งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป
ลู่โจวอิ่มเร็วมากเนื่องจากเขาไม่ได้หยุดกินเลย
คุณจอร์จีฟยังคงพยายามคุยกับเขาเช่นเคยในขณะที่นักวิชาการคอฟแทนกำลังจ้องเขาอยู่ หลังจากพูดอย่างสุภาพว่าเขาต้องไปห้องน้ำ ลู่โจวก็ออกจากห้องจัดเลี้ยงไป
ในที่สุดเขาก็ได้พบกับความเงียบสงบสักที
ลู่โจวค่อยๆ เดินไปที่ห้องน้ำและล้างหน้า หลังจากนั้นเขาเดินไปที่ระเบียงโรงแรมเพอร์เพิล เมาน์เทน
เขาเคยมาที่โรงแรมนี้หลายครั้งเพราะการประชุมประจำปีของสตาร์สกายเทคโนโลยีถูกจัดขึ้นที่นี่ และเมื่อกลับมาที่วิทยาลัยเขาก็ได้รับเชิญมางานฉลองที่นี่เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างคุ้นเคยกับแผนผังของที่นี่อยู่แล้ว
ระเบียงบนชั้นห้าหันหน้าไปทางเพอร์เพิล เมาน์เทนโดยตรง วิวทิวทัศน์ในช่วงพระอาทิตย์ตกดินในฤดูใบไม้ร่วงช่างน่าทึ่งและสวยงาม
แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว มันไม่มีอะไรให้ดูนอกจากลมที่หนาวเหน็บ
ลู่โจวต้องการหลีกเลี่ยงห้องจัดเลี้ยงที่มีเสียงดัง ดังนั้นเขาจึงพยายามที่จะมาฆ่าเวลาที่นี่แทน
เมื่อเขานั่งลงบนม้านั่ง พนักงานเสิร์ฟในโรงแรมที่อยู่ใกล้ๆ ก็เดินผ่านมาพร้อมกับเมนู
“คุณครับ ต้องการสั่งอะไรไหมครับ?”
“ขอมอคค่าที่นึงครับ”
“ได้ครับ” พนักงานเสิร์ฟพยักหน้าและขีดเขียนบนสมุดบันทึกของเขาขณะที่ฟัง ทันใดนั้นเขาได้ยินใครบางคนพูดข้างหลังเขาด้วยสำเนียงจีนแปลกๆ
“ฉันขอเตกีล่าซันไรซ์นสักแก้ว”
ด้วยผมสีบลอนด์ซีดของเธอพาดอยู่บนไหล่ สาวรัสเซียในชุดเดรสเดินขึ้นมานั่งข้างๆ ลู่โจว เธอมองไปที่บริกรและพูดเบาๆ ว่า “อย่าลืมน้ำแข็งด้วยนะคะ”
ถึงแม้จะไม่ใช่ฤดูหนาว แต่ลมที่ระเบียงก็ค่อนข้างเย็น ดังนั้นการสั่งซื้อเครื่องดื่มเย็นๆ ตอนนี้เป็นเรื่องผิดปกติ
“รับทราบครับ” พนักงานเสิร์ฟมองสาวผมบลอนด์แสนสวยและพูดว่า “รอสักครู่นะครับ”
หลังจากนั้นเขาก็เก็บเมนูและเดินออกจากระเบียงไป
ลู่โจวมองไปที่หญิงแปลกหน้าที่นั่งตรงข้ามกับเขา เขาเดาว่าเธอน่าจะมากับคณะเยือนรัสเซีย เขากำลังจะถามชื่อเธอ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็พูดตัดหน้าเขาก่อน
“ดูเหมือนว่าฉันไม่ใช่คนเดียวที่เบื่อกับงานเลี้ยงแบบนี้”
ลู่โจว “คุณเป็นใครเหรอครับ?”
“วิคตอเรียค่ะ พ่อของฉันอยู่ในกลุ่มผู้มาเยี่ยม” หญิงสาวผมบลอนด์ยื่นมือออกมา “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
แม้ว่าลู่โจวจะรู้สึกว่าเธอรู้ว่าเขานั้นเป็นใครอยู่แล้วก็ตาม แต่เขาก็ต้องแนะนำตัวเอง
“ผมชื่อลู่โจว ศาสตราจารย์ด้านคณิตศาสตร์ครับ”
วิคตอเรียดูเหมือนจะขบขันกับการแนะนำของลู่โจว เธอหมุนนิ้วไปรอบๆ ผมของเธอแล้วพูดว่า “แค่ศาสตราจารย์คณิตศาสตร์เองเหรอ?”
ลู่โจวทำท่าทางลำบากใจและพูดว่า “ผมก็ศึกษาเกี่ยวกับฟิสิกส์นิดหน่อย…และเคมีด้วย”
วิคตอเรียยิ้มและพูดว่า “คุณเป็นคนตลกดีนะคะ ฉันคิดว่าคุณทำมากกว่าแค่ฟิสิกส์และเคมีเสียอีก”
“จริงเหรอ? ผมเดาว่า…” ลู่โจวมองพนักงานเสิร์ฟที่เดินผ่านมาและพูดว่า “ค็อกเทลของคุณมาแล้วล่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” วิคตอเรียยกแก้วค็อกเทลของเธอขึ้นและจิบ “ภาษาจีนของฉันไม่ค่อยดีสักเท่าไร ฉันเพิ่งเริ่มเรียนเมื่อสามเดือนก่อนเอง”
ลู่โจว “คุณค่อนข้างไวสำหรับคนที่เรียนรู้เพียงสามเดือนเลยนะครับ”
การเรียนรู้ภาษาจีนไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับชาวรัสเซีย และความสามารถในการพูดในระดับนี้ด้วยการเรียนภายในสามเดือนนั้นถือว่าดีมาก
เห็นได้ชัดว่าวิคตอเรียไม่ได้มีแค่ใบหน้าที่สวยเท่านั้น
ขณะที่ลู่โจวกำลังตัดสินเธอ วิคตอเรียก็ทำเช่นเดียวกันกับเขา แต่เธอไม่ได้ทำให้เห็นจนเขารู้ เธอพูดกับลู่โจวเหมือนที่ลู่โจวเป็นเพื่อนที่ดีของเธอ
“นี่ฉันกำลังถูกชมเชยจากอัจฉริยะเหรอคะเนี่ย?”
“อัจฉริยะ? ผมเหรอ?” ลู่โจวยิ้มและส่ายหัวขณะที่เขาพูด “ผมไม่ใช่อัจฉริยะหรอก ผมแค่ทำงานหนักกว่าคนอื่นนิดหน่อยก็เท่านั้น”
นอกจากนี้… ฉันมีระบบ
แต่ฉันไม่ได้เกิดมาพร้อมกับสิ่งนั้น ดังนั้นฉันคิดว่านั่นไม่ใช่พรสวรรค์ของฉันเอง
วิคตอเรียยิ้มและพูดว่า “คุณนี่ถ่อมตัวมากเลยนะ คุณทำสำเร็จมากกว่าที่คนส่วนใหญ่จะทำได้ในสิบชั่วอายุคนซะอีก และนั่นไม่ใช่เพียงเพราะการทำงานหนักกว่าคนอื่นๆ เพียงเล็กน้อยนะคะ”
ลู่โจว “อาจจะเป็นอย่างนั้น แต่ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตล่ะครับ”
วิคตอเรียยิ้มและพูดว่า “ฉันเรียนเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยมอสโก และเรียนวิชาเลือกในการวิเคราะห์เชิงฟังก์ชัน เรามักจะได้ยินอาจารย์สรรเสริญความสามารถทางคณิตศาสตร์ของคุณ ซึ่งหายากมากสำหรับชาวรัสเซีย เราไม่ค่อยยกย่องคนอื่นในเรื่องความสามารถทางคณิตศาสตร์ของพวกเขา”
ลู่โจว “คุณรู้จักคณิตศาสตร์ด้วยเหรอ?”
“นิดหน่อย… ทำไมล่ะ คุณประหลาดใจเหรอ?” วิคตอเรียพูดด้วยรอยยิ้มปนเจ้าชู้บนใบหน้าของเธอ
ลู่โจวพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ ผมไม่คิดว่าจะเจอคนที่พูดภาษาเดียวกับผมที่นี่”
“ฉันดีใจที่ได้ยินอย่างนั้นนะ ฉันยังสงสัยเกี่ยวกับโปรเจกต์วิจัยของคุณมากๆ… หรือฉันสงสัยว่าคำถามแบบไหนที่ทำให้อัจฉริยะอย่างคุณหนักใจ” วิคตอเรียจิบค็อกเทลของเธอ โดยทิ้งลิปสติกสีแดงไว้บนแก้ว เธอพูดว่า “มาคุยกันเถอะค่ะ”
คุณแน่ใจแล้วเหรอ?
คุณต้องการที่จะได้ยินเกี่ยวกับโปรเจกต์วิจัยของฉันเหรอ?
ลู่โจวดีใจที่ได้คุยกับเธอ และยังมีเวลาอีกสองชั่วโมงก่อนที่งานเลี้ยงจะสิ้นสุดลง
ลู่โจวมองดูดวงตาที่ ‘อยากรู้อยากเห็น’ ของเธอและยิ้มอย่างเชื่องช้า
“ผมยินดีมากครับๆ ”
…
เห็นได้ชัดว่าจอร์จีฟรู้ดีว่านักวิชาการลู่ไม่ต้องการคุยกับเขา
เพราะนักวิชาการส่วนใหญ่มีบุคลิกที่ชอบเก็บตัว โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในสาขาการวิจัยเชิงทฤษฎี โดยทั่วไปแล้วพวกเขาไม่ชอบคุยกับคน ‘ธรรมดา’
เพราะในฐานะข้าราชการที่เคยเป็นนักการทูต จอร์จีฟตระหนักดีถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจนว่าทำไมเขาถึงพยายามคุยกับลู่โจว…
วิคตอเรีย ลูกสาวของเขาจะมีโอกาสเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร
เขาสาบานว่าเขาจะไม่พยายามขายลูกสาวของเขาแน่นอน
จากมุมมองของพ่อแล้ว แม้ว่าศาสตราจารย์ลู่จะเป็นชาวต่างชาติ แต่เขาก็เป็นสามีที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และที่สำคัญเขามีคุณสมบัติมากกว่าผู้ติดสุราชาวรัสเซียเหล่านั้นมาก ลูกสาวของเขายังไม่มีคู่ที่เหมาะสมในมหาวิทยาลัย แล้วทำไมเขาถึงไม่อยากให้สองคนนี้เป็นอะไรกันล่ะ?
แต่…
สิ่งต่างๆ มักจะไม่ราบรื่นตามแผนที่วางไว้
เขาคิดว่าแผนของเขาสมบูรณ์แบบ แต่เขาก็ยังประเมินลู่โจวต่ำไป…
หลังจากงานเลี้ยงสิ้นสุดลง วิคตอเรียก็เดินเข้าไปในห้องของโรงแรมด้วยท่าทางเหนื่อยๆ
จอร์จีฟมองดูลูกสาวที่เหนื่อยล้าของเขาและถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง? เจอลู่โจวไหม?”
วิกตอเรีย “เจอค่ะ และเราดื่มที่ระเบียงด้วยกัน”
จอร์จีฟดูมีความสุข และเขาก็ถามต่อไปว่า “เกิดอะไรขึ้น”
“ฟังก์ชันซีตาของรีมันน์…”
อะไร?
นี่มันอะไรกันเนี่ย?
จอร์จีฟขมวดคิ้ว
“รีมันน์… อะไรนะ?”
วิคตอเรียยิ้มอ่อนๆ แล้วพูดว่า “เราคุยกันเรื่องฟังก์ชันซีตาของรีมันน์มาสามชั่วโมงแล้ว แต่จู่ๆ เขาก็เกิดแรงบันดาลใจ และทิ้งฉันไป… แต่อย่างน้อยเขาก็จ่ายค่าเครื่องดื่มให้ฉัน”
เธอเหนื่อยมากกับการแสร้งสนทนากับลู่โจว
แต่ทำไมลู่โจวถึงไม่สนใจหนังหรือดนตรีล่ะเนี่ย?
เขาค่อนข้างหล่อนะ แต่ฉันตายแน่ถ้าฉันต้องคุยกับเขาทุกวันแบบนั้น…
จอร์จีฟ “… ”
วิคตอเรียมองดูพ่อของเธอและถามว่า “พ่อคะ หนูน่าเกลียดหรือเปล่า?”
จอร์จีฟหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ไม่เลยลูกรัก ลูกสวยเหมือนแม่เลย…”
“หนูไม่เคยสงสัยในรูปลักษณ์ของหนูมาก่อนเลย”
วิคตอเรียเริ่มสงสัยชีวิตของเธอ และเธอก็เริ่มจ้องไปที่เพดาน
จอร์จีฟไม่รู้จะปลอบลูกสาวอย่างไร เขาจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ “บางทีมาตรฐานของเขาอาจจะสูงเกินไป…”
แม้ว่าสิ่งนี้จะโชคร้าย แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
ถ้าไม่ใช่คนที่ควรคู่กัน สุดท้ายก็คงต้องลงเอยแบบนี้แหละ…
………………….