ตอนที่ 69 ทฤษฎีเลขมหัศจรรย์
ถ่ายรูปใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมง
เมื่อลู่โจวลากสังขารที่อ่อนล้าของตนกลับหอพักแล้วเปิดประตูห้อง เขาก็เห็นว่ามีแต่หลิวรุ่ยเท่านั้นที่อยู่ข้างใน
“ทุกคนไปไหน?”
หลิวรุ่ยกำลังทำโจทย์ฟิสิกส์ เขากลอกตามองบนแล้วกล่าว “พวกเขาได้รับการกระทบกระเทือนจากนายจนไปเรียนแล้ว”
ลู่โจว “???”
หลิวรุ่ย “เอ้อ เส้นตายการบ้านฟิสิกส์คือบ่ายนี้ นายทำเสร็จยัง?”
“ฉันทำนานแล้ว แถมยังส่งไปแล้ว” ลู่โจวกล่าวและหยิบเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าสะพาย
ไม่เพียงแต่เขาจะทำงานนี้เสร็จเท่านั้น แต่เขายังทำงานฟิสิกส์ทั้งหมดของเดือนเสร็จไปแล้ว
งานพวกนี้เขาทำเสร็จก่อนไปปักกิ่ง เขารู้สึกไม่ดีที่ลาบ่อยๆ ดังนั้นเขาจึงทำโจทย์ในหนังสือแบบฝึกหัดทั้งหมดแล้วส่งให้ศาสตราจารย์หลี่
ส่งผลให้ศาสตราจารย์หลี่หรงเอินเกิดความสนใจ เขามองการบ้านผ่านๆแล้วบอกลู่โจวไม่ต้องทำการบ้านอีกเพราะมันเป็นการเสียเวลาของลู่โจวโดยสูญเปล่า
“เสร็จแล้ว?” หลิวรุ่ยกล่าว เขาช็อค “นายไม่ได้เข้าเรียนด้วยซ้ำ นายทำตอนไหน?”
“ก่อนไปปักกิ่ง ตอนที่ฉันทำพาวเวอร์พ้อย”
หลิวรุ่ยไม่เชื่อเขา เขาหยิบยกโจทย์ที่ท้าทายที่เขาคัดลอกมาจากคาบเรียนแล้วกล่าว “งั้นนายสอนฉันได้ไหม?”
“รอแปป”
ลู่โจวเอาเสื้อผ้าใส่ในอ่างซักผ้าที่ระเบียง เมื่อเขากลับมา เขาก็ดูโจทย์
[ความร้อนจําเพาะของแก๊สผสมปกติจะมีมวลเท่ากับ M1=3.0X10^2 กก. และแก๊สผสม M2 มีไฮโดรเจนเท่ากับ 3.0X10^2 กก. ตอนอุณหภูมิปกติ]
โจทย์สั้นและดูง่าย
อย่างไรก็ตาม…
ลู่โจวกล่าว “โจทย์นี้โคตรยาก นายแก้ไม่ได้ก็ไม่แปลก”
มันเป็นโจทย์ที่ท้าทายที่หลี่หรงเอินให้ไว้ในคาบเรียน และหลิวรุ่ยก็ไม่เคยเห็นมันในหนังสือแบบฝึกหัด
หลิวรุ่ย “???”
ลู่โจวเห็นหลิวรุ่ยสับสน เขาจึงหัวเราะก่อนจะพูดต่อ
“อุณหภูมิปกติ โมเลกุลอะตอมคู่ของแก๊สและโมเลกุลไอน้ำอาจถือได้ว่าเป็นโมเลกุลแข็งเกร็ง แม้ความจริงที่ว่าพันธะโคเวเลนต์ของมันยังคงสั่นสะเทือน แต่ระดับการสั่นสะเทือนของโมเลกุลส่วนใหญ่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงและไม่เกี่ยวข้องกับปริมาณความจุความร้อนคงที่ ดังนั้นบทสรุปก็เหมือนกับการพิจารณาการสั่นสะเทือน หนังสือฟิสิกส์อาจไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ แต่มันถูกพูดถึงในเคมีอนินทรีย์”
หลิวรุ่ย “???”
แน่นอนการรู้เรื่องนี้มันไม่เพียงพอ มันจำเป็นต้องรู้เรื่องความจุความร้อนโมลาร์ของโมเลกุลคู่แข็งเกร็งและความจุความร้อนโมลาร์ของโมเลกุลน้ำ รวมถึงพวกข้อมูลที่โจทย์ไม่ได้มีให้ไว้
ไม่มีคาบวิชาเคมีในเอกคณิตศาสตร์ ดังนั้นโจทย์นี้จึงทำให้หลายคนสับสน ถ้าใครแก้โจทย์ได้ คนๆนั้นก็ต้องเรียนเคมีอนินทรีย์ด้วยตัวเองอย่างลู่โจวหรือไม่ก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันฟิสิกส์ระดับมัธยมปลาย
ศาสตราจารย์หลี่หรงเอินคิดโจทย์นี้เพื่อปลูกฝังให้นักศึกษาเรียนรู้นอกหลักสูตร ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะมีสอนในคาบเรียนมหาลัย การเรียนรู้นอกห้องเรียนก็สำคัญเช่นกัน
แน่นอนเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับแรงจูงใจของนักศึกษาเอง
ถ้านักศึกษาแค่อยากเอาให้ผ่าน ไม่ฟังคาบเรียน และอัดทีเดียวก่อนสอบ พวกเขาก็ยังจบการศึกษาได้
“แล้วนายทำได้ไหม…”
ลู่โจวหยิบปากกาแล้วเริ่มเขียนบนกระดาษทด
[Cv1=3R, Cv2=5/2R]
[ความจุความร้อนแก๊สผสมคือ Ctotal = (M1/u1) Cv1 + (M2 / u2) Cv2]
[ความร้อนจำเพาะของแก๊สผสมคือ c = Ctotal / (M1 + M2)]
[จาก u1=0.018, u2=0.00, R=8.314J/(mol·K)]
[ด้วยข้อมูลข้างต้นจะได้รับ 5.86X103J/(kg·K)]
การคำนวณนั้นง่ายมาก แม้แต่นักเรียนมัธยมต้นก็ทำได้ ส่วนที่ยากก็คือทฤษฏี
ลู่โจวคืนปากกาให้หลิวรุ่ยแล้วกล่าว “โจทย์นี้ค่อนข้างง่าย ถ้านายเปลี่ยนค่าสัมบูรณ์ของพลังงานภายใน นายต้องรวมพลังงานสั่นสะเทือนของโมเลกุล แต่โจทย์ประเภทนี้จะไม่ออกสอบ ปล่อยให้เอกฟิสิกส์กังวลโจทย์พวกนี้ไปเถอะ”
หลิวรุ่ย “???”
เมื่อเขาเห็นสีหน้าสับสนของหลิวรุ่ย เขาก็กล่าว “นายไม่เข้าใจเหรอ? บางทีฉันจะอธิบาย…”
“ฉันเข้าใจ” หลิวรุ่ยกล่าวและพยักหน้า เขามองลู่โจวแล้วถาม “นายไปเรียนเรื่องพวกนี้มาจากไหน?”
เรายังเรียนอยู่มหาลัยเดียวกันอยู่เหรอ?
หลิวรุ่ยอดรู้สึกกังขาในชีวิตของตนเองไม่ได้
ลู่โจวกล่าว “ฉันเรียนในห้องสมุด”
หลิวรุ่ยไม่ได้พูดอะไร แต่เขาเริ่มเก็บข้าวของอย่างเงียบๆ
ลู่โจวสับสน เขาถาม “นายเก็บของทำไม?”
หลิวรุ่ยแหงนหน้ามองเพดานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า “ฉันคิดว่าระดับความรู้ของฉันมันต่ำเกินไป นับจากวันนี้…ฉันจะเรียนที่ห้องสมุดทุกวัน”
โดยปราศจากคำพูดอื่น เขาสะพายกระเป๋าแล้วเดินออกไป
…..
บ่ายวันจันทร์ต่อมาที่ห้องบรรยาย มันอัดแน่นด้วยผู้คนจนไม่มีที่ว่างเหลือให้นั่งสักที่
หัวหน้าทีมลู่โจวยืนอยู่บนเวทีและกำลังกล่าวสุนทรพจน์ของผู้ชนะรางวัล
เขามองดูผู้ชมแล้วรู้ว่าคนส่วนใหญ่มาจากสภานักศึกษาและกรรมการนักศึกษา
ตอนนี้ทุกคนโตแล้ว ใครจะมาฟังคำพูดของฉันกัน?
ส่วนนักศึกษาที่สับสนกับชีวิตมหาลัยก็ถือสมุดอยู่ในมือ พวกเขาเตรียมจดคำพูดของลู่โจว ลู่โจวไม่รู้ว่าคำพูดของเขาจะช่วยพวกเขาได้ไหม
ถ้านักศึกษาเหล่านี้อยากเป็นแบบเขา ชีวิตรั้วมหาลัยของพวกเขาคงเปี่ยมไปด้วยความคับข้องใจ…
มีสื่อหลายคนที่อยู่ทั้งสองด้านของห้องบรรยาย ส่วนใหญ่มาจากสำนักพิมพ์มหาลัยและสำนักพิมพ์ท้องถิ่น ระดับสูงสุดคือสถานีโทรทัศน์เมืองจินหลิง มหาลัยเป็นคนเชิญพวกเขามา
เมื่อลู่โจวเห็นแววตาให้กำลังใจของคณบดีหลู่ เขาก็คิด ‘มันไม่ง่ายที่จะหาเงิน’ จากนั้นเขาก็กระแอมแล้วเอาไมค์จ่อปาก
“อาจารย์ คณบดีและนักศึกษาที่เคารพ สวัสดีตอนเช้า!”
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมมือกับเพื่อนร่วมทีมทั้งสองเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันที่คาดไม่ถึงนี้และต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันจนได้รับรางวัล’Higher Education Society Cup’ ก่อนอื่นเลยโปรดอนุญาตให้ผมขอบคุณสมาชิกการแข่งขัน ผู้จัดงาน สปอนเซอร์ อาจารย์ผู้สอนและทุกๆคนที่พยายามอย่างหนักเพื่อการแข่งขัน ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจที่สุด…”
ลู่โจวพูดอยู่บนเวทีกว่าสิบนาที เขาพูดถึงเรื่องภายในและภายนอกการแข่งขัน พูดตั้งแต่การสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ไปจนถึงวิธีเรียนหลากหลายแบบ จากนั้นเขากระทั่งพูดถึงข้อเสนอครึ่งล้านหยวนและแผนการชีวิตของเขา
เขาจบคำพูดด้วยคำว่า “พรสวรรค์ 1% ความขยัน 99%”
นี่ไม่ใช่การสัมภาษณ์ครั้งแรกของลู่โจว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้กังวลเลย เขาจึงพูดจนจบได้
แปะ แปะ แปะ!
เสียงปรบมือดังสนั่น
บางคนอาจไม่ใช่อัจฉริยะ แต่นักศึกษาที่ถือสมุดปรบมือให้อย่างกระตือรือร้น
“…ขอบคุณครับทุกคน!” ลู่โจวคำนับ จากนั้นเขาก็ส่งไมโครโฟนให้ศาสตราจารย์หลิวก่อนจะเดินลงเวที
เมื่อศาสตราจารย์ถังเห็นลู่โจวเดินผ่านเขา เขาก็ยิ้มแล้วกล่าว “พูดได้ไม่เลว”
ลู่โจวยิ้ม “ศาสตราจารย์ถัง มหาลัยจะมอบเงินรางวัลเมื่อไหร่?”
“ช้าสุดอาทิตย์หน้า ทำไม? เธอรีบเหรอ?” ศาสตราจารย์ถังถาม เขากล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้เธอเป็นไง? เธอกำลังค้นคว้าเรื่องอะไร?”
ลู่โจวคิดแล้วกล่าว “ทฤษฏีจำนวน…เฉพาะของแมร์แซน”
“จำนวนเฉพาะของแมร์แซน เธอยังค้นคว้าเรื่องนี้” ศาสตราจารย์ถังถอนหายใจ น้ำเสียงของเขาฟังดูเสียใจเล็กน้อย
ทฤษฏีจำนวนเป็นสาขาพิเศษ เกณฑ์การเข้าเรียนนั้นต่ำ มันต่ำมากจนหลายมีหลายทฤษฏีและหลายสูตรที่นักเรียนมัธยมต้นเข้าใจได้ มันเป็นเหตุผลที่ทฤษฏีจำนวนเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนทั่วไปด้วยเช่นกัน
ตำนานเล่าว่าจำนวนจดหมายที่สาธารณะเขียนส่งไปยังมหาลัยวิทยาศาสตร์จีนนั้นมีมากมายจนเอามาพันรอบโลกได้ ผู้รักษาประตูของมหาลัยวิทยาศาสตร์จีนต้องมีโจทย์เก้าข้ออยู่ในมือ ถ้าใครตอบคำถามไม่ได้ คนๆนั้นก็จะไม่ได้ผ่านประตู
ดังนั้นการประสบความสำเร็จในทฤษฏีจำนวนจึงยากมากกว่าที่เห็น ไม่เพียงแต่มันต้องการรากฐานที่มั่นคงในวิชาคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่มันต้องการความสามารถทางคณิตศาสตร์ที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย
ความจริงนั้นโหดร้าย เพราะไม่มีสาขาอื่นที่ต้องการความสามารถเท่าสาขาทฤษฏีจำนวนแล้ว
ถ้าไม่มีความสามารถ เราสามารถค้นคว้าเรื่องทฤษฏีจำนวนไปตลอดชีวิตโดยไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย
แม้ว่าศาสตราจารย์ถังจะรู้เรื่องนี้ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
นั่นเป็นเพราะเขารู้จักนิสัยของลู่โจว
ใจร้อน ยึดถือผลประโยชน์ กระตือรือร้นที่จะประสบความสำเร็จ
หลังจากลู่โจวจุ่มเท้าลงไปในธารน้ำแห่งทฤษฏีจำนวน เขาย่อมถอยกลับออกมาเอง