ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินทางกลับประเทศจีน
ทั้งเดือนนี้ อารมณ์ของเสี่ยวเล่อไม่ค่อยสู้ดีนัก
เขาต้องการกลับไปพักผ่อนที่บ้านของตนเอง นอกจากการพักผ่อนแล้ว เขาก็ต้องกลับไปจัดการกับงานวิจัยที่เหลืออยู่
มันเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจไม่น้อยที่รู้ว่างานวิจัยนั้นยังคงไม่เสร็จดี และมีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่เข้าใจมัน
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์หลี่เองก็ยังไม่ทราบข่าว เสี่ยวเล่อเองก็ไม่รู้ว่าเขารับรู้หรือได้ฟังข่าวดังกล่าวแล้วหรือยัง
ถึงอย่างไร สถาบันวิจัยวัสดุเองก็ไม่มีการเตรียมการเพิ่มเติมสำหรับเหล่านักวิจัยที่ถูกส่งไปยังบริษัทพลังงานปรมาณู ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่ได้คิดถึงสิ่งที่ควรทำมากเท่าไหร่
หลังจากถอนตัวออกจากองค์กร ITER แล้ว โครงการวิจัยมากมายที่เกี่ยวข้องก็ถูกยกเลิกไป นอกจากนี้ ยังมีเหล่านักวิจัยอีกหลายคนต้องจัดการตารางงานของตัวเองใหม่
น่าเสียดาย รัฐบาลเริ่มเข้มงวดในการลงทุนกับเครื่องมือโทคาแมก และเงินทุนที่มีอยู่ก็ไม่สามารถรองรับโครงการวิจัยต่างๆ ได้หมด…
ว่ากันว่าเกิดเรื่องวุ่นวายมากมายในห้องประชุม เสี่ยวเล่อเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาควรจะกลับไปหรือไม่ แต่ทว่า เขาก็คิดว่าต้องปล่อยวางเสียที จากนั้น เขาก็พลันวางแผนที่จะพักผ่อนสักสองวันและเดินทางไปยังเมืองฝูหยาง
แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็พลันรู้สึกขี้เกียจขึ้นมา…
ถึงอย่างไร ระหว่างที่กำลังเก็บกระเป๋าและซื้อตั๋วเครื่องบิน เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากสำนักงาน
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”
“กำลังไปที่ปักกิ่ง… ศาสตราจารย์หลี่ขอให้คุณติดต่อผมมาใช่ไหม?” เสี่ยวเล่อถามขึ้นอย่างรวดเร็วทันทีที่ได้ยินเสียงที่ปลายสาย
“ยังไงก็เถอะ ตอนนี้เราก็ติดต่อมาหาคุณแล้ว… ศาสตราจารย์หลี่แนะนำเรามา อันที่จริง มีตำแหน่งวิจัยว่างอยู่ที่หนึ่ง เราคิดว่ามันเหมาะสำหรับคุณ สนใจไหมล่ะ?”
เสี่ยวเล่อพลันตอบกลับ “เดี๋ยวก่อนนะ ผมไม่เข้าใจ ตำแหน่งวิจัย?”
“ใช่” ชายที่อยู่ปลายสายตอบ “เราต้องมีการประสานงานเรื่องนิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุม”
เสี่ยวเล่อพยายามถามกลับ “ที่สถาบันดวงดาวจำลอง?”
“อ่า”
เสี่ยวเล่อพลันสับสน “โทรมาบอกกันแค่นี้มันจะไปรู้เรื่องได้ยังไงกัน? อย่างน้อยก็บอกกันหน่อยเถอะว่ามันเป็นงานวิจัยที่เกี่ยวกับอะไร แล้วสถานที่ทำงานเฉพาะอยู่ที่ไหน?”
“เนื้อหาการวิจัยขึ้นอยู่กับการจัดเตรียมของที่นั่น ส่วนเรื่องสถานที่ทำงานยังคงเป็นความลับอยู่” ชายที่อยู่ปลายสายกล่าว “คุณแค่ต้องตอบมาว่าไปได้หรือไม่ได้”
นี่มัน…
เป็นเรื่องที่ตัดสินใจยากเสียจริง
เสี่ยวเล่อพลันส่ายหัว
ถึงอย่างไร แม้ว่าเขาจะคิดเช่นนั้น เขาก็ยังคงลังเลอยู่สองสามวินาที…
“ไป”
โอกาสแบบนี้น่าจะมีอยู่แค่ครั้งเดียวในชีวิต
สัญชาตญาณบอกเขาว่าถ้าตอบว่าไม่ เขาก็จะไม่ได้รับโอกาสนี้แล้ว
จากนั้น ชายที่อยู่ปลายสายพลันตอบกลับ “ผมจะช่วยคุณในเรื่องของขั้นตอนการเตรียมการ นอกจากนี้ คุณต้องเปลี่ยนตั๋วด้วย จำไว้ว่าคุณต้องขึ้นรถไฟมาในรอบบ่ายสามโมงของวันพรุ่งนี้”
หลังจากนั้น เขาก็ตัดสายไป
เสี่ยวเล่อเผยท่าทีที่แปลกไปทันทีที่มองไปยังโทรศัพท์ในมือ
เขาไม่เพียงแต่จต้องหาตั๋วใหม่มาใช้เท่านั้น แต่ยังต้องเสียเงินฟรีอีกด้วย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย…
อย่างน้อย บุคคลที่โทรมาก็ไม่ใช่คนของสถาบันวัสดุอย่างแน่นอน
…
ในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น เสี่ยวเล่อได้ขึ้นรถไฟเพื่อไปยังที่หมาย หลังจากลากกระเป๋าเดินทางและลงจากรถบัส เสี่ยวเล่อก็ยืนอยู่นอกสถานีรถไฟ ผ่านไปไม่กี่นาที ก็มีรถยนต์สีดำคันหนึ่งมาจอดอยู่ตรงหน้าเขา
และทันทีที่เขาไปถึงที่หมาย เขาก็พลันตกใจกับสิ่งที่เห็นไม่น้อย
ไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นสถานที่รกร้าง แต่ตรงกันข้ามเลย มีบางอย่างผิดปกติ ราวกับมีบางสิ่งที่ “มีชีวิตชีวา” อยู่ที่นี่
มีรถบัสมากกว่าหนึ่งโหลจอดอยู่ในที่โล่งนอกโรงงาน อีกทั้ง ยังมีอุปกรณ์วิศวกรรมต่างๆ อีกมากมายด้วย
เขาพลันสังเกตเห็นเครื่องหมายมากมายที่ชวนให้นึกถึง มันเหมือนกับเป็นสถาบันวิจัยชั้นนำด้านฟิสิกส์พลาสมาในประเทศจีน หรือไม่ก็เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ที่เป็นหน่วยที่ต้องรับผิดชอบในด้านพลังงานนิวเคลียร์ในประเทศ
ดูเหมือนว่าเสี่ยวเล่อจะเข้าใจแล้วว่าตนมีส่วนร่วมในโครงการอะไร
เขาเพียงแค่คิดไม่ถึงและไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความก้าวหน้าของสถาบันดวงดาวจำลองนั้นรวดเร็วขนาดนี้
ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังทำการศึกษาและการวิจัยกันอย่างเงียบๆ
ทันใดนั้นเอง ชายชราคนหนึ่งที่อายุราวห้าสิบปีก็ปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าเสี่ยวเล่อ
“เสี่ยวเล่องั้นเหรอ?”
“ใช่ครับ”
“ตามมาสิ”
เสี่ยวเล่อกลืนน้ำลายและลากกระเป๋าเดินทางพร้อมเดินตามไปทันที
เขาต้องการรู้สถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือเดินตามชายชราตรงหน้าไป
“ผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครื่องโทคาแมก คุณอาจคงกำลังจะสร้างอุปกรณ์สตาร์อยู่ แล้วก็…”
“ฉันไม่รู้ว่านายหมายถึงอะไร” จากนั้นชายชราก็พาเสี่ยวเล่อไปยังสถาบัน “ฉันมีหน้าที่พานายมาที่นี่เท่านั้น ถ้ามีคำถามอะไร ก็เข้าไปถามคนที่อยู่ข้างในได้เลย”
คนที่อยู่ข้างใน?
ใครกัน?
แม้ว่าเสี่ยวเล่อจะมีคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ แต่ดูเหมือนชายชราตรงหน้าไม่คิดจะตอบอะไรเลยด้วยซ้ำ เขาทำตัวราวกับเป็นคนใบ้
แต่ทว่า เสี่ยวเล่อพลันถามคำถามหนึ่งขึ้นมา
“คนเยอะขนาดนี้ เก็บความลับกันได้ยังไง?”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ชายชราก็เผยท่าทีที่ว่างเปล่า
“เจ้าหนุ่ม จำชื่อบรรพบุรุษของตัวเองได้ไหม?”
“จำไม่ได้เหมือนกัน”
ใครจะไปทำอะไรแบบนั้นกัน
เสี่ยวเล่อเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ชายชราพลันชี้ไปยังคนขับรถซึ่งอยู่ข้างหลังเขาไม่ไกล
“ถ้าอยากรู้อะไร ก็ไปถามเขาแทนสิ”
…
ความต้องการสถานที่ตั้งสำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นสูงมาก
ตามหลักการคัดเลือกสถานที่ตั้งที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลแล้ว ก็ยังคงมีหลายปัจจับเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางธรณีวิทยา พื้นผิว อุตุนิยมวิทยา อุทกวิทยา การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม วิศวกรรมโยธา การขนส่งเทคโนโลยี สถานีไฟฟ้า พลังงานและสังคม ปัจจัยทั้งหมดนี้จะต้องได้รับการพิจารณาอย่างเคร่งครัด
ประการแรก ตามหลักภูมิศาสตร์ สถานที่ตั้งจะต้องไม่อยู่ในส่วนที่ลึกเกินไป อีกทั้ง มันจะต้องเป็นสถานที่ที่ไม่สร้างปัญหาขึ้นหากมีการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ มันต้องอยู่ห่างทะเลประมาณสิบกิโลเมตร และต้องเป็นสถานที่ที่สามารถทนต่อแผ่นดินไหวระดับหกขึ้นไปได้หากมีการทำการทดลอง
ประการที่สองคือต้องมีการขนส่งที่ดี
เครื่องปฏิกรณ์ทั้งหมดนั้นได้รับการออกแบบให้มีความซับซ้อนมากกว่าเครื่องปฏิกรณ์ฟิชชั่นหลายเท่า อีกทั้งะปริมาตรก็ใหญ่กว่ามากด้วย ส่วนประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนั้นก็ไม่สามารถผลิตได้ตามท้องถิ่นทั่วไป มันต้องเป็นวัสดุที่สามารถประกอบและเคลื่อนย้ายได้
เมื่อพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว ก็เหลือสถานที่อยู่ไม่กี่แห่งที่ตรงตามเงื่อนไข
หลังจากการหารือในการประชุมกับผู้เชี่ยวชาญรัฐบาลจังหวัดแล้ว ในที่สุด การคัดเลือกสถานที่ตั้งของเครื่องปฏิกรณ์สตาร์รุ่นสองเชิงสาธิตก็ตกลงที่จะสร้างใกล้กับสถานีพลังงานนิวเคลียร์ในเมืองไห่โจว
ในตอนนั้นเอง มีทรัพยากรสำเร็จรูปและพื้นที่มากมายที่สงวนไว้เพื่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โรงใหม่ที่ต้องการจะมาสร้างในเมืองไห่โจว พื้นที่นั้นสามารถใช้สร้างโรงงานสำหรับเครื่องปฏิกรณ์เชิงสาธิตได้
นอกจากนี้ วิศวกรที่ประจำการอยู่ที่นี่ทุกคนยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านพลังงานนิวเคลียร์อีกด้วย พวกเขาทั้งมีประสบการณ์มากมายและสามารถช่วยในการออกแบบเครื่องปฏิกรณ์เชิงสาธิตและจัดการกับปัญหาทางวิศวกรรมเฉพาะได้
สำหรับปัญหาด้านความปลอดภัย ลู่โจวไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
หลังจากการเลือกสถานที่ตั้งเสร็จแล้ว หน่วยรบเฝ้าระวังก็จะถูกส่งให้เข้ามาในพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัย
ในทางกลับกัน หลังจากเลือกสถานที่ตั้งเสร็จแล้ว ลู่โจวก็รีบไปที่นั่นเพื่อทำการสอบบางอย่างกับเหล่าวิศวกรจากกลุ่มอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ พวกเขาได้ะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกแบบเครื่องปฏิกรณ์กันอยู่พักใหญ่
นอกจากนี้ ภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ เหล่านักวิจัยหลายพันคนจากสถาบันวิจัยต่างๆรวมถึงวิศวกรในสาขาที่เกี่ยวข้องก็ได้รวมตัวกันที่นี่
เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการจะดำเนินไปอย่างราบรื่น ทุกคนก็ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมดที่ลู่โจวเสนอไป
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทุนหรือเรื่องอื่น
“เขามาแล้ว” ชายชราวางเรซูเม่ไว้บนโต๊ะพร้อมพาเสี่ยวเล่อเข้ามายังห้องทดลอง
ลู่โจวพลันพยักหน้าให้เขา
“ขอบคุณมาก”
จากนั้น ชายชราก็พลันโบกมือ
“เรื่องเล็กน้อยน่า นายเองก็ยุ่งใช้เล่น แค่นี้เอง”
จากนั้น ชายชราก็เปิดประตูและเดินออกไป
ลู่โจวเผยยิ้มและมองไปยังเสี่ยวเล่อที่ดูจะประหม่า
“ไม่ต้องประหม่าไปหรอก ฉันกำลังตามหานายอยู่เลย ก็แค่อยากถามอะไรสักหน่อย”
เสี่ยวเล่อเผยยิ้ม “ถ้าคุณเป็นผม จะไม่ประหม่าหรือยังไงกัน?”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลู่โจวก็พลันเผยยิ้มออกมา
เขาเป็นชายหนุ่มสะดุดตามาก
ลู่โจวเชื่อว่าเขาเป็นคนที่มีคุณค่ามากพอ
แต่ทว่า…
นี่ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนั้น
ลู่โจวพลันกระแอมและกล่าวคำพูดขึ้นมา “ฉันได้ยินจากสถาบันวิจัยวัสดุว่านายเคยไปเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศมาแล้วใช่ไหม?”
“ก็ใช่” จากนั้น เสี่ยวเล่อก็พูดต่อ “ผมรู้จักกับศาสตราจารย์หลี่ก็ตอนนั้นแหละ ผมอยู่ที่นั่นมาสี่ปีแล้ว”
ลู่โจวเผยยิ้ม “ฉันรู้แล้ว นั่นคือเหตุผลที่เรียกนายมายังไงล่ะ”
จากนั้น ลู่โจวก็เงียบไปสักพัก และกลับมาพูดต่อ
“ก็เพราะว่านายเคยอยู่ที่นั่นมาสี่ปีแล้ว ฉันเลยคิดว่านายน่าจะรู้ดีเกี่ยวกับสถานการณ์ของที่นั่น ฉันอยากรู้เรื่องเทคโนโลยีการทำความร้อน อยากจะรู้ว่าพวกเขากำลังศึกษาไปในทิศทางไหนอยู่ แล้วไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว? “
ทันทีที่ได้ยินลู่โจวถามคำถามที่ตัวเองถนัด เสี่ยวเล่อก็พลันตอนทันที “ส่วนใหญ่พวกเขาศึกษาเกี่ยวกับการทำความร้อนด้วยคลื่นไอออนไซโคลตรอน แล้วก็ตอนนี้…”
ลู่โจวพลันกอดอกและพยักหน้าระหว่างที่กำลังตั้งใจฟังคำอธิบายของเสี่ยวเล่อ
ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีการทำความร้อนและเทคโนโลยีการวินิจฉัยพลาสมาของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศนั้นยอดเยี่ยมมาก
เทคโนโลยีทั้งหมดนี้ถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี หัววัดสถานะอะตอมเฮชสาม แต่ทว่าพวกมันก็ยังไม่ได้รับการพิจารณาทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่มันก็ยังได้รับความสนใจ
ท้ายที่สุดแล้ว โครงสร้างข้อมูลเชิงสาธิตนั้นก็แตกต่างกับโครงสร้างข้อมูลเชิงทดลอง ที่ซึ่งอย่างหลังมีความนิยมมากว่า
นอกจากนี้ การขาดรายละเอียดทางเทคนิคก็จะสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการส่งออกพลังงานอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น จากคำถามที่ถูกรวบรวมมาเป็นประสบการณ์ของเขาเหล่านี้
เสี่ยวเล่อก็สามารถสรุปได้ว่าบริษัทพลังงานปรมาณูได้ดำเนินการวิจัยในขั้นตอนใดอยู่ หรือพวกเขาได้ศึกษานิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุมจากเครื่องปฏิกรณ์เชิงสาธิตไปไกลแค่ไหนแล้ว
จากนั้น ลู่โจวก็พลันถามถึงความคืบหน้าในการทดลองมากมาย ในตอนนี้ เสี่ยวเล่อเองก็เลือกตอบเฉพาะคำถามที่เขารู้คำตอบที่ชัดเจนเท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้ว ลู่โจวก็พลันครุ่นคิดและกล่าวคำพูดออกมา
“อุปกรณ์ทำความร้อนของเครื่องโทคาแมกไม่ได้เหมือนกับดวงดาวจำลองเท่าไหร่นัก แต่หลักการทำความร้อนก็จะคล้ายกัน”
“เราตั้งใจที่จะสร้างและออกแบบอุปกรณ์สตาร์รูปแบบใหม่ที่สามารถใช้กับดาวเทียมได้”
“ถ้านายสนใจที่จะอยู่ที่นี่ ฉันก็แนะนำให้นายไปเข้าร่วมกลุ่มกับนักวิจัยในพื้นที่ได้เลย”
นี่มัน…
เขาจะต้องตัดสินใจอย่างไร?
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เสี่ยวเล่อก็รู้สึกตื่นเต้นและรีบพยักหน้า “ได้เลย!”
แน่นอน ข้อตกลงทางโทรศัพท์นั้นนำมาซึ่งทางเลือกที่ถูกต้องอย่างหาที่เปรียบมิได้…
………………………………………