กำลังถดถอยฟังก์ชัน π(x)…
ฉินเยว่คิดกับตัวเองขณะจ้องมองที่เพดานของออฟฟิศที่พรินซ์ตัน
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ส่ายหัวด้วยท่าทางครุ่นคิด
“ถ้าเป็นอย่างนั้น… งานที่โมลิน่าทำอยู่ก็ไร้ประโยชน์น่ะสิ?”
และไม่ใช่แค่โมลิน่า…
ถ้าสิ่งนี้แพร่กระจายไปทั่วโลกคณิตศาสตร์ ฉันคิดว่าทั้งชุมชนจะต้องตกใจอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะคนในสาขาทฤษฎีจำนวนวิเคราะห์ การวิจัยเกี่ยวกับสมมติฐานรีมันน์จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง…
เพราะศาสตราจารย์ลู่ได้พิสูจน์สมการรางวัลมิลเลนเนียมสองรางวัลแล้ว ศาสตราจารย์ลู่คิดว่าบางสิ่งไม่น่าเชื่อถือก็ไม่ต่างกับโทษประหารชีวิต
ฉินเยว่ลังเลเล็กน้อยและตัดสินใจที่จะไม่พูดอะไร สุดท้ายเขาก็ไม่แน่ใจว่าลู่โจวจะจริงจังหรือเปล่า
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ฉินเยว่ไม่รู้ก็คือหลังจากที่วางสายไปไม่นานลู่โจวได้อัปโหลดวิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ไปที่ Arxiv เรียบร้อยแล้ว
และสิ่งนี้จะทำให้เกิดความโกลาหลในโลกคณิตศาสตร์อย่างแน่นอน…
…
“อ่า… ฉันรู้สึกเหมือนผมจะร่วงหมดหัวแล้ว”
หานเมิ่งฉีนั่งที่โต๊ะของเธอและจ้องไปที่คำถามในกระดาษ เธอกัดปากกาและเกาหัวของเธอ เธอไม่รู้ว่าจะแก้สมการนี้อย่างไร
“สำหรับจำนวนจริง s > 1 ให้นิยาม ζ(s) = Σ1 / (m ^ s)… พิสูจน์ว่า ζ(2n) เป็นจำนวนอนันต์”
หานเมิ่งฉีอ่านสมการซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
และหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่และเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยความพ่ายแพ้ เธอจ้องไปที่เพดานและเริ่มฝันกลางวัน
“แล้วถ้ามันไม่มีคำตอบล่ะ?”
หานเมิ่งฉีนั่งตัวตรงและค้นหาคำถามในไป่ตู้ และก็เหมือนเดิมเธอไม่พบคำถามเช่นนี้ในนั้นเลย
ดูเหมือนว่าลู่โจวจะคิดคำถามนี้ขึ้นมาเอง…
หญิงสาวถอนหายใจด้วยความพ่ายแพ้และนั่งเอาเท้าพิงเก้าอี้ เธอกอดแขนไว้รอบเข่าและจ้องเขม็งไปที่กระดาษ
เครื่องมือที่ใช้ในวัสดุศาสตร์การคำนวณไม่สามารถนำไปใช้กับคณิตศาสตร์บริสุทธิ์ได้เลย
หานเมิ่งฉีรู้ว่ามันจะเป็นประโยชน์สำหรับเธอหากเธออ่านวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง และพยายามค้นหาการศึกษาที่คล้ายกัน ซึ่งเธอสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้ แต่อย่างไรก็ตามเธอเพิ่งเริ่มหัดใช้ทฤษฎีจำนวนวิเคราะห์ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นจากตรงไหน
เธอหลงออกนอกทางไปแล้วโดยสิ้นเชิง…
“เขาไม่ต้องการฉันจริงๆ เหรอ…”
หานเมิ่งฉีฝังคางของเธอไว้ระหว่างเข่าของเธอ
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ตบหน้าตัวเองเบาๆ และเริ่มกระตุ้นตัวเองอีกครั้ง
“หึ…
“คิดว่าฉันจะพิสูจน์ไม่ได้เหรอ?”
หานเมิ่งฉีจินตนาการว่าลู่โจวจะประหลาดใจขนาดไหนถ้าเขารู้ว่าเธอสามารถแก้สมการได้ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“ฉันทำได้!”
…
“ฮัดชิ่ว!”
ลู่โจวกลับมาที่คฤหาสน์ของตัวเองใน จงซาน อินเตอร์เนชั่นแนล เขาเพิ่งออกจากห้องอาบน้ำและหยิบนมช็อกโกแลตออกจากตู้เย็น ก่อนที่เขาจามสองครั้ง
“มีคนชมว่าฉันหล่ออยู่ใช่ไหมเนี่ย…”
ลู่โจวปิดตู้เย็นและเดินเข้าไปในห้องทำงานตัวเอง เสี่ยวไอซึ่งอยู่ถัดจากเครื่องชงกาแฟได้บินขึ้นไปในอากาศและไล่ตามเขาไป
“เจ้านาย การจามครั้งเดียวหมายถึงมีคนคิดถึง จามสองครั้งหมายความว่ามีคนกำลังนินทา จามสามครั้งหมายความว่ากำลังป่วย และที่สำคัญไม่มีใครพูดว่าเจ้านายหล่อเลย…”
ลู่โจว “เงียบไปเลยน่า”
โดรนได้ปิดลำโพงไป จากนั้นแถวของตัวอักษรปรากฏขึ้นบนจอแสดงผล
[(•̀∀•́) …]
[เจ้านายหล่อมาก~]
ลู่โจวไม่สนใจเสี่ยวไอเลยสักนิด เขานั่งลงในห้องทำงานของเขาจากนั้นก็วางแล็ปท็อปไว้บนโต๊ะ แต่ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาเริ่มสั่น และมีข้อความสองข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอของเขา
[พรุ่งนี้มาที่ออฟฟิศด้วย!]
[อย่าลืม!]
ลู่โจวมองดูข้อความของเฉินยู่ซาน เขายิ้มและตอบ [โอเค] หลังจากนั้น เขาวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ และเข้าสู่ระบบ arXiv
วิทยานิพนธ์หลายพันคำของเขาที่อัปโหลดไปไม่ถึงห้าชั่วโมงที่แล้วได้มีการดาวน์โหลดแล้วหลายพันครั้ง แถมยังมีคนนำไปอ้างอิงด้วย
ห้าชั่วโมงเพียงพอที่จะอ่านวิทยานิพนธ์ของฉันจบเหรอ?
ลู่โจวเข้าสู่ระบบบัญชีเว็บไซต์แมทโอเวอร์โฟลวทันที และดูชุมชนคณิตศาสตร์นานาชาติที่กำลังพูดคุยเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์ของเขา
แต่การถกเถียงนั้นไม่ได้โฟกัสไปที่เนื้อหาวิชาการ…
“เหลือเชื่อ”
[อัลกอริธึมของเลวินสันได้ผลิตผลการวิจัยสมมติฐานของรีมันน์ที่ดีที่สุดที่เราเคยเห็น แต่จะมีใครคิดล่ะว่าถนนสายนี้จะเป็นไปไม่ได้? หมายความว่าทฤษฎีบทสำคัญของคอนรีนั้นไร้ประโยชน์เหรอ?]
[วิทยานิพนธ์ของศาสตราจารย์ลู่ไม่ได้บอกแบบนั้น เขาคิดว่าแนวคิดนี้อาจให้ผลลัพธ์ที่มีคุณค่า แต่มันเป็นสิ่งที่ยากมากที่จะพิสูจน์สมมติฐานของรีมันน์ได้]
[ฉันเห็นด้วยกับมุมมองของศาสตราจารย์ลู่ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ศาสตราจารย์โมลิน่าจากพรินซ์ตันและคู่หูของเธอเวร่าก็เพิ่งจะได้พิสูจน์ทฤษฎีตอนที่มีขอบเขตเป็นศูนย์ของคอนรีโดยใช้อัลกอริธึม Odlyzko–Schönhage พวกเขาล้มเหลวในการเพิ่มจำนวน 0.4 นี่อาจหมายถึง 0.4 คือขีดจำกัดก็ได้]
[จำการคาดคะเนทวินไพรม์ได้ไหม? ด้วยการใช้วิธีตะแกรง ผู้คนสามารถลดจำนวนเจ็ดสิบล้านเป็นสองร้อยสี่สิบหกได้ แต่ลู่โจวเป็นคนที่ใช้วิธีการทอพอโลยีในการพิสูจน์สมการการคาดเดา… บางทีเขาก็อาจจะใช้วิธีเดียวกันกับสมมติฐานของรีมันน์]
“ไม่มีใครมีความคิดสร้างสรรค์กว่านี้เลยหรือไง?”
หลังจากอ่านฟอรัมมาระยะหนึ่งแล้ว ลู่โจวไม่พบข้อโต้แย้งทางวิชาการที่สอดคล้องกันเลยสักนิด แต่เป็นเพียงแค่กลุ่มพวกปริญญาเอกที่คลั่งไคล้คณิตศาสตร์เท่านั้น
แต่สิ่งนี้ก็สมเหตุสมผลแล้ว มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนที่จะเข้าใจวิทยานิพนธ์ของเขาในเวลาอันสั้น เพราะสุดท้ายแล้วสมมติฐานของรีมันน์ก็อยู่ที่จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร แม้แต่คนอย่างศาสตราจารย์เดอลีงย์ก็มีปัญหาในการทำความเข้าใจสมมติฐานของรีมันน์เช่นกัน ไม่ต้องพูดถึงเหล่าปริญญาเอกทั้งหลายเลย
ลู่โจวหาวและเห็นว่ามันดึกมากแล้ว เขาจึงปิดคอมพิวเตอร์และออกจากห้องทำงานไป
ลู่โจวยังต้องพบกับคณะเยือนจากรัสเซียในวันพรุ่งนี้และอาจมีงานเลี้ยงหลังจากนั้น ดังนั้นเขาจึงวางแผนให้นอนหลับฝันดี
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ให้ความสนใจกับคณะกรรมการวงโคจรรอบดวงจันทร์มากนัก แต่ในฐานะหัวหน้านักออกแบบ เขายังคงมีงานต้องทำอยู่
ขณะที่ลู่โจวกำลังหลับ การถกเถียงในเว็บไซต์แมทโอเวอร์โฟลวเพิ่มขึ้น และสิ่งนี้ก็ดึงดูดความสนใจเหล่านักวิชาการคนใหญ่คนโตได้อย่างมาก
และไม่ใช่แค่เว็บไซต์แมทโอเวอร์โฟลวเท่านั้น ฟอรัมคณิตศาสตร์ที่สำคัญทั้งหมดทั่วโลกก็กำลังพูดถึงหัวข้อนี้เช่นกัน
ศาสตราจารย์ลู่วางแผนที่จะโจมตีสมมติฐานของรีมันน์แล้ว!
เขาก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้ว!
นี่เป็นเหมือนที่ฉินเยว่จินตนาการไว้
ชุมชนนักคณิตศาสตร์กลายเป็นบ้ากันเพราะวิทยานิพนธ์ของลู่โจวไปแล้ว…
……………………….