“เมิ่งฉี?”
เมื่อเฉินยู่ซานเห็นลูกพี่ลูกน้องเธออยู่ที่นี่ ตาของเธอเกิดประกายขึ้น เธอเดินไปหาในทันที “ช่างบังเอิญจัง มาที่นี่เหมือนกันเหรอ?”
หานเมิ่งฉีพยักหน้า “อืม…ฉันกำลังศึกษาปริญญาโทกับศาสตราจารย์ลู่โจว ฉันเลยมาที่นี่”
เฉินยู่ซานจับมือลูกพี่ลูกน้องของเธอแล้วมองดูเธอในขณะที่พูดอย่างสะเทือนอารมณ์ “เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ ยังรู้สึกว่าเมื่อวานเธอเรียนมัธยมอยู่เลย แต่ตอนนี้เธอเป็นบัณฑิตแล้ว แล้วก็เธอชอบมัดผมแกละสองข้างใช่ไหม? ทำไมถึงเปลี่ยนมามัดผมหางม้าล่ะ?”
หานเมิ่งฉีแตะผมตัวเองแล้วพูดว่า “แบบนี้มันดูโตกว่า…”
ลู่โจวมองดูที่พี่น้องสองคนนี้แล้วกระแอม “ทำไมจู่ๆ ก็มาที่นี่ล่ะ? คุณไม่ได้บอกเลยว่าคุณจะมา”
“คุณยุ่งเกินไป” เฉินยู่ซานกลอกตาและพูดว่า “ฉันมาทำธุระที่มณฑลเจียงซูสองสามวัน ฉันเลยมาเยี่ยมคุณที่นี่ แล้วอีกอย่าง ฉันจะได้รายงานคุณเกี่ยวกับงานที่ได้ทำอยู่”
ลู่โจวถาม “รายงาน?”
เฉินยู่ซานกะพริบตาและถามว่า “คุณลืมแล้ว?”
ลู่โจวพูดตอบ “ลืมอะไรเหรอ?”
“มันไม่เหมาที่จะพูดถึงมันที่นี่ ในเมื่อมันเป็นโอกาสพิเศษ ขอเลี้ยงน้ำสักหน่อยได้ไหม?” เฉินยู่ซานมองดูญาติของเธอและพูดขึ้น “เมิ่งฉี ไปด้วยกันไหม?”
เมิ่งฉีพยักหน้าทันที ในเวลาต่อมา เธอถามเสียงเบาว่า “พวกพี่จะไปคุยเรื่องธุรกิจกันใช่ไหม? ฉันจะไม่รบกวนเหรอ?”
เฉินยู่ซานยิ้มและพูดว่า “มันแค่ไม่เหมาะที่จะพูดในที่สาธารณะ แต่มันไม่ใช่ความลับ…แน่นอนว่ามันขึ้นอยู่กับศาสตราจารย์ลู่ติดไหม”
“ผมไม่ติดเลย” ลู่โจวยิ้มแล้วพูดอย่างเฉยเมย “คุณสองคนไม่ได้เจอหน้ากันมานานใช่ไหม? ไปด้วยกันหมดนี่แหละ”
…
ที่ย่านค้าขายใกล้มหาวิทยาลัย ภายในร้านคาเฟ่
ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าอยู่ แล้วก็วันนี้เป็นวันทำงาน จึงไม่ค่อยมีคนมาที่นี่มาก
ลู่โจวเจอที่นั่งริมหน้าต่าง จากนั้นเขาก็สั่งมอคค่าร้อนแล้วนั่งเอนหลังที่เก้าอี้ เขามองดูการประดับตกแต่งในคาเฟ่
เขาค่อนข้างรู้สึกหวนถึงความหลัง เพราะเขารับงานสอนพิเศษครั้งแรกที่นี่ มันก็ผ่านมาหกปีแล้ว แล้วเขาเริ่มจากนักศึกษาไปเป็นนักวิชาการชื่อดัง แต่ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็ไม่เปลี่ยนไปเลย
“คาปูชิโน่เย็นกับอเมริกาโนเย็น”
เฉินยู่ซานช่วยลูกพี่ลูกน้องสั่งกาแฟและคืนเมนูให้บริกรด้วยความสุภาพ
ลู่โจวมองดูบริกรหยิบเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ จากนั้นเขาจิบมอคค่าก่อนมองเฉินยู่ซานแล้วถามว่า “คุณบอกผมได้ยัง?”
“มันเป็นเรื่องหุ้นอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้”
เมื่อลู่โจวได้ยินชื่อ “อีสต์เอเชียเอเนอร์จี้” เขาก็นึกถึงประเด็นได้ในทันที
“อ่อ คุณซื้อมาแล้ว?”
“ใช่ ช่วงไม่กี่วันนี้ฉันยุ่งกับเรื่องนี้ล่ะ”
ลู่โจวพยักหน้าแล้วถาม
“คุณซื้อไปมากเท่าไหร่?”
เฉินยู่ซานพูดตอบ “ตามที่คุณบอก พันล้านดอลลาร์”
“ห้ะ!”
เมื่อลู่โจวได้บยินคำว่าดอลลาร์ เขาแทบจะพ่นกาแฟออกมา
เฉินยู่ซานมองดูเขาสำลักแล้วยิ้มเยาะในขณะที่เธอพูดต่อ “ฉันได้ศึกษาหนังสือชี้ชวนของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้อย่างละเอียด จุดประสงค์หลักของการระดมทุนนี้คือการก่อสร้างกริดพลังงานข้ามภูมิภาคในด้านตะวันตกเฉียงใต้และโปรเจกต์เครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นใหม่ในดาย่าเบย์ ความจุที่คาดหวังของโปรเจกต์นี้สูงถึง 100,000 MW ภายในหนึ่งปี เครื่องปฏิกรณ์ฟิชชั่นเก่าและเครื่องผลิตไฟฟ้าอื่นจะค่อยๆ ถูกแทนที่ อีสต์เอเชียเอเนอร์จี้จะจ่ายพลังงานให้ฮ่องกง มาเก๊า กวางตุ้ง และพื้นที่อื่น
จากประสบการณ์ของฉัน การลงทุนประเทศนี้ได้กำไรสูง ความเสี่ยงต่ำ คุณสบายใจได้เลย! ถ้าชายที่ชื่อเฝิงไม่ดื้อดึงขนาดนี้ ฉันคงเจอธนาคารที่จะยืมเงินอีกร้อยล้านเพื่อไปซื้อหุ้นเพิ่ม”
ไม่ไหว พวกนี้มันผูกขาด มันกำไรสูง ความเสี่ยงต่ำอยู่แล้ว
ลู่โจวเช็ดกาแฟออกจากคางแล้วพูดต่อ “พันล้านดอลลาร์…มันเกือบตั้ง 7 ล้านหยวน ไม่มากไปเหรอ?”
7 พันล้าน…
หุ้นสาธารณะทั้งหมดนั้นแค่ 2 หมื่นล้านหยวน!
ลู่โจวกินพายไปหนึ่งในสามชิ้นด้วยตัวคนเดียว เขากังวลว่ามันอาจจะมีปัญหา
เฉินยู่ซานกะพริบตาแล้วถาม “มันเยอะใช่ไหม?”
ลู่โจว “…”
เมื่อเห็นว่าลู่โจวพูดไม่ออก เฉินยู่ซานยิ้มและพูดว่า “ใจเย็น ใจเย็นก่อน ฉันรู้ว่าคุณกังวลเรื่องอะไร ก่อนที่จะติดต่ออีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ ฉันได้หารือกับพ่อแล้ว เขาบอกว่าตราบใดที่เงินนั้นสะอาด มันก็ไม่มีปัญหาที่จะลงทุนตามปกติแบบคนอื่น ลองคิดดูนะ ถ้ามันมีปัญหา เฟิงชูฉิงคงไม่อนุมัติมัน”
ลู่โจวอดที่จะพูดไม่ได้ว่า “ใครจะไปรู้ว่าเฟิงชูฉิงจะทำอะไร…”
เฉินยู่ซานพูดว่า “ในทางเทคนิค เขาเป็นลูกน้องคุณ คุณรู้อะไรเกี่ยวกับลูกน้องตัวเองบ้างไหม?”
ลู่โจวตอบ “ผมไม่สนใจ”
ถึงแม้ว่าในทางเทคนิคเฟิงชูฉิงเป็นผู้รองบัญชาการทีมโปรเจกต์ เขารายงานโดยตรงต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาล ดังนั้น ในทางเทคนิค เขาไม่ใช่ลูกน้องของลู่โจว
ลู่โจวไม่ได้ใส่ใจงานธุรการ
เขาเลือกที่จะทำการทดลองในห้องแล็บของเขามากกว่าจะแจกจ่ายงานให้คนอื่น
เมื่อเห็นว่าลู่โจวดูไม่สนใจ เฉินยู่ซานถอนหายใจและพูดว่า “การได้ตำแหน่งนี้ในช่วงอายุสามสิบและปรับโครงสร้างทีมโปรเจกต์เครื่องปฏิกรณ์สาธิต มันไม่ใช่สิ่งที่นักศึกษาอัจฉริยะทั่วไปจากมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่จะทำได้ คนคนนี้มีอนาคตที่สดใสรอตรงหน้า เขาจะไม่เอาตัวเองไปสุ่มเสี่ยงเพื่อแค่ที่จะเป็นเพื่อนกับคุณ การเห็นดีเห็นชอบของเขาได้รับการสนับสนุนจากเบื้องบน”
“คุณรู้เยอะดีนะ”
“ฉันไม่รู้อะไรมากหรอก ส่วนใหญ่ก็เพราะพ่อฉันพูดเรื่องแบบนี้ที่บ้านตลอด ฉันก็เรียนรู้มาบ้างโดยเลี่ยงไม่ได้” เฉินยู่ซานเอาหลอดคนน้ำแข็งในแก้วระหว่างที่เธอถอนหายใจและพูดว่า “นี่คือเหตุผลที่ฉันไม่อยากทำงานให้รัฐบาล ฉันไม่สามารถแสดงความสามารถด้านการเงินได้เต็มที่”
ลู่โจวดื่มกาแฟแล้วแสร้งว่าไม่ได้ยินส่วนที่สอง
เคสพันล้านดอลลาร์นี่ไม่พอที่จะแสดงความสามารถด้านการเงินของเธอเหรอ?
ลู่โจวไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับเธอคนนี้
ทันใดนั้น เฉินยู่ซานนึกอะไรบางอย่างออก
“อ่อ มีอีกเรื่องหนึ่งที่คุณควรสนใจ”
ลู่โจวถาม “เรื่องอะไร?”
เฉินยู่ซานพูดต่อ “สตาร์สกายเทคโนโลยีมีห้องแล็บที่แคลิฟอร์เนีย?”
ลู่โจวพยักหน้าและพูดตอบ “ใช่แล้ว แต่ที่นี่ส่วนใหญ่รับผิดชอบเรื่องการสั่งรีเอเจนต์ที่หายากและจัดการบางโปรเจกต์จากสถาบันวัสดุเชิงคำนวณ…มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
เฉินยู่ซานพูดต่อ “ถ้าคุณจะย้ายใครไปที่นี่ ก็ย้ายพวกนั้นไปตอนนี้เลย ถ้าคุณย้ายพวกนั้นไปไม่ได้ ก็หาวิธีจัดการพวกนั้นดีกว่า ตอนที่ฉันตรวจสอบธุรกิจของบริษัทนี้ไม่กี่วันก่อน ฉันสังเกตได้ว่ามีใครบางคนกำลังตรวจสอบทรัพย์สินของคุณที่อเมริกาเหนือ…ฉันคุยกับซีอีโอของคุณจากสาขาอเมริกาเหนือ แล้วเราเห็นว่าอาจจะมีคนพยายามเก็บหลักฐาน”
ลู่โจวขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “สืบเรื่องผม? มันมีอะไรต้องให้สืบ?”
เขาระมัดระวังมาโดยตลอด
เมื่อเขากลับมาจีน เขาบริจาคกระดาษโน้ตคณิตศาสตร์ทั้งหมด แล้วเขาไม่ได้เอากระดาษกลับมาแม้แต่แผ่นเดียว
ถ้ามีใครจะมีสืบเรื่องเขา เขาไม่คิดว่าคนพวกนั้นจะเจออะไร
“ขอร้องเถอะ คุณคือหัวหน้านักออกแบบลู่ เพราะว่าคุณไปหาคนเยอรมันเพื่อซื้อเครื่องปฏิกรณ์สาธิต WEGA ประเทศเราเลยโดนไล่ออกจาก iTER ตอนนี้เครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นผานกู่ก็ปรากฎตฏอหน้าทุกคน แน่นอนเลยว่าพวกนั้นจะสืบสวนคุณ”
“คุณคิดว่าคนนั้นคือใคร?”
เฉินยู่ซานกลอกตาแล้วพูดว่า “พวกนั้นจะไม่ประกาศการสอบสวนหรอก แต่คุณรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร”
ลู่โจวองดูแก้วกาแฟแล้วนิ่งไปสักพัก ทันใดนั้นเขายิ้มแล้วส่ายหัว
“ผมไม่คิดว่ามีนักคณิตศาสตร์คนไหนจะอยู่ในรายชื่อของ CIA”
เอาจริงแล้ว เขาไม่รู้สึกเซอร์ไพรส์ไปทั้งหมด
เมื่อเขาทำการทดลองอะตอมโพรบ ฮีเลียม-3 ที่พรินซ์ตัน เขารู้สึกเลือนรางว่ามีใครอาจจะสังเกตเห็นเขา ถ้าเขายังทำวิจัยต่อไป มันจะต้องเกิดปัญหาขึ้นแน่นอน
แต่ในตอนนั้นฟิวชั่นที่ควบคุมได้เป็นศาสตร์ของอนาคต และมันไม่ได้รับความสนใจมาก ประเทศพวกนี้ไม่เคยหวังที่จะจัดแจงเรื่องภาวะโลกร้อนและปัญหาพลังงานของพลังงานฟิวชั่น จนกระทั่งความสำเร็จของเครื่อง สตาร์-1 เกิดขึ้น ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด…
คางที่เรียวของเฉินยู่ซานพักอยู่บนกำปั้นของเธอ ในขณะที่ฝีปากบางกัดหลอด เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ฉันจะปกป้องคุณ”
ลู่โจวมองดูไหล่บางของเธอแล้วไม่รู้สึกถึงความปลอดภัยจากเธอเลย
“อ่อ ขอบใจ”
เฉินยู่ซานฟึดฟัดแล้วพูดขึ้น “ทำไมถึงตอบกลับแบบนี้ล่ะ? คุณเบื่อเหรอ?”
ลู่โจวคิดอยู่สักพัก
“อืม…ครั้งหน้าให้ฉันเลี้ยงข้าวนะ?”
เฉินยู่ซานยิ้มแล้วคิดถึงอดีต “คุณนี่ไม่เปลี่ยนไปเลย”
ลู่โจวนิ่งไปชั่วครู่
“ไม่เปลี่ยนเหรอ?”
เขาคิดเทียบกับตัวเองตอนอายุยี่สิบ เขาก็เปลี่ยนไปบ้างอยู่นะ
ระหว่างที่หานเมิ่งฉีมองสองคนนี้คุยกัน เธอก้มหัวลงแล้วเอาช้อนคนครีมในคาปูชิโนของเธอ
เธอยังไม่ได้พูดอะไร
นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ท้ายที่สุดแล้ว เธอไม่มีอะไรพิเศษจะพูดเพิ่ม
เธอแค่รู้สึก…
การที่นั่งข้างสองคนนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเด็กเล็ก
เธอถอนหายใจแล้วรู้สึกหมองใจ
แต่เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้…
……………………………………………………………