นครปักกิ่ง ในห้องประชุม
มีคนจำนวนมากนั่งอยู่ในห้องประชุมนี้ มีเจ้าหน้าที่หลายคนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่ทหารที่มีเหรียญประดับหน้าอก นักวิชาการจากสถาบันวิศวกรรม รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการบินและอวกาศ
ข้อมูลการประชุมหนาหนึ่งนิ้วถูกยื่นให้แต่ละคน
หน้าปกเอกสารการประชุมมีชื่อหัวข้อดังนี้
[โอกาสการใช้งานและความเป็นไปได้ทางเทคนิคของเทคโนโลยีย่อขนาดฟิวชั่นที่ควบคุมได้ในด้านการบินและอวกาศ]
ธีสิสนี้มีข้อมูลจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับการใช้เครื่องปฏิกรณ์ที่ควบคุมได้ขนาดย่อส่วนรวมไปถึงทรัสเตอร์เอฟเฟคต์ฮอลล์ในด้านการบินและอวกาศ มันยังมีการคำนวณที่เคร่งครัดซึ่งสาธิตความเป็นไปได้
แต่การโต้แย้งของความเป็นไปได้นั้นเป็นความเห็นส่วนตัว
นอกจากนี้มันเป็นแนวคิดที่ล้ำมาก
“ไร้สาระที่สุด!”
นักวิชาการอู๋เหวี่ยงธีสิสในมือลงแล้วส่ายหัว เขาพูดอย่างไม่สุภาพ “แค่ดูที่แรงดลเฉพาะอย่างเดียว ทรัสเตอร์ไอออนนั้นแข็งแรงกว่าทรัสเตอร์เคมีแน่นอน แต่ว่ามันก็มีจุดอ่อน!”
“เมื่อไม่สนใจอย่างอื่น แม้แต่เครื่องยนต์ไอออน VX-200SS ที่เราได้ทดสอบเมื่อปีก่อนได้แค่ 200KW แล้วทรัสต์ทั้งหมดอยู่ที่เพียง 5N! ถึงแม้เราจะคูณสิ่งนี้ไปร้อยเท่า พันเท่า มันก็ไม่มีทางที่เราจะใช้พลังนี้ที่จะส่งยานอวกาศไปวงโคจรต่ำของโลก! เราจะส่งไข่ไปอวกาศด้วยพลังแค่นี้ไม่ได้หรอก!”
“ผมคิดว่าคนที่เขียนธีสิสนี้เสียสติไปแล้ว!”
“หมูคงจะบินได้ก่อนสิ่งนี้จะสามารถส่งดาวเทียมขึ้นอวกาศไปได้!”
ตอนที่ผู้เฒ่าอู๋พูด บรรยากาศในห้องประชุมนั้นอึดอัด
แต่นี่ก็เป็นปกติของนักวิทยาศาสตร์อายุมาก
แต่ทำไมเขาต้องเปรียบเทียบมันกับ…
หมูบิน?
ทีมผู้นำจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทนต่อไปไม่ไหว แต่ประธานไม่ได้ติดใจอะไร เขาพูดอย่างครุ่นคิดว่า “มันแก้ไขไม่ได้เหรอ?”
นักวิชาการอู๋ส่ายหัวแล้วพูดว่า “แก้ไม่ได้!”
สำหรับการลดขนาดฟิวชั่นที่ควบคุมได้ เขาไม่ได้เชี่ยวชาญในด้านนี้ เขาเลยไม่อยากให้ความเห็นมาก
ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะนำเทคโนโลยีประเภทไหนมาให้
ในตอนแรก แบตเตอรี่นิวเคลียร์ฟิชชั่นนั้นมีขนาดเท่าบ้าน ไม่มีใครหวังว่าจะใส่มันเข้าไปในยานอวกาศ
แต่ในเวลาไม่กี่ปี ประมาณช่วงยุค 1970 ปัญหาการลดขนาดก็ถูกแก้ไขได้ สำหรับตอนนี้ แบตเตอรี่ที่ขนาดเล็กที่สุดก็มีขนาดเล็กเท่ากับเหรียญ
แต่เครื่องปฏิกรณ์สาธิตที่ไห่โจวมีอายุแค่สามเดือน การวางแผนที่จะนำเครื่องปฏิกรณ์ใส่ยานอวกาศตอนนี้เป็นเรื่องน่าขำขัน
เมื่อเหรินจ่างหมิงได้ยินธีสิสถูกตำหนิ เขาก็มีสีหน้าอึดอัด และเขาพยายามแก้ไขสถานการณ์
“ไอเดียที่นำเสนอในธีสิสนี้ก็พอดูมีความหวัง ผมเห็นด้วยว่ามันยากมากจริงๆ ที่จะได้เทคโนโลยีนี้ที่ถูกกล่าวถึงในธีสิส แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ถูกไหม?”
“คุณห่างหายจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ไปนาน ผมจะไม่โต้เถียงกับคนทั่วไป” นักวิชาการอู๋โบกมือแล้วชี้ไปที่ธีสิสในขณะที่เขาพูด “ใครเขียนธีสิสชิ้นนี้? หาคนนั้นให้เจอ ผมจะต้องคุยกับเขาหน่อย!”
เหรินจ่างหมิงไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร
ทีมหัวหน้ากระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีส่งสายตาแลกเปลี่ยนกับสวี่หยวนหมิง เขากระแอมแล้วพูดว่า “หัวหน้านักออกแบบเขียนมัน”
ห้องประชุมเงียบไปครู่หนึ่ง
ความเงียบนี้น่ากลัว
ผู้เฒ่าอู๋มีสีหน้าอึดอัดแล้วหยิบธีสิสขึ้นมาอีกครั้ง
“ขอผมอ่านอีกรอบนะ”
หลังจากนั้นสักพัก เขาก็ตระหนักอะไรบางอย่างได้ เขาเริ่มพึมพำเกี่ยวกับการลดขนาดเครื่องฟิวชั่นที่ควบคุมได้
“อืม ผมน่าจะพลาดบางจุดไป เรื่องของทรัสเตอร์ไอออนก็คือความแข็งแรงขอทรัสต์ขึ้นอยู่กับพลัง แบตเตอรี่ปกติไม่สามารถให้พลังนี้ได้ พลังงานไฟฟ้าเป็นคอขวด แต่กับแบตเตอรี่ฟิวชั่น มันน่าจะเป็นไปได้ ผมไม่รู้…”
สวี่หยวนหมิง “…”
ทุกคนในห้องประชุม “…”
ทุกโปรเจกต์ที่ถูกเสนอไปจะต้องถูกรีวิวโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ถึงแม้ว่าผู้เสนอจะเป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลและเหรียญหลิงหยุน
แต่มันยากที่จะหาคนรีวิวข้อเสนอวิจัยที่เขียนโดยนักวิชาการเบอร์ใหญ่อย่างลู่โจว
ขอบเขตและระดับในชุมชนวิชาการนั้นชัดเจน ไม่มีใครอยากจะให้ความอย่างสาธารณะกับคนที่มีสถานะวิชาการและศักดิ์ศรีมากกว่าตัวเอง
เพราะว่าพวกเขากังวลว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น พวกเขาเลยจงใจเอาชื่อลู่โจวออกจากธีสิส
แต่ไม่มีใครคิดว่านักวิชาการอู๋ อดีตหัวหน้าดีไซเนอร์โปรเจกต์สำรวจดวงจันทร์ ก้มหัวลงทันทีหลังจากได้ยินชื่อศาสตราจารย์ลู่
แต่เมื่อดูจากปฏิกิริยาก่อนหน้า เทคโนโลยี้นี้ได้มายากแน่นอน
ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่มีปฏิกิริยาที่รุนแรงแบบนี้
ทันใดนั้น ชายที่มีอินทรธนูบนไหล่พูดอย่างใจเย็น
“ขอผมแสดงความเห็นนะ?”
ประธานตอบ “เชิญครับ”
ชายคนนี้เงียบไปสักพักแล้วพูดว่า “ผมไม่รู้เรื่องอุตสาหกรรมอวกาศมากนัก ผมเลยจะไม่ให้ความเห็นด้านนั้น แต่ถึงเราจะไม่ได้พิจารณาทรัสเตอร์เอฟเฟคต์ฮอลล์และทรัสเตอร์ไอออน การลดขนาดฟิวชั่นที่ควบคุมได้ก็จำเป็น
“จากธีสิสฉบับนี้ ถ้าเทคโนโลยีลดขนาดฟิวชั่นที่ควบคุมได้สามารถประดิษฐ์ได้จริง การใช้งานของมันก็จะไม่ได้อยู่แค่ในด้านการบินและอวกาศ มันสามารถใช้งานได้กับเรือดำน้ำและเรือบรรทุกอากาศยานของเรา”
ผู้คนจำนวนมากที่นั่งรอบโต๊ะมีสีหน้าที่ดูจริงจัง
ประธานนิ่งไปชั่วครู่แล้วพยักหน้า
“คุณพูดถูก ไม่ว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถได้มาหรือไม่ ไม่ว่าการใช้งานในอวกาศจะเป็นแบบไหน โปรเจกต์นี้ก็คุ้มที่จะลองดู”
เขาหยุดนิ่งไปชั่วครู่แล้วหยิบปากกาหมึกซึมขึ้นมา เขาเขียนลงเอกสารการประชุมช้าๆ
“อนุมัติโปรเจกต์”
เขาคิดอยู่สักพักแล้วรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอ เขาจึงเขียนอีกบรรทัด
“หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องให้ความร่วมมือเต็มที่”
ประธานมองดูสองประโยคนี้แล้วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
แต่เขานึกอะไรบางอย่างออกกะทันหัน เขาเลยพูดขึ้น
“อ่อ ถามศาสตราจารย์ลู่หน่อย ถ้าเขาไม่ติดอะไร เราควรตีพิมพ์ธีสิสนี้”
เขายิ้มแล้วพูดว่า “เราได้โยนระเบิดควันใส่อเมริกาไปแล้ว เราน่าจะให้พวกนั้นรู้ว่าเรากำลังทำงาน”
…
มหาวิทยาลัยจินหลิง
ห้องเลคเชอร์ หมายเลข 1
หลังจากที่กระดิ่งห้องเรียนดัง ลู่โจวปิดหนังสือเรียนในมือแล้วหันตัวไปก่อนที่จะเดินออกจากห้องเรียน
นับตั้งแต่ที่คลาสทฤษฎีตัวเลขเริ่มขึ้น เลคเชอร์ของเขาเก็บเต็มไปด้วยนักศึกษาทั้งห้อง ไม่เพียงแต่ว่าจะมีนักศึกษาปริญญาตรีจากคลาสอื่นที่เข้าร่วมคลาสนี้ แล้วยังมีนักศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอก รวมไปถึงศาสตราจารย์คณิตศาสตร์ก็มาร่วมฟังเป็นครั้งคราว
สำหรับลู่โจว เขาชอบพูดคุยเรื่องปัญหากับนักศึกษาเหล่านี้
การคิดเรื่องปัญหาพื้นฐานนั้นเป็นการพักผ่อนสมองในฉบับของเขา
หลังจากการสอนเสร็จสิ้น ถ้าเขาไม่ได้ยุ่ง เขาก็จะใช้เวลายี่สิบนาทีถึงครึ่งชั่วโมงในเวลาสอนเพื่อตอบคำถามของนักศึกษา
น่าเสียดายที่เขาต้องเข้าร่วมการประชุมเรื่องการลดขนาดฟิวชั่นที่ควบคุมได้วันนี้ เขาจึงไม่มีเวลาตอบคำถามหลังคลาส
ลู่โจวเดินไปทางอาคารวิจัยคณิตศาสตร์ก่อนที่จะกลับไปสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงกะทันหัน เขาอยากเอาหนังสือเรียนไปเก็บที่ออฟฟิศและช่วยนักศึกษาระดับบัณฑิตของเขา
แต่โทรศัพท์ในกระเป๋าเริ่มดังขึ้นกะทันหัน
ลู่โจวหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วพบว่ายางสวี่โทรหาเขา เขารับสายโทรศัพท์แล้วเอามันมาแนบหู
“สวัสดีครับ?”
ยางสวี่พูดขึ้น “มีชายชราที่อ้างว่าเป็นนักวิชาการจากแผนกวิศวกรรมจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน…คุณรู้จักเขาไหม?”
เขาอยู่ที่นี่แล้ว?
เมื่อลู่โจวได้ยินว่านักวิชาการมาถึงแล้ว เขาก็มีสีหน้าประหลาด การประชุมตอนห้าโมง และเขาคิดว่าผู้เชี่ยวชาญที่เขาเชิญมาจะมาถึงตอนสี่โมงครึ่ง เขาไม่คิดว่าชายชราคนนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้
ดูเหมือนว่าเขาไม่มีเวลาจะไปอาคารวิจัยคณิตศาสตร์
“ผมเชิญเขามา พาเขาไปห้องประชุม C1 ที่สถาบันฟิสิกส์”
ยางสวี่ตอบ “โอเค”
ลู่โจววางสายแล้วเปิดรายชื่อผู้ติดต่อ จากนั้นเขาโทรหาหวังเผิง
“ตอนนี้คุณอยู่ไหน?”
หวังเผิงตอบ “ใกล้ทางเข้ามหาวิทยาลัย คุณต้องการให้ไปรับไหม?”
ลู่โจว “ครับ มาหาผมที่อาคารเรียน”
……………………………………………………………