกต่อไป
เมื่อเทียบผู้คนที่น่าเบื่อเหล่านี้เกี่ยวกับสิ่งที่ลู่โจวทำเพื่อสังคมหรืองานวิจัยที่เขาทำ ผู้คนส่วนมากก็มักจะพูดในสิ่งที่ไม่ดีและยกตนข่มท่านอยู่เสมอ ทั้งชีวิตส่วนตัวและมาตรฐานทางศีลธรรมจะถูกตัดสิน
ราวกับว่าผู้คนส่วนใหญ่ลืมไปแล้วว่าทำไมเสี่ยวหยานถึงสามารถคว้ารางวัลโนเบลได้ในอดีต
และสำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ลู่โจวก็โดนแบบเดียวกัน
ดูเหมือนว่านอกจากการแสดงความคิดเห็นในแง่ลบและพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ชาวเน็ตก็พลันตั้งคำถามขึ้นมาว่าทำไมเขาถึงหล่อแต่ไม่มีแฟน…
เสี่ยวหยานพลันถามคำถามขึ้นมาทันทีที่มองไปยังลู่โจว “พี่อารมณ์ดีอยู่ได้ยังไงกัน?”
“งั้นเหรอ?” ลู่โจวกล่าวด้วยคำพูดที่สงบ
เสี่ยวหยานพลันพยักหน้า
หลังจากนั้นไม่นาน เสี่ยวหยานดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออก
“พี่ชาย…”
“เป็นอะไรไปล่ะ?”
“พี่ไม่ควร…” เสี่ยวหยานเผยท่าทีสุดลำบากใจ “พี่เป็นคนดีเกินไปแล้ว”
จากนั้น ลู่โจวก็พลันขมวดคิ้ว
…
เมื่อไม่นานมานี้ ลู่โจวก็อารมณ์ดีไม่น้อย
แม้ว่าการถอนตัวออกจาก ITER ของจีนจะมีอิทธิพลในระดับหนึ่งต่องานของเขา แต่เมื่อเทียบกับความก้าวหน้าในการวิจัยช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาแล้ว ผลกระทบนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
มันไม่ใช่แค่เรื่องความก้าวหน้าของวัสดุ LPC-1 เท่านั้น แต่มันรวมถึงการออกแบบระบบควบคุมนิวตรอนลิเธียมเหลวก็เสร็จสมบูรณ์ในขั้นแรกแล้วด้วย
จนถึงตอนนี้ เขาก็เข้าใจหลายอย่างมากพอแล้ว
สิ่งที่ต้องทำเหลือแค่ขั้นตอนสุดท้าย…
ณ สถาบันดวงดาวจำลอง
ทางสถาบันจะมีการประชุมเร็วๆ นี้
หลายสถาบันที่เป็นพันธมิตรกับสถาบันดวงดาวจำลองในจีนได้ส่งวิศวกรและตัวแทนมานั่งในห้องประชุมนี้ด้วย
นักวิชาการหวังกำลังนั่งอยู่ในห้องประชุมพร้อมด้วยสมุดบันทึก ในตอนนั้นเอง เขาก็พลันได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย
“ไม่คิดเลยว่านายจะอยู่ที่นี่ด้วย”
“หือ? ?” นักวิชาการหวังเบิกตากว้างทันทีที่เห็นชายชราตรงหน้า “ฮ่าๆ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!”
ชายชราคนนี้คือซุนจงไห่ หัวหน้าวิศวกรของกลุ่มก่อสร้างอุตสาหกรรมนิวเคลียร์!
แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ค่อยน่าคบหานัก แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร ถึงกระนั้น ทั้งสองก็ยังเป็นมิตรกันมานานกว่ายี่สิบปีแล้ว
“ใช่ นานแล้วเหมือนกันนะ” ชายชราซุนกงพลันตอบกลับและมองไปยังเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน “นี่ก็ผ่านมาปีกว่าแล้วนะ นายก็แกแล้วเหมือนกันนี่”
“อ่า ถ้าออกไป นายก็ลองไปส่องกระจกดูบ้างแล้วกัน”
นักวิชาการวังพลันหัวเราะเสียงดัง “ยังไงก็เถอะ ฉันคิดว่าจะไม่ได้เจอนายอีกแล้วเชียว”
ทั้งคู่มองหน้ากัน จากนั้น ซุนกงก็กล่าวคำพูดขึ้นมา “พูดก็พูดเถอะ ศาสตราจารย์ลู่เป็นไงบ้างล่ะ? แล้ววันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องอะไรกัน?”
“เขายังไม่ได้บอกฉันเลย” นักวิชาการหวังกล่าวพร้อมกับส่ายหัวและมองไปที่ผ้าม่านบนเวที “มันแค่สองนาที รอเขาก่อนเถอะ”
ก่อนหน้านั้น เขาได้ยินมาว่าการประชุมนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อหารือในประเด็นที่สำคัญมาก แต่สำหรับรายละเอียดที่ลึกกว่านั้น สถาบันดวงดาวจำลองก็ไม่ได้บอกอะไรเอาไว้มากเหมือนกัน
จากนั้นไม่นาน การสนทนาและการประชุมก็เริ่มต้นขึ้น
เมื่อเครื่องฉายภาพสไลด์ที่อยู่หน้าม่านถูกเปิดขึ้น ทั้งสองก็หยุดพูดอย่างพร้อมเพรียงกัน พวกเขารอการเริ่มประชุมเช่นเดียวกับผู้เข้าร่วมคนอื่น
หลังจากรออยู่พักหนึ่ง ลู่โจวก็ได้ก้าวเท้าขึ้นมาบนเวทีและเผชิญหน้ากับผู้เข้าร่วมประชุม จากนั้น เขาก็พลันกระแอมในลำคอพร้อมกล่าวคำพูด
“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ในการศึกษาวัสดุโครงสร้างของผนังชั้นแรกขึ้น”
“ประสิทธิภาพของวัสดุ LPC-1 ที่พัฒนาโดยสถาบันวัสดุเชิงคำนวณของจินหลิงในการต้านทานรังสีนิวตรอนได้บรรลุข้อกำหนดทางวิศวกรรมของเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นแล้ว”
ทันใดนั้น ทั้งห้องประชุมก็ปั่นป่วนไปหมด
นักวิชาการหวังและซุนกงที่กำลังแลกเปลี่ยนความเห็นกันต่างก็ตกใจไม่น้อย
และยังตื่นเต้นอีกด้วย
ทั่วทั้งห้องประชุมเต็มไปด้วยความวุ่นวาย
จากนั้นไม่นาน ลู่โจวก็พลันพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน “และเพื่อต้อนรับเทคโนโลยีนี้ เราก็ได้เตรียมการมาอย่างเพียงพอแล้ว””
“ผมคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะผลักดันแผนการของเราไปสู่ขั้นต่อไป”
ทั้งโรงประชุมพลันเงียบสนิท
ไม่มีเสียงพูดเลยแม้แต่น้อย และในตอนนั้นเอง ทุกคนก็เผยท่าทีที่แปลกไปอย่างไม่รู้ตัว
ผู้เข้าร่วมแต่ละคนต่างก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน แต่ทว่า ลู่โจวกลับไม่ได้แสดงความตื่นเต้นอะไรออกมาเลย
เขามองไปยังผู้ฟังและประกาศต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“มันอุปกรณ์ฟิวชั่นเชิงสาธิตรุ่นที่สอง!”
“และจากนี้ไป…”
“ก็เริ่มสร้างได้เลย!”
……………………………………