ประสาทวิทยาเป็นสาขาการแพทย์ที่ยากมาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องเส้นประสาทไขสันหลัง ซึ่งสถานการณ์จะซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น
ถ้าส่วนปลายเส้นประสาทไขสันหลังได้รับความเสียหาย ส่วนล่างของร่างกายมนุษย์ทั้งหมดจะเป็นอัมพาต เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น หมอมักจะบอกคนไข้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะลุกเดินอีกครั้ง
สถานการณ์ของหลี่เกาเหลียงนั้นเหมือนกัน เมื่อเซลล์ประสาทส่วนกลางได้รับความเสียหาย เซลล์จะไม่สามารถฟื้นฟูได้ แม้แต่หมอที่ดีที่สุดในโลกก็ไม่อาจซ่อมไขสันหลังที่พังได้
แต่ว่าแผนการรักษาของลู่โจวนั้นแหวกแนวออกไป
โมเด็มสัญญาณเส้นประสาทจะถูกฝังไว้ที่ส่วนปลายของส่วนเส้นประสาทที่เสียหาย เส้นประสาทที่เสียหายจะถูกคลุมโดยอุปกรณ์จับเส้นประสาทจำลองที่ทำจากอัลลอยไทเทเนียม/โมลิบดีนัม
มันเทียบเท่ากับการสร้างสะพานข้ามเส้นประสาทที่เสียหายโดยใช้สัญญาณไฟฟ้าเพื่อแทนที่การส่งสัญญาณซับซ้อนระหว่างเซลล์ประสาท จากนั้น พวกมันสามารถใช้ ‘ตัวแปร’ จากทั้งสองฝั่งเพื่อแปลสัญญาณเส้นประสาท ดังนั้น สัญญาณจะสามารถควบคุมกระดูกอัลลอยไทเทเนียมไฟฟ้าที่สร้างไว้ข้างใน สิ่งนี้ทำให้ผู้ป่วยใช้ฟังก์ชันการเคลื่อนไหวของขาได้อีกครั้ง
ในการที่จะเพิ่มการฟื้นฟูอย่างเต็มประสิทธิภาพของทักษะกีฬาและเพิ่มอายุการใช้งานของตัวเชื่อมเส้นประสาทเทียม กระดูกอัลลอยไทเทเนียมที่ใช้ในขาของเขาถูกออกแบบร่วมกันโดยสถาบันวัสดุเชิงคำนวณและวิศวกรรมเครื่องกลแห่งสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
ราคาเฉลี่ยต่อยูนิตอยู่ที่อย่างน้อย 2,000 ดอลลาร์ต่อกรัม
เมื่อเพิ่มค่าใช้จ่ายอุปกรณ์เข้าถึงเส้นประสาทและอุปกรณ์อย่างอื่น การทดลองนี้จะมีราคาไม่ถูกเลย…
หลังจากการแปลงสภาพนี้ เกือบทั้งส่วนล่างของร่างกายเขาจะถูกแทนที่ด้วยชิ้นส่วนจักรกล ถึงแม้ว่ามันจะไม่เหมือนกับหุ่นเทอร์มิเนเตอร์ หลังจากที่เขาปรับตัวได้เต็มรูปแบบ เขาจะมีทักษะกีฬาได้เหมือนมนุษย์ทั่วไป
ณ ห้องผ่าตัด
วิสัญญีแพทย์ได้เตรียมยาสลบเรียบร้อยและพร้อมฉีดยาทุกเมื่อ
ศัลยแพทย์ที่สวมถุงมือแล้วหยิบเครื่องมือผ่าตัดออกมา เขามองดูหลี่เกาเหลียงก่อนเริ่มการผ่าตัดและถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณพร้อมไหม?”
หลี่เกาเหลียงนอนบนเตียงผ่าตัด และเขาตอบอย่างใจเย็น “ผมพร้อมแล้ว เริ่มกันเลยดีกว่า”
การเตรียมพร้อมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และการผ่าตัดจะเริ่มในไม่ช้า
หวังเผิงยืนอยู่นอกห้องผ่าตัด เขาหาบุหรี่เจอในกระเป๋ากางเกงแต่เขาตัดสินใจโยนมันลงถังขยะ
เขาถอยไปสองก้าวแล้วอดที่จะมองดูลู่โจวไม่ได้
“คุณคิดว่าการผ่าตัดนี้จะประสบความสำเร็จไหม?”
ลู่โจวส่ายหน้าและพูดว่า “ผมไม่มั่นใจ 100% ผมสามารถบอกได้แค่ว่าผมพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อลดความเสี่ยง”
เพื่อทำให้มั่นใจว่าการผ่าตัดจะไม่ผิดพลาด สตาร์สกายเทคโนโลยีได้เชิญศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์มากที่สุดจากปักกิ่งมาและทำการฝึกซ้อมผ่าตัดหลายครั้ง
ถึงกระนั้นก็ตาม ลู่โจวไม่สามารถการันตีได้ว่าจะไม่มีอุบัติเหตุ
หวังเผิงพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไร เขามองประตูห้องผ่าตัดเงียบๆ แล้วกำหมัดแน่น เขาอธิษฐานในใจให้กับอดีตสหายร่วมรบ
การผ่าตัดเป็นไปนานมาก
แผนตอนแรกคือเสร็จสิ้นการผ่าตัดเวลาหกโมงเย็น แต่มันล่าช้าไปถึงเวลาตีสาม
ลู่โจวนั่งที่เก้าอี้หน้าห้องผ่าตัด แล้วงีบหลับ เขาตื่นขึ้นกะทันหันจากเสียงเปิดประตูห้องผ่าตัด เมื่อเขาเห็นศัลยแพทย์ออกมาจากห้องผ่าตัด เขาถามทันทีว่า “เป็นอย่างไรบ้างครับ? การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดีไหม?”
หัวหน้าศัลยแพทย์ถอดผ้าปิดปากออกแล้วมองดูลู่โจวด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า
“การผ่าตัดค่อนข้างประสบความสำเร็จ…ส่วนที่ว่ามันจะได้ผลหรือไม่ เราต้องรอให้ผู้ป่วยตื่นขึ้นมาก่อน”
ลู่โจวถอนหายใจอย่างโล่งอก
หวังเผิงคลายมือแล้วมองหมออย่างซาบซึ้ง
“ขอบคุณครับ”
“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก โชคดีที่ผู้ป่วยมีร่างกายแข็งแรงมาก เอาตามตรง มันเป็นครั้งแรกที่ผมผ่าตัดยุ่งเหยิงขนาดนี้…ผมไม่เคยได้ยินเรื่องการเชื่อมเส้นประสาทมาก่อน”
หมอเปี่ยมไปด้วยอารมณ์
สำหรับผู้คนนอกห้องผ่าตัด ผลลัพธ์ของการผ่าตัดมีแค่สำเร็จหรือล้มเหลว แต่สำหรับเขามันคือการทำงานหนักสิบชั่วโมง
หมอนิ่งไปชั่วครู่และพูดว่า “พูดแบบทั่วๆ ไป ถ้าการบาดเจ็บของไขสันหลังทำให้ใยประสาทเสียหาย อัมพาตที่เกิดจากการบาดเจ็บนี้นั้นถาวร…ถ้าเขาลุกเดินได้อีกครั้ง เขาจะเป็นปาฏิหาริย์ทางการแพทย์”
“หวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น” ลู่โจวพยักหน้าให้หมอแล้วพูดว่า “คุณควรพักนะครับ”
หมอยิ้มอย่างลังเล
“โอ้ ขอบคุณมาก”
เขาทำงานอย่างหนักมาสิบชั่วโมง และเขาได้ถึงขีดจำกัดของจิตใจแล้ว
…
หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้น…
หลี่เกาเหลียงพักฟื้นที่เตียงจนถึงเช้า
เขาตื่นขึ้นในที่สุด
ถึงแม้ว่าวิสัญญีแพทย์ที่ดูแลมีประสบการณ์และโดสยาปริมาณสมบูรณ์แบบ การผ่าตัดระบบประสาทส่วนกลางต้องใช้ยาสลบปริมาณมาก ตอนนี้เขายังไม่สามารถพูดได้ และทำได้แค่ลืมตา
หลังจากที่ได้ยินว่าเขาฟื้นแล้ว ลู่โจวรีบพุ่งตรงมาจากสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
เมื่อเขามาถึงวอร์ด หลี่เกาเหลียงนอนอยู่ที่เตียงมาแล้วสักพัก
เขาทำได้แต่กลอกลูกตาและขยับกล้ามเนื้อบนหน้าบางส่วน หลังจากได้ยินเสียงเปิดประตู เขากลอกตาไปดูลู่โจว
“คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?”
หน้าของหลี่เกาเหลียงกระตุก แต่เขาไม่ได้พูดอะไรออกไป
“ขอโทษครับ ผมลืมไปว่าคุณยังพูดไม่ได้” ลู่โจวส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มและหยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อ “การผ่าตัดประสบความสำเร็จอย่างมาก ส่วนเรื่องคุณจะปรับตัวกับร่างกายใหม่ได้หรือไม่จะขึ้นอยู่ว่าคุณทำได้ดีขนาดไหนหลังการบำบัด การผ่าตัดเป็นส่วนที่ยาก ส่วนที่เหลือน่าจะง่ายแล้ว”
หลี่เกาเหลียงไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ตั้งตามองลู่โจว
ลู่โจวสามารถบอกได้ว่าเขาซาบซึ้งใจ เขาเลยยิ้มและพูดตอบว่า “ผมดีใจที่คุณปลอดภัย
คุณน่าจะพักผ่อนสองสามวัน เดี๋ยวไว้ผมจะมาเยี่ยมคุณนะครับ”
“ผม…” ใบหน้าของหลี่เกาเหลียงกระตุก เขาพยายามจะอ้าปากพูด “ขอบ…คุณ”
“ด้วยความยินดี”
ลู่โจวยิ้มให้เขา
จากนั้นเขาก็หมุนตัวแล้วเดินออกไปจากห้อง
…………………………………………………….