ในความเป็นจริง สตาร์ไลท์ถึงที่หมายก่อนที่ลู่โจวคาดไว้ 79 ชั่วโมง
หลังจากที่มันบินไป 41 วัน 2 ชั่วโมง ดาวเคราะห์สีแดงเพลิงค่อยๆ ปรากฏขึ้นที่หน้าต่างของสตาร์ไลท์
หลิวเปียวชำเลืองมองนอกหน้าต่าง เขามองดูดวงอาทิตย์ส่องสว่างค่อยๆ ลอยขึ้นจากขอบของเงาสีแดงเพลิง เขามองดูคลื่นทรายที่เป็นลูกคลื่นล้มลงเป็นทะเลเพลิง
“มันดูเละเทะมาก…แต่ฉากนี้ค่อนข้างสวยงาม”
“ใช่” สวี่เจ็งฮงพยักหน้าและกดปุ่มที่หมวก เขาพูดว่า “นี่สตาร์ไลท์ เราได้เข้าสู่ระบบแรงโน้มถ่วงของดาวอังคาร เข้าวงโคจร a-1 สำเร็จ”
พวกเขารอเงียบๆ อยู่ห้านาที
มีเสียงดังที่ไม่มั่นคงมาจากโลกที่ห่างออกไปหลายสิบล้านกิโลเมตร
“นี่คือศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน ขอแสดงความยินดีที่ปฏิบัติภารกิจสำเร็จ…โปรดดำเนินขั้นตอนเบรกแบบแอคทีฟและเตรียมเข้าใกล้ดาวอังคาร การนำทางวงโคจรจะถูกจัดการโดยคอมพิวเตอร์บนเครื่อง ขอให้โชคดี”
“รับทราบครับ”
เนื่องจากพวกเขาอยู่ห่างจากโลกหลายสิบล้านกิโลเมตร ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินไม่สามารถควบคุมยานอวกาศได้อย่างเรียลไทม์
แผนการเปลี่ยนวงโคจรได้ถูกใส่รหัสในคอมพิวเตอร์ยานอวกาศล่วงหน้า นักบินจะสำเร็จแผนเปลี่ยนวงโคจรด้วยการช่วยเหลือจากคอมพิวเตอร์ในยาน
แน่นอนว่าถึงมันจะฟังดูยุ่งยาก แต่มันง่ายกว่าในการปฏิบัติจริง
สตาร์ไลท์มีการควบคุมอัตโนมัติดีกรีสูง จนกว่าจะมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น โดยปกติแล้วนักบินเพียงแค่ต้องมองดูหน้าปัดความเร็วและทำให้แน่ใจว่ายานอวกาศไม่ได้เบี่ยงเบนจากวงโคจร
หลิวเปียวถาม “เรากำลังลงจอดใช่ไหม? หรือว่าเรากำลังรอให้พวกเขามาหาเรา?”
สวี่เจ็งฮงพูดตอบ “ระบบช่วยชีวิตนิวเวอร์จิเนียมีแคปซูลขากลับ พวกเขาจะกลับยานอวกาศ BFS โดยใช้แคปซูลขากลับ จากนั้นเราจะกลับไปวงโคจร”
พวกนั้นก็จะปล่อย “โพรบอวกาศสอดแนม”
แน่นอนว่านี่เป็นภารกิจลับสุดยอด สิ่งนี้ถูกจัดการโดยหัวหน้าดีไซเนอร์ลู่โจวด้วยตัวเอง แม้แต่หลิวเปียวก็ไม่ได้รับแจ้งเรื่องภารกิจนี้
หลิวเปียวพูดต่อ “โอเค…ถ้าเกิดพวกเขาไม่กลับมาล่ะ?”
สวี่เจ็งฮงพูดว่า “งั้นเราจะสวดมนต์ให้พวกเขา…อย่าลืมถ่ายรูปเก็บหลักฐานไว้ ให้แน่ใจว่าพวกอเมริกันไม่ได้โทษเรา”
“ไม่มีปัญหา ผมจะเริ่มถ่ายรูปตอนนี้เลย!”
หลิวเปียวยิ้มและเอื้อมมือไปกดปุ่มที่แผงควบคุม
“อย่าเพิ่ง”
สวี่เจ็งฮงยิ้ม
แต่ทันใดนั้นหน้าของเขาอึ้งไป
เขามองดูยานอวกาศสีเงินนอกหน้าต่าง ตาของเขาเบิกกว้าง เขาวางแตะมือไว้ที่หมวก
“นี่คือสตาร์ไลท์…ยานอวกาศอเมริกันดูเหมือนว่าจะมีปัญหาเล็กน้อย”
ห้านาทีผ่านไป
เสียงศูนย์บัญชาการดังมาจากช่องการสื่อสาร
“เกิดอะไรขึ้น?”
สวี่เจ็งฮงชำเลืองตามองยานอวกาศสีเงินที่อยู่ห่างออกไป
เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่เขารู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ
หลิวเปียวมองไปในทางเดียวกันและเปิดไลดาร์ตรวจจับระยะทางและเล็งไปที่ยานอวกาศเป้าหมาย
ถึงแม้ว่าอุปกรณ์นี้ถูกใช้เพื่อกะระยะทางของอุกกาบาต มันยังถูกใช้เล็งเป้ายานอวกาศได้อีกด้วย
สวี่เจ็งฮงมองดูมิเตอร์ความเร็วที่ไลดาร์และสูดหายใจเข้าลึก
“ยานอวกาศ BFS กำลังพังลง…ขอย้ำอีกครั้งยานอวกาศ BFS กำลังพังลง!”
…
มันเป็นเวลานานกว่าหนึ่งเดือน นับตั้งแต่ที่สัญญาณขอความช่วยเหลือถูกส่งมาจากดาวอังคาร
เมื่อพูดกันตามตรง มันผ่านมาแล้ว 41 วัน กับ 2 ชั่วโมง
จากการขาดแคลนแสงและไฟฟ้า พืชผักในพื้นที่เพาะปลูกได้เหี่ยวเฉา
เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน เมื่อสองสัปดาห์ก่อน พวกเขาจำกัดช่วงของกิจกรรมไปที่ห้องทดลองและตัดไฟฟ้าจากพื้นที่อื่นทั้งหมด เหตุผลที่ทำแบบนี้เป็นเพราะว่าห้องทดลองมีเทอร์มินัลเดียวที่สามารถรับส่งข้อมูลกับยานอวกาศ BFS ได้
อย่างไรเสีย พวกเขามีทรัพยากรเหลือน้อย
พวกเขาอาจจะเสียชีวิตจากการขาดออกซิเจนในอีก 42 ชั่วโมง…
เสียงผู้หญิงที่สั่นคลอนทำลายความเงียบในห้องทดลอง
“พวกเขาจะช่วยเราใช่ไหม?” จูเลียมองดูกระจกด้วยสีหน้าสิ้นหวังอย่างช่วยไม่ได้
มันไม่มีโอกาสที่พายุทรายจะสิ้นสุดลง
มันดูเหมือนว่าพายุทรายจะอยู่ไปอีกอย่างน้อยหกเดือน
จอห์นสันยืนพิงหน้าต่างและมองดูรูปในมือ เขาตอบด้วยเสียงอ่อนแรง “แน่นอน”
ถึงเขาจะตอบอย่างกระตือรือร้น แต่สีหน้าของเขาไม่มีความหวังอยู่เลย
“อาจจะไม่” ทราวิสพูดตอบ “บางทีพวกเขาอาจจะปล่อยให้เราตาย”
ตาของจูเลียเบิกกว้าง แล้วเธอถามว่า “ทำไมล่ะ?”
ทราวิสตอบ “ลองคิดดูนะ ถ้าพวกเราตาย พวกเราจะตายอย่างฮีโร่ ถ้าพวกเรารอด พวกเขาจะต้องสละทรัพยากรและพาเรากลับบ้าน…มันเป็นเรื่องแง่ลบสำหรับพวกเขา”
“พอแล้ว!”
จอห์นสันคำรามขึ้นมากะทันหัน
ห้องเคบินเงียบไปหนึ่งวินาที
ทราวิสขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า
“เฮ้ มีอะไรที่ผมพูดผิดไปหรือไง?”
จอห์นสันลุกขึ้นและมองหน้าทราวิส
“ผมแค่อยากให้คุณหุบปาก หยุดผลาญออกซิเจน”
“นี่มันหมายความว่าอย่างไร? ยังไงเราก็จะตายอยู่แล้ว โอ้ อยากโดนสักหน่อยใช่ไหม? มาสิ ผมทนคุณไม่ไหวแล้ว” ทราวิสถูมือและกำหมัดแน่น
จูเลียเห็นว่าชายสองคนนี้จะชกต่อยกัน เธอเลยใช้แรงทั้งหมดที่มีลุกขึ้นและพยายามจะหยุดพวกเขา
“พอได้แล้ว คุณทั้งสองคนใจเย็น!”
ทันใดนั้น พวกเขาได้ยินเสียงตะกุกตะกักนอกระบบช่วยชีวิต
ชายทั้งสองหยุดทะเลาะกันและมองดูนอกหน้าต่าง
ถึงแม้ว่ามีพายุทรายโหมหนัก พวกเขาสามารถเห็นได้ชัดว่ามีลูกบอลไฟกำลังไหม้ที่พื้นดิน ในขณะเดียวกัน พวกเขาเห็นจุดสีเชียวกะพริบที่เทอร์มินัลควบคุม ท้ายที่สุดแล้ว จุดกลายเป็นสีแดง
มีบรรทัดหนึ่งปรากฏขึ้นที่มุมขวาบนของเทอร์มินัลควบคุม
[การเชื่อมต่อสูญหาย]
จอห์นสันกลืนน้ำลาย เขาดูตกตะลึง
“โอ๊ย ยานอวกาศของเรา!”
ทราวิสพึมพำเบาๆ “พระเจ้า…”
มีความเงียบเกิดขึ้นเป็นเวลานาน
ไฟเผาออกซิเจนที่เหลือทั้งหมดและถูกพายุทรายกลืนไปในที่สุด…
จูเลียมองดูนอกหน้าต่างแล้วถามด้วยเสียงสั่น “เรากำลังจะตายใช่ไหม?”
ไม่มีใครตอบเธอ
ยานอวกาศ BFR มีเชื้อเพลิงมากพอที่จะลอยในวงโคจรเป็นเวลายี่สิบปี แต่แล้ว “ความผิดพลาด” ก็เกิดขึ้น…
จอห์นสันใช้นิ้วชี้วาดไม้กางเขนที่หน้าอก
พระเจ้า โปรดปกป้องผมด้วย
แต่ลึกๆ แล้ว เขารู้ว่าพระเจ้าไม่สามารถช่วยอะไรได้ ที่นี่เป็นดินแดนของแอรีส…
ทันใดนั้น เทอร์มินัลควบคุมเริ่มส่งเสียง
ตอนแรก เขาคิดว่าเป็นเสียงสถิต เขาเลยไม่สนใจ
แต่แล้วเสียงเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ…
จอห์นสันเห็น [ขอเชื่อมต่อ] ที่เทอร์มินัล เขาเลยรีบวิ่งไปกดปุ่ม
อาจจะเป็นเอเลี่ยน?
เขาหวังว่าเขาไม่ได้จินตนาการไปเอง
ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง
เมื่อช่องทางการสื่อสารได้เชื่อมต่อ มีเสียงดังเข้าหูเข้ามา…
“นี่คือนักบินอวกาศจีน สวี่เจ็งฮง คุณเป็นอย่างไรบ้างครับ เพื่อนชาวดาวอังคาร?”
…………………………………….