วันต่อมา
ภายในเคบินทดลองที่ปราสาทจันทรา
ศาสตราจารย์สตีเฟ่นยืนต่อหน้ากลุ่มนักวิจัย เขามีขอบตาดำชัดเจน สตีเฟ่นชูธีสิสในมือและพูดโดยไม่มีแรง
“ผมแน่ใจว่าคุณได้อ่านธีสิสนี้แล้ว…ผมจะไม่พูดซ้ำในสิ่งที่เขียนในธีสิส ผมแค่สงสัย ผมอยากรู้ว่าใครคือดอกเตอร์ซี?”
ผู้คนตรงหน้าเขาหกคนงุนงงกันหมด ศาสตราจารย์สตีเฟ่นพูดขึ้นอีกครั้ง
“ขอโทษนะ แต่ดอกเตอร์ซีต้องเป็นหนึ่งในเราเจ็ดคน…ไม่สิ หกคน เพราะว่าผมรู้ว่าผมไม่ได้เป็นคนเขียนมัน เอียน คุณใช่ไหม?”
เอียนมองดูธีสิสและส่ายหัว เขาพูดตอบว่า “ไม่ ไม่ใช่ผม ทำไมผมต้องเผยแพร่ธีสิสโดยไม่เปิดเผยตัวตนล่ะ? สิ่งนี้อาจจะเป็นการค้นพบระดับรางวัลโนเบล ทำไมคนเขียนถึงไม่อยากมีชื่อเอี่ยวด้วย?”
การรุกรานของแบคทีเรีย X-0172 ถือว่าเป็นวิกฤตการณ์ของระบบนิเวศระดับโลก ใครที่แก้ปัญหานี้ได้จะถูกยกย่องว่าเป็นฮีโร่ของมวลมนุษยชาติอย่างไม่ต้องสงสัย คนคนนั้นอาจจะไม่ได้รางวัลโนเบล แต่ก็จะถูกเสนอชื่ออย่างแน่นอน
ศาสตราจารย์เลสลี่ชำเลืองมองศาสตราจารย์จ้าวชูเซวียนและสบตามองเขา
“ตัว Z…นั่นไม่ใช่ตัวอักษรแรกของชื่อภาษาอังกฤษของคุณหรือ?”
“ลืมมันไปเลย” ศาสตราจารย์จ้าวส่ายหน้าและพูดว่า “ไม่ใช่ผม…ทำไมถึงจะปกปิดตัวเองล่ะ?”
คนส่วนใหญ่ยินดีใส่ชื่อตัวเองลงธีสิสนี้ นักวิจัยเจ็ดคนไม่รู้ว่าทำไมบุคคลนี้ถึงตัดสินใจไม่เปิดเผยตัวเอง
นักวิจัยทั้งเจ็ดคนในเคบินทดลองจ้องมองหน้ากัน
ท้ายที่สุด ศาสตราจารย์เอียนยักไหล่และดูไม่ค่อยสบอารมณ์
“โอเค…ดูเหมือนว่าดอกเตอร์ซีไม่ใช่พวกเรา คนที่ยังสติดีก็อยากให้มีชื่อตัวเองเกี่ยวข้องกับธีสิสนี้”
“ไร้สาระเสียจริง” ศาสตราจารย์เลสลี่พูดด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ “ถ้าไม่สามารถเข้าถึงแบคทีเรีย X-0172 ได้ แล้วคนนั้นจะรู้เกี่ยวกับกลไกของสปอร์แบคทีเรียได้อย่างไร?”
เคบินทดลองอยู่ในความเงียบ
ศาสตราจารย์เลสลี่ไม่ใช่แค่คนเดียวที่ฉงนกับปัญหานี้
“มันฟังดูเพี้ยนนะ แต่เราน่าจะลองวิธีของดอกเตอร์ซีดูนะ…ไอเดียวิจัยของเราคือการหาวิธียับยั้งไม่ให้แบคทีเรีย X-0172 สร้างสปอร์ ถูกไหม?” ศาสตราจารย์เอียนมองดูธีสิสและยักไหล่ จากนั้นเขามองดูนักวิจัยคนอื่นในเคบินและพูดว่า “ดูเหมือนว่าดอกเตอร์ซีมีไอเดียเหมือนกับเรา”
จ้าวชูเซวียนพยักหน้าและพูดว่า “ผมคิดว่ามันคุ้มที่จะเสี่ยงนะ”
ศาสตราจารย์เลสลี่พยักหน้า “ฉันโอเค”
ศาสตราจารย์สตีเฟ่นยืนพิงหน้าต่างและพูดว่า “มันวางแผนจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว”
ศาสตราจารย์เอียนดีดนิ้ว
“สี่คนเห็นด้วย ผลโหวตเกินครึ่ง…โอเค ตามนี้”
…
พูดด้วยทั่วไป การทำซ้ำการทดลองยากกว่าการทำการทดลองครั้งแรก
ผลการวิจัยที่สำคัญจำนวนมากในด้านชีววิทยาสมัยใหม่มาจากความบังเอิญ ถึงแม้ว่าจะสั่งน้ำยาชุดเดียวกัน อุปกรณ์จากผู้ผลิตเดียวกัน การทดลองอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันไป
ไม่ใช่แค่นั้น เทคโนโลยีโฟโต้ช็อปก็มีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้านักศึกษาปริญญาตรีไม่สามารถทำซ้ำการทดลองได้ คนพวกนั้นก็มักจะตัดต่อรูปการทดลอง
ดังนั้น การทำซ้ำการทดลองได้เป็นหนึ่งในมาตรวัดที่สำคัญที่สุดของการทดลองที่มีค่า
ศาสตราจารย์สตีเฟ่นเชื่อว่าข้อเสนอของดอกเตอร์ซีจะได้เรื่อง
เพราะว่าคำในธีสิส arXiv นี้สะท้อนกับความคิดวิชาการของเขา
“แบคทีเรีย X-0172 สามารถเอาชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมโหดร้ายของดาวอังคาร มันยากที่จะฆ่ามันด้วยวิธีปกติ เราต้องหาจุดอ่อนของมัน”
“อะไรคือจุดอ่อนของมัน?”
“การที่มันเอาชีวิตรอดบนดาวอังคารได้ทำให้มันได้เปรียบในการเผชิญสภาพแวดล้อมรุนแรง แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นข้อเสียเปรียบ
มันไม่ได้สู้กับจุลินทรีย์อื่นๆ เพื่อเอาชีวิตรอด ดังนั้น จุดอ่อนของมันคือความอ่อนแอต่อจุลินทรีย์อื่น
ดังนั้นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาคือการหาฟีโรโมนที่สามารถหลอกแบคทีเรีย X-0172…พระเจ้า ทำไมผมไม่คิดถึงเรื่องนั้น?”
ศาสตราจารย์สตีเฟ่นพึมพำกับตัวเอง เขาจ้องมองเพดาน ตกอยู่ในภวังค์ความคิดตัวเอง
จริงๆ แล้ว นี่เป็นเพียงแค่ไอเดียวิจัย
ถ้าสตีเฟ่นมีเวลามากกว่านี้ เขาอาจจะนึกไอเดียวิจัยได้
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก
สิ่งที่ชวนฉงนคือถึงแม้ว่าดอกเตอร์ซีคิดไอเดียวิจัยนี้ ดอกเตอร์ซีคำนวณสูตรโมเลกุลของอนุพันธ์กรดอะมิโนที่บล็อกการก่อตัวของสปอร์ X-0172 ได้อย่างไร?
สิ่งนี้ถูกคำนวณได้ด้วยเหรอ?
ฉันคิดว่าสิ่งนี้ต้องถูกอนุมานจากการลองผิดลองถูกเป็นพันครั้ง?
สิ่งนี้เป็นเรื่องที่เกินความเข้าใจของเขาในด้านชีวเคมี
ศาสตราจารย์สตีเฟ่นมองดูโมเลกุลอนุพันธ์กรดอะมิโนบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ในระหว่างที่เขาเกาเครา เขาไม่รู้เลยว่าดอกเตอร์ซีทำได้อย่างไร
ทันใดนั้น ประตูห้องทดลองถูกเปิดออก จ้าวชูเซวียนลอยเข้ามา
ศาสตราจารย์สตีเฟ่นมองดูศาสตราจารย์จ้าวและถามว่า “ผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง?”
จ้าวชูเซวียนตอบ “ผู้ป่วยทั้งสามถูกฉีดด้วยอนุพันธ์สังเคราะห์ที่คล้ายกรดอะมิโน เรากำลังสังเกตผลข้างเคียง”
ศาสตราจารย์สตีเฟ่นถอนหายใจ
“ดูเหมือนว่าตอนนี้เราก็แค่ต้องรอ”
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
มันไม่มีดวงอาทิตย์ขึ้นหรือดวงอาทิตย์ตกที่สถานีอวกาศ และเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ศาสตราจารย์สตีเฟ่นยังหาวต่อไป เขาเริ่มจะเบื่อเล็กน้อย แต่ทันใดนั้น ประตูเคบินทดลองถูกเปิดออก
ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร ศาสตราจารย์เลสลี่ลอยเข้ามาพร้อมสีหน้าตื่นเต้น เลสลี่พูดขึ้น
“เราสังเกตพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของระดับเมตาบอลึซึมของชาวอาณานิคมคนที่ 1 และ 2! ปริมาณสปอร์ในเมตาบอไลต์ลดลงอย่างมาก! และไม่มีปฏิกิริยาแพ้เกิดขึ้นอีกด้วย!”
เธอสูดหายใจเข้าลึกและเสียงของเธอสั่นตอนที่เธอพูดด้วยความตื่นเต้น
“อนุพันธ์กรดอะมิโนได้ผล!
“เราทำได้แล้ว!”
…………………………….