บทที่ 576 เค้กที่คาดไม่ถึง?
เฉินยู่ซานตกลงรับคำเชิญของลู่โจวโดยไม่ลังเล
หลังจากเธอได้รับข้อเสนอจากสตาร์สกายเทคโนโลยี เธอก็ไปเซี่ยงไฮ้ทันที
สตาร์สกายเทคโนโลยีสาขาจีนถูกจดทะเบียนที่นั่น จากที่งานลู่โจวค่อยๆ ถูกย้ายมาที่จีน ศูนย์ธุรกิจสตาร์สกายเทคโนโลยีก็จะย้ายจากฟิลาเดลเฟียมาที่เซี่ยงไฮ้
ลู่โจวเชื่อในความสามารถของเฉินยู่ซาน
โดยเฉพาะหลังจากที่เขาพบว่าเธอเป็นคนที่รับผิดชอบการจัดการสิทธิบัตรของสตาร์สกายเทคโนโลยีตั้งแต่แรก ดังนั้น เขาจึงมอบหมายงานพวกนี้ให้เธออย่างมั่นใจ
หลังจากที่ลู่โจวกลับไปจินหลิง เขาต้อนรับอาจารย์ใหญ่สวี่และย้ายของส่วนตัวไปที่ออฟฟิศแผนกคณิตศาสตร์
คลาสทฤษฎีตัวเลขจะเริ่มขึ้นในเดือนเมษายน
นอกจากนั้น เขาวางแผนที่จะดูแลนักศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอกในสาขาคอมพิวเตอร์และวัสดุเชิงคำนวณ ในอีกมุมหนึ่ง มันเป็นการลดภาระการวิจัย แล้วในอีกแง่หนึ่ง เขาจะใช้โอกาสนี้เพื่อช่วยสถาบันเก่าของเขาฝึกฝนอัจฉริยะที่มีความโดดเด่น
ระหว่างที่งานของลู่โจวค่อยๆ ปรับไปที่มหาวิทยาลัยจินหลิง การปรับโครงสร้างทีมโปรเจกต์เครื่องปฏิกรณ์สาธิต สตาร์-2 ในไห่โจวก็กำลังดำเนินการอย่างเป็นระเบียบ
สิ่งที่เซอร์ไพรซ์ลู่โจวคือ มันไม่ได้เกี่ยวกับแค่สมาพันธ์ศูนย์วิจัยตะวันออก แต่บริษัทอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ก็เกี่ยวข้องอย่างมาก
เฟิงชูฉิงรายงานให้ลู่โจวฟังผ่านโทรศัพท์
“…ในการที่จะเร่งโปรเจกต์กริดพลังงานข้ามภูมิภาคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทางรัฐต้องการแนะนำเงินทุนส่วนตัวที่จะมีส่วนร่วมในการก่อสร้างอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้โดยมันจะยังเป็นของรัฐ จากคำสั่งของเบื้องบน เราวางแผนที่จะไปยังสี่ธนาคารใหญ่ สามบริษัท น้ำมันใหญ่ และห้าบริษัทไฟฟ้าอันดับต้นในจีน เพื่อปันผลส่วนแบ่ง สองหมื่นล้านหยวน เราก็จะจัดแจงหุ้นสองหมื่นล้านหยวนสู่สาธารณะเพื่อเพิ่มเงิน”
ลู่โจวกำลังควงปากกาในมือและเขาขมวดคิ้วและถามว่า “มันปกติใช่ไหมที่จะใช้ทุนส่วนตัวกับบริษัทที่รัฐเป็นเจ้าของ?”
เฟิงชูฉิงยิ้มแล้วพูดตอบ “มันปกติมาก ตลาดหุ้นเป็นเป้าหมายระยะยาวของเรา นอกจากที่จะลดความสงสัยจากประเทศอื่น การแนะนำทุนส่วนตัวจะยังนำมาสู่ความเจริญในสังคมด้วย
นอกจากนี้ ส่วนแบ่งพวกนี้ยังไม่มีสิทธิ์ในการบริหารจัดการ วิธีการบริหารดำเนินการ การขยายบริษัท สิ่งพวกนี้ยังคงถูกบริหารโดยแผนกบริหารของบริษัท”
ลู่โจวพยักหน้าแล้วพูด “โอเค ผมเข้าใจแล้ว”
เฟิงชูฉิงตอบ “ใช่แล้ว ผมต้องแจ้งคุณเรื่องนี้ แต่หวังว่าคุณจะเก็บมันเป็นความลับได้สักพักนะ”
ลู่โจวตอบ “พวกคุณจะไม่ปล่อยส่วนแบ่งไปให้สาธารณะเหรอ?”
เฟิงชูฉิงกระแอมแล้วตอบไป “เราจะทำ…แต่เราไม่สามารถปล่อยให้ทุกคนซื้อได้ ถ้าข่าวออกไปตอนนี้ มันจะเพิ่มภาระงานให้กับพวกเรา”
ทุกคนอยากขึ้นรถไฟสร้างเงิน
เมื่อข่าวแพระกระจายไป มูลค่าตลาดหมื่นกว่าล้านจะถูกซื้อไปทันที
แม้ว่าลู่โจวไม่ได้ถามเกี่ยวกับความคืบหน้าเจาะจงของการปรับโครงสร้าง มันก็ยังทำให้เขาสนใจ
ท้ายที่สุดแล้ว มันคือนิวเคลียร์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้
บริษัทเดียวที่สามารถได้พลังงานฟิวชั่นอย่างน้อยไปอีกสิบปีคืออีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ อะไรมันจะดีกว่าการผูกขาดทางการค้าโดยสมบูรณ์ล่ะ?
จากความต้องการพลังงานอย่างมากของจีนและค่าใช้จ่ายที่ถูกของฟิวชั่นที่ควบคุมได้ มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเสียเงินจากการลงทุนนี้
เป็นเรื่องบังเอิญที่ลู่โจวไม่รู้ว่าเขาควรใช้เงินที่ไหน เขาเลยคิดจะใช้มันกับการก่อสร้างอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์นานาชาติ
หลังจากลู่โจววางสาย เขาเอนหลังที่เก้าอี้และคิดไปสักพัก เขาจึงโทรหาเฉินยู่ซาน
หลังจากที่ต่อสายสำเร็จ เขาถามทันที
“ตอนนี้ผมมีเงินมากแค่ไหน?”
เฉินยู่ซาน ซึ่งอยู่ที่ออฟฟิศเซี่ยงไฮ้ เกือบสำลัก เธอพูดว่า “นี่นายไม่รู้ว่าคุณมีเงินแค่ไหน?”
คนแบบนี้มีอยู่ด้วย?
ขี้อวดเสียจริง
ลู่โจวยิ้มประหม่าและพูดตอบ “ช่วงนี้ผมไม่ได้บริหารบริษัท ปีก่อนผมยุ่งมาก…คุณอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ไหม? ช่วยดูให้ผมที”
เฉินยู่ซานดูกองเอกสารบนโต๊ะเธอแล้วถอนหายใจ เธอรู้สึกปวดหัวทันที แต่เธอยังตอบกลับ “โอเค ฉันจะส่งรายงานการเงินให้”
ลู่โจวตอบ “โอเค ขอบคุณนะ”
เขาไม่ต้องรอนาน
เช้าวันต่อมา เฉินยู่ซานส่งรายงานการเงินเข้ากล่องจดหมายของลู่โจว
ลู่โจวเปิดอีเมลดูไฟล์ที่แนบมา
เขารู้สึกอึ้ง
ปีก่อน ธุรกิจทรัพย์สินทางปัญญาของสตาร์สกายเทคโนโลยีได้กำไรสุทธิ 470 ล้านดอลลาร์! เพิ่มขึ้นรายไปถึง 37.6%!
ถ้ามันถูกลิสต์ที่นาสแดค มันคงมีมูลค่าตลาดกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์
ลู่โจวมองดูรายงานการเงินฉบับนี้แล้วรู้สึกสะเทือนอารมณ์
เมื่อเพิ่มกำไรจากปีก่อนๆ มันมีเงิน 1.2 พันล้านดอลลาร์ในบัญชีบริษัท
เขากลายเป็นเศรษฐีพันล้านโดยไม่รู้ตัว
มันเป็นอีกรูปแบบของความรู้สึก
แน่นอนว่าทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สตาร์สกายเทคโนโลยีข้องเกี่ยวด้วย
นอกจากนั้น มันมีการร่วมมือกับเป่าเซิ่งกรุ๊ป บริษัทนิวเคลียร์แห่งชาติจีน แม่เหล็กตัวนำยวดยิ่ง SG-1 และระบบกู้คืนนิวตรอนลิเธียมเหลว แต่กำไรพวกนี้มันเล็กน้อย และมันมีขนาดน้อยกว่ากำไรที่เหลือ มันสามารถถูกเพิกเฉยได้เลย
ลู่โจวอ่านรายงานการเงินตั้งแต่ต้นจนจบแล้วคิดอยู่สักพัก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเฉินยู่ซาน
โทรศัพท์ดังอยู่สองครั้งแล้วต่อสายติด
เฉินยู่ซานถามทันที “นายอ่านรายงานการเงินแล้วเหรอ?”
ลู่โจวตอบ “ใช่ ผมอ่านแล้ว แล้วก็ผมมีอีกอย่างที่อยากให้คุณทำ”
เฉินยู่ซานตอบ “ได้สิ อะไรเหรอ? บอกฉันมา”
ลู่โจวตอบ “ทีมโปรเจกต์ สตาร์-2 กำลังปรับโครงสร้างอยู่ แล้วทีมบริหารกับเทคนิคที่มีความสามารถจะถูกรวมเข้ากับอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ ที่ถูกตั้งขึ้นใหม่จะรับผิดชอบเรื่องการเชื่อมต่อโครงข่ายกริดพลังงานฟิวชั่นระหว่างภูมิภาคระดับสากล…”
ลู่โจวอธิบายสถานการณ์ของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้โดยสังเขป เขานิ่งไปสักพักแล้วพูด “มันคงน่าเสียดาย ถ้าเราพลาดโอกาสนี้ไป”
ส่วนแบ่งของบริษัทเอกชนนั้นไม่สามารถหมุนเวียนในตลาดหุ้นได้ แต่มันมีความเป็นไปได้สูงว่าอีสต์ เอเชีย เอเนอร์จี้นั้นจะเปิดเผยสู่สาธารณะ
ถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้น ราคาหุ้นก็จะพุ่งสูงแน่นอน
และเมื่อเวลานั้นมาถึง แม้แต่เงินปันผลก็จะมีมูลค่าสูงมาก
ถึงลู่โจวจะไม่ได้ขาดแคลนเงิน แต่มันก็ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเงินมากเกินไป
ไม่ต้องพูดถึงว่า เขามีโปรเจกต์ราคาแพงหลายชิ้นที่กำลังดำเนินอยู่ เขาอาจจะมีไม่พอ
เฉินยู่ซานถาม “นายวางแผนจะซื้อเท่าไหร่?”
ลู่โจวคิดไปสักพัก
“ก็ซื้อไปก่อนสักพันล้านหยวน”
…………………………………………
บทที่ 577 ผู้ช่วยวิจัยทางวิทยาศาสตร์ (1)
หลังจากลู่โจวยื่นการได้กิจการมาด้วยหุ้นให้เฉินยู่ซาน เขาก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่ม เขากลับมาโฟกัสที่หน้าจอคอมพิวเตอร์
แม้แต่เฟิงชูฉิงจะรับผิดชอบการปรับโครงสร้างทีมโปรเจกต์ สตาร์-2 ในฐานะหัวหน้าดีไซเนอร์ของเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่น ความเห็นของเขาก็ยังสำคัญมาก
โดยเฉพาะเรื่องแผนของเขาสำหรับสมาพันธ์ศูนย์วิจัยตะวันตก
เบื้องบนแนะนำให้ศูนย์พัฒนาและวิจัยที่ก่อตั้งใหม่นั้นโฟกัสที่อวกาศ พลังงาน และเทคโนโลยีสารสนเทศ
ลู่โจววางแผนว่าจะโฟกัสไปในหนึ่งหรือสองสาขาจากทั้งหมดนี้
ยกตัวอย่างเช่น สำหรับด้านอวกาศ เขาวางแผนจะพัฒนาทรัสเตอร์พลาสมา
สาเหตุที่เขาเลือกทำสิ่งนี้มาจากส่วนหนึ่งที่ว่าการใช้งานเดบริส หมายเลข 3 นั้นยังคงเป็นปริศนา สาเหตุหลักคือบางส่วนของเทคโนโลยีฟิวชั่นที่ควบคุมได้สามารถปรับใช้กับการวิจัยทรัสเตอร์พลาสมา
มันก็เหมือนกับที่โปรเจกต์ไปดวงจันทร์อะพอลโลที่โปรโมตการพัฒนาเทคโนโลยีวงจรผสมกังหันไอน้ำ-ก๊าซ (GTCC) โดยทางอ้อม เทคโนโลยีขับเคลื่อนโดยพลาสมาก็เป็นส่วนที่แยกไม่ได้จากฟิวชั่นที่ควบคุมได้
สำหรับด้านพลังงาน ลู่โจววางแผนที่จะทำการวิจับฟิวชั่นที่ควบคุมได้ลึกลงไปอีกแล้วพัฒนาพลังงานฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นที่สอง ฟิวชั่นอิกนิชั่นโดยมีดิวเทอเรียมและฮีเลี่ยม-3 เป็นเชื้อเพลิง
แม้ว่าเทคโนโลยีประเภทนี้จะสำเร็จได้ยากในเวลาอันสั้น มันก็คุ้มค่าที่จะลงทุนในระยะยาว
สำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศ มันค่อนข้างอยู่นอกเหนือขอบเขตการวิจัยของลู่โจวเล็กน้อย
ถึงเขาจะได้อ่านตำราในเรื่องนี้จากภารกิจของระบบ แต่เขาก็ห่างไกลจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญ
แต่หลังจากที่ได้ตกผลึก ลู่โจวก็ตัดสินใจในที่สุด เขาเลือกชิปฐานคาร์บอนและคอมพิวเตอร์ควอนตัมเป็นส่วนหลักในโฟกัสงานวิจัย
สมาพันธ์ศูนย์วิจัยตะวันออกนั้นมุ่งเน้นที่โปรเจกต์ระยะกลางและระยะยาว ในฐานะผู้นำด้านวิชาการ ลู่โจวไม่ได้กังวลมากเรื่องการได้ผลลัพธ์เทคโนโลยีในระยะสั้น
การวิจัยทางวิทยาศาสตร์นั้นไม่เหมือนการปลูกต้นไม้ การลงทุนไม่ได้หมายถึงความสำเร็จเสมอไป
มันโอเคตราบใดที่เส้นทางเทคนั้นยังสามารถเป็นไปได้ในระยะยาวตามทฤษฎี
ลู่โจวเขียนแผนเสนอไปได้ครึ่งทาง เมื่อเขามองดูลิสต์รายชื่อยาวเหยียดบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และนั่งเอนหลังที่เก้าอี้
“นี่สี่ทุ่มแล้วเหรอ?”
เวลาผ่านไปหนึ่งวันโดยที่เขาไม่รู้ตัว
เนื่องจากเขาต้องไปมหาวิทยาลัยพรุ่งนี้ เขาเลยตัดสินใจที่จะไม่อยู่ดึก เขาไปแช่น้ำร้อนแล้วเอนตัวนอนที่เตียง
โดรนของเสี่ยวไอหยิบโทรศัพท์มาจากห้องทำงาน แล้วเอามาให้เขาถึงห้องนอน
ลู่โจวนอนไถเวยป๋อบนเตียง เขากดปุ่ม ‘ไลก์’ ให้กับความเห็นที่บอกว่าเขาหล่อ จากนั้นเขาหาวแล้วค่อยๆ หลับลง…
…
เช้าวันต่อมา
ลู่โจวตื่นเช้าแล้วทำธุระในห้องน้ำ หลังจากนั้น เขาใส่เสื้อโค้ตแล้วออกจากบ้าน
เมื่อเขากำลังเดินออกจากบ้าน รถสีดำที่มีธงชาติติดไว้จอดรอเขาอยู่
ลู่โจวนั่งหน้าสุดแล้วดูรอบๆ รถ เขาพูดขึ้น “ผมวางแผนว่าจะเปลี่ยนรถ”
หวังเผิงตอบ “คุณว่าแผนจะซื้อบีเอ็มดับบลิวหรือเมอร์ซิเดสเบนซ์เหรอ? ผมขับได้ทุกยี่ห้อ”
ลู่โจวตอบ “ผมยังไม่ได้ตัดสินใจเลย อาจจะเป็นรถไฟฟ้ามั้ง?”
เส้นทางจากเพอร์เพิลเมาน์เทนไปมหาวิทยาลัยจินหลิงนั้นไม่ไกลมาก
ทั้งสองพูดคุยกันเมื่อพวกเขามาถึงศูนย์ประชุมนานาชาติมหาวิทยาลัยจินหลิง
รถขับเข้าไปในวิทยาเขตแล้วจอดที่หน้าโรงอาหาร ลู่โจวปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วถาม “คุณทานอาหารเช้ายัง?”
“ผมกินไปแล้วก่อนจะมารับคุณ”
“โอเค งั้นผมไม่เก็บอาหารไว้ให้นะ”
หลังจากนั้นลู่โจวลงจากรถแล้วปิดประตู
หลังจากที่เขาไปซื้ออาหารเช้าในโรงอาหาร เขาก็พกนมถั่วเหลืองและขนมจีบเข้าอาคารคณิตศาสตร์และมุ่งตรงไปที่ออฟฟิศของตัวเอง
เขาเดินไปที่ประตูหน้าออฟฟิศแล้วกำลังจะหยิบกุญแจออกมา แต่เขาได้ยินใครบางคนพูดเบาๆ ในออฟฟิศ
ลู่โจวลังเลอยู่สักพักแล้วเคาะประตู
เขาได้ยินเสียงฝีเท้าจากหลังประตู
หลังจากนั้น ประตูออฟฟิศก็เปิดออก หญิงสาวที่มีหน้ามาและสวมแว่นทรงกลมมองเขาด้วยสีหน้าเซอร์ไพรซ์
“โอ้ ศาสตราจารย์ ทำไมคุณมาถึงเช้าจัง?”
ลู่โจวรู้สึกเซอร์ไพรซ์ยิ่งกว่าเธอ เขาถามเธอว่า “คุณเป็นใคร?”
หญิงสาวฉีกยิ้มแล้วพูดขึ้น “ฉัน จ้าวหวน ผู้ช่วยของคุณ”
ผู้ช่วย?
ลู่โจวมีสีหน้าแปลกประหลาด เมื่อเขามองเข้าไปข้างในออฟฟิศ เขาเห็นโต๊ะอีกสองตัว
เขาเห็นหญิงสาววัยยี่สิบปีนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่ง เธอมองเขาด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
“แล้วพวกนั้นล่ะ?”
จ้าวหวนตอบอย่างประหม่า “พวกนั้นเป็น…”
ลู่โจว “…”
หลังจากเธออธิบาย ลู่โจวก็มีเข้าใจผู้หญิงสามคนนี้คร่าวๆ
คนที่มีหน้าม้าชื่อว่าจ้าวหวน เธอรับผิดชอบในด้านการจัดการวิชาการ การประชุม และการเยี่ยมเยือนทางวิชาการเป็นหลัก คนที่ดูโตกว่าชื่อว่าขงเจี่ย เธอดูแลเรื่องการเขียนก๊อปปี้ พาวเวอร์พอยต์ และงานจิปาถะ ส่วนคนสุดท้ายนั้น เธอรับผิดชอบเรื่องการรับสายโทรศัพท์และวิ่งงานทั่วไป…
ทำไมถึงรู้สึกว่าเธอคุ้นหน้าจัง?
หลินอวี่เซียงโบกมือทักทายแล้วพูดว่า “สวัสดีค่า~”
ลู่โจว “…”
หลินอวี่เซียงพูดต่อ “อย่าเงียบไปสิ เราเคยสู้เคียงกายกันในงานวิชาการมาแล้ว”
เธอก็ทำแค่เอาอาหารมาให้ ทำไมถึงมั่นหน้าขนาดนี้?
………………………………………