“มันก็น่าสนใจอยู่” นักวิชาการหวังเซิงกวงพลันพลิกภาพวาดที่ลู่โจวมอบให้ไปมา เขาเผยท่าดูสนใจ
แล้วในไม่ช้า เขาก็ถามขึ้น
“ใครเป็นคนออกแบบเจ้านี่กันล่ะ?”
ลู่โจวไม่สามารถพูดความจริงได้
“ได้มาจากการอภิปรายน่ะ”
เห็นได้ชัดว่าทำไมเขาต้องพูดเช่นนั้น
“การอภิปราย” แทนที่ “ระบบ”?
นักวิชาการหวังมองไปยังลู่โจวด้วยความสงสัย “ต้องมีคนที่คิดค้นเจ้านี่ขึ้นมาสิ”
ลู่โจวเผยยิ้มแต่ก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก เขารีบตัดจบโดยเร็ว
“เรายังไม่ลงรายละเอียดถึงจุดเรียวบางพวกนี้เลย ถ้าเทียบกับคนที่ออกแบบเจ้านี่ ฉันเองก็อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพวาดมากกว่านี้ กลุ่มอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ของนายคงจะไม่เข้าใจกระบวนการผลิตนี้สินะ”
นักวิชาการหวังจ้องมองไปยังภาพวาดอีกครั้ง “มันก็ดูจะยากหน่อยนะ แต่ปัญหาก็ไม่ได้ใหญ่นักหรอก”
ทันทีที่ได้ยินนักวิชาการวังกล่าวว่าไม่มีปัญหาอะไรต้องกังวล ลู่โจวก็รู้สึกโล่งใจและพยักหน้า
“งั้นนายเอาไปเลยก็แล้วกัน”
“ได้ ฉันจะจัดการให้เร็วที่สุด” นักวิชาการหวังกล่าว “แต่ดูเหมือนนายจะแอบซ่อนอะไรอยู่เลยนะ”
ลู่โจวพลันขมวดคิ้ว
ชายคนนี้จะคิดว่าลู่โจวเป็นคนวาดงั้นหรือ?
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับภาพวาดครั้งล่าสุด ลู่โจวคงเดาได้ว่าเขาคงเข้าใจผิด
แต่ว่า
การอยู่ผิดเวลาก็ไม่ต่างอะไรกับการอยู่ผิดที่
การเข้าใจผิดก็ยังดีกว่าการไม่เข้าใจอะไรเลย
นักวิชาการหวังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งพร้อมมองไปยังภาพวาดตรงหน้า
“อ่า แม้ว่าโครงการนิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุมจะเป็นโครงการระดับชาติ แต่คะแนนของทั้งภาครัฐและเอกชนก็ชัดเจนดีอยู่แล้ว เทคโนโลยีนี้ถูกผลิตโดยสถาบันการศึกษาจินหลิง คำแนะนำของฉันก็คือต้องสร้างโรงงานไฟฟ้า แล้วก็ต้องมีการแบ่งปันเทคโนโลยี ส่วนเราก็มีหน้าที่รับผิดชอบในการผลิต”
ถ้าคนอื่นนำภาพวาดนี้มาให้กับนักวิชาการหวัง เขาก็คงจะไม่พูดแบบนี้ แต่สำหรับลู่โจวแล้ว มันก็แตกต่างออกไป
หัวหน้านักออกแบบหมายถึงอะไรกัน?
โครงการวิจัยแต่ละโครงการก็ต่างจะต้องใช้เงินหลายหมื่นหรือหลายแสนล้านเหรียญ ควบคู่ไปกับความสนใจที่จะได้รับ แม้แต่อุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ก็เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา แต่นักวิชาการหวังก็ดูจะคิดลึกลงไปกว่าเดิมหน่อย
ถึงอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายหรือข้อผิดพลาดใดๆ ในอนาคต เขาจะยอมแพ้ไม่ได้
เรื่องนี้จะต้องถูกนำไปหารือกับผู้นำกลุ่ม
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลู่โจวก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เขาพลันกล่าวคำพูดขึ้น
“งั้นก็ลุยกันเลย มาทำให้สำเร็จกันเถอะ!”
อันที่จริง นักวิชาการหวังคิดไปมากกว่านี้ ถึงเขาจะไม่สนใจเรื่องนี้มากก็เถอะ ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อเทียบกับตลาดขนาดใหญ่ของแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์ ประโยชน์ของวัสดุผนังชั้นแรกของนิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุมก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นอะไรที่ดีไม่น้อย
หากค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรสำหรับวัสดุ LPC-1 สามารถทำให้ลู่โจวตกใจได้ งั้นความร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรมนิวเคลียร์เพื่อจัดตั้งโรงงานก็คือความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
ถ้าเขาต้องการที่จะสร้างรายได้จริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจผลกำไรเล็กพวกนี้เลยด้วยซ้ำ แค่การควบคุมเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชั่นก็เพียงพอแล้ว
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าทำไมประเทศนี้ถึงรักลู่โจว ผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชั่นเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ตลาดของแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์ขยายตัวไปอีกหลายเท่า นอกจากนี้ รายได้จากการจดสิทธิบัตรของอุปกรณ์ต่างๆ ก็สามารถทำให้เขาอยู่สุขสบายได้ตลอดหลายปีแล้ว
ถึงอย่างไร ดูเหมือนว่าคงจะไม่มีความหมายแล้วที่จะพูดแบบนั้น
แต่ทว่า เงินที่อยู่ในบัตรธนาคารของเขาก็เยอะมากเกินพออยู่แล้ว
แม้ว่าตัวเลขข้างหลังจะมีศูนย์หลายหลักก็เถอะ…
อ่า…
มันเป็นอะไรที่น่าดึงดูดเสียจริง
ในระหว่างที่ลู่โจวยังคงคุยกับนักวิชาการหวังเรื่องรายละเอียดทางเทคนิคของภาพวาดอยู่ เสียงเคาะประตูก็พลันดังขึ้น
ทั้งคู่เงียบไปชั่วครู่ จากนั้น ลู่โจวก็กล่าวคำพูดออกมา
“เข้ามาได้”
ทันทีที่ประตูเปิดออก นักวิจัยคนหนึ่งก็เข้ามา
“ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันทางตะวันตกเฉียงใต้”
ตะวันตกเฉียงใต้?
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของลู่โจวก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ใครกัน?”
“เพื่อนของโจวเฉิงฟู่…”
…
ที่หน้าประตูของเครื่องปฏิกรณ์เชิงสาธิต กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น
เขาพลันเดินตรงมาหาหวังเผิงพร้อมกับทหารข้างกาย
ลู่โจวเผยยิ้มและยื่นมือขวาออกไปหาโจวเฉิงฟู่
“บุคคลที่หาตัวได้ยาก ฉันโชคดีจริงๆ”
ทั้งคู่จับมือกัน แต่โจวเฉิงฟู่ก็ดูจะไม่สนใจลู่โจวสักเท่าไหร่ เขาเงียบไปชั่วครู่
“อ่า โชคดี”
จากนั้น ลู่โจวก็พลันพูดขึ้น “ไปที่ห้องทำงานฉันก่อนไหมล่ะ?”
โจวเฉิงฟู่พยักหน้า
“ก็ได้”
ทั้งคู่เดินเคียงข้างกันตลอดทาง แต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก
ลู่โจวเองก็ไม่อยากให้บรรยากาศมันเงียบจนเกินไป จากนั้นไม่นาน เขาก็พลันหยิบยกประเด็นหนึ่งขึ้นมาพูด
“อุปกรณ์ HL-2A ซ่อมเสร็จแล้วหรือยังล่ะ?”
โจวเฉิงฟู่พลันตอบกลับ “เท่าที่รู้มา ก็ยังเลย”
ลู่โจวพลันเผยยิ้ม “มันคงทำให้นายหงุดหงิดสินะ”
โจวเฉิงฟู่พลันขมวดคิ้ว
แม้ว่าครั้งนี้ โจวเฉิงฟู่จะมาพร้อมกับ “สันติภาพ” แต่เขาก็ต้องพยายามทำใจอย่างมากในเรื่องนี้
เมื่อผ่านจุดศูนย์กลางของจุดก่อสร้าง ทั้งคู่ก็เดินผ่านหลุมยักษ์ตรงหน้า
เมื่อมองไปที่อุปกรณ์ก่อสร้างและหลุมยักษ์ตรงหน้า โจวเฉิงฟู่ก็ขมวดคิ้ว
“นั่นคืออะไรกัน?”
เนื่องจากมันไม่ได้เป็นความลับอะไร ลู่โจวจึงกล่าวคำพูดออกมา “ท่อโค้งหลักน่ะ ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ กรณีที่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น มันเอาไว้ใช้เพื่อระบายความร้อนที่ไหลออกมาจากแกนกลาง แม้ว่าจะเป็นท่อโค้งพื้นฐาน แต่มันก็มีประสิทธิภาพไม่น้อยเลยล่ะ”
ด้วยเหตุนี้ ภายในของเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นแบบควบคุมได้มีการจำลองพลังงานของดวงดาวเอาไว้ แม้ว่าปฏิกิริยาฟิวชั่นจะปลอดภัยในทางทฤษฎี แต่พลาสมาที่มีอุณหภูมิหลายร้อยล้านองศาก็ถือเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวไม่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลังงานในเครื่องปฏิกรณ์สาธิตนั้นแตกต่างกับการจุดระเบิดอย่างสิ้นเชิง ลู่โจวเองก็แทบจะไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเครื่องปฏิกรณ์ที่ใช้ในการทดลองเลยด้วยซ้ำ
ในกรณีที่มีการรั่วไหล พลาสมาจะได้รับการระบายความร้อนจนกว่ามันจะเย็นลงจนถึงอุณหภูมิที่ปลอดภัย
อุปกรณ์นี้จึงถือเป็นเครื่องมือป้องกันที่สำคัญไม่น้อย
แม้ว่ามันจะทำงานได้เพียงครั้งเดียว แต่มันก็คุ้มค่าหากมีความเสียหายหรือเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้น
เมื่อพูดถึงโครงสร้างของเครื่องปฏิกรณ์ฟิชชั่น โจวเฉิงฟู่ก็ดูจะเดาประโยชน์มันออก จากนั้นเขาก็มองไปยังลู่โจว
“แล้วนายได้คำนึงถึงส่วนนี้ไหม?”
ลู่โจวเผยยิ้ม “มันไม่ใช่แนวคิดของเรา กลุ่มอุตสาหกรรมนิวเคลียร์เป็นคนคิดและออกแบบขึ้นมา และฉันก็คิดว่ามันต้องมีประโยชน์แน่ ก็เลยทำการอนุมัติ”
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องโทคาแมกหรืออุปกรณ์สตาร์ ทั้งสองก็มีแกนพลังงานหลักที่ใหญ่และมีประโยชน์
หลังจากทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการของเครื่องปฏิกรณ์แล้ว เหล่าวิศวกรของกลุ่มอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ก็ได้เสนอให้มีการใช้ท่อโค้งหลักกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชั่นรุ่นที่สามกับเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นทันที
เช่นเดียวกับที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เทียนหว่านที่มีข้อมูลอ้างอิงสำเร็จรูปอยู่แล้ว หลังจากนั้น ลู่โจวก็ตัดสินใจทันที
แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา แต่หลังจากได้ยินเช่นนั้น โจวเฉิงฟู่ก็พลันถอนหายใจ “คุณได้สร้างเครื่องปฏิกรณ์หรือยังล่ะ?”
ลู่โจวเผยยิ้มและไม่ได้สนใจอะไร “เรากำลังสร้างเครื่องปฏิกรณ์อยู่เหมือนกัน โครงการทั้งสองจะไม่ถูกนำมารวมกัน นั่นเป็นเพราะเราต้องทำทุกอย่างให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ดีที่สุด”
ครั้งนี้ โจวเฉิงฟู่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เขาไม่มีอะไรจะพูดแล้ว
เขาจะไม่พูดในสิ่งที่ตนไม่เข้าใจออกมา นี่คือสิ่งที่เหล่านักวิชาการจะรู้ดี
เขาเองก็ไม่ค่อยไม่เข้าใจเทคโนโลยีพวกนี้อย่างเต็มที่เท่าไหร่นัก นับประสาอะไรกับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เชิงสาธิต
ทั้งสองหยุดอยู่ที่ด้านข้างของสถานที่ก่อสร้างโดยไม่รู้ตัว
ดูเหมือนว่าโจวเฉิงฟู่จะไม่เดินต่อ เขายืนอยู่ตรงนั้นและมองไปยังอุปกรณ์วิศวกรรมที่อยู่ในสถานที่ก่อสร้าง จากนั้น เขาก็เดินไปที่ขอบของนั่งร้าน เขาพลันมองไปรอบตัวด้วยความสงสัย
มีเหล่าพนักงานและวิศวกรหลายคนอยู่ที่นั่น
จากที่เห็น ฐานของเครื่องปฏิกรณ์เชิงสาธิตทั้งหมดเป็นเหมือนเครื่องจักรกลเต็มกำลัง และแต่ละเครื่องทำงานด้วยความเร็วสูง
มันยังไงกัน?
เขาต้องรู้สึกอย่างไร?
มันเป็นเรื่องที่น่าเชื่อไหม?
ในตอนนั้นเอง โจวเฉิงฟู่ก็เผยท่าทีที่แปลกไปราวกับกำลังสับสน
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มในวัยยี่สิบกว่าปีอย่างลุ่โจวถึงทำเช่นนี้ได้ ถ้าเขาไม่ได้มาเห็นเองกับตา เขาก็คงไม่เชื่อแน่
แต่ถึงอย่างไร ในความเป็นจริงแล้ว ลู่โจวก็ทำได้…
นี่เป็นข้อเท็จจริงที่หักล้างไม่ได้
เมื่อเห็นเช่นนี้ หัวใจของโจวเฉิงฟู่ก็พลันกระอักกระอ่วน
เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไม
แต่แล้ว หากจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็เข้าใจ
ถ้าเขาทำตามลู่โจว…
บุคคลนี้เป็นเหมือนความหวังในการสร้างเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุม
หลังจากที่เงียบอยู่นาน โจวเฉิงฟู่ก็กล่าวคำพูดขึ้น
“ตอนนี้ คนทั้งสองพันคนยังทำงานให้นายอยู่หรือเปล่า?”
“อ่า นายก็รู้เหมือนกันนี่” ลู่โจวตอบกลับ
จากนั้น โจวเฉิงฟู่ก็กล่าวคำพูดต่อ “นายเคยคิดไหมว่าวันหนึ่ง… เพียงเพราะแค่ความผิดพลาดครั้งหนึ่งของนาย หรือสิ่งที่คนอื่นทำ มันทำให้นายมายืนอยู่ตรงนี้? ไม่ว่าจะเป็นงานหรือการวิจัย ฉันก็แค่อยากรู้”
“นายกำลังพูดถึงฉันใช่ไหม?”
โจวเฉิงฟู่ตะลึงเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้คาดคิดว่าลู่โจวจะพูดแบบนั้นออกมา
ทั้งคู่ยืนอยู่ตรงนั้นสักพัก จากนั้น โจวเฉิงฟู่ก็เผยยิ้ม
“อ่า มันไม่สำคัญกับนายหรือไง? ไม่ใช่ว่าผู้นำที่ดีจะไม่รู้จักการเป็นคนดีสักหน่อย”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลู่โจวก็เผยยิ้ม
“ฉันไม่เคยคิดหรอกนะว่าตัวเองจะเป็นผู้นำแบบไหน สิ่งที่ฉันรับผิดชอบ ก็ต้องทำให้มันดีที่สุด ส่วนเรื่องอนาคต มันก็ต้องเป็นสิ่งที่ควรคิดเอาเอง ฉันคงไปคิดแทนใครไม่ได้หรอก”
…………………………………………