[แม้ว่าวิทยานิพนธ์จะไม่ได้พรีเซนต์ผลลัพธ์ที่แปลกใหม่ออกมา แต่วิธีการที่ใช้ก็มีความแปลกใหม่ในระดับหนึ่ง เมื่อพูดถึงการวิจัยสมมติฐานของรีมันน์แล้ว วิธีอัลกอริธึม Odlyzko–Schönhage นั้นคุ้มค่าที่จะศึกษาเพิ่ม
[อนุมัติวิทยานิพนธ์แล้ว]
“ฉันไม่คิดว่ามันมีความแปลกใหม่เลย…” โมลิน่ากล่าว เธอวางความคิดเห็นของผู้วิจารณ์ลงบนโต๊ะและถอนหายใจ “ฉันเกือบจะยอมแพ้ในการพิสูจน์ non-trivial zeros แล้ว … บางทีศาสตราจารย์อติยาห์คงจะพูดถูก เราควรเลือกวิธีที่ง่ายกว่านี้… เวร่า? นี่เธอฟังฉันอยู่หรือเปล่า?”
เวร่าหน้าแดงเล็กน้อย เธอมองไปที่โมลิน่าและหลุดออกมาจากฝันกลางวันของเธอ ดวงตาสีฟ้าของเธอมองไปด้านข้างขณะที่เธอตอบ
“โอ้… ฉันฟังอยู่สิ วิทยานิพนธ์ได้รับการอนุมัติแล้วใช่มั้ย? ยินดีด้วยนะ…”
“หยุดตีเนียนเลย เธอกำลังคิดถึงเขาอยู่ใช่ไหม!”
โมลิน่าเอื้อมมือออกไปและยกคางของเวร่าด้วยรอยยิ้ม วีร่าปัดมือเธอออกไป
“หยุดนะ…”
เวร่าจ้องโมลิน่าด้วยท่าทางไม่พอใจ
“ฮ่าฮ่า ฉันขอโทษ ฉันช่วยไม่ได้” โมลิน่ามองดูเวร่าและถอนหายใจเบาๆ จากนั้นเธอก็พูดว่า “ก็แค่ยอมแพ้ไปเถอะน่า”
“…?”
วีร่าไม่เข้าใจ
โมลิน่า “นี่ไม่เข้าใจเหรอ? ฉันกับเขาก็คล้ายกันๆ นั่นแหละ ”
จู่ๆ ทั้งห้องก็เงียบลง
ไม่นานโมลิน่าก็ตระหนักว่าเวร่าอาจตีความสิ่งที่เธอพูดผิดไป เธอโบกมือและพยายามอธิบาย
“นี่อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น…”
เวร่าถอยหลังครึ่งก้าวขณะที่โมลินาพยายามอธิบายว่า “ฉันแค่บอกว่าเขาไม่พร้อมทางอารมณ์ก็เท่านั้น เธอสังเกตเห็นไหม? เขาเคยสนใจผู้หญิงคนไหนหรือไง?”
เวร่ากัดริมฝีปากของเธอและไม่ได้พูดอะไรตอบ
“แน่นอน!” โมลิน่าเกาศีรษะของเธอและพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดแบบนี้ดีมั้ยนะ แต่ถึงแม้พวกเธอจะลงเอยเป็นอย่างที่เธอหวัง แต่ฉันก็ไม่คิดว่าเธอจะมีความสุขหรอก”
วีร่า “ทำไมล่ะ?”
“ไม่รู้สิ” โมลิน่ายักไหล่แล้วพูดว่า “ฉันรู้สึกเหมือนว่าถ้าฉันแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น ชีวิตหลังแต่งงานของเราจะต้องน่าเบื่อมากแน่ๆ”
…
นับตั้งแต่หลัวเหวินเซวียนกลับมาที่ประเทศจีน ออฟฟิศของลู่โจวก็กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น
และแม้ว่าผู้ชายคนนี้จะมีออฟฟิศเป็นของตัวเองในแผนกฟิสิกส์แล้วก็ตา แต่เขามักจะชอบมาที่ห้องทำงานของลู่โจวเสมอ
ถึงแม้ว่าคนที่มีเซลล์สมองสองเซลล์มองมาก็จะรู้ว่าหลัวเหวินเซวียนไม่ได้มาที่นี่เพราะลู่โจว
และเมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้วก็ทำให้ลู่โจวรู้สึกประหลาดใจมากเลยทีเดียว เขาคิดว่าหลัวเหวินเซวีนจะดูแลผู้ช่วยขงหนึ่งหรือสองเดือน แต่ตอนนี้ก็ผ่านไปเกือบปีแล้วที่ชายคนนั้นยังคงตามดูแลเธอ
สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือแม้ว่าเขาจะพยายามอย่างดีที่สุด แต่ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองก็ยังห่างไกลกันมากกว่าที่เคยเสียอีก
ลู่โจวไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของคนอื่น ดังนั้นเขาจึงทิ้งเรื่องนี้ไป
ออฟฟิศของเขามีกาแฟมากมาย และการพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาฟิสิกส์กับผู้ชายคนนี้เป็นหนึ่งในวิธีการฆ่าเวลาของลู่โจวไปแล้ว
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ถึงเดือนพฤศจิกายน เมืองจินหลิงก็เริ่มเย็นลง เสื้อคลุมสีเทาและกางเกงยีนสีน้ำเงินเป็นส่วนหนึ่งของชุดประจำวันของลู่โจวแล้วในตอนนี้
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา การแต่งตัวแบบนี้ทำให้เขาโดดเด่นน้อยที่สุดในมหาวิทยาลัย อย่างน้อยเขาก็สามารถกินอาหารกลางวันได้อย่างสงบโดยไม่มีใครจ้องมองมาที่เขา
แต่ว่าเขาประเมินความมุ่งมั่นของใครบางคนต่ำไป
ในช่วงเวลาอาหารกลางวันลู่โจวก็ไปโรงอาหารตามปกติ เขาสั่งข้าวหน้าเนื้อบาร์บีคิวหนึ่งชามแล้วนั่งที่มุมห้องเงียบๆ
แต่ขณะที่เขากำลังจะยกตะเกียบขึ้นมาก็มีใครบางคนนั่งลงตรงข้ามกับเขา
“ในที่สุดฉันก็พบคุณเสียที… คุณหลบฉันอยู่หรือเปล่า?”
เขามองหลัวเหวินเซวียนรู้สึกสับสนเล็กน้อย ลู่โจวส่ายหัว
“ไม่นะ”
“ช่วยฉันหน่อยสิ”
ลู่โจวจิบซุปสาหร่ายของเขาแล้วพูดว่า “ไม่ดีกว่า”
หลัวเหวินซวนกล่าวว่า “อะไรนะ! จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าเรื่องอะไร?”
ลู่โจวหยิบเนื้อบาร์บีคิวชิ้นหนึ่งแล้วยัดเข้าไปในปากของเขา เขาพูดขณะที่เคี้ยว
“ฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญมากหรอก ถ้ามันสำคัญนายคงจะบอกฉันที่ออฟฟิศแล้วน่ะ ช่วยพยายามแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง แล้วก็อย่าลากฉันเข้าไปเกี่ยวเถอะ”
หลัวเหวินเซวียนประกบมือไว้ด้วยกันเหมือนกำลังอ้อนวอน
“ได้โปรด แค่ครั้งนี้ก็พอ ฉันไม่ต้องการอะไรมากเลย ฉันแค่ต้องการโอกาสก็เท่านั้น”
ลู่โจว “อย่างเช่นอะไร?”
หลัวเหวินเซวียนยิ้มอย่างซุกซนและพูดว่า “เช่น… อาจจะจัดเดทหมู่หรืออะไรสักอย่างประมาณนี้ได้ไหม?”
ลู่โจว “… ไม่”
หลัวเหวินเซวียนสูดหายใจเข้าไปลึกๆ และถามด้วยความจริงใจว่า
“ไม่เอาน่า อย่าทำแบบนี้เลย ฉันพูดจริงนะๆ ” ฉันไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว! ฉันจะต้องเป็นโสดทั้งชีวิตแน่ถ้าฉันไม่แต่งงานตอนนี้”
ลู่โจวมองบนและพูดว่า “แล้วทำไมถึงรอจนถึงตอนนี้ล่ะ?”
หลัวเหวินเซวียนถอนหายใจเบาๆ
“ฉันเคยไปปาร์ตี้ตอนที่ฉันยังอายุน้อยกว่านี้นะ”
“ไปซะเถอะ”
“ก็ได้ๆ ” หลัวเหวินเซวียนกล่าวต่อ “ฉันไม่สนใจว่านายจะเชื่อฉันหรือเปล่านะ แต่ฉันจริงจังจริงๆ นะ ฉันรู้สึกว่ากำลังมีความรักอยู่ และถ้าหากฉันพลาดโอกาสนี้ไป ฉันจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ …”
ลู่โจวถอนหายใจแล้ววางตะเกียบลง
แม้ว่าลู่โจวจะไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับปัญหาทางอารมณ์ของคนอื่น แต่เขาก็ต้องการให้ผู้ชายคนนี้กลับมาสนใจงานของเขาอีกครั้ง ดังนั้นลู่โจวจึงให้บทเรียนชีวิตแก่เขาไป…
“นายจะไม่ได้ใจสาวด้วยการไล่ตามเธอ”
หลัวเหวินเซวียนหยุดชั่วครู่หนึ่ง เขากำลังสับสน
“… แล้วฉันควรจะทำยังไงถึงจะมีแฟนล่ะ?”
ลู่โจวกล่าวว่า “ด้วยเสน่ห์”
“…”
พวกเขาทั้งคู่เงียบไป
ลู่โจวลังเลเล็กน้อย
เขารู้สึกว่าเขาพูดถูก การมีเสน่ห์ไม่สามารถบังคับให้มีได้
แม้แต่สัตว์ก็รู้ดี
แต่จริงๆ แล้วสำหรับผู้ชายที่หล่อเหลาอย่างเขา นี่ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด
หลัวเหวินเซวียนยกมือขึ้นและถามว่า “ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?”
ลู่โจว “… ดูเหมือนว่านายไม่ควรถามคำถามนั้นกับฉันนะ”
“ฉันขอถามหน่อย… นายเคยไปดูหนังกับผู้หญิงไหม?”
ลู่โจว “…”
ทันใดนั้น ลู่โจวก็ไม่อยากคุยกับผู้ชายคนนี้อีกต่อไป
ทำไมฉันไม่ลองให้หลัวเหวินเซวียนไปทำงานที่ปักกิ่งอีกสักสองสามปี…
มันจะดูโหดร้ายเกินไปมั้ยนะ?
หลัวเหวินเซวียนกำลังจะปลอบลู่โจว แต่เขาก็พูดขึ้นมาก่อนว่า
“เคยสิ แต่มันเป็นหนังสยองขวัญ”
………………………