คณะกรรมการการโคจรรอบดวงจันทร์กำลังเตรียมการก่อสร้างบนพื้นผิวดวงจันทร์ สตาร์ไลท์จากดาวอังคารไปแล้วหนึ่งเดือน
การเปลี่ยนวงโคจรครั้งล่าสุดเสร็จสิ้น แล้วสตาร์ไลท์ใช้ตัวกลางทำงานไปเกือบทั้งหมด มันได้ปิดระบบทรัสเตอร์ไอออนไปแล้ว และตอนนี้มันใช้แรงเฉื่อยสำหรับการเดินทางที่เหลือ
ทราวิสคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตบนสตาร์ไลท์แล้ว
พวกเขามีเตียงนอนสะอาด ออกซิเจนจำนวนมาก และอาหารรสเลิศ
เขาใช้เวลานานกว่าหนึ่งเดือนที่ห้องทดลองในนิวเวอร์จิเนีย เมื่อเปรียบเทียบกัน ชีวิตในสตาร์ไลท์นั้นคือสวรรค์
พวกคนจีนมีระบบอ่างน้ำดีกว่านาซา สตาร์ไลท์มีห้องน้ำส่วนตัวที่จะลองสภาพบรรยากาศที่มีแรงโน้มถ่วงโดยใช้การเร่งแรงเหวี่ยง
พูดโดยง่าย หลังจากเครื่องเริ่มหมุน การอาบน้ำในสตาร์ไลท์ก็เหมือนกับการอาบน้ำบนโลก ไม่มีหยดน้ำลอยฟุ้ง
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ตัวเก็บอากาศจะดูดน้ำออกไปจากห้องน้ำ แล้วหลังจากนั้นเครื่องก็จะหยุดหมุน
ห้องน้ำเป็นเหมือนกับเครื่องเหวี่ยงขนาดยักษ์
ยานอวกาศ BFS ไม่มีทางมีวิธีการอาบน้ำที่หรูหราได้แบบนี้
แน่นอนว่าเมื่อพวกเขาก้าวขึ้นสตาร์ไลท์ พวกเขาต้องคำนวณทรัพยากรทุกอย่างโดยละเอียดถี่ถ้วน แต่สตาร์ไลท์มีไฟฟ้าให้ใช้มาก…
สิ่งเดียวที่ทราวิสไม่พอใจคือการขาดอิสระ
เขามีแค่เตียงเดี่ยวในห้องนอนขนาดเล็ก ไม่มีเฟอร์นิเจอร์เลย ยกเว้นแต่โต๊ะพับที่อยู่ใต้เตียง เขาไม่สามารถออกจากห้องได้นอกจากไปกินข้าวหรืออาบน้ำ เขาฆ่าเวลาโดยการนอนหลับ
บรรยากาศชวนซึมทำให้ทราวิสไม่สามารถรู้สึกสบายได้ กระจกทรงกลมมีแต่ทิวทัศน์อากาศว่างเปล่าให้เห็น มันให้บรรยากาศเดียวกับใต้ทะเลลึก
หัวใจทองคำมีเฟอร์นิเจอร์หรูหราและระบบสร้างความบันเทิง แต่ในอีกมุมหนึ่ง สตาร์ไลท์เป็นเหมือนรถขนขยะ
มันแทบจะเหมือนว่าทราวิสติดอยู่ในคุก
ทราวิสมองดูจอห์นสันซึ่งอยู่ในห้องตัวเองและถามว่า “อีกนานแค่ไหนกว่าเราจะถึงโลก?”
จอห์นสันกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เขาตอบกลับอย่างสบายๆ “อาจจะหนึ่งเดือน…อาจจะสองเดือน…หรือนานกว่านั้น”
กัปตันดูไม่สนใจที่จะพูดคุยด้วย ทราวิสยักไหล่และอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “ทำไมพวกคนจีนถึงไม่ปล่อยให้เราเดินไปเดินมา? พวกเขาคงกลัวเราจริงๆ…”
“มันเป็นเพราะว่าเราไม่แน่ใจว่าคุณได้ติดแบคทีเรียหรือไวรัสจากดาวอังคารหรือเปล่า พวกเราก็ไม่สามารถตรวจร่างกายคุณได้เต็มรูปแบบเช่นกัน” หลิวเปียวพูดในขณะที่เขาลอยมาพร้อมกล่องอาหารกลางวัน
เขาวางกล่องอาหารไว้บนโต๊ะนอกห้องนอนของพวกเขา และเขาพูดอีกว่า “ผมรู้ว่าสภาพความเป็นอยู่มันยากลำบาก แต่ผมหวังว่าพวกคุณจะผ่านมันไปได้ อย่างไรเสีย เคบินนี้เคยเป็นห้องเก็บของมาก่อน เราไม่เคยคิดว่าจะต้องบินไปดาวอังคาร”
ทราวิสมองดูนักบินอวกาศจีนและพูดว่า “เฮ้ เพื่อน คุณมีเครื่องเล่นเกมหรืออะไรสักอย่างให้เราไหม? ไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะอ่านหนังสือ!”
หลิวเปียวยิ้มและพูดว่า “ผมจะส่งคำขอของคุณไปให้ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน บางทีพวกเขาอาจจะให้เครื่องเล่นเกมของคุณครั้งหน้า”
“ครั้งหน้า? ผมไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว!”
หลิวเปียวไม่ได้พูดตอบ เขาหันหลังและเดินออกจากโมดูลเคบินรับรองแขกไป
หลังจากที่ประตูเคบินถูกล็อก ประตูห้องนอนถูกปลดล็อก ทราวิสพูดพึมพำ “ผมรู้สึกเหมือนอยู่ในคุก”
จอห์นสันพูดตอบ “พวกเรากำลังขอความช่วยเหลือจากพวกเขา…อย่างน้อยพวกเขาก็พาเรากลับโลก”
ทราวิสคิดถึงเรื่องนี้และค้นพบว่าจอห์นสันพูดถูก
จู่ๆ เขานึกถึงบางอย่างที่นักบินอวกาศจีนพูด
เขากลืนน้ำลายและพูดด้วยน้ำเสียงประหม่า
“กัปตัน…”
จอห์นสันพูดตอบ “อะไร…”
ทราวิสพูดต่อ “ถ้าเกินมีจุลินทรีย์และแบคทีเรียบนดาวอังคาร นั่นหมายความว่าเรา…”
“อย่าคิดมากเกินไป” จอห์นสันพลิกดูหนังสือและพูดอย่างสบายๆ “มันเป็นไปได้ แต่มันน่าจะไม่มีนะ”
ทราวิสทุบประตูหนาอย่างโมโห
“เวร ทำเนียบรัฐบาลคิดกับเราแบบนี้หรือ? หนูทดลอง?”
จูเลียอยู่ในห้องของเธอ แล้วเธอนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง เธอฟังชายสองคนนี้พูดคุยกันระหว่างที่เธอมองดูนอกหน้าต่างอย่างเงียบๆ
เธอใช้เวลานี้เพื่อคิดทบทวนชีวิต การตัดสินใจของเธอ และแผนการสำหรับโครงการแอรีส
ในตอนแรก เธอไม่เข้าใจว่าทำไมภารกิจถึงล้มเหลว ถึงแม้ว่าทุกคนพยายามเต็มที่ที่สุด
แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าผลลัพธ์ของโครงการแอรีสอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุ
ทริปเร่งรีบไปดาวอังคารเป็นการตัดสินใจที่ไม่ชาญฉลาดตั้งแต่แรก…
…
การเดินทางกลับโลกของสตาร์ไลท์นั้นเร็วกว่าที่คาดคิดไว้
ในวันที่ 50 ของการเดินทาง ดาวเคราะห์สีน้ำเงินปรากฏตัวขึ้นนอกหน้าต่าง
“นี่คือสตาร์ไลท์ ตอนนี้กำลังเข้าวงโคจรของสถานีอวกาศ ขอการสนับสนุนการนำทาง”
“นี่คือปราสาทจันทรา กำลังช่วยนำทาง”
“ได้รับแล้ว ขอบคุณครับ”
หลังจากการสื่อสาร สตาร์ไลท์ค่อยๆ เข้าวงโคจรของปราสาทจันทราอย่างช้าๆ
โครงสร้างสีน้ำเงินขาวค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้าต่าง โดยมีแสงอาทิตย์ส่องสว่างอยู่ข้างหลัง
จอห์นสันนอนเอนหลังบนเตียง เขามองดูปราสาทจันทราและวางหนังสือลง ม่านตาของเขาขยายขึ้น
“พระเจ้า…นี่หรือสถานีอวกาศของคนจีน?”
เขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น
ภาพตรงหน้าเขาดูน่าตกตะลึงมากกว่ารูปแบบแนวคิด
ยานอวกาศเคลื่อนตัวไปข้างหน้าช้าๆ
พวกเขาเข้าใกล้สถานีอวกาศมากขึ้นเรื่อยๆ
สถานีอวกาศขนาดเม็ดข้าวขยายใหญ่ขึ้นเป็นมังกรในที่สุด
แผงโซลาร์เซลล์พันกว่าแผงเป็นเหมือนปีกมังกร ซิงค์ความร้อนเป็นเหมือนเกล็ดของมัน โมดูลอวกาศทรงท่อเป็นเหมือนแขนขา
มันเป็นเหมือนป้อมปราการ
หรืองานศิลปะ…
สวี่เจ็งฮงที่นั่งอยู่ในห้องนักบินของสตาร์ไลท์ยิ้มด้วยสีหน้าเหน็ดเหนื่อย เขายื่นมือไปชนกำปั้นกับหลิวเปียว จากนั้นเขากดปุ่มที่หมวกและพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน
“นี่คือสตาร์ไลท์ เราได้เข้าวงโคจรสำเร็จแล้ว ขอลงจอด!”
ผ่านไปสองวินาที
อีกฝั่งตอบกลับมา “นี่คือปราสาทจันทรา
ยินดีต้อนรับกลับมา ฮีโร่ของเรา!”
…………………………………………..