ตอนที่ 632 ภารกิจใหม่ที่ถูกปรับแต่ง
นอกจากที่ลู่โจวสาปแช่งระบบในใจ เขาก็ไม่รู้ว่าจะระบายความเซอร์ไพรส์ออกไปได้อย่างไร มันเหมือนกับว่าเขาซื้อน้ำอัดลมมาไม่กี่เหรียญแล้วได้รถเฟอร์รารี่จากฝาขวด
จนถึงตอนนี้ แซมเปิ้ลที่ดีที่สุดที่เขาเคยได้รับคือปืนสแกนเนอร์
เขาได้วิเคราะห์เศษซากหมายเลข 3 น้อยกว่า 20% เขาสามารถค้นพบวัสดุที่สร้างส่วนประกอบขึ้น แต่เพราะว่าเศษซากมันได้รับความเสียหายมาก มันไม่ชัดเจนว่าส่วนประกอบพวกนี้ถูกใช้ทำอะไร
ปืนสแกนเนอร์กระบอกนี้สามารถประหยัดแรงและเวลาของเขาโดยไม่ต้องสงสัย มันยังช่วยให้เขาทำวิศวกรรมย้อนกลับเทคโนโลยีเศษซากได้เต็มที
ลู่โจวมองดูปืนสแกนเนอร์ในช่องเก็บของแล้วฝืนต้านความอยากที่จะหยิบมันออกมา เขามองดูการ์ดภารกิจ
ตอนนี้การชิงโชคและการจัดสรรแต้มประสบการณ์นั้นเสร็จสิ้นแล้ว เขาจึงต้องรับภารกิจใหม่
ลู่โจวมองดูการ์ดประกายสีทองแล้วครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาไม่ได้เปิดมันในทันที แต่เขากลับเปิดดูแผงภารกิจแล้วมองดูสามภารกิจสุ่มที่เขาได้รับ
ผ่านไปสักพัก แผงภารกิจรีเฟรชใหม่และปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
[
ภารกิจแรก: การวิจัยและการผสมการผลิต
คำอธิบาย: นักประดิษฐ์ก็สามารถเป็นโปรดิวเซอร์ได้ ในความเป็นจริง การผลิตที่นำโดยนักประดิษฐ์มักจะนำไปสู่การจัดสรรทรัพยกรที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
ความต้องการ: ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม-ซัลเฟอร์ 10,000 ตัน แล้วส่งพวกมันเข้าตลาด รางวัลขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของแบตเตอรี่
รางวัล: 0-200,000 แต้มประสบการณ์ 500 แต้มทั่วไป ตั๋วชิงโชค 1 ใบ
]
[
ภารกิจที่สอง: โปรดรีบแต่งาน
คำอธิบาย: โฮสต์มีอายุ 26 ปี ใกล้เข้าวัยสามสิบ โฮสต์ไม่ได้คิดถึงเรื่องส่งต่อพันธุกรรมหรือยังไง? เพียงแค่ทำกิจกรรมระดับชีวิตให้สำเร็จ เด็กหลอดแก้วก็โอเค!
ความต้องการ: สร้างมนุษย์
รางวัล: 100,000 แต้มประสบการณ์ 500 แต้มทั่วไป นมผงยี่ห้อฟิวเจอร์หนึ่งตัน
]
ลู่โจวมีสีหน้าจริงจังเมื่ออ่านภารกิจแรก แต่เมื่อเขาอ่านภารกิจที่สอง เขาเกือบสำลักน้ำลายตัวเอง
พระเจ้า จะต้องถูกทรมานเรื่องสถานะความสัมพันธ์ไปถึงเมื่อไหร่?
แล้วก็ความต้องการของภารกิจคืออะไรเนี่ย?
อะไรคือการสร้างมนุษย์วะเนี่ย?
ถึงจะได้พบคู่ชีวิต ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสร้างมนุษย์ได้ทันทีเลยถูกไหม?
แต่นมผงยี่ห้อฟิวเจอร์นี้…
ลู่โจวมองดูรางวัลภารกิจและคิดอยู่สักพัก
เขาไม่รู้ว่าทำไม ถึงเขารู้ว่านมผงนี้จะเป็นขยะ ถ้าเขาได้มันจากการชิงโชค แต่หลังจากดื่มโค้ก สไปรท์ และกาแฟยี่ห้อฟิวเจอร์ เขาก็อยากลองชิมมันกะทันหัน…
[
ภารกิจที่สาม: สมการหยาง-มิลส์และการมีอยู่ของหยาง-มิลส์และช่องว่างมวล
คำอธิบาย: ทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่เป็นจอกศักดิ์สิทธิ์ของฟิสิกส์เชิงทฤษฎีทั้งหมด สมการหยาง-มิลส์เป็นก้าวแรกสู่ทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่ อนุภาคเกิดขึ้นจากก้อนไร้มวลได้อย่างไร? มันเป็นคำถามที่คู่ควรกับการขบคิด
ความต้องการ: สำเร็จชาเลนจ์ปัญหารางวัลมิลเลเนียมการมีอยู่ของสมการหยาง-มิลส์และช่องว่างมวล
รางวัล: แต้มประสบการณ์คณิตศาสตร์ 300,000 แต้ม แต้มประสบการณ์ฟิสิกส์ 300,000 แต้ม แต้มทั่วไป 500 แต้ม ตั๋วชิงโชค 1 ใบ
]
ถึงแม้ว่าภารกิจก่อนหน้าดูไร้สาระ แต่โชคดีที่ภารกิจที่สามเข้าท่าหน่อย
โดยเฉพาะหลังจากที่ลู่โจวอ่านความต้องการของภารกิจ เขามีรอยยิ้มเยาะบนใบหน้า
ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ได้ใช้การ์ดภารกิจใบนี้
แต้มประสบการณ์รวมทั้งหมด 600,000 แต้ม มันเป็นเรื่องน่าเสียดาย ถ้าเขาพลาดโอกาสนี้ไป
ดูเหมือนว่าภารกิจนี้ถูกปรับแต่งมาสำหรับเขา
…
เช้าวันต่อมา
ลู่โจวตื่นแต่เช้าและใส่ชุดกีฬาตามปกติ หลังจากที่ออกไปวิ่งตอนเช้า เขากลับมาอาบน้ำร้อน
เมื่อเขาร้องเพลงระหว่างอยู่ที่ฝักบัวเสร็จ ลู่โจวเปิดประตูกระจกออกและตะโกนเรียกเสี่ยวไอ
เสี่ยวไอนำโดรนสองตัวบินเข้าห้องน้ำ โดยที่เขาไม่ได้พูดอะไร โดรนตัวแรกหยิบเสื้อผ้าจากเครื่องปั่นมาให้ และโดรนอีกตัวยื่นโทรศัพท์ให้
ลู่โจวใส่เสื้อผ้าแล้วได้ยินเสียงสังเคราะห์จากโดรน
“เจ้านาย คุณไม่ได้ไปที่ห้องแล็บใต้ดินกับเสี่ยวไอมานานแล้ว โคลอน วงเล็บ…”
เมื่อลู่โจวได้ยินสัญลักษณ์ เขาหยุดไปชั่วคราว จากนั้นเขายื่นมือไปเขียนกระจกที่มีไอน้ำเกาะ
[(._.)]
ลู่โจว “…”
พระเจ้า อีโมจิพวกนี้อยู่ทุกที่เลย
ลู่โจวมองโดรนที่บินอยู่ข้างเขาและถอนหายใจ
“เดี๋ยวไว้ไปที่นั่นนะ”
โดรนบินโฉบไปมาอย่างมีความสุข
“เจ้านาย เป็นคนดีที่สุดเลย! วงกลม วงเล็บ ดอกจัน…”
ลู่โจว “…”
บางทีเขาน่าจะติดตั้งหน้าจอแสดงผลให้โดรน
การสื่อสารแบบนี้น่ารำคาญเกินไป…
ระหว่างที่ลู่โจวกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า รถซีดานสีดำรอเขาอยู่ข้างนอกแมนชั่น หวังเผิงเปิดประตูรถและกดกริ่งประตูโดยเขาถืออาหารเช้าแบบกลับบ้าน ประตูเปิดอัตโนมัติ และเขาเดินผ่านสนามหน้าบ้านตรงไปที่ห้องนั่งเล่น
“ร้านเสี่ยวหลงเปายังไม่เปิดเลย” หวังเผิงวางอาหารเช้าบนโต๊ะแล้วมองดูลู่โจวที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ เขาพูดขึ้นว่า “ผมเอาบะหมี่เนื้อมาให้ ไม่รู้ว่าคุณจะชอบหรือเปล่า”
“มันโอเคแหละ ผมไม่เลือกกิน” ลู่โจวท้องร้อนตั้งแต่ที่เขาตื่น เขานั่งลงที่โต๊ะกินข้าวและเอื้อมมือไปหยิบตะเกียบใช้แล้วทิ้ง เขายิ้มและพูดว่า “ขอบคุณมากครับที่มาที่นี่แต่เช้าทุกวัน”
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมหรอก” หวังเผิงโบกมือและพูดว่า “เมื่อเทียบกับสิ่งที่คุณทำให้ประเทศ มันเล็กน้อยมาก”
ลู่โจวส่ายหน้าและพูดตอบ “คุณจะพูดแบบนั้นไม่ได้ ผมคิดว่าทุกอาชีพมีความสำคัญในตัวเอง”
“ผมเถียงคุณไม่ได้เลย คุณฉลาดเกินไป” หวังเผิงยิ้มและเปลี่ยนเรื่อง “เอาเถอะ ถ้าคุณต้องการอะไร บอกผมได้ตลอดเลย ไม่ต้องเขินไป อย่างไรเสียนี่ก็เป็นงานของผม”
ลู่โจวพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไร เขามุ่งมั่นในการกินอาหารเช้า
ถึงแม้เขาจะไม่ได้กินเสี่ยวหลงเปา มันเป็นเรื่องดีที่ได้ลองกินอย่างอื่นเป็นบางครั้ง
ลู่โจวกินบะหมี่เสร็จในห้านาที เขาวางตะเกียบลงแล้วเช็ดปากด้วยผ้ากระดาษ
หวังเผิงมองดูนาฬิกาข้อมือและถามว่า “คุณจะไปมหาวิทยาลัยจินหลิงไหม?”
ลู่โจวลุกขึ้นและไตร่ตรองอยู่สักพัก
“ไปที่สถาบันวิจัย ผมมีงานที่ต้องสะสางที่นั่น”
แม้ว่างานหลักของเขาตอนนี้คือการไขการมีอยู่ของสมการหยาง-มิลส์และช่องว่างมวล มันต้องใช้เวลาสักพักในการไขปัญหาใหญ่แบบนี้
เขานึกถึงเศษซาก หมายเลข 3 ที่นอนอยู่ในห้องแล็บใต้ดินและปืนสแกนเนอร์ที่เขาเพิ่งได้มา…
มีสิ่งเดียวที่เขาอยากทำในตอนนี้…
……………………………………………………………….
ตอนที่ 633 สร้างจรวด?
ณ สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
หลังจากลู่โจวลงจากรถ เขามุ่งตรงไปที่อาคารสถาบันวิจัยหลัก ลงลิฟต์และเดินผ่านประตูเหล็ก เขาไปถึงห้องแล็บใต้ดิน
แต่เมื่อเขาก้าวเท้าเข้าห้องแล็บไป เขาตกตะลึง
เขาเห็นโมเดลทุกแบบทุกขนาดของหุ่นยนต์ทรานส์ฟอร์มเมอร์ ซึ่งกินที่ไปครึ่งห้องแล็บ นอกจากที่ไม่มีสี เปลือกนอกของหุ่นยนต์แทบเหมือนกับสำเนาของหุ่นยนต์จากภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์มเมอร์
ยานพาหนะโลจีสติกส์ AGV แบบระนาบยังขนเพลทอัลลอยอะลูมิเนียมแล้วส่งพวกมันให้หุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ทำงานอย่างขันแข็ง
ลู่โจวมองดูเสี่ยวไอควบคุมแขนจักรกลแปดแขนและยืนอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน เขาอดที่จะพูดอย่างสะเทือนอารมณ์ไม่ได้ว่า “น่าเสียดายที่ความสามารถของเจ้าถูกจำกัดอยู่แค่ไหนห้องใต้ดินนี้”
แขนจักรกลได้ยินลู่โจว และพักการทำงานทันที
โดรนที่บินอยู่ใกล้ๆ หันกล้องมาหา มันบินแกว่งไปมาเหมือนกับว่ามันกำลังเอียงหัว จากนั้นพูดด้วยเสียงเครื่องใช้ไฟฟ้าโมโนโทน “เจ้านาย?”
ลู่โจวถอนหายใจและพูดว่า “ไม่ได้บอกไปแล้วเหรอ การเปลี่ยนโมเดลหุ่นยนต์มันไร้ประโยชน์”
กล้องที่แขนจักรกลมองดูลู่โจว จากนั้นก็มองเพลทอัลลอยอะลูมิเนียมในมือ ลำโพงที่โดรนพูดต่อ “ผมรู้แต่เจ้านายไม่อยากเล่นกับผม ผมเลยต้องหาอะไรทำ”
หน้าจอเทอร์มินัลควบคุมหุ่นยนต์อุตสาหกรรมสว่างขึ้น มีกล่องข้อความปรากฏ
[(._.)]
ลู่โจว “…”
ทำไมปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ถึงต้องเอาอกเอาใจเยอะจริง?
ลู่โจวคิดอยู่สักพักแล้วถาม “นายอยากหาอะไรทำใช่ไหม?”
แขกจักรกลโยนเพลทอัลลอยอะลูมิเนียทิ้งไปแล้วผงก
“ใช่ ผมอยากช่วยเจ้านาย!”
เสียงโมโนโทนแทบจะสะท้อนความกระตือรือร้นของเสี่ยวไอได้ไม่ตรงเท่าไหร่ หน้าจอเทอร์มินัลหุ่นยนต์จึงส่งข้อความมาอีก
[(๑•̀ᄇ•́)و✧]
ลู่โจว “…”
บางครั้ง ลู่โจวรู้สึกว่าเสี่ยวไอเหมือนเด็กไม่รู้จักโต แต่เสี่ยวไอทั้งฉลาดมากกว่าและเก่งด้านวิศวกรรมมากกว่าเด็กทุกคน
เอาจริงๆ แล้ว ลู่โจวเคยคิดว่าปัญหาแบบนี้จะเกิดขึ้น
การเพิ่มพลังคิดคำนวณของเสี่ยวไออาจจะไม่ใช่เรื่องดี
ถ้าวัตถุประสงค์ของเสี่ยวไอคือการคิดคำนวณ มันจึงอยากที่จะเพิ่มพลังการคำนวณเป็นปกติอยู่แล้ว แล้วก็มันคงไม่อยากนั่งอยู่เฉยๆ ด้วยพลังมากขนาดนั้น มันอยากที่จะใช้พลังหรือทำตัวเองให้เป็นประโยชน์
ลู่โจวไม่สามารถไขสิ่งนี้ได้แต่ที่เขาอ่านรหัสแหล่งที่มาของเสี่ยวไอ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจมันมากกว่าเดิมแล้ว
สาเหตุที่เสี่ยวไอ ‘รู้สึก’ ซึมนั้นไม่ใช่ว่าเพราะลู่โจวไม่ได้ใช้เวลากับมัน แต่มันเป็นเพราะว่าเสี่ยวไอไม่สามารถแสดงพลังของตัวเองออกมาได้
ลู่โจวไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง
ควรให้เสี่ยวไอทำงานอะไรดี?
สิ่งนี้เป็นปัญหายากพอตัว
ขีดจำกัดโดยธรรมชาติของปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้เครื่องจักรหมายความว่ามันยากมากที่เสี่ยวไอจะทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์
แล้วงานส่วนใหญ่ของลู่โจวก็เป็นงานความคิดสร้างสรรค์
ยกตัวอย่างเช่น เสี่ยวไอสามารถถอดสูตรคณิตศาสตร์หรือทำการคำนวณคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนได้ง่าย มันยังสามารถตั้งโปรแกรมโมเดลคณิตศาสตร์ที่ลู่โจวสร้างได้
แต่ข้อพิสูจน์การคาดคะเนของรีมันน์หรือการอธิบายเชิงทฤษฎีของช่องว่างมวลนั้นเกินขีดความสามารถของมัน การแก้โจทย์โดยใช้แต่แรงนั้นยากกว่าการใช้แก้ววิดน้ำมหาสมุทร
ลู่โจวคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะให้เสี่ยวไอใช้พลังการคำนวณทำงานอะไร
“เจ้านาย วันนี้เราจะทำวิศวกรรมย้อนกลับเศษซาก หมายเลข 3 ต่อใช่ไหม?”
“ใช่…”
เดี๋ยว
ลู่โจวมองดูเศษซาก หมายเลข 3 ที่อยู่ตรงมุมห้อง จากนั้นเขามองดูหุ่นเหล็กทรานส์ฟอร์มเมอร์ที่อยู่ข้างมัน ลู่โจวปิ๊งไอเดียได้ในหัว
“เสี่ยวไอ”
โดรนบินสะบัดไปมา
“หืม?”
หลังจากที่หยุดนิ่งไปชั่วครู่ ลู่โจวถาม “สนใจสร้างจรวดไหม?”
…
ถึงแม้ลู่โจวพูดถึงจรวด สิ่งที่เขาอยากสร้างจริงๆ คือกระสวยอวกาศที่ใช้งานซ้ำได้
ท้ายที่สุดแล้ว เขาอยากติดตั้งทรัสเตอร์เอฟเฟคฮอลล์และแบตเตอรี่ฟิวชั่นในกระสวยอวกาศ การเก็บดีไซน์จรวดที่ใช้แล้วทิ้งแบบเดิมไว้ก็เปล่าประโยชน์
สำหรับการให้เสี่ยวไอออกแบบกระสวยอวกาศ…
ถึงไอเดียนี้ฟังดูไม่น่าเชื่อถือ แต่มันก็ไม่ได้บ้าบิ่นเสียทีเดียว
สายพานการประกอบจรวดอัตโนมัติมีอยู่จริงๆ ยกตัวอย่างเช่น มันมีอยู่ที่หนึ่งในทาเนกาชิมะ บริษัทอเมริกัน SpaceX ก็ดูเหมือนว่ากำลังค้นคว้าเทคโนโลยีการประกอบอัตโนมัติ พวกเขาพยายามจะลดค่าการผลิตฟัลคอน
จริงๆ แล้ว เมื่อเขาเห็นหุ่นยนต์ที่หน้าตาคล้ายบัมเบิลบีที่เสี่ยวไอสร้างเป็นครั้งแรก เขาคิดจะขอให้เสี่ยวไอสร้างรถให้ แต่เมื่อเขาเห็นเศษซาก หมายเลข 3 กองอยู่ในห้องแล็บ เขาเกิดไอเดียที่จะให้เสี่ยวไอสร้างกระสวยอวกาศ
ท้ายที่สุดแล้ว ด้วยแปดแขนจักรวกลและอุปกรณ์ประกอบพื้นฐานจำนวนหนึ่ง เสี่ยวไอสามารถสร้างได้มากกว่าหุ่นยนต์ทรานส์ฟอร์มเมอร์มากเป็นโหลๆ
ไม่มีหุ่นยนต์ในโรงงานไหนสามารถทำได้แบบนี้…
ซึ่งไม่มีใครคิดจะสร้างหุ่นยนต์ไร้ประโยชน์จำนวนมากเช่นกัน
โดนสรุป อย่างน้อยเสี่ยวไอก็เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ จากการใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ STAR-1 ที่ปลดระวางแล้ว มันมีพลังการคำนวณที่สูงอย่างมากอย่างเทียบไม่ได้ มันสามารถออกแบบกระบวนการประกอบได้เองและพัฒนาโดยการใช้เครือข่ายเส้นประสาทและการเรียนรู้เครื่องจักร
ลู่โจวอดที่จะชมตัวเองไม่ได้
“ฉันนี่อัจฉริยะเสียจริง”
โดรนที่บินอยู่ข้างเขาแกว่งไปมา
“เจ้านาย?”
“ไม่มีอะไร เดี๋ยวอีกสักแป๊บจะกลับมา”
“เราจะไม่ทำงานกับเศษซาก หมายเลข 3 เหรอ?” เสียงอุปกรณ์ไฟฟ้าโมโนโทนพูดขึ้น และมีอีโมจิเศร้าปรากฏขึ้นที่หน้าจอเทอร์มินัลควบคุมปรากฏขึ้นตามมา
“ฉันจะรีบกลับมา ฉันต้องหางานให้ทำ” ลู่โจวหันหลังกลับ เขาเดินผ่านประตูเหล็กเข้าลิฟต์ไป
การใช้แค่หุ่นยนต์อุตสาหกรรมอย่างเดียวไม่เพียงพอ เขาต้องการอุปกรณ์อุตสาหกรรมอัตโนมัติมากกว่านี้เพื่อช่วยประกอบชิ้นส่วนของกระสวยอวกาศที่ละเอียดมากกว่า แล้วก็เนื่องจากกระสวยอวกาศถูกมองว่าเป็นเทคโนโลยีที่อ่อนไหว เขาไม่สามารถสร้างมันได้ในห้องใต้ดิน เขาต้องทำงานนี้อย่างถูกต้อง
ถึงมันจะฟังดูยุ่งยาก มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
เขาแค่ต้องใช้เงินซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่เขาต้องการ…
………………………………………………..