ตั้งแต่ที่ลู่โจวไปคลาสฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัย เขาแทบไม่ได้ออกจากบ้านหนึ่งสัปดาห์
ตอนที่เขายังอยู่ที่พรินซ์ตัน เขาจะไปซื้อของชำที่วอลมาร์ท แต่ตอนนี้มีคนอื่นไปซื้อของชำให้เขา
ถึงแม้ลู่โจวไม่อยากให้หวังเผิงทำงานให้ เขาก็ไว้วานตั้งหลายครั้งจนลู่โจวไม่เคอะเขินอีกต่อไป
ในอีกมุมหนึ่ง มีหลายอย่างเกิดขึ้นในโลกภายนอกในช่วงการพักผ่อนหนึ่งสัปดาห์
สิ่งที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้
ในวันที่สองของการพักผ่อน อีสต์เอเชียพาวเวอร์ที่ปรับองค์กรเสร็จสิ้น ได้สร้างข้อตกลงกับบริษัทการไฟฟ้าแห่งประเทศจีนแผนกเจียงซู เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเฟอร์โรฟลูอิดสิบสองเครื่องจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เทียนหวันได้ทำการคอมมิชชั่นครั้งสุดท้ายเสร็จสิ้น และเชื่อมต่ออย่างเป็นทางการกับกริดเพื่อส่งพลังงานไฟฟ้าสะอาดและราคาถูกกับมณฑลเจียงซู สิ่งนี้ถูกทำด้วยราคาที่ค่อนข้างถูกแต่ยังเป็นราคาที่ได้กำไร
ย่านที่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุดนอกจากไห่โจวก็น่าจะเป็นย่านกูซูในมณฑลเจียงซู
เมืองอุตสาหกรรมแห่งนี้ในกลางแม่น้ำแยงซีดูเหมือนว่าจะรับรองครึ่งหนึ่งของอุตสาหกรรมไฮเทคในจีน ด้วยปริมาณประชากรเพียง 10 ล้านคน การใช้พลังงานประจำปีเกือบเท่ากับเซี่ยงไฮ้ มันใช้พลังงานเกิน 150 พันล้าน kWh เมื่อไม่กี่ปีก่อน แล้วตอนนี้มันใช้พลังงาน 200 พันล้าน kWh
หลักงจากเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นผ่านกูถึงเชื่อมต่อกับกริดพลังงาน ค่าไฟของเขตเจียงซูลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง
สำหรับเจ้าของผู้ผลิตในมณฑลเจียงซู สิ่งนี้เป็นเหมือนเงินร่วงมาจากฟ้า
โดยเฉพาะผู้ใช้พลังงานรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ค่าใช้จ่ายการผลิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ในการถดถอยทางเศรษฐกิจนี้ การบูรณาการเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นเข้ากับมณฑลเจียงซูเป็นพรจากพระเจ้า
ในระดับผิวเผิน การลดลงของค่าใช้จ่ายพลังงานลดเพียงแค่ค่าไฟฟ้าของเจ้าของโรงงานและผู้ประกอบการ แต่ในความเป็นจริง มันเปลี่ยนอนาคตของทั้งเมืองรวมถึงผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่
ค่าใช้จ่ายการผลิตลดลงและบริษัทได้เงินมากขึ้น เงินตรงนี้จะถูกใช้อัปเกรดเทคโนโลยีการผลิต พัฒนาเครื่องจักรกลและสร้างระบบรางรถไฟแบบไฟฟ้า โครงสร้างอุตสาหกรรมของทั้งเมืองและแม้กระทั่งมณฑลจะผันไปด้านพื้นที่กลางเครือข่ายอุตสาหกรรมที่อยู่ศูนย์กลางมากกว่า
ผลกระทบเศรษฐกิจประเภทนี้ที่เกิดขึ้นจากการปฏิวัติโครงสร้างพลังงานนั้นได้ผลมากกว่าการจ่ายเงินสนับสนุนโดยตรงให้กับปลิงกลุ่มหนึ่ง
นอกจากค่าไฟฟ้าในอุตสาหกรรม ค่าไฟของไห่โจว กูซู จินหลิง และเมืองอื่นๆ ลดดิ่งลงที่ 10-20%
แต่ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อนเป็นฤดูที่การใช้ไฟฟ้าสูงที่สุด คนส่วนมากยังไม่รู้สึกถึงผลกระทบสำคัญของการลดราคา อย่างมากที่สุด พวกนั้นจะเซอร์ไพรส์เมื่อเห็นบิลค่าไฟ บางส่วนอาจจะไม่ได้เซอร์ไพรส์
ท้ายที่สุดแล้ว กระบวนการขับเคลื่อนสังคมสู่อนาคตไม่สามารถทำได้ข้ามคืน มันมักถูกทำในทั้งวิธีที่โฉ่งฉ่างหรือละเอียดอ่อน
แต่เมื่อดูข้อมูลมหภาค หลังจากค่าไฟลดลง อุปสงค์สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าและยานพาหนะไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
บางทีเมื่อผ่านไปสักพัก กูซูอาจจะมีรถเมล์ไฟฟ้าจำนวนหนึ่ง
บางทีอาจจะในปีหรือสองปี สมาร์ทดีไวซ์อย่างเช่นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะกระจายไปตามครัวเรือน และสายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบมีสายและไร้สายจะย้ายจากปั๊มน้ำมันไปที่จอดรถห้างสรรพสินค้า
บางทีในสามถึงห้าปี กล่องไปรษณีย์ขนาดเล็กและอาหารเดลิเวอรี่จะถูกทำงานโดยโดรนที่สามารถบินส่งระหว่างตึกสูง
การไล่ตามสามารถภาพของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด
ตอนนี้เป็นปี 2020 ปีแรกที่เครื่องปฏิกรณ์ผ่านกูถูกเชื่อมกับกริดพลังงาน
สำหรับภาพของอนาคตอันไกล มีเพียงเวลาที่จะบอกได้
…
นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่โจวโฟกัสปัญหาคณิตศาสตร์บริสุทธิ์หลังจากเขาอัพเลเวลคณิตศาสตร์เป็นเลเวล 8 นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาประสบความต่างระหว่างคณิตศาสตร์เลเวล 7 และเลเวล 8
ความต่างไม่ได้อยู่ในการคำนวณ
มันถูกสะท้อนในการคิดแบบหลุดพ้น
มันยากยากมากที่จะบรรยายความรู้สึกนี้ แต่ถึงเขาต้องเขียนความคิดตัวเองลงไป มันจะเป็นเหมือนว่าทั้งร่างกายของเขาถูกผสานไปในโจทย์คณิตศาสตร์ เหมือนว่าทุกอย่างในโลกเดินช้าลง
ความเร็วการคิดของเขาอาจจะเพิ่มขึ้น แล้วทำไมดูเหมือนว่าเวลาเดินช้าลง?
มันฟังดูเหลือเชื่อไปหน่อย แต่นี่เป็นสิ่งที่ลู่โจวรู้สึก
ถึงความเร็วในการคิดของเขาจะเพิ่มขึ้น เมื่อเขารู้สึกลงลึกในงานวิจัย เขาก็รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็ว หนึ่งวันผ่านไปโดยเขาไม่รู้ตัว เขายังต้องพึ่งกระเพาะที่เตือนให้เขากิน
ลู่โจวหยุดเขียนแล้วหยิกคิ้วตัวเอง เขามองดูเวลาที่ด้านขวางล่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์
“ตอนนี้สิบโมงเช้าแล้วเหรอ?”
จากที่ข้างนอกมืดสนิท ตอนนี้มันสว่างจ้า
สิ่งที่ทำให้เขาเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่าคือวันที่
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ตั้งแต่เขาไปร่วมคลาสฟิสิกส์ เขาแทบรู้สึกว่ามันผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์
ลู่โจวเปิดม่านและมองดูถังขยะที่เต็มไปด้วยกระดาษร่าง รวมไปถึงกองกระดาษร่างบนโต๊ะของเขา เขาถอนหายใจแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้
“เป็นตามคาด มันไม่ง่ายที่จะแก้…”
แต่งานของเขาช่วงไม่กี่วันก่อนก็ไม่ได้ไร้ผลลัพธ์เลย
อย่างน้อยที่สุด เขาเกือบจะเสร็จส่วนข้อพิสูจน์ของการมีอยู่ของทางแก้
พูดแบบไม่ลำเอียง ความยากทางคณิตศาสตร์ของสมการหยาง-มิลส์ไม่ได้ยากเท่าสมการนาเวียร์-สโตคส์
ตอนที่ลู่โจวพยายามจะแก้ปัญหาที่มีอยู่ของสมการนาเวียร์-สโตคส์ เขาคิดค้นแอล-แมนิโฟลด์และ ‘วิธีการวิจัยโทโพโลยีที่แตกต่างสำหรับสมการที่แตกต่าง’ ระหว่างการวิจัย มันยังได้ผลดีมากในการแก้ไขการมีอยู่ของทางแก้สมการหยาง-มิลส์ อย่างน้อยสิ่งนี้ก็ลดเวลาการทำงานไปหนึ่งเดือน
ถ้าเขาไม่ต้องทำอะไรเลยในวันนี้ เขาคงจะพักผ่อนต่อ
แต่วันนี้เป็นวันแรกของสัปดาห์ที่สิบ
เขายังสอนคลาสวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณในเวลาต่อไป
ถ้านักศึกษาปริญญาเอกคนนี้ยอดเยี่ยมพอ เขาคงมอบหมายงานนี้ให้กับคนนี้ไป
น่าเสียดายที่ ระดับทักษะวัสดุเชิงคำนวณของอู๋สุ่ยมู่ในตอนนี้ยังห่างไกลเกินที่จะไปสอนคนอื่นได้ อู๋สุ่ยมู่นั้นเก่งน้อยกว่านักศึกษาของเขาสองคนที่พรินซ์ตัน ดังนั้น ลู่โจวเลยต้องลงมือทำเอง
ลู่โจวยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงานและคิดอยู่สักพัก เขากระแอมและพูดขึ้น “เสี่ยวไอ ช่วยทำความสะอาดห้องผม…ทำความสะอาดของบนโต๊ะ”
กล่องข้อความปรากฏขึ้นที่มุมขวาล่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์
[โอเค เจ้านาย! (๑•̀ᄇ•́)و✧]
ผ่านไปสักพัก โดรนบินเข้ามาจากหน้าต่างที่เปิดอยู่ แล้วคว้าถังขยะที่เต็มไปด้วยกระดาษแล้วบินออกนอกหน้าต่างไป หลังจากนั้น หุ่นยนต์กวาดบ้านแล่นผ่านขาลู่โจวแล้วตรงเข้าห้องทำงาน มันเริ่มทำความสะอาดขยะบนพื้น
ลู่โจวยิ้มเยาะและมองดูพวกตัวเล็กทำความสะอาดห้อง จากนั้นเขาหันหลังกลับแล้วเดินลงบันได
เขาไม่ได้ออกไปข้างนอกหนึ่งสัปดาห์ และห้องทำงานไม่ใช่ห้องเดียวที่เขาต้องเก็บกวาด
ลู่โจวแช่น้ำร้อนและเป่าผม เขาใส่ชุดสะอาดและมองดูตัวเองในกระจกห้องน้ำอยู่สักพัก ก่อนที่จะเดินไปประตูหน้า
เมื่อเขากำลังจะสวมรองเท้า เขาได้ยินเสียงกริ่ง
เขามองผ่านกล้องรักษาความปลอดภัย และเห็นว่ามีคนยืนอยู่นอกประตู เขานิ่งไปชั่วครู่
เหยียนเหยียน?
เธอมาทำอะไรที่นี่?
ถึงแม้ว่าลู่โจวจะสงสัย แต่เขาก็ยังกดปุ่มเปิดประตูแมนชั่นให้เธอ จากนั้นเขาประตู
ผ่านไปสักพัก เหยียนเหยียนเดินผ่านสวนหน้าบ้านและเข้ามาในบ้าน เธอใส่ชุดลำลอง
เธอไม่ได้ทักทายเขา เธอเพียงแค่จ้องมองเขา
“คุณไม่ได้ไปตรวจสุขภาพเมื่อวาน”
“อ่อ จริงหรอ? ผมจำไม่ได้จริงๆ”
ลู่โจวจำอย่างเลือนรางได้ว่าหวังเผิงได้บอกเขาเรื่องนี้ แต่เขาคิดถึงปัญหาตอนที่คุยโทรศัพท์ เขาจำไม่ได้ว่าเขาคุยอะไรในสาย
เหยียนเหยียนมองสีหน้างุนงงของลู่โจวและถอนหายใจ “ฉันรู้ว่าคุณยุ่ง ฉันเลยเอาของมาให้คุณ…อ่า คุณยังไม่ได้ทานมื้อเช้าถูกไหม?”
“ผมกำลังจะกิน…” ลู่โจวดูแก้วพลาสติกและแท่งสำลีที่เธอยื่นให้เขาแล้วถามว่า “นี่มันอะไร?”
เหยียนเหยียนพูดตอบ “อันนี้สำหรับเก็บปัสสาวะ และอีกอันสำหรับเก็บอุจจาระ คุณอยากให้ฉันช่วยไหม?”
ลู่โจวตอบ “ไม่จำเป็น ขอบคุณ”
ตอนแรกเขาวางแผนว่าจะกินแล้วค่อยไปคลาส
แต่ตอนนี้เขาดูจะหมดความอยากแล้ว
เรื่องนี้ดีเลย เธอมุ่งมั่นเหลือเกิน ทำให้เขาไม่มีความอยากอาหารแล้ว
…………………………………………………………….