ตอนที่ 85 กลายเป็นว่ามีผู้เชี่ยวชาญช่วยเหลือ
ณ โรงเรียนสหศึกษาระดับมัธยมจินหลิง มอห้า ห้องสอง พวกเขากำลังเรียนคณิตกันอยู่
อาจารย์บอกให้ตัวแทนห้องส่งกระดาษข้อสอบคืนมา ในขณะเดียวกันเขาก็หยิบเอากระดาษของนักเรียนโดดเด่นมาชื่นชม
“หานเมิ่งฉี 130 คะแนน คะแนนของเธอในช่วงสองสามเดือนมานี้พัฒนาขึ้นมาอย่างมาก แต่อย่าทะนงตนล่ะ ให้พยายามต่อไป” อาจารย์เฉินกล่าว หานเมิ่งฉีพยักหน้าแล้วรับกระดาษข้อสอบ
หานเมิ่งฉียิ้มที่มุมปากแล้วกลับมานั่งประจำที่
นักเรียนที่นั่งข้างเธอมองเธอด้วยความประหลาดใจ
มันไม่ใช่เพราะ 130 คะแนน
ในห้องของพวกเขา คะแนนเท่านี้อย่างมากก็อยู่ในค่าเฉลี่ย
ความประหลาดใจที่แท้จริงก็คือมันเป็นหานเมิ่งฉีที่ได้คะแนนเท่านี้!
คะแนนคณิตศาสตร์ปีแล้วของเธอคือเกือบตก แต่วันนี้เธอได้ 130!
การพัฒนานี้ใช้เวลาน้อยกว่าสามเดือน!
จะมีอะไรน่าตกใจกว่านี้อีก?
เมื่ออาจารย์เฉินเห็นหานเมิ่งฉี เธอก็พยักหน้าด้วยความโล่งอก
ตั้งแต่การสอบประจำเดือนก่อนปิดซัมเมอร์ มันก็เหมือนกับว่าหานเมิ่งฉีกลายเป็นคนอื่น คะแนนคณิตศาสตร์ของเธอเพิ่มสูงขึ้น เธอได้คะแนนจากสองหลักเป็นสามหลัก
อาจารย์เฉินสอนมาหลายปีแล้ว มันหาได้ยากที่เขาจะได้เห็นพัฒนาการแบบนี้
หานเมิ่งฉีรู้ว่าเพื่อนร่วมชั้นของเธอประหลาดใจ และแม้ว่าเธอจะเขิน แต่หน้าเธอก็มีรอยยิ้มกว้าง
ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยรู้สึกเหมือนมีที่อยู่ทั้งที่บ้านและโรงเรียน
อย่างไรก็ตามช่วงนี้เธอพบว่าจริงๆแล้วเธอชอบโรงเรียน
มันไม่ใช่เพราะเธอรักการเรียน
มันเป็นเพราะเธอรู้สึกดีที่ได้เห็นสายตาสับสน ความประหลาดใจและชื่นชมจับจ้องมา!
หลังจากเรียนเสร็จ หานเมิ่งฉีก็คัดลอกโจทย์ที่เธอทำผิดในหนังสือ นี่เป็นงานที่ลู่โจวมอบให้เธอทำและงานนี้ก็จะกลายเป็นนิสัยของเธอตลอดสามเดือนมานี้
ทันใดนั้นเองก็มีหญิงสาวที่ตัวเล็กกว่าเดินมาถามอย่างอายๆ “เมิ่งฉี ครูสอนพิเศษของเธอแซ่ลู่ใช่ไหม?”
หญิงสาวคนนี้เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทไม่กี่คนที่เมิ่งฉีมีในคลาสคณิตศาสตร์ เมิ่งฉีเรียกเธอว่าเสียวหรั่นและพวกเธอจะคุยกันทุกเรื่อง
หานเมิ่งฉีพยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่ ทำไมหรอ?”
เสียวหรั่นถาม “เขาเป็นนักศึกษามหาลัย?”
หานเมิ่งฉีพยักหน้าของเธอต่อ เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ใช่…”
“เขามาจากมหาลัยจินหลิง?”
“ใช่ๆ เข้าเรื่องได้แล้ว เลิกทำให้ฉันเสียเวลาสักที” หานเมิ่งฉีกล่าวพลางกลอกตามองบน
เสี่ยวหรั่นแบบบอกบู๊นจีน “เธอไม่ได้เข้าไปดูเว่ยป๋อเหรอ?”
ทันใดนั้นเองหานเมิ่งฉีก็กล่าวอย่างไม่พอใจ “ไม่ ผู้หญิงคนนั้นยึดโทรศัพท์ฉัน เธอก็รู้”
อย่างไรก็ตามเสียวหรั่นไม่ได้สังเกตสีหน้าที่ดูไม่สบายใจของหานเมิ่งฉี เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกล่าว “รอแปป ฉันจะเอาข่าวนี้ให้เธอเห็น”
หานเมิ่งฉีจ้องมองเธอแล้วกล่าว “เธอสนใจข่าวตั้งแต่ตอนไหนกัน? เธอไม่อ่านข่าวซุบซิบของดารานักร้องหนิ”
“ฉันให้ความสนใจกับข่าวที่เป็นกระแสด้วยโอเคมั้ย? เอาล่ะดูนี่สิ” เสียวหรั่นตอบและส่งโทรศัพท์ให้หานเมิ่งฉี
มันเป็นข่าวจากหัวกั๋วชิงเหนียน
เมื่อหานเมิ่งฉีเห็นชื่อบัญชี เธอก็ไม่ได้สนใจนัก อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเห็นหัวข้อ แววตาเธอก็เบิกกว้างทันที
[นักศึกษามหาลัยอายุราวยี่สิบปีจากมหาลัยจินหลิงได้พิชิตปัญหาคณิตศาสตร์ระดับโลก และได้รับรางวัลล้านเหรียญจากมหาลัย!]
[…]
[ที่มา : จินหลิงไดอารี่]
เสียวหรั่นรีบถาม “เป็นเขาใช่ไหม?”
“ไม่ นี่เป็นไปได้ยังไง?” หานเมิ่งฉีอ้าปากค้าง เธอประหลาดใจมากที่หุบปากไม่ได้
มันไม่ใช่ว่าเธอสงสัยในความสามารถของลู่โจวนะ…
มันเป็นเพราะเธอไม่เคยคิดเลยว่าคนสอนพิเศษที่มาบ้านเธอทุกวันหยุดสุดสัปดาห์จะเป็นนักคณิตศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่แก้ปัญหาระดับโลก
หานเมิ่งฉีกลืนน้ำลาย เธอใช้นิ้วโป้งไถจอแล้วอ่านคอมเมนต์
[…ทุกคนคำนับนักศึกษาอัจฉริยะ]
[นักศึกษาอัจฉริยะคนนี้บ้ามาก]
[ท่านเทพ ฉันอยากมีลูกกับคุณ]
หานเมิ่งฉีเลิกคิ้ว
นี่มันอะไร!
หน้าด้าน!
เขามีแฟนอยู่แล้ว!
แม้ว่าเธอไม่เคยได้รับการยืนยันจากลู่โจวหรือลูกพี่ลูกน้องเธอ แต่เธอเชื่อเสมอว่าพวกเขาคบหากัน ไม่มีคำอธิบายอื่นอีกแล้วที่จะอธิบายว่าทำไมเขาถึงสนใจเรื่องการเรียนของเธอนัก ทั้งๆที่ครูสอนพิเศษคนอื่นๆทนเธอไม่ได้
“โอ้ ฉันกำลังสงสัยเลยว่าทำไมคะแนนคณิตศาสตร์ของเธอถึงสูงขึ้นมาก เป็นเพราะผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยนี่เอง” เสียวหรั่นกล่าวและมองหานเมิ่งฉีด้วยความอิจฉา จากนั้นเธอก็ถาม “เขายังจะสอนพิเศษเธออยู่ไหม?”
หานเมิ่งฉีโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว “ใช่ ทำไมไม่ล่ะ?”
เสียวหรั่นเงยหน้าแล้วถาม “แต่ เขามีเงินล้านแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องมาทำงานเป็นครูสอนพิเศษแล้วใช่มั้ย?”
หัวใจของหานเมิ่งฉีบีบรัด
เธอไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย
เธอพูดถูก…
ถ้าลู่โจวไม่ต้องการเงิน เขาจะยังมาสอนคณิตศาสตร์ฉันไหม?
ทุกครั้งที่เขามาสอนพิเศษฉัน ฉันก็ทำตัวเหมือนเด็ก แถมเขายังต้องทำกับข้าวให้ฉัน รับฟังเธอบ่นเรื่องที่โรงเรียน…
ใครๆก็รำคาญใช่ไหม?
นอกจากนี้ คนอย่างเขาต้องมีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำ
ริมฝีปากหานเมิ่งฉีสั่นเครือ “เขา…อาจจะมา”
เธอไม่มั่นใจเลย
เสียวหรั่นเงยหน้าขึ้นด้วยความสับสน
เธอไม่แน่ใจว่าทำไมเพื่อนสนิทเธอถึงกลายเป็นแบบนี้
…..
แม้ว่าลู่โจวจะมุ่งมั่นที่จะทำให้แอพแคมปัสเทรนด์ใหญ่ขึ้นและเอาชนะพวกที่มาว่าเขา แต่เขาไม่รู้จะทำธุรกิจยังไง
แต่ก่อนคณบดีหลู่จะมาถามเขาเป็นครั้งคราวว่าโปรเจ็คเขาเป็นยังไง แต่ตอนนี้คณบดีหลู่ไม่ได้ยกเรื่องนี้มาพูดเลย
เมื่อเทียบกับการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ระดับโลก แอพไม่มีอะไรเลย
มหาลัยไม่ใช่ธนาคารหรือธุรกิจ ผู้นำมหาลัยไม่ได้ดูสเตทเม้น! พวกเขาดูที่ผลลัพธ์ของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์! แม้ว่าโปรเจ็คผู้ประกอบการของนักศึกษาจะประสบความสำเร็จ แต่มันก็ไม่มีอะไรเลยเมื่อเทียบกับการแก้ปัญหาระดับโลก!
ไม่ใช่คณบดีหลู่คนเดียวเท่านั้นที่คิดแบบนี้ แต่หัวหน้าคณบดี คณบดีฉิน ก็คิดแบบนี้เช่นกัน คณบดีฉินยังคงพูดเป็นนัยๆให้ลู่โจวปิดบริษัทแล้วใช้เงินที่เหลือชำระเงินกู้บางส่วน ส่วนเงินกู้ที่เหลือก็หักทิ้งไป ลู่โจวไม่จำเป็นต้องจ่ายด้วยซ้ำ
การขาดทุนก็เป็นหนึ่งในบทเรียนของผู้ประกอบการ ลู่โจวควรมุ่งเน้นทางวิชาการแล้วรับเหรียญฟิลด์มาให้ได้ แบบนั้นไม่ดีกว่าหรือ?
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่พอใจกับการได้รับเกียรติเพียงอย่างเดียว แม้ว่าเหรียญจะดี แต่ลู่โจวอยากได้เงิน
แม้ว่าลู่โจวจะไม่สนใจกับการบริหารบริษัท แต่เขาสนใจเรื่องเงิน!
นอกจากนี้เขาอาจต้องเผาเงินจำนวนมากไปกับระบบเฮงซวยนี่ จากภารกิจที่ระบบมอบให้ เห็นได้ชัดว่าระบบมีความทะเยอทะยาน
การค้นพบเทคโนโลยีและการสร้างรายได้จากมันไม่อาจแยกออกจากกันได้ มันเป็นเรื่องที่ว่าใครจะเลือกอะไรแสวงหาอะไร
ลู่โจวดูออกเลยว่าตัวเขาจะตัดสินใจยังไงในอนาคต
ดังนั้นเขาจึงวางแผนไปขอคำแนะนำจากบุคคลที่ประสบความสำเร็จ
=======