หลังจากที่ลู่โจวออกจากห้องแล็บใต้ดิน เขาตรงไปที่อาคารสถาบันวัสดุเชิงคำนวณแล้วเจอกับยางสวี่และทีมของเขาภายในห้องแล็บทดสอบแบตเตอรี่
เมื่อเขามาถึง ยางสวี่เพิ่งทำการทดลองสำเร็จไปชุดหนึ่งและกำลังบันทึกผลของการทดลอง
ลู่โจวไม่ได้รบกวนทีมของยางสวี่ เขาให้ทีมทำงานเสร็จแล้วเรียกยางสวี่ไปคุยด้วย จากนั้นเขาให้กล่องตัวอย่างไป
“ช่วยผมวิเคราะห์ส่วนประกอบให้ผมหน่อย”
“โอเค” ยางสวี่ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม เขามองดูกล่องขนาดหัวแม่มือแล้วถาม “มันเร่งด่วนไหม?”
ลู่โจวตอบ “ไม่ต้องรีบ เอามาให้ผมภายในสามวันนะ”
“โอเคครับ” ยางสวี่เอากล่องตัวอย่างใส่เสื้อโค้ตแล้วถามต่อ “คุณมีความต้องการอะไรเป็นพิเศษไหม?”
ลู่โจวพูดต่อ “การตรวจสอบจุดพีคของคุณสมบัติสเปคตรัมอินฟราเรดและกล้องจุลทรรศน์อิเลคตรอนแบบส่งต่อ… ตอนนี้มีแค่สองอย่างนี้”
ยางสวี่ตอบ “ไม่มีปัญหา ผมจัดการให้คุณได้ช้าสุดมะรืนนี้เลย”
“โอเค ขอบคุณครับ” ลู่โจวพยักหน้าและมองดูเครื่องตรวจจับแบตเตอรี่ที่อยู่ข้างเขา จากนั้นเขาถามต่อ “อ่า แล้วพวกคุณเป็นยังไงบ้าง?”
ยางสวี่ตอบพร้อมรอยยิ้ม “พวกเรากำลังพัฒนาวัสดุแคโทดของแบตเตอรี่ลิเธียม-ซัลเฟอร์ พวกเราแทนที่สารนำผ่านรูเปิดและพยายามปรับขนาดของวัสดุ HCS-2 ข้อมูลที่มีจำกัดนั้นดูเหมือนจะบ่งชี้ว่า HCS-2 สามารถพัฒนาไปได้อีก อัตราที่สารประกอบโพลี่ซัลไฟด์ละลายเป็นอิเลคโทรไลต์ในวัสดุอิเลคโทรไลต์ขั้วลบสามารถเพิ่มอายุแบตเตอรี่…เรากำลังพยายามจะยืนยันสิ่งนี้”
ลู่โจวยิ้มและพูดว่า “ดูเป็นโปรเจกต์ที่มีแววน่าสนใจ…อ่อ ขอถามอะไรคุณหน่อย คุณพอรู้เรื่องหุ่นยนต์ไหม?”
ยางสวี่มองลู่โจวด้วยสีหน้าฉงน เขาไม่รู้ว่าลู่โจวถามทำไม
“หุ่นยนต์? ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้?”
ลู่โจวตอบ “ผมต้องการเอามันไปทดลอง ผมว่าจะซื้อหุ่นยนต์จำนวนหนึ่งสำหรับการวิจัย ถ้าคุณไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ผมค่อยถามคนอื่น”
“หุ่นยนต์…ผมไม่ค่อยรู้เรื่องหุ่นยนต์มากนัก” ยางสวี่ลูบคางและพูดว่า “แต่ผมมีเพื่อนที่ถนัดด้านนี้อยู่”
ลู่โจวถาม “จาก MIT?”
“ไม่ได้มาจาก MIT เขาเป็นเพื่อนสมัยที่ผมเรียนปริญญาตรี เขาเรียนเอกเกี่ยวกับวัสดุ แล้วย้ายไปเอกเครื่องกลอัตโนมัติ เขาเดินตามรอยอาจารย์แล้วไปต่อด้านหุ่นยนต์ ผมจำตอนรวมรุ่นได้ เขาพยายามขายหุ่นยนต์ที่โรงงานเขาผลิตอยู่ เขาหัวเราะแล้วบอกสถาบันการศึกษาขั้นสูงไม่ใช่โรงงาน และบอกว่าพวกเราไม่ต้องการของแบบนี้”
ยางสวี่ยิ้มแล้วพูดเสริม “โรงงานของเขาอยู่ในจินหลิง ถ้าคุณสนใจ ผมสามารถแนะนำให้คุณรู้จักได้?”
ลู่โจวตอบ “แค่ให้นามบัตรผมก็ได้”
ยางสวี่พูด “โอเค ผมน่าจะมีอยู่หนึ่งใบในออฟฟิศ เดี๋ยวผมไปหยิบมาให้
…
เพื่อนของยางสวี่มีชื่อว่าจ้าวจงชู
ถึงแม้ว่ามันจะหยาบคายมากที่ล้อชื่อคนอื่น ลู่โจวเกือบหลุดหัวเราะเสียงดัง เมื่อเขาเห็นนามบัตรใบนี้
แต่ถึงชื่อของเขาจะดูเพี้ยนไปหน่อย คนคนนี้ก็สุดโต่งอีกด้วย
จากที่ยางสวี่บอก ชายคนนี้เคยเรียนเอกวัสดุ แต่หลังจากจบปริญญาตรี เขาก็เปลี่ยนสายอาชีพ ย้ายมาจากสายวัสดุแล้วตามอาจารย์ที่ปรึกษาไปที่สายหุ่นยนต์
ก่อนช่วงปี 2010 ศาสตร์ด้านหุ่นยนต์ไม่ได้รับความนิยมมากนัก โรงงานของหัวหน้าเขารับผิดชอบการนำเข้าอุปกรณ์และขายให้โลจิสติกส์กับโรงงานประกอบในจีนเป็นหลัก
ตอนนั้น เขาอยู่ในยุคที่เรียกว่า ‘เศรษฐกิจที่แท้จริง’ มันไม่ได้ทำให้เขารวย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาจน เขาก็แค่เดินเตร่ตามโรงงานและก็รับค่าจ้าง
แต่ในปี 2015 มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ในตอนนั้น หนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ของชาติคือการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อที่จะตามให้ทันแผนการผลิตปี 2025 ของจีน และด้านหุ่นยนต์อุตสาหกรรมนั้นเป็นส่วนสำคัญของเรื่องนี้ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ได้รับเงินทุนสนับสนุนหลายพันล้าน เหมือนกับอุตสาหกรรมโฟโต้วอลเทอิค เงินและการสนับสนุนจากรัฐก็ถล่มเข้ามาเยอะ
ในตอนนั้น เขายังทำวิจัยหลังปริญญาเอกและเห็นโอกาสในการทำเงิน
หลังจากได้พิจารณา เขาทิ้งความปรารถนาที่จะอยู่ในสายวิชาการและตั้งบริษัทกับเพื่อนของเขา
และผลลัพธ์นั้นไปไกลเกินกว่าที่เขาหวังไว้
ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปี ซึ่งภายในห้าปี เขาสามารถทำให้บริษัทขนาดเล็กโตขึ้นเป็นขนาดที่ใหญ่ขึ้น
เอาตามตรงแล้ว จ้าวจงชูก็เซอร์ไพรซ์กับความสำเร็จของตัวเอง
ท้ายที่สุดแล้ว เขาแค่ตั้งบริษัทจากคนไม่กี่คน…
ย่านชานเมืองจินหลิง
ภายในโรงงานที่สว่างและกว้างขวาง
แขนหุ่นยนต์หลายประเภทนั้นถูกวางแสดงไว้ทั้งสองด้านของทางเดิน แขนขนาดใหญ่นั้นสูงเท่าประมาณคนสามคน แขนขนาดเล็กก็มีขนาดยาวเท่ากับแขนคน มันยังมีอุปกรณ์กำกวมอื่นๆ และอุปกรณ์เครื่องจักรหลายรูปแบบ ซึ่งติดไว้กับแขนหุ่นยนต์
เมื่อดูตัวอักษรที่อยู่ด้านข้างเครื่องจักร มันดูไม่เหมือนว่าหุ่นยนต์พวกนี้ถูกผลิตที่โรงงานนี้ แต่อย่างน้อยที่สุด ครึ่งหนึ่งของพวกนั้นถูกนำเข้ามา
ในฐานะผู้กำกับโรงงาน จ้าวเดินนำลู่โจวในโรงงาน ลู่โจวมองดูรอบๆ โรงงานแล้วถามว่า “คุณขายโมเดลไหนบ้างที่นี่?”
จ้าวจงชูยิ้มและพูดตอบ “เราขายโมเดลหลายแบบเลย มีทั้งหุ่นยนต์หลายข้อต่อขนาดเล็ก หุ่นยนต์หลายข้อต่อระนาบตั้งซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม แล้วก็มีหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักประมาณ 1.35 ตัน มีอุปกรณ์บางชิ้นที่นำเข้ามาอย่าง หุ่นยนต์อัจฉริยะ ABB และ YuMi รวมไปถึง iiwa ของ KUKA แต่เครื่องจักรพวกนี้ยังไม่มีในสต๊อก คุณจะต้องสั่งล่วงหน้า”
ลู่โจวถาม “มีอะไรดีๆ แนะนำไหมครับ?”
จ้างจงชูตอบ “มันขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการหุ่นยนต์สำหรับอะไร”
ลู่โจวตอบ “เพื่อทำการทดลอง”
“การทดลอง?” จ้าวจงชูตัวแข็ง เขาคิดว่าเขาฟังพลาด เขาเลยถาม “ใช้หุ่นยนต์ทำการทดลอง?”
ลู่โจวถาม “มันเป็นไปไม่ได้เหรอ?”
จ้างจงชูยิ้มและพูดขึ้น “มันเป็นไปได้…แต่มันขึ้นอยู่กับว่าคุณทดลองอะไร ถ้าคุณทำงานกับอุปกรณ์แม่นยำและงานละเอียดอ่อน ผมเกรงว่าความแม่นยำจะเป็นปัญหา”
ลู่โจวถาม “ผมขอถ่ายรูปได้ไหม?”
จ้างจงชูพูดพร้อมรอยยิ้มเบิกบาน “ถ่ายได้เลย ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ผมหวังว่าศาสตราจารย์ลู่จะช่วยแนะนำให้เรารู้จักลูกค้ารายใหญ่”
เอาจริงแล้ว เขาไม่คาดหวังว่าลู่โจวจะซื้อของเยอะ ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าหุ่นยนต์จะดูต๊องแค่ไหน พวกนั้นจะสามารถทำงานกายภาพที่ไม่ต้องใช้แรงสมองเยอะ ไม่มีทางที่หุ่นยนต์จะแทนที่นักวิจัยมือสมัครเล่นได้
แต่อุตสาหกรรมมักเกี่ยวข้องและเชื่อมต่อกับโลกวิชาการ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาอยากจะช่วยลู่โจว เขาอยากได้เส้นสายด้านอุตสาหกรรมของลู่โจว
ลู่โจวหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปโรงงานจำนวนหนึ่ง จากนั้นเขาเปิดโทรศัพท์และส่งรูปให้เสี่ยวไอ
เขาไม่รู้เกี่ยวกับหุ่นยนต์มากนัก แทนที่เขาจะเลือกพวกมันด้วยตัวเอง เขากลับให้เสี่ยวไอเป็นคนเลือก
หลังจากที่ส่งรูปไป เขาก็เพิ่มข้อความส่งไปอย่างใจดีเช่นกัน
[ชอบอันไหนล่ะ?]
จากนั้นสักพัก มีข้อความเด้งขึ้นมา
เสี่ยวไอ: [นี่ไม่ใช่ร่างกายที่ฉันต้องการ o(╥_╥)o]
ลู่โจว “…”
ก็เธอไม่ได้บอกว่าต้องการร่างกายแบบไหน!
ผมไม่คิดว่าเจ้านี่จะเรื่องมาก
ลู่โจวถอนหายใจและตอบกลับไป
[ทั้งหมดมีแค่นี้ล่ะ]
เทคโนโลยีของโลกมันหลังเขา ขอโทษด้วย
เสี่ยวไอ: [ฉันไม่อยากคุยกับคุณ.jpg]
ลู่โจว ???
เมื่อจ้าวจงชูเห็นที่ลู่โจวจ้องมองโทรศัพท์ เขาเลยถาม “ถ้าคุณตัดสินใจไม่ได้ ผมแนะนำให้ได้นะ”
ลู่โจวปากกระตุกในขณะที่เขายังจ้องหน้าจอโทรศัพท์
“ไม่จำเป็น ขอเวลาผมหน่อย”
ถึงจ้างจงชูสับสน เขาก็พยักหน้าไป
“โอเคครับ”
เชิงอรรถ:
Ch 581 ดอลลาร์ เชิงอรรถ 1 ดอลลาร์
จ้างจงชูฟังดูเหมือนว่ากำลังจะปลูกต้นไม้ในภาษาจีน
…………………………………………