ตอนที่ 60 การแข่งขันระดับประเทศเริ่มต้นขึ้น!
วันที่ 12 กันยายน การแข่งขันถูกจัดขึ้นตามกำหนด!
วันก่อนแข่ง ลู่โจวและคนอื่นๆก็ขึ้นรถบัสโรงเรียนและเดินทางจากวิทยาเขตใหม่ไปยังวิทยาเขตเก่า พวกเขาจะอาศัยอยู่ในหอพักชั่วคราวที่มหาลัยจัดหาให้
ที่นอนกับหมอนถูกจัดเตรียมไว้ให้ ดังนั้นนักศึกษาจึงต้องผ้าห่มไปเท่านั้น บางคนไม่ได้เอาผ้าห่มมาด้วยด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดแล้วการแข่งขันก็กินเวลาเพียง 72 ชั่วโมงเท่านั้น เวลานอนเฉลี่ยของนักศึกษาแต่ละคนจึงน้อยกว่า 10 ชั่วโมงเสียอีก
ยกตัวอย่างเช่นลู่โจวเป็นต้น
งานเขาหนักสุด เพราะเขาต้องทำงานส่วนใหญ่ให้เสร็จ เขาจะได้นอนเพียงเล็กน้อยในคืนที่สองเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน สิ่งแรกที่เขาทำเมื่อเขาย้ายเข้ามาในหอพักใหม่ก็คือการนอนอยู่บนเตียงแล้วพยายามนอนให้หลับ
เขาต้องฝืนตัวเองนอน
เมื่อลู่โจวตื่นขึ้นมาตอนตีห้า เขาก็นอนบนเตียงจนถึงเจ็ดโมงก่อนจะไปทานอาหารเช้า เขาพบกับหวังเสี่ยวตงและหลินอวี่เซียงก่อนที่ทุกคนจะมุ่งหน้าไปยังห้องคอมพิวเตอร์ที่ทางมหาลัยจัดเตรียมไว้ให้
จากข้อมูลการลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ มีนักศึกษามหาลัยมากกว่า 70,000 คนจาก 23,347 ทีมที่มาจากมหาลัย 1338 แห่ง มีทีมจาก 33 หัวเมือง เขตปกครองตนเอง(รวมถึงฮ่องกงและมาเก๊า)และสหรัฐอเมริกา ทุกคนคลิกเข้าเว็บไซต์การแข่งขันในเวลาเดียวกันและดาวน์โหลดโจทย์
การแข่งขันได้รับการสนับสนุนร่วมกันจากแผนกอุดมศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการและสถาบันอุตสาหกรรมและคณิตศาสตร์ประยุกต์ประเทศจีน ดังนั้นมันจึงเข้มงวดและยุติธรรม อิทธิพลมันน้อยกว่า’แชลเลนเจอร์คัพ(Challenger Cup)’ แต่รางวัลมันให้ความรู้สึกมีค่ามากกว่า’แชลเลนเจอร์คัพ’
เจ็ดโมงครึ่ง ทั้งสิบทีมก็มานั่งอยู่ในห้องคอม
แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเลือกใช้โน๊ตบุ๊คของตนเองเพื่อตอบโจทย์ แต่พวกเขาก็นำโน๊ตบุ๊คมาที่ห้องคอมพิวเตอร์ ท้ายที่สุดแล้วไวไฟ(wifi)ในห้องคอมพิวเตอร์กับห้องสมุดก็อนุญาตให้นักศึกษาดาวน์โหลดวิทยานิพนธ์ออนไลน์ได้ฟรี พวกเขาคาดว่าจะเอาชนะการแข่งขันแบบนี้โดยใช้ทรัพยากรบนไป่ตู้
เมื่อศาสตราจารย์หลิวเข้ามา เขาก็ยิ้มแล้วกล่าวทักทายศิษย์ทั้งสามคนของเขา เขาไม่ได้พูดเรื่องการแข่งขัน กลับกันเขาถามพวกเขาว่าหลับดีไหมหรือหอพักเป็นยังไงแทน จากนั้นเขาก็เดินออกห้องคอมพิวเตอร์ ขับรถบัสโรงเรียนแล้วกลับไปทำโปรเจ็คของตนเอง
ณ เวลาแปดโมง มีเสียงกริ่งดังขึ้น
ทุกคนรีบเข้าสู่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการแล้วโหลดโจทย์
โจทย์ถูกแบ่งเป็นสี่คำถามใหญ่ ABCD ซึ่ง AB นั้นมีไว้ให้นักศึกษาปริญญาตรี ส่วน CD นั้นเป็นของนักศึกษาปริญญาโท ทุกทีมต้องเลือกโจทย์หนึ่งโจทย์ ทีมจะได้รับรหัสเอ็มดีห้าจากเว็บไซต์ทางการ พวกเขาต้องอัพโหลดวิทยานิพนธ์ในรูปแบบ PDF และผ่านการตรวจสอบเอ็มดีห้า
โดยทั่วไปแล้ว เนื่องจากพวกเขามีเวลาเลือกโจทย์เพียงครึ่งชั่วโมง ทุกคนจึงรีบร้อนอ่านโจทย์กัน
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นโจทย์ พวกเขาก็ตะลึง
“โจทย์ A เป็นการออกแบบและควบคุมเส้นทางการลงจอดของยานอวกาศ Chang’e 3…โจทย์ B คือการออกแบบโต๊ะพับได้! เชี่ย! โจทย์ปีนี้มันอะไรกันเนี่ย?”
“โจทย์เหล่านี้แตกต่างจากโจทย์ที่เราซ้อมมา!”
“ฉันได้ทำโจทย์ที่คล้ายๆกันในไม่กี่วันก่อน มันเป็นการออกแบบการออกตัวของจรวดเสินโจว…แต่ฉันไม่คิดว่าโจทย์นั้นจะออกแข่ง…ฉันประมาทเกินไป!”
“เวนเอ้ย ไม่ใช่ว่านายได้พีชคณิตขั้นสูง 95 คะแนนรึไง? ทำอะไรสักอย่างสิ!”
“ฉันเรียนพีชคณิตขั้นสูง ไม่ใช่วิทยาการจรวด!”
“การออกแบบโต๊ะ…มันคืออะไร? ไม่ใช่ว่ามันมีแค่สี่ขาเหรอ? พับเก็บได้…เราลองเพิ่มสปริงหลังขา?”
ห้องคอมพิวเตอร์ค่อนข้างมีชีวิตชีวาและมันก็เห็นได้ชัดว่านักศึกษามีปัญหากับโจทย์เหล่านี้เพราะพวกเขาไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
อย่างไรก็ตามนักศึกษาบางคนแตกต่างกัน
ยกตัวอย่างเช่นหลัวรุ่นตงจากห้องลู่โจวกำลังคุยกับเพื่อนร่วมทีมเงียบๆ
และหลิวรุ่ย…เจ้าหนูนี่เหมือนค่อนข้างน่าเชื่อถือ เพราะเขาอ่านโจทย์จบแล้วและกำลังมอบหมายหน้าที่ให้กับเพื่อนร่วมทีม
หวังเสี่ยวตงดูโจทย์ทั้งสองแล้วขมวดคิ้ว
ท้องฟ้าเหมือนจะถล่มลงมา
ทั้งสองโจทย์เกี่ยวข้องกับฟิสิกส์
โจทย์แรกเกี่ยวข้องกับการคำนวณวิถีอวกาศซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่จะแก้โจทย์ด้วยความรู้ฟิสิกส์ระดับมัธยมปลาย ดูผิวเผิน โจทย์ที่สองดูง่าย แต่อันที่จริงมันก็ไม่ได้ง่ายไปกว่าโจทย์แรก มันเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์การเคลื่อนที่แบบไดนามิกของขาโต๊ะ วิเคราะห์ความเค้นของวัสดุและปัญหาอื่นอีกเพียบ มันไม่ได้ต้องการแค่ความรู้การสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่มันยังต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับกลศาสตร์รวมไปถึงวัสดุศาสตร์
อย่างไรก็ตาม
‘อัจฉริยะทางคณิตศาสตร์’ลู่โจวในกลุ่มนั้นเป็นแค่นักศึกษาปีสอง เขาพึ่งเริ่มเรียนฟิสิกส์
พวกเขาต้องเลือกโจทย์ที่ง่ายกว่า
โจทย์แรกนั้นถ้าไม่มีความรู้ด้านฟิสิกส์มันเป็นไปไม่ได้เลย พวกเขาต้องลองเปลี่ยนโจทย์ที่สองให้เป็นโจทย์ทางคณิตศาสตร์โดยใช้แหล่งข้อมูลบนโลกอินเตอร์เน็ต
หวังเสี่ยวตงมองลู่โจว “เราควรเลือกโจทย์ B ไหม?”
ลู่โจวส่ายหน้า “เลือกโจทย์ A”
“โจทย์ A?” หวังเสี่ยวตงถาม เขาขมวดคิ้ว “คุณแน่ใจ?”
“ผมเรียนฟิสิกส์ระดับมหาลัยแล้ว แม้ว่าฟิสิกส์การบินและอวกาศจะดูเหมือนซับซ้อน แต่เนื้อหาครอบคลุมอยู่ในสามบทเท่านั้น” ลู่โจวกล่าว เขาหยุดชั่วครู่ก่อนจะมองไปรอบๆแล้วกล่าว “นอกจากนี้ ดูสิว่ามีกี่ทีมที่เลือกโจทย์ B”
เนื่องจากโจทย์ A ดูน่ากลัว มันย่อมเป็นธรรมชาติอยู่แล้วที่ทีมส่วนใหญ่จะเลือกโจทย์ B ลู่โจวรู้ว่าบนภูเขามีเสือ แต่เขาก็ยินดีที่จะขึ้นภูเขาเผชิญหน้ากับเสือ!
แน่นอนลู่โจวเลือกแบบนี้ก็เพราะเขามั่นใจในโจทย์ A
หวังเสี่ยวตงพยักหน้าและย่อมเข้าใจความหมายที่อยู่เบื้องหลังประโยคสุดท้ายของลู่โจว
“โอเค งั้นคุณต้องทำแบบจำลอง”
“รับทราบ”
อัจฉริยะทั้งสองมีความเห็นเป็นเอกฉันท์
หลินอวี่เซียงมองดูเพื่อนร่วมทีมแล้วถามอย่างอ่อนแอ “ฉัน…ช่วยอะไรได้บ้าง?”
หวังเสี่ยวตงยิ้มบางๆให้เธอ เขากำลังจะบอกว่า ‘ฉันจะทำทุกอย่าง’ แต่แล้วลู่โจวที่กำลังยุ่งกับการเขียนบนกระดาษ A4 ก็ขัดจังหวะหวังเสี่ยวตงและกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “เอาน้ำกับอาหารมา ขอบคุณ”
การเขียนโปรแกรม การเขียนวิทยานิพนธ์และการสร้างแบบจำลอง งานทั้งสามนี้ถูกจัดสรรแล้ว แถมสิ่งเดียวที่พวกเขาต้องการก็คือคนส่งอาหาร
ลู่โจวคิด ‘อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จะได้รางวัลฟรีๆ’ อย่างน้อยเขาก็ต้องให้ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรสักอย่าง
หวังเสี่ยวตง “…”
หลินอวี่เซียงไม่ได้โอดครวญ กลับกันเธอพยักหน้าอย่างกระตือรือร้นแทน “โอเค ฉันจะทำ!”
ขอได้เปรียบของการใช้คนๆเดียวทำทั้งแบบจำลองทางคณิตศาสตร์และเขียนวิทยานิพนธ์ก็คือมันช่วยลดปัญหาในการสื่อสาร
ในเวลาเดียวกัน ในฐานะกัปตัน ลู่โจวสามารถออกคำสั่งหวังเสี่ยวตงที่รับผิดชอบในการเขียนโปรแกรม
ดังนั้นมันจึงไม่มีความขัดแย้งระหว่างเพื่อนร่วมทีมเลย!
มันมีคำถามย่อยอยู่สามหัวข้อ
(1) กำหนดตำแหน่งการลงจอดฝั่งไกลและฝั่งใกล้ของดวงจันทร์ นอกจากนี้กำหนดความเร็วและตำแหน่งของ Chang’e 3
(2) กำหนดเส้นทางที่ดีที่สุดของ Chang’e 3 และการควบคุมที่ดีที่สุดของหกขั้นตอน
(3) ทำการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดและวิเคราะห์ความอ่อนไหวของการออกแบบเส้นทางลงจอดและควบคุมกลยุทธ์ของคุณ
“ส่วนต่อไปคือบทสรุป ส่วนนี้สามารถปล่อยทิ้งไว้จนกว่าวิทยานิพนธ์จะเขียนเสร็จ มุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์โจทย์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการทั้งหมดของการสร้างแบบจำลอง มันเป็นหัวใจหลักของวิทยานิพนธ์” ลู่โจวบ่นพึมพำขณะกัดปากกาเบาๆและนิ้วเคาะคีย์บอร์ด เขาเขียนโครงร่างของวิทยานิพนธ์และเริ่มกำหนดหัวใจสำคัญของวิทยานิพนธ์โดยขึ้นอยู่กับการคำนวณของตน
[โจทย์ 1 เพื่อให้ได้ตำแหน่งการลงจอดฝั่งใกล้และไกลของดวงจันทร์ รวมไปถึงขนาดและทิศทางที่สอดคล้องกับความเร็วของ Chang’e 3 ก่อนอื่นเราต้องใช้ฟิสิกส์ของนิวโตเนียนรวมกับเงื่อนไขที่รู้แล้วของการคำนวณ การเคลื่อนที่ของ Chang’e 3 ในช่วงชะลอความเร็วถูกแบ่งเป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้นแบบแปรผันสม่ำเสมอ ใช้ MATLAB เพื่อออกแบบโปรแกรมเพื่อคำนวณซ้ำในช่วงชะลอความเร็ว…]
[โจทย์ 2 เพื่อยืนยันวิถีลงจอดที่ดีที่สุดของ Chang’e 3 และการควบคุมที่ดีที่สุดของหกขั้นตอน ใช้เชื้อเพลิงให้น้อยที่สุดเป็นเป้าหมาย ใช้พารามิเตอร์ที่โจมย์ให้ไว้ ใช้ MATLAB เพื่อระบุสิ่งกีดขวางบนแผนที่ระดับความสูงดิจิตอล เพื่อบรรลุการระบุสิ่งกีดขวางและตำแหน่งจุดลงจอด จำลองโหมดลงจอดที่เหมาะสมที่สุด…]
[วิเคราะห์ข้อผิดพลาดหรือกลยุทธ์การควบคุมวิถีลงจอดที่ถูกออกแบบในส่วนสอง ก่อนอื่นเราจำเป็นต้องร่างตัวแปรที่เป็นไปได้ทั้งหมดที่อาจสร้างความผิดพลาด…]
ลู่โจวเข้าสู่สมาธิ เขาใช้สมาธิทั้งหมดอยู่กับโจทย์
หลังจากวิเคราะห์โจทย์ เขาก็รู้สึกเหมือนสมองเขาชัดเจนขึ้น แม้แต่โครงร่างทั่วไปทั้งหมดของวิทยานิพนธ์ก็เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ
ที่เหลือก็คือการแปลงเค้าโครงให้เป็นโจทย์ทางคณิตศาสตร์…
สำหรับทีมส่วนใหญ่ พวกเขาจะทำวิทยานิพนธ์หลังจากเขียนโปรแกรมและทำแบบจำลอง แต่สำหรับลู่โจว เขาสามารถทำทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน!
นี่เป็นข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของทีมพวกเขา!