ทั้งประเทศกำลังเฉลิมฉลองที่ประสบความสำเร็จกับการไปดวงจันทร์
ประเทศจีนกลายเป็นประเทศที่สองของโลกที่สามารถส่งคนไปเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จ ทำให้ประเทศอื่นๆ อิจฉามาก
โดยเฉพาะรัสเซีย
ในฐานะที่เป็นชาติที่มีความแข็งแกร่งด้านการบินและอวกาศเป็นอันดับที่สอง เมื่อปี 2017 องค์การอวกาศรอสคอสมอสได้วางกลยุทธ์ 4 ขั้นในการไปดวงจันทร์ รอสคอสมอสอ้างว่าจะส่งคนไปดวงจันทร์ได้ในปี 2031 เพื่อขึ้นไปทำภารกิจวิจัยวิทยาศาสตร์ระยะเวลา 14 วัน … รวมถึงสร้างศูนย์วิจัยบนดวงจันทร์ในปี 2034 ด้วย
ถึงแม้จะเป็นที่รู้กันในวงกว้างว่า คำประกาศนี้เป็นเพียงการตอบโต้กับโปรแกรมสถานีอวกาศโคจรรอบดวงจันทร์ของสหรัฐอเมริกา แต่รอสคอสมอสก็กำลังทำตามแผนนี้อยู่จริงๆ
สุดท้ายแล้ว การบินและอวกาศก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความภาคภูมิใจของคนอเมริกันเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นของคนรัสเซียอีกด้วย
แม้ว่าการจะสร้างสหภาพโซเวียตอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งจะเป็นไปไม่ได้ แต่หากรอสคอสมอสสามารถทำสิ่งที่สหภาพโซเวียตเคยล้มเหลวมาให้สำเร็จได้ จะทำให้คนรัสเซียพึงพอใจเป็นจำนวนมาก
ทุกคนคิดว่ารัสเซียจะเป็นประเทศที่สองที่ส่งคนไปเหยียบดวงจันทร์ได้
แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น…
จากการปล่อยยานสกายโกลว์สู่อวกาศที่ประสบความสำเร็จ ไปจนถึงการลงจอดของยานลงดวงจันทร์ และอย่างสุดท้ายก็คือ การที่นักบินอวกาศสามารถกลับมายังโลกได้อย่างปลอดภัย ความสำเร็จชุดใหญ่นี้ไม่ได้แค่ทำให้คนอเมริกันเท่านั้นที่กลัว แต่ยังรวมไปถึงคนรัสเซียอีกด้วย
ประเทศรัสเซียรู้สึกว่าประเทศจีนกำลังได้เปรียบตัวเองอยู่…
รอสคอสมอสกล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จในการไปดวงจันทร์ของประเทศจีน และยังจัดการประชุมภายในอย่างลับๆ ด้วยความรวดเร็วอีกด้วย องค์การได้เปลี่ยนกำหนดการในการไปดวงจันทร์และเพิ่มงบประมาณที่นำไปใช้ในโครงการ
รัสเซียไม่ใช่ประเทศเดียวที่แสดงท่าทีโต้ตอบในลักษณะดังกล่าว องค์การอวกาศยุโรปก็รีบจัดการประชุมอย่างรวดเร็วเช่นกัน พวกเขาประกาศอย่างเป็นทางการว่า ‘ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องไปดวงจันทร์’ องค์การอวกาศยุโรปยังประกาศแผนส่งคนไปดวงจันทร์แผนใหม่อีกด้วย พร้อมกับโปรเจกต์ร่วมกับสหรัฐอเมริกาในโครงการแอรีส
อย่างเช่นโปรเจกต์ระบบดำรงชีพ…
ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ม้ามืดอย่างประเทศจีนก็ได้เปลี่ยนสภาพของวงการการบินและอวกาศของนานาชาติ สิ่งที่หายไปคือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์[1]และการปกครอง ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่คือยุคสมัยแห่งการแข่งขันทางการบินและอวกาศ
การพยายามคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตเป็นเรื่องที่ยากมากๆ …
วันถัดมาหลังจากเหล่าฮีโร่เดินทางกลับมายังดาวโลก ช่องข่าวยังคงฉายวิดีโอที่ถ่ายบนดวงจันทร์และสารคดีเรื่องการไปดวงจันทร์อยู่
ส่วนฮีโร่ทั้งสามคนที่ได้ไปดวงจันทร์มาก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล 301 ในปักกิ่ง
ถึงแม้สุขภาพร่างกายของพวกเขาจะอยู่ในระดับดี พวกเขาก็ยังต้องผ่านกระบวนการตรวจเช็กตามปกติอยู่ดี เพราะมันอาจจะมีปัญหาสุขภาพที่ซุกซ่อนอยู่ก็เป็นได้
เนื่องจากพวกเขาอยู่ในสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำมาเป็นเวลานาน จึงต้องใช้เวลาสองสามวันกว่าจะปรับตัวให้ชินกับแรงโน้มถ่วงของโลกได้
ในส่วนของตัวลู่โจวนั้น ตอนนี้เขาได้ออกจากวงการอุตสาหกรรมการบินและอวกาศไปแล้ว ความสนใจของเขาย้ายไปอยู่ที่อื่น…
…
ณ ห้องใต้ดินของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
ในห้องแล็บส่วนตัวของลู่โจว
เสื้อสเวตเตอร์สีดำถูกวางไว้บนโต๊ะทดลอง…ตัวเสื้อไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากที่ว่ามันมีความเรียบเนียนและนุ่มเป็นพิเศษ ไม่ว่าลู่โจวจะมองอย่างไรมันก็เป็นแค่เสื้อธรรมดาๆ ตัวหนึ่ง ตอนเขาใส่มันก็รู้สึกสบายมาก
เขากลับตะเข็บเสื้อสเวตเตอร์และก็ไม่เจอกลไกอะไรแปลกๆ เลย
“นี่มันแค่ทำมาไว้ใส่ตอนหน้าร้อนจริงๆ เหรอ? ถ้าเกิดคนเห็นฉันใส่เจ้านี่ไปเดินท่อมๆ เขาจะมองว่าฉันบ้าไหมเนี่ย?”
ลู่โจวเชื่อว่าเสื้อสเวตเตอร์ตัวนี้ต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็น เขาไม่ยอมเชื่อว่าคนในอนาคตจะมีรสนิยมด้านแฟชั่นที่เรียบง่ายอะไรแบบนี้
และยิ่งเมื่อระบบจัดประเภทให้เสื้อตัวนี้เป็นหนึ่งใน ‘ตัวอย่าง’ แล้ว เสื้อตัวนี้ก็ต้องมีอะไรสักอย่างที่แตกต่างจากสิ่งอื่น
“…หนาประมาณ 1.72 มิลลิเมตร ให้ความร้อนได้ประมาณ 2000 วัตต์ต่อเมตร-เคลวิน” ลู่โจวพูดออกมาในขณะที่เขาอ่านค่าที่วัดได้จากมิเตอร์วัดอุณหภูมิที่มีความแม่นยำสูง เขาคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงพูดว่า “เสี่ยวไอ ส่งกล่องเครื่องมือให้ฉันหน่อย”
[โอเค! (๑•̀ᄇ•́) و✧]
ข้อความเป็นชุดโผล่ขึ้นมาบนจอที่อยู่ห่างออกไปสองเมตร หลังจากนั้น แขนหุ่นยนต์ที่ติดกับกำแพงก็เริ่มขยับ มันคว้ากล่องเครื่องมือที่อยู่บนพื้นได้อย่างแม่นยำ จากนั้นก็วางมันลงตรงข้างยานขนส่ง ยานขนส่งขยับมาอยู่ข้างลู่โจวด้วยความรวดเร็ว
ลู่โจวยื่นมือออกไปหยิบกรรไกรจากกล่องเครื่องมือขึ้นมา เขาเจอจุดเหมาะใกล้ๆ กับแขนเสื้อแล้ว จากนั้นเขาก็ลงมือตัดเสื้อสเวตเตอร์
เขาถึงกับตกใจ
เหมือนกับกรรไกรกำลังตัดแผ่นเหล็กชิ้นหนึ่งอยู่ไม่มีผิด ไม่ว่าลู่โจวจะพยายามมากแค่ไหน กรรไกรก็ไม่สามารถทำให้เสื้อเป็นรอยได้เลย
‘แปลกชะมัด’
ลู่โจวโยนกรรไกรทิ้งไป แล้วหันไปมองเสื้อสเวตเตอร์ที่ยังมีสภาพดีเหมือนเดิม ในหัวเขามีแต่ความประหลาดใจ
เมื่อเห็นลู่โจวกำลังมึนงง โดรนลำหนึ่งก็บินมาใกล้ๆ
[นายท่าน มีอะไรให้เสี่ยวไอช่วยไหม? 0.0]
ลู่โจวคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ถามขึ้นว่า “มีไอเดียอะไรบ้างล่ะ?”
[พวกเราลองใช้เครื่องตัดวอเตอร์เจ็ต[2]ดูไหม?]
ลู่โจวตบหัวตัวเองในทันที
ฉันเกือบลืมวิธีนี้เสียสนิทเลย!
สมัยก่อนนู้น ลู่โจวหาวิธีที่จะทำให้เสี่ยวไอไม่เบื่อได้ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ในการทดลองและอุปกรณ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมมากมายไว้ในห้องแล็บใต้ดิน แน่นอนว่าเขามีอุปกรณ์สุดเบสิกอย่างเครื่องตัดวอเตอร์เจ็ตอยู่แล้ว
ลู่โจวพูดขึ้นมาในทันทีว่า “โอเค ตัดเอาแขนเสื้อข้างซ้ายออกมาสัก 1 เซนติเมตรที”
[โอเค! (๑•̀ᄇ•́) و✧]
โดรนคว้าเสื้อสเวตเตอร์ขึ้นมาจากโต๊ะแล้วบินไปทางมุมห้องแล็บ จากนั้นมันก็วางเสื้อบนเครื่องตัดวอเตอร์เจ็ตที่เชื่อมต่ออยู่กับเซอร์เวอร์กลางของห้องแล็บ
หลังจากที่โดรนจัดวางเสื้อสเวตเตอร์บนจุดที่จะตัดเรียบร้อยแล้ว เสี่ยวไอก็ควบคุมเครื่องตัดวอเตอร์เจ็ตเพื่อปล่อยน้ำแรงดันสูงออกมา เศษผ้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 1 เซนติเมตรถูกตัดออกมาจากแขนเสื้อ
หลังจากที่เครื่องตัดทำงานเสร็จแล้ว ลู่โจวก็เดินตรงมาข้างหน้า เขาใช้แหนบหนีบเอาเศษผ้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 1 เซนติเมตรนั้นขึ้นมา เขาตรวจสอบเศษผ้าอย่างละเอียด ก่อนจะนำมันไปใส่ในถุงตัวอย่าง
ถึงแม้ว่าเขาจะมีอุปกรณ์ทดลองหลายรูปแบบพอสมควรในห้องแล็บใต้ดิน อุปกรณ์ขนาดใหญ่อย่างกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องผ่านก็เป็นสิ่งที่มีอยู่แค่ในแผนกเฉพาะทางของชั้นบนๆ ในตึก
ลู่โจววางแผนจะนำเศษผ้าชิ้นนี้ไปให้ยางสวี่และให้เขาใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องผ่านในการส่องแล้ววิเคราะห์สเปกตรัมอินฟราเรด
ลู่โจวค่อนข้างเชื่อในตัวยางสวี่
ทั้งด้านความสามารถและความจงรักภักดีของเขา
ลู่โจวทำความสะอาดห้องแล็บ เขาใส่เสื้อโค้ตแล้วกำลังจะเดินออกจากห้อง
แต่เมื่อเขาเดินไปถึงประตู เขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ขึ้นมา เขารีบเดินกลับไปที่โต๊ะทดลอง
“เกือบลืมอันนี้เลยนะเนี่ย”
เขาหยิบหลอดทดลองสองหลอดที่ถูกปิดฝาแน่นออกมาจากชั้นวาง หลอดหนึ่งมีของเหลวสีเขียวบรรจุอยู่ ส่วนอีกหลอดเป็นของเหลวสีดำ ลู่โจวยิ้มในขณะที่ใส่หลอดทดลองทั้งคู่ลงไปในถุงตัวอย่างถุงเดียวกับที่ใส่เศษผ้า จากนั้นเขาก็หันหลังกลับแล้วเดินออกจากห้องไป
…………………………………..
[1] การศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบทางภูมิศาสตร์ (มนุษย์และกายภาพ) ที่มีต่อการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
[2] การตัดด้วยพลังน้ำแรงดันสูง