“นี่สกายโกลว์นะครับ…”
“พวกเรามี…ปัญหาแล้ว”
เนี้ยหยุนลังเลอยู่เล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจรายงานสถานการณ์ให้กับศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน
“ศาสตราจารย์ลู่อยู่บนนี้”
ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินเงียบไปครู่หนึ่ง
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงของโฮ่วกวงก็ดังมา
“รับทราบ พวกเราเข้าใจแล้ว”
เข้าใจแล้วเหรอ?
แค่นี้เนี่ยนะ?
เนี้ยหยุนลังเลว่าเขาควรจะถามออกมาไหมว่าเขาควรจะทำอย่างไรต่อ แต่โฮ่วกวงก็พูดออกมาก่อน
“บินต่อไป แผนการบินจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ดูแลศาสตราจารย์ลู่ให้ปลอดภัยอย่างถึงที่สุด”
การเปลี่ยนแผนการบินจะเพิ่มความเสี่ยงของภารกิจ
เนี้ยหยุนเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี เขาจึงพยักหน้า
“รับทราบครับ”
เนี้ยหยุนสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วหันไปมองลู่โจวที่กำลังวางถ้วยกาแฟลง
“พวกเรามาถึงจุดความสูงวิกฤต[1]ของการบินแบบเดิมแล้วครับ วิถีการบินกำลังจะเปลี่ยนแล้ว”
เนื่องจากแรงกดอากาศและเส้นโค้งอุณหภูมิ ทำให้เมื่อความสูงมากกว่า 20 กิโลเมตร ความหนาแน่นของชั้นบรรยากาศข้างนอกจะดรอปลงถึงจุดที่ค่อนข้างต่ำ ในความสูงระดับนี้ ยานอวกาศจะไม่ต้องพึ่งปีกเพื่อสร้างพลังเคลื่อนไปข้างหน้าต่อไป ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาแรงขับดันจากเครื่องยนต์ในการต่อต้านกับแรงดึงดูดของโลกแทน กระสวยอวกาศจะเริ่มบินขึ้นข้างบนด้วยมุมเอียงมาก
ในความสูงระดับนี้ ลูกเรือไม่สามารถขยับไปมาบนยานอวกาศได้ตามใจชอบอีกต่อไป
“โอเค”
ไม่มีความจำเป็นอะไรที่เนี้ยหยุนจะต้องมาเตือนเขา ลู่โจวเดินไปทางข้างๆ ที่นั่งผู้โดยสารแล้วเปิดประตูโลหะออก แล้วเขาก็ดึงชุดอวกาศหน้าตาเทอะทะออกมา
ในระหว่างที่เนี้ยหยุนมองลู่โจวกำลังทุลักทุเลกับการดึงชุดอวกาศออกมาจากประตู เขาก็ถามขึ้นว่า “คุณรู้…วิธีใส่ชุดอวกาศเหรอครับ?”
ลู่โจวใส่ชุดอวกาศได้อย่างชำนาญ บนชุดมีระบบรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพและแผงข้อมูลสภาวะสิ่งแวดล้อมในห้องผู้โดยสารของยาน เขามองไปทางเนี้ยหยุนแล้วก็เลิกคิ้ว
“รู้สิครับ ผมฝึกใส่ชุดนี่มาจากที่บ้านมาตั้งหลายครั้ง”
เนี้ยหยุน “…”
เนี้ยเหยียน “…”
ให้ตายเถอะพับผ่า…
เขาวางแผนจะทำแบบนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว!
ระบบเร่งเครื่องของกระสวยอวกาศนี้ไม่ได้มีค่าสูงนัก ดังนั้นชุดอวกาศจึงมีความจำเป็นต้องใส่แค่ตอนลงจอดยาน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากครั้งนี้เป็นการทดสอบการบินครั้งแรก จึงมีความไม่แน่นอนอยู่หลายประการ พวกเขาจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมตลอดเวลา
เพื่อที่จะให้พวกเขาปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พวกเขาจะต้องทำตามขั้นตอน จะถอดชุดอวกาศหน้าตาเทอะทะนี่ได้ก็ต้องหลังจากที่พวกเขาเข้าสู่วงโคจรแล้วเท่านั้น
ลู่โจวยืนอยู่ข้างที่นั่งผู้โดยสารแล้วมองดูตัวเองในกระจก
เมื่อเปรียบเทียบกับชุดอวกาศสำหรับใส่นอกยานที่มีระบบพลังงานของตัวเองและระบบเครื่องช่วยชีวิตแบบพกพาได้แล้ว ชุดอวกาศสำหรับใส่ในยานมีน้ำหนักค่อนข้างเบากว่า แต่ก็ยังหน้าตาเทอะทะอยู่ดี ราคายังถูกกว่าชุดอวกาศสำหรับใส่นอกยานอีกด้วย แค่ประมาณ 10 ล้านหยวนเท่านั้น
จะว่าไปแล้ว นี่อาจจะเป็นชุดที่ราคาแพงที่สุดที่เขาเคยสวมมาในชีวิต
ลู่โจวมีไอเดียเข้ามาในหัวแล้ว
ฉันควรจะถ่ายรูปดีไหมนะ?
สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจไม่ถ่าย
อย่างที่คาดไว้เลย การจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาระหว่างสวมชุดนี้เป็นเรื่องยากชะมัด
หลังจากผ่านความสูงประมาณ 20 กิโลเมตรมาได้ พลังงานจากเครื่องยนต์ของสกายโกลว์ก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น หัวยานอวกาศเริ่มพุ่งสูงขึ้น มุ่งหน้าตรงสู่อวกาศในทิศทางขนานกับเส้นโคจรของโลก…
…
การไปอวกาศเป็นการเดินทางอันยาวนาน
หากพูดตรงๆ แล้ว ความสูงระดับ 100 กิโลเมตรไปจนถึง 2,000 กิโลเมตรนั้นนับว่าเป็นอวกาศที่อยู่ในวงโคจรต่ำของโลก ความสูงของการทดสอบการบินครั้งนี้อ้างอิงจากความสูงของวงโคจรของสถานีอวกาศนานาชาติที่ 419 กิโลเมตร เวลาบินโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมง พวกเขาวางแผนไว้ว่าจะบินกลับโลกหลังจากอยู่ในวงโคจรต่ำของโลกเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
ความสูงนี้เหมาะกับการบินที่มีมนุษย์เป็นผู้ควบคุม ดังเช่นการบินครั้งนี้ โดยทั่วไปแล้ว การบินส่วนใหญ่ที่มีมนุษย์เป็นผู้ควบคุมในวงโคจรต่ำของโลกจะทำกันที่ความสูงต่ำกว่า 400 กิโลเมตร ลู่โจวไม่อยากให้สกายโกลว์บินสูงเกินไปในการบินครั้งแรก
เครื่องยนต์ 5 เครื่องที่ด้านหลังยานอวกาศเปิดการใช้งานครบทุกเครื่อง มันทิ้งลำแสงอาร์คสีน้ำเงินไว้เบื้องหลังเหมือนกับอุกกาบาต ความสูงเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนสามคนที่นั่งอยู่ในห้องนักบินสามารถรู้สึกถึงแรง g ที่เพิ่มขึ้นมาได้อย่างชัดเจน แต่แรง g ก็ยังน้อยมากพอที่จะทำให้พวกเขาปรับสภาพจนชินได้หลังจากผ่านไปสักพัก
ลู่โจวมองดูดาวเคราะห์จากทางหน้าต่าง ม่านตาของเขาเบิกกว้าง ในขณะที่ทะเลสีครามกับเมฆหนาถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน แสงไฟนับพันที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ก็ส่องประกายระยิบระยับอยู่ห่างๆ
เขาต้องใช้เวลาครู่หนึ่งในการทำลายอารมณ์ช็อกในใจ จากนั้นเจ้าตัวก็พูดด้วยความซาบซึ้งว่า “ที่นี่เป็นที่ที่ดีที่สุดในการได้เห็นความจริงที่ว่า โลกนี้มันกลมจริงๆ “
เนี้ยหยุน “คุณดูจากลูกโลกไม่ได้เหรอครับ?”
ลู่โจวยิ้มแล้วตอบว่า “นั่นเป็นข้อสรุปที่คนอื่นเป็นคนพูด มันแตกต่างจากการที่ได้เห็นด้วยตาตัวเองนะ”
เนี้ยเหยียนก็มองลงไปยังดาวเคราะห์ข้างล่างเช่นกัน และเธอก็มีความรู้สึกที่แตกต่างจากผู้ชายอีกสองคนอย่างสิ้นเชิง เธอไม่ได้คิดอย่างมีตรรกะแบบพวกเขา แต่เธอกำลังชื่นชมความงดงามของโลกอยู่
หลังจากที่จ้องดาวเคราะห์ผ่านหน้าต่างอย่างเป็นเวลานาน เธอก็เอ่ยขึ้นมาว่า “มันสวยนะ”
เนี้ยหยุนพยักหน้า
“ใช่…สวยจริงๆ “
หลังจากเลยเส้นความสูง 100 กิโลเมตรมาได้ ยานอวกาศก็เปลี่ยนจากชั้นมีโซสเฟียร์เป็นชั้นเทอร์โมสเฟียร์ ในอีกระยะ 60 กิโลเมตรข้างหน้า พวกเขาจะเดินทางถึงจุดที่ต่ำที่สุดของวงโคจรต่ำของโลก ซึ่งอยู่ในระยะ 160 กิโลเมตร
ณ จุดจุดนั้น ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้ออกจากชั้นเอกโซสเฟียร์ แรงต้านอากาศก็จะอยู่ในระดับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อาร์กลำแสงสีน้ำเงินข้างหลังสกายโกลว์เริ่มอ่อนกำลังลงแล้ว มันเปลี่ยนจากลำแสงอันเจิดจ้าเป็นเปลวเทียนที่สั่นไหวแทน ลู่โจวได้ยินเสียงคำว่า “เข้าสู่วงโคจรได้สำเร็จ” ดังขึ้นในหูฟังครอบหัวของเขา เครื่องยนต์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้ของสกายโกลว์เริ่มดับลงและเปลี่ยนไปใช้ระบบพลังงานของแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์แทน
แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้ยินอะไร เขาก็แทบจะสัมผัสได้ถึงเสียงเชียร์จากศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน เช่นเดียวกับเพลงชาติ และความภาคภูมิใจของประชาชนบนพื้นโลก
“พวกเราอยู่ในวงโคจรแล้ว…พระเจ้า ชุดนี้มันใส่ง่ายจริงๆ แต่พอจะถอดดันถอดยากฉิบ”
ยิ่งอยู่ในสภาพที่แรง g เป็นศูนย์แล้วด้วย…
ในที่สุดลู่โจวก็สามารถลุกออกจากที่นั่งผู้โดยสารแล้วถอดชุดอวกาศของเขาได้ ภายใต้ท่าทางเงอะงะ เขาลอยออกจากที่นั่งของเขาไปทางหน้าต่างของกระสวยอวกาศ
ลู่โจวมองไปทางพื้นโลกสีน้ำเงินแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วถ่ายรูป
เมื่อเขากดปุ่มชัตเตอร์กล้องมือถือ ลำแสงสีน้ำเงินอ่อนก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเขา
[ภารกิจที่สอง: มองโลกจากเบื้องบน
[รายละเอียด: การค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้มีแค่การวิจัยที่ดีเลิศ แต่ยังรวมถึงการอุทิศตนและความกล้าหาญอีกด้วย!
[สิ่งที่ต้องทำ: ที่ความสูง 100-2000 กิโลเมตร ใช้กล้องถ่ายรูปถ่ายภาพโลกด้วยมือตัวเอง (โฮสต์จะต้องเป็นผู้ทำเท่านั้น)
[รางวัล: ค่าประสบการณ์ 50,000 แต้ม ตั๋วชิงโชค 1 ใบ (รางวัลจะมอบให้หลังจากผ่านส่วนแรกของภารกิจหลักไปได้)]
ภารกิจนี้มัน…
มันเขียนเหมือนฉันกำลังอุทิศชีวิตตัวเองทั้งชีวิตให้กับวิทยาศาสตร์อย่างนั้นแหละ
ลู่โจวอ่านรายละเอียดภารกิจแล้วส่ายหัว จากนั้นเขาก็ยัดโทรศัพท์กลับเข้ากระเป๋าตัวเอง
ถึงแม้รายละเอียดของภารกิจจะดูแปลกๆ แต่รางวัลที่ได้ก็ค่อนข้างน่าประทับใจอยู่
มันก็แค่ว่า…
คนที่ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินอาจจะเครียดจนเป็นบ้าไปแล้วก็ได้
ฉันจะคุยกับพวกเขาว่าอย่างไรดีนะ?
ฉันคงบอกพวกเขาไม่ได้ว่า ฉันบินขึ้นมาถึงที่นี่เพื่อมาชมวิวเฉยๆ ใช่ไหม? ถึงแม้วิวที่นี่มันจะสวยจริงก็เถอะ
เอิ่มมม…
ลู่โจวส่ายหัวแล้วตัดสินใจเลิกคิด
ช่างมันเถอะ
เขาไม่มีความจำเป็นอะไรต้องอธิบายเรื่องตัวเองให้คนอื่นฟัง
ถ้าพวกเขาอยากได้เหตุผลล่ะก็
หาคำตอบกันเอาเองก็แล้วกัน
………………………………………….
[1] จุดความสูงที่สุดที่จะสามารถคงความเร็วในรูปแบบเดิมได้