เป็นบ้าอะไรทำไมถึงไม่อนุมัติ
หลัวเหวินเซวียนและบรรดานักศึกษาไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่ประหลาดใจ แม้แต่ลู่โจวเองก็ไม่อยากเชื่อข้อความที่อยู่ในอีเมล
ลู่โจวแทบจะไม่เข้าใจว่าฟาลติ้งส์หมายถึงอะไรกันแน่หลังจากที่เขาตั้งใจอ่านคำวิจารณ์ของฟาลติ้งส์
ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์เชื่อว่าเนื้อหาบางส่วนในวิทยานิพนธ์ของเขามีข้อผิดพลาดร้ายแรงซึ่งสามารถนำไปสู่การพิสูจน์ที่ผิดพลาดในแก่นสำคัญของวิทยานิพนธ์ ฟาลติ้งส์เชื่อว่าวิทยานิพนธ์ของลู่โจวไม่ได้พิสูจน์ว่า ε เข้าใกล้จำนวนอนันต์ มันไม่มีรากที่ไม่ชัดแจ้งในขอบเขตของ Re (s) ≥1-ε.
จริงๆ แล้วนี่คือการถูกปฏิเสธวิทยานิพนธ์ครั้งแรกของลู่โจว
หลัวเหวินเซวียนที่ยืนอยู่ด้านหลังลู่โจวอ่านคำวิจารณ์ เขากลืนน้ำลายและพูด “ข้อพิสูจน์นี้มีปัญหาเหรอ”
ลู่โจวส่ายหัวและพูด “มันยังเร็วไปที่จะตัดสินตอนนี้ ขอฉันดูอีกรอบ”
เหอชางเหวินที่กำลังแอบฟังสิ่งที่พวกเขาคุยกันแทบทำปากการ่วง
ว้าว…
เวลาที่วิทยานิพนธ์ของคนส่วนใหญ่ถูกปฏิเสธในขั้นตอนพิชญพิจารณ์พวกเขาก็คงแค่แก้ไขส่วนสำคัญอย่างเงียบๆ แต่ลู่โจวดูเหมือนว่าจะไม่เห็นด้วยกับผลลัพธ์ที่ได้…
เหอชางเหวินอดคิดไม่ได้
ลู่โจวเป็นเทพจริงๆ ….
ถ้าวันหนึ่งฉันเกิดบ้าเหมือนเขา…
ลู่โจวไม่สนใจว่านักศึกษาของเขาคิดอะไรอยู่
ลู่โจวก้มลงไปหยิบเอกสารที่พิสูจน์สมมติฐานเสมือนของรีมันน์ออกมา เขาเริ่มตรวจสอบคำวิจารณ์ของฟาลติ้งส์ทีละบรรทัด
หลัวเหวินเซวียนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญทฤษฎีจำนวนวิเคราะห์ เขาได้แต่ยืนอยู่ด้านหลังลู่โจวด้วยความสับสนและแสร้งทำว่าตัวเองเข้าใจวิทยานิพนธ์ของลู่โจว
สิบนาทีผ่านไป
ขณะที่หลัวเหวินเซวียนกำลังหาวลู่โจวปิดเอกสารและโยนกองวิทยานิพนธ์ลงบนโต๊ะ
หลัวเหวินเซวียนถามด้วยความสงสัย “แล้ว? “
ลู่โจวส่ายหัว
“ฉันไม่คิดว่ามันมีปัญหา”
หลัวเหวินเซวียนนิ่งไปครู่หนึ่งและพูด “แปลว่าศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ผิดงั้นเหรอ”
หลัวเหวินเซวียนดูไม่ค่อยมั่นใจว่าลู่โจวคิดถูก
เพราะท้ายที่สุดแล้วศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ก็คือมาเฟียแห่งวงการคณิตศาสตร์
อิทธิพลของเขาในวงการคณิตศาสตร์โด่งดังกว่าที่ปรึกษาของหลัวเหวินเซวียน เอ็ดเวิร์ด วิทเทน เสียอีก
แต่เพราะฟาลติ้งส์เป็นคนอารมณ์ร้อนคนในวงการวิชาการจึงไม่ได้ชอบเขาเหมือนวิทเทน
“มันยังเร็วไปที่จะมาเถียงกันว่าใครถูกใครผิด” ลู่โจวลุกขึ้นจากเก้าอี้และนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาพูด “ฉันจะคุยกับศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์เกี่ยวกับเรื่องนี้”
“การคุยกับเขาอาจจะเป็นเรื่องยากนะ ปกติแล้วเขาไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ อีกอย่าง…” หลัวเหวินเซวียนลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูด “นายอาจจะถูกเขาหัวเราะเยาะใส่นะ”
“ฉันไม่สนใจเรื่องนั้นหรอก” ลู่โจวพูด “ถ้าเขาถูกฉันก็จะแก้ไขข้อผิดพลาด แต่ถ้าฉันถูก ฉันจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรในวิทยานิพนธ์แน่นอน”
หลัวเหวินเซวียนพูด “แล้วถ้าต่างฝ่ายต่างไม่เปลี่ยนใจล่ะ”
สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยเมื่อคนสองคนในวงการวิชาการในระดับที่ไล่เลี่ยกัน ซึ่งทำให้ยากในการโน้มน้าวอีกฝ่าย
เพราะท้ายที่สุดแล้วยิ่งงานวิจัยลึกเท่าไหร่ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยก็มากขึ้นเท่านั้น บางครั้งนักวิชาการสองคนอาจใช้เวลายาวนานในการถกเถียงกันว่าใครเป็นคนถูก
แน่นอนว่านี่แหละคือความงดงามของคณิตศาสตร์
ความขัดแย้งไม่มีทางที่จะคงอยู่ตลอดไป ในที่สุดก็ต้องมีสักคนที่คิดถูก ถึงแม้เมื่อข้อพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์ใหม่สามารถทำลายพื้นฐานของคณิตศาสตร์ทั้งหมดมันก็ต้องมีวิธีในการแก้ไขสถานการณ์นี้
“แล้วถ้าต่างฝ่ายต่างโน้มน้าวกันไม่ได้…”
ลู่โจวนิ่งไปครู่หนึ่งและพูดออกมาด้วยเสียงเรียบเฉย
“ก็ขึ้นอยู่ว่าใครจะสามารถโน้มน้าวสาธารณชนได้”
…
อย่างไรเสียความลับทุกความลับย่อมมีการเปิดเผยไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง
ในคืนที่ลู่โจวได้รับบทวิจารณ์วิทยานิพนธ์จากวิทยานิพนธ์ในคณิตศาสตร์ประจำปี เกิดเหตุการณ์บางอย่างบนเว็บไซต์แมทโอเวอร์โฟลว
มีคนโพสต์ว่าสมมติฐานเสมือนของรีมันน์ของลู่โจวที่ส่งไปที่วิทยานิพนธ์ในคณิตศาสตร์ประจำปีถูกปฏิเสธโดยนักวิจารณ์ฟาลติ้งส์
หลังจากที่ข่าวแพร่ออกไปคนก็ต่างพากันถกเถียงถึงเรื่องนี้
[ศาสตราจารย์ลู่โดนปฏิเสธเหรอ เป็นไปไม่ได้! ]
[ผมบอกคุณแล้วว่าการพิสูจน์ของเขามีข้อผิดพลาดแต่พวกคุณไม่เชื่อผม ผมไม่ใช่คนเดียวที่คิดแบบนั้น แม้แต่ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์เองก็เห็นด้วยกับผม บ้าเอ๊ย! ]
[การถูกปฏิเสธเป็นเรื่องปกติใช่ไหม แม้แต่นักวิชาการเด่นๆ ยังทำเรื่องผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ได้]
[แต่นี่ไม่ใช่การปฏิเสธทั่วไป คุณไม่เห็นภาพสกรีนช็อตเหรอ คำพูดที่ใช้ในการปฏิเสธจงใจจะสื่อว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นในวิทยานิพนธ์ มันบอกว่ามีข้อผิดพลาดร้ายแรงในการข้อพิสูจน์หลักเหรอ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าลู่โจวไม่แก้ไขเรื่องสำคัญนี้วิทยานิพนธ์ของเขาต้องถูกทิ้งลงถังขยะ]
[มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย…]
[ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเพราะคนที่ตรวจสอบก็คือฟาลติ้งส์]
[…]
จริงๆ แล้วขั้นตอนการวิจารณ์ควรเป็นความลับ แต่อยู่ดีๆ ภาพสกรีนช็อตก็หลุดออกมา
หลังจากที่กองบรรณาธิการวิทยานิพนธ์ในคณิตศาสตร์ประจำปีรู้เรื่องภาพสกรีนช็อต พวกเขาติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์แมทโอเวอร์โฟลวทันที เว็บไซต์แมทโอเวอร์โฟลวสัญญาว่าจะลบโพสต์ แต่อะไรก็ตามที่หลุดไปในอินเทอร์เน็ตแล้วจะไม่มีวันหายไปอย่างสิ้นเชิง
อีกอย่างนักวิชาการคณิตศาสตร์ก็ชอบนินทาและข่าวประเภทนี้ทำให้วงการทั้งวงการถกเถียงกันอย่างดุเดือด
เพราะลู่โจวและฟาลติ้งส์มีชื่อเสียงในโลกคณิตศาสตร์ทั้งคู่ ซึ่งสิ่งที่พวกเขากำลังกเถียงกันอยู่คือปัญหาที่สำคัญที่สุดในคณิตศาสตร์…
ความขัดแย้งนี้ยาวนานถึงสามวันเต็มแล้ว แต่ยังไม่มีฝ่ายไหนออกมาตอบโต้
ฟาลติ้งส์ไม่มีบัญชีของเว็บไซต์แมทโอเวอร์โฟลว ในขณะที่ลู่โจวที่มีบัญชีแต่ก็ไม่ชอบโพสต์
ขณะที่คนกำลังถกเถียงกันว่าลู่โจวและฟาลติ้งส์จะทำอย่างไรต่อ อยู่ดีๆ มหาวิทยาลัยจินหลิงก็โพสต์ลงบนเว็บไซต์มหาวิทยาลัย
โพสต์สั้นๆ มีเพียงไม่กี่ย่อหน้าเท่านั้น
แต่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหา
[วันที่ 18 ธันวาคม มหาวิทยาลัยของเราจะทำการรายงานเรื่องสมมติฐานเสมือนของรีมันน์ที่หอประชุมเก่าของมหาวิทยาลัย เราจะตอบทุกคำถามที่ได้รับการอนุมัติ ตอนนี้มีการเปิดรับสมัครแล้ว ใครก็ตามที่สนใจจะเข้าร่วมกรุณาสมัครก่อนวันที่ 7 ธันวาคม
[ผู้รายงาน ลู่โจว(นักวิชาการ) ]
ในวันที่ข้อความนี้ถูกแพร่ออกไป
โลกแห่งคณิตศาสตร์ระเบิด!
……………………