Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 731 นาซาที่เหนื่อยล้า

ในขณะที่ประเทศจีนกำลังเฉลิมฉลองกับชัยชนะในการกลับมาของฮีโร่ของพวกเขา ข่าวเรื่องการประสบความสำเร็จในการเดินทางกลับโลกของสกายโกลว์ก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกผ่านทางรายงานข่าวจากสื่อและคำแถลงต่อสาธารณชนของนาซา อีเอสเอ[1] รอสคอสมอส และองค์กรอื่นๆ

แทบจะทุกคนต่างก็ช็อกเมื่อได้ยินข่าว

ก่อนหน้านี้ สื่ออเมริกันกำลังทำรายงานสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญของนาซาที่เกี่ยวข้องอยู่ ผู้เชี่ยวชาญของนาซาเชื่อว่า สกายโกลว์มีความสามารถในการขนของน้ำหนัก 25 ตันไปยังวงโคจรที่โลกหมุนรอบดวงจันทร์จริง แต่เนื่องจากแผนการไปดวงจันทร์เป็นแผนที่เร่งรีบ ประเทศจีนอาจจะต้องเผชิญกับความล้มเหลวเช่นเดียวกับประเทศรัสเซียก่อนหน้านี้

แต่พวกเขาก็ถูกความเป็นจริงฟาดกลางแสกหน้าเข้าเต็มๆ

ไม่เพียงแต่สกายโกลว์จะประสบความสำเร็จในการเดินทางกลับมาที่จุดปล่อยยานของเมืองจินหลิง แต่มันยังพานักบินอวกาศทั้งสามกลับมาอย่างปลอดภัย พร้อมกับดินดวงจันทร์อีก 1 กิโลกรัมด้วย

ถึงแม้พวกเขาจะไม่เต็มใจยอมรับความจริงนัก แต่พวกเขาก็ต้องยอมรับกับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

ระบบการขับเคลื่อนด้วยเครื่องขับดันพลังไอออนของประเทศจีนทำให้อุตสาหกรรมการบินและอวกาศต้องสะเทือนทั้งวงการ แถมคนจีนยังวิ่งตามคนอเมริกันได้ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่ออีกด้วย

ถ้าวันนี้คนจีนสามารถไปเหยียบดวงจันทร์ได้ แล้ววันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ? หรือวันมะรืนล่ะ?

ถึงแม้ว่ากว่า 50 ปีที่ผ่านมา นาซาจะประสบความสำเร็จมาบ้าง ระดับความเร็วในความคืบหน้าของพวกเขาก็ช้าลงอย่างไม่ต้องสงสัย แผนตั้งสถานีอวกาศบนดวงจันทร์ของนาซาถูกวางไว้ในปี 2022 ถึงแม้ว่าโปรเจกต์แอรีสจะสร้างกระแสตอบรับได้ดีมาก แต่ก็ยังไม่มีแผนอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันโผล่ออกมาเลย

ชาวอเมริกันทุกคนที่สนใจในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศต่างมีข้อสงสัยเต็มไปหมด บางคนถึงกับโมโหเสียด้วยซ้ำ

พวกเขากำลังสงสัยว่า นาซามัวทำบ้าอะไรอยู่?

ความเห็นของสื่ออเมริกันเริ่มค่อยๆ เปลี่ยนไปอีกทางหนึ่ง

สื่อไม่สนใจจะออกข่าวในเชิงมองว่าเทคโนโลยีการบินและอวกาศของจีนด้อยกว่าแต่อย่างใด พวกเขาพุ่งความโกรธไปที่นาซาโดยตรง นิวยอร์กไทมส์เล่นประเด็นนี้เป็นพิเศษ ครั้งนี้ พวกเขาไม่ได้ไปสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญของนาซาคนไหนเลย แต่พวกเขาเล็งปืนไปทางนาซาด้วยการเผยแพร่หัวข้อข่าวที่น่าสนใจในหนังสือพิมพ์ฉบับล่าสุดของเขา

[ประเทศจีนได้ไปดวงจันทร์แล้ว พวกเรามัวทำอะไรกันอยู่?]

และในขณะที่นิวยอร์กไทมส์กำลังโจมตีนาซาอย่างดุเดือด ก็เหมือนเป็นเรื่องบังเอิญที่ลอสแอนเจลิสไทมส์และวอชิงตันไทม์ก็กำลังโจมตีนาซาจากมุมอื่นด้วยเช่นกัน พวกเขาตั้งคำถามว่านาซาใช้งบประมาณจำนวนมากไปกับอะไร

CNN ถึงกับแนะนำให้ทีมสืบสวนพิเศษไปตรวจสอบงบประมาณที่นาซานำไปใช้ตลอดทั้งปี พวกเขาอ้างว่าอาจจะมีบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลแอบซ่อนอยู่

ในอีกฝั่งหนึ่ง นาซาก็กำลังปวดหัวกับฝูงชนที่โจมตีเข้ามา

หากพูดอย่างเป็นกลางแล้ว ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมานี้ สหรัฐอเมริกาก็ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศค่อนข้างมาก ขอบเขตในการสำรวจของพวกเขาขยายไปจนถึงดาวพลูโต มียานอวกาศ 2 ลำที่ได้ออกไปโลดแล่นนอกระบบสุริยะด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จทั้งหมดนี้ก็ฟังดูไม่น่าประทับใจเท่ากับการให้คนไปเหยียบดวงจันทร์

สุดท้ายแล้ว ยานอวกาศที่พวกเขาสร้างมาก็เป็นแค่เครื่องจักรไร้ชีวิต มันไม่ได้น่าสนใจเท่าการพามนุษย์ไปยังดาวเคราะห์ที่อยู่นอกโลก

นาซาไม่ใช่องค์กรเดียวที่โดนโจมตี ปัญหานี้ได้แบ่งประเทศออกเป็นสองฝั่ง มันไม่ได้เป็นปัญหาแค่กับคนในวงการอีกต่อไป แต่กลายเป็นปัญหาทางการเมืองไปแล้ว

รัฐบาลอเมริกาสัญญาว่าจะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

แต่สัญญาเหล่านั้นกลับไม่ได้รับการทำตาม

สื่อไม่ได้แค่โจมตีนาซาเท่านั้น แต่ยังโจมตีทำเนียบขาวอีกด้วย…

ณ ทำเนียบขาว

ด้านในห้องประชุม

มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยโผล่มาบ้างในห้อง ส่วนคนกลุ่มเดิมที่คุ้นๆ หน้ากันดีก็นั่งลงที่โต๊ะประชุม

ในขณะที่ท่านประธานาธิบดีเดินเข้ามา ทุกคนต่างยืนขึ้นเพื่อทำความเคารพ

“สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี เชิญนั่งได้”

ท่านประธานาธิบดีนั่งลงและมองไปรอบๆ โต๊ะประชุม เขาจ้องไปทางผู้อำนวยการของนาซาที่ชื่อคาร์สัน แล้วพูดขึ้นว่า “ผมต้องการคำอธิบาย”

คาร์สันมองไปทางรองผู้อำนวยการของนาซา จากนั้นเขาจึงสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วลุกขึ้นยืน

“พวกเราประเมินความมุ่งมั่นของประเทศจีนที่มีต่อวงการการบินและอวกาศต่ำไปครับ…รวมถึงยังประเมินความแข็งแกร่งในเรื่องนี้ของพวกเขาผิดไปด้วยเช่นกัน ระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องขับดันพลังไอออนของพวกเขามีประสิทธิภาพเกินความคาดหมายของพวกเรา พวกเราไม่เคยคิดเลยว่า เครื่องขับดันพลังไอออนจะสามารถสู้กับเครื่องขับดันพลังเคมีรูปแบบเดิมได้อย่างสูสีครับ นี่แสดงให้เห็นว่าระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องขับดันพลังไอออนนั้นใช้ประโยชน์ได้มากกว่าแค่การหลบหนีจากแรงดึงดูดของแรงโน้มถ่วงโลก ทุกวันนี้ เราได้ร่วมมือกับพีพีพีเอล เอ็มไอที และสถาบันวิจัยอื่นๆ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องขับดันพลังไอออน…”

ท่านประธานาธิบดีตบโต๊ะขัดจังหวะการพูดของคาร์สัน เขาเลิกคิ้วแล้วถามอย่างหมดความอดทนว่า “นานแค่ไหน?”

คาร์สันนิ่งไปพักหนึ่ง แล้วฝืนยิ้มออกมา

“เอ่อ…พวกเราไม่ได้คาดคะเนเวลาไว้ครับ พวกเรายังต้องทำเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้ขนาดย่อส่วนก่อนครับ”

และก่อนที่พวกเขาจะสามารถทำเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้ขนาดย่อส่วนขึ้นมาได้ พวกเขาก็ต้องหาวิธีในการทำเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นขึ้นมาให้ได้ก่อน ถึงแม้ลางสังหรณ์ของคาร์สันจะบอกเขาว่า การย่อส่วนฟิวชั่นที่ควบคุมได้จะไม่ได้ยากเหมือนที่เขาเคยคิดไว้ พวกเขาก็ยังห่างไกลเกินกว่าจะพัฒนาเทคโนโลยีนี้ขึ้นมาได้

สุดท้ายแล้ว ตามที่ได้ทำข้อเจรจาเรื่องเทคโนโลยีไว้กับประเทศจีน พวกเขาจะต้องรอจนกว่าจะถึงปีหน้าจึงจะเข้าสู่ระยะของการร่างข้อตกลงกันได้

ยังไม่นับว่า ราคาที่ต้องจ่ายไปกับการทำข้อเจรจานั้นไม่ใช่น้อยๆ เลย…

ท่านประธานาธิบดีกล่าวว่า “ผมต้องการวิธีแก้ปัญหาตอนนี้ ผมไม่อยากได้ยินเรื่องความไร้ประสิทธิภาพอะไรนี่!”

คาร์สันแทบจะกระอักเลือด

อะไรวะเนี่ย?

เขาเป็นคนอยากได้คำอธิบายไม่ใช่หรืออย่างไรกัน?

ซึ่งก็แน่นอนว่า คาร์สันไม่กล้าพูดออกมาดังๆ หรอก

เขานิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “แน่นอนครับ พวกเราหากลยุทธ์ในการตอบโต้ได้แล้ว…ผมได้คุยกับท่านรองประธานาธิบดีก่อนหน้าการประชุมครั้งนี้แล้ว”

ในขณะที่ท่านประธานาธิบดีหันไปมองทางท่านรองประธานาธิบดี ชายสูงวัยที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งรองประธานาธิบดีก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้นมา

“ก่อนจะเข้าประชุม ผมได้คุยกับคุณคาร์สันแล้ว ข้อเสนอของเขานับว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว แม้จะเสี่ยงนิดหน่อยก็ตาม”

ถึงแม้ตำแหน่งรองประธานาธิบดีจะเป็นแค่เสือกระดาษทางการเมือง แต่เขาก็ยังมีบทบาทสำคัญในบางครั้ง

อย่างเช่น ในกรณีการกลับมาของสภาอวกาศแห่งสหรัฐอเมริกา

มีหลายเคสที่ท่านประธานาธิบดีไม่ได้ควบคุมเรื่องในวงการการบินและอวกาศโดยตรง ส่วนใหญ่แล้ว เรื่องพวกนั้นมักจะถูกดำเนินการโดยสำนักงานบริหารและท่านรองประธานาธิบดี

“เสี่ยงเหรอ?” ท่านประธานาธิบดีเลิกคิ้วแล้วหันไปมองคาร์สัน “เสี่ยงแบบไหน?”

คาร์สันสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วเอ่ยตอบว่า “ข้อเสนอของผมคือ ให้เริ่มขั้นแรกของโปรเจกต์แอรีสในทันที และส่งระบบดำรงชีพไปที่ดาวอังคารครับ!”

ท่านประธานาธิบดีเลิกคิ้วแล้วถามขึ้น “นี่คุณเรียกสิ่งนี้ว่าข้อเสนอเหรอ? ถ้าผมจำไม่ผิด ระบบดำรงชีพยังอยู่ในขั้นทดสอบอยู่เลย”

“ท่านพูดถูกแล้วครับ แต่พวกเรารอต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เหมือนกับที่ท่านกล่าวมา พวกเราควรจะเชื่อใจวิศวกรของพวกเราครับ” คาร์สันสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วพูดต่ออีก “ถ้าพวกเรานำกระบวนการบางอย่างที่ยุ่งยากเรื่องเยอะออกไป พวกเราจะสามารถส่งระบบดำรงชีพขึ้นไปยังดาวอังคารได้ในระยะเวลาสองเดือนครับ!”

เสียงถกเถียงเบาๆ ดังบนโต๊ะประชุม

หน้าผากของคาร์สันชุ่มไปด้วยเหงื่อ

เขารู้ดีว่าข้อเสนอของเขามันเสี่ยงแค่ไหน

มันไม่ใช่แค่เสี่ยงธรรมดา เรียกได้ว่านำชีวิตของนักบินอวกาศไปพนันกับความเป็นความตายเลยด้วยซ้ำ

ยิ่งเมื่อหลังจากโศกนาฏกรรมที่โคลัมเบีย นี่ยิ่งฟังดูเหมือนไอเดียที่แย่ลงไปทุกทีๆ

ชายวัยกลางคนท่าทางจริงจังลุกขึ้นแล้วจ้องเขม็งไปทางคาร์สัน เขาพูดขึ้นมาว่า “ผู้อำนวยการคาร์สัน ผมอยากถามว่า ที่คุณพูดถึงกระบวนการบางอย่างที่ยุ่งยากเรื่องเยอะนี่ คุณกำลังหมายถึงกระบวนการทดสอบที่จำเป็นหรือเปล่าครับ?”

คาร์สันมองไปทางที่ปรึกษาการบริหารของท่านประธานาธิบดีแล้วเอ่ยขึ้นว่า “กระบวนการทดสอบพวกนั้นไม่ได้จำเป็นหรอก…อันที่จริงแล้ว พวกเรามั่นใจว่าพวกเราสามารถทำระบบดำรงชีพให้ใช้งานได้อย่างน้อยสองปีด้วยซ้ำไปครับ”

ผู้ชายคนนั้นถามต่อ “แล้วคุณมั่นใจได้อย่างไร?”

คาร์สันพูดไม่ออก ก่อนที่เขาจะตอบคำถามอะไร ท่านประธานาธิบดีก็พูดขึ้นมาก่อน

“เขาพูดถูกแล้ว

พวกเราจะต้องยืดหยุ่นให้มากกว่านี้ ยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าคู่อริของเราด้วยแล้ว นี่ไม่ใช่สิ่งที่สภาอวกาศแห่งสหรัฐอเมริกาต้องการหรืออย่างไร?”

ท่านรองประธานาธิบดียิ้มแล้วจัดแจงเนกไทของเขาให้เข้าที่

นี่เป็นหนึ่งในสถานการณ์อันหาได้ยากครั้งหนึ่งที่เขารู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญมาก

คนในห้องประชุมกำลังกระซิบกระซาบกัน และชายที่พูดโจมตีคาร์สันก่อนหน้านี้ก็เริ่มลังเล

จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า “ท่านประธานาธิบดี ผมต้องขอบอกท่านว่า นี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไรเลยนะครับ”

“อาจจะใช่ หรืออาจจะไม่ก็ได้ การทดสอบก็ไม่จำเป็นต้องทำในทะเลทรายแอริโซนาเสียหน่อย เราทำบนดาวอังคารก็ได้นะครับ” คาร์สันบอก เขาพูดต่อไปว่า “พวกเราสามารถส่งระบบดำรงชีพไปที่ดาวอังคารก่อน จากนั้นค่อยยืนยันว่ามันได้ผลไหม ถ้ามันได้ผล พวกเราก็ส่งนักบินอวกาศไปได้ครับ”

ถึงแม้เขาจะไม่ได้มั่นใจในไอเดียที่แสนเสี่ยงนี้นัก เขาก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว

นาซาต้องการชัยชนะ

ประเทศอเมริกาต้องการชัยชนะ!

ถ้ามีอะไรผิดพลาด ก็ทนยอมรับคำด่าคำติฉินแล้วลาออกไป

คาร์สันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

“ทำตามที่เขาบอกซะ แล้วก็ส่งระบบดำรงชีพไปที่ดาวอังคารสำหรับการทดสอบนี่ด้วย” ท่านประธานาธิบดีพูดในขณะที่ใช้ปากกาโลหะเคาะโต๊ะประชุมเป็นจังหวะ เขาพูดต่อว่า “พวกเราไม่มีเวลาให้เสียมากไปกว่านี้แล้ว ประเทศจีนต้องการทำสงครามกับพวกเรา! ทุกๆ นาทีมีค่า!”

ท่านประธานาธิบดีส่งสายตาที่มีความหมายให้กับคาร์สัน

“คุณคาร์สัน ผมหวังว่าผมจะได้เปิดขวดแชมเปญฉลองให้คุณในอีกสองเดือนข้างหน้านะ อย่าทำให้ผมผิดหวังซะล่ะ”

หน้าผากของคาร์สันมีเหงื่อหยด

แต่เขาก็ยังกำมือขวาแน่นชิดกับอกแล้วให้คำสัญญาออกมา

“ผมสัญญาครับท่าน

พระเจ้าจะอยู่ข้างเรา!”

…………………………………………

[1] (ESA) European Space Agency หรือ องค์การอวกาศยุโรป

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

The Overachiever's Black Tech System, 学霸的黑科技系统
Score 6.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Scholar’s Advanced Technological Systemหลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล “ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?” “ไม่ได้” “เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?” “ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset