หวงกวงหมิงดูภาพตรงหน้าอีกที
เขามั่นใจมากว่าคนคนนั้นคือลู่โจว
หวงกวงหมิงกำลังจะหันหลังกลับแล้วเดินออกไปแล้ว แต่ลู่โจวคว้าไหล่เขาไว้ได้ทัน
“อะไรวะ? จะไปไหนกัน…”
หวงกวงหมิงยืนนิ่งแล้วถอนหายใจ
“ฉันอายที่ต้องมาเจอเพื่อนในตอนนี้ ปล่อยเหอะ…”
ลู่โจวรีบขัดขึ้นมาทันที
“ไม่ ช่างแม่*ดิวะ!”
เวรเอ๊ย!
ไม่ได้เจอหน้าไอ้เพื่อนเวรนี่มาตั้งหลายปี พอเจอกันเขาก็ดันทำตัวแบบนี้เสียอย่างนั้น…
กวงหมิงปากหมาคนนั้นได้หายไปแล้ว…ลู่โจวเริ่มรู้สึกว่าเขาห่างเหินกับเพื่อนคนนี้นิดหน่อยแล้ว เพื่อนเขากลายมาเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหนกันหนอ โดยเฉพาะเส้นผมนั่น… ลู่โจวแทบจะจำเขาไม่ได้
หลังจากต่างฝ่ายต่างก็นิ่งกันไปครู่ใหญ่ หวงกวงหมิงก็พูดขึ้นมาว่า
“นายดูประหลาดใจนะ ประหลาดใจในทางที่แย่น่ะ”
ลู่โจวยิ้มขึ้นมาแล้วตอบไปว่า “เปล่าเสียหน่อย! ก็แค่อึ้งไปนิดหน่อย ไม่ได้เจอกันตั้ง 6 ปี นายก็เปลี่ยนไป…มากเลย”
หวงกวงหมิงถอนหายใจแล้วพูดต่อ “…ผ่านไป 6 ปี นายยังไม่รู้ตัวเลยเวลานายกำลังหัวร้อน”
เดี๋ยวนะ หัวร้อนตรงไหน?
ลู่โจวคิดดีๆ แล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังหัวร้อนตรงไหน
หวังเผิงปิดประตูรถยนต์แล้วเดินลงมา
“คุณรู้จักเขาเหรอครับ?”
ลู่โจวกำลังอารมณ์ดี เขาตอบคำถามหวังเผิงไป “ใช่ เพื่อนเก่าผมเองแหละ”
หวงกวงหมิงมองหวังเผิงแล้วถามบ้าง “คุณเป็นใครนะครับ?”
ลู่โจวกำลังจะบอก แต่หวังเผิงเป็นฝ่ายพูดก่อน
“หวังเผิง เป็นคนขับรถครับ”
“ยินดีที่ได้พบครับ” หวงกวงหมิงถอดหมวกนิรภัยออกจากหัวแล้วเอ่ยถาม “ทำไมนายถึงมีคนขับรถเป็นผู้ชายล่ะ?”
พอเจอคำถามแปลกๆ เข้า ลู่โจวเลยตอบว่า “…นายเคยเห็นซีอีโอที่ไหนเขามีคนขับรถผู้หญิงด้วยเหรอ?”
หวงกวงหมิงคิดแป๊บหนึ่งก็พูดขึ้น “เออ ก็คงจะจริง”
ลู่โจวมองไปทางโรงงานแล้วถามต่อ “นายทำงานที่…ไฮซิลิคอนเหรอ?”
“อ่าฮะ…” หวงกวงหมิงเกาหัวด้วยท่าทางเจื่อนๆ เขาพูดต่อ “ฉันเปลี่ยนวิชาเอกน่ะ ฉันไม่กล้าบอกคนอื่นเลย แต่คือ ฉันไม่ได้ย้ายไปการเงิน ฉันย้ายไปการผลิตอัตโนมัติแทน”
“…แล้วทำไมไม่บอกฉันแต่แรก?” ลู่โจวถอนหายใจแล้วพูดต่อ “ฉันจะได้พูดกล่อมให้นายไปเรียนสาขาอื่น”
“…ช่างเหอะเพื่อน” หวงกวงหมิงถอนหายใจแล้วพูดต่อ “มันเป็นอดีตไปแล้ว”
เมื่อเปรียบเทียบกับโปรแกรมเมอร์แล้ว พนักงานสายการผลิตอัตโนมัติทั้งได้เงินน้อยกว่าและยังต้องทำงานหนักกว่าอีกด้วย
หวงกวงหมิงทำงานได้ดี และเขาก็มีอาจารย์ที่ปรึกษาตอนเรียนปริญญาโทที่ดีมากๆ อีกด้วย แม้ว่าความสามารถทางวิชาการของเขาจะอยู่ในระดับปานกลาง และวิชาเอกของเขาจะไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก เขาก็ยังได้โอกาสมาทำงานกับหัวเหว่ย
แต่หวงกวงหมิงเป็นคนประเภทที่ทำงานทุกอย่างได้ปานกลางสุดๆ
สิ่งนี้เป็นข้อดีตอนที่เขาเรียนปริญญาโท อาจารย์ที่ปรึกษาไม่ได้เมินเขา และก็ไม่ได้สนใจเขามากจนเกินไป
แต่ความพูดมากของเขานี่มัน…
เพื่อนสมัยเรียนอาจจะคิดว่าเขาเป็นคนตลกดี แต่เพื่อนร่วมงานจะคิดอีกแบบน่ะสิ
สุดท้ายแล้วเขาก็ได้เงินราวสองถึงสามพันหยวนต่อเดือนในตำแหน่งงานที่มีความเครียดสูง ถึงเขาจะยังไม่เข้าวัยสามสิบผมของเขาก็เริ่มร่อยหรอแล้ว
“เอาจริงๆ นะ ถ้าฉันรู้ว่ามันจะเครียดขนาดนี้ล่ะก็ ฉันไม่น่าเปลี่ยนวิชาเอกเลย”
ลู่โจวอยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าคณิตศาสตร์ก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกัน แต่เขาก็อดถามไม่ได้ว่า “แล้วอย่างนั้นนายเปลี่ยนวิชาเอกทำไมล่ะ?”
หวงกวงหมิงถอนหายใจแล้วตอบ “แม่ฉันสั่งมาน่ะสิ แม่บอกว่าแม่มีญาติที่ทำงานในโรงงานรถยนต์ แม่ได้ยินว่าคนงานในโรงงานได้ทำงานง่ายๆ แล้วพวกเขาก็เรียนจบจากเอกการผลิตอัตโนมัติกันหมดเลย”
หวงกวงหมิงจบจากเอกการผลิตอัตโนมัติเพื่อมาเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยในโรงงาน
แม่ของเขาคงจะไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยซ้ำว่าการผลิตอัตโนมัติคืออะไร แต่อย่างน้อยหวงกวงหมิงก็ควรจะหาข้อมูลมาบ้างนะ
“…จะว่าไปแล้ว ทำไมนายถึงเรียนเอกคณิตศาสตร์ตั้งแต่แรกล่ะ?”
“แม่สั่งมาอีกนั่นแหละ” หวงกวงหมิงถอนหายใจแล้วบอก “จำได้ไหม? ฉันมีญาติทำงานบัญชี เธอเรียนเอกคณิตศาสตร์ แม่ก็เลยให้ฉันเรียนเอกคณิตศาสตร์เหมือนกัน…”
ลู่โจว “…”
โอเค เข้าใจแล้ว
ทุกอย่างฟังดูเมคเซนส์แล้ว
แต่ถึงอย่างไรเขาเป็นรูมเมตของลู่โจว ชายหนุ่มจึงรู้สึกอยากช่วยเขาอยู่ดี
ลู่โจวรู้สึกแย่ที่เห็นหวงกวงหมิงเป็นอย่างนี้
ลู่โจวเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะถามขึ้นมาว่า “อยากกลับไปเรียนไหม?”
“ช่างเถอะ ฉันรู้อยู่ว่านายจะพูดอะไร…” หวงกวงหมิงส่ายหัวแล้วบอกว่า “ฉันไม่ฉลาดพอจะอยู่วงการวิชาการหรอก ฉันแค่ดีใจที่นายยังจำฉันได้ ถ้าฉันกลับไปเรียน ฉันต้องเรียนได้แย่แน่ๆ แล้วคนจะพากันโทษนาย…ฉันทำแบบนั้นกับนายไม่ได้หรอก”
ลู่โจวเข้าใจว่าหวงกวงหมิงกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงพยักหน้าแล้วตอบไปว่า “ไม่มีใครจะมาโทษฉันหรอก นายคิดเรื่องนี้มากไปแล้ว แต่นี่มันชีวิตนายเลยนะ ฉันจะไม่ตัดสินใจอะไรให้นายหรอก แต่ถ้านายอยากกลับไปเรียน…ก็บอกฉันแล้วกัน”
หวงกวงหมิงมีท่าทางลังเลนิดหน่อย แต่ไม่นานก็ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ฮ่าๆ ขอบคุณล่วงหน้าแล้วกันนะ…ไปสูบบุหรี่ไหม?”
“ฉันไม่สูบ…ที่นี่เขาอนุญาตให้สูบได้ด้วยเหรอ?” ลู่โจวหันไปมองรอบๆ พยายามมองหาป้ายห้ามสูบบุหรี่
“ในโรงงานน่ะไม่ได้หรอก แต่ข้างนอกน่ะได้ ฉันออกมาข้างนอกนี่ก็เพราะจะมาพักสูบบุหรี่ ก็บังเอิญมาเจอนายพอดี” หวงกวงหมิงหยิบบุหรี่ออกมาแล้วบอกว่า “คนส่วนใหญ่น่ะ เข้าไปข้างในไม่ได้หรอก แถมยังมีเงินรางวัลให้ 100,000 หยวน ให้กับคนที่สามารถจับสายจากบริษัทอื่นด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อนายเป็นนักวิชาการก็อาจจะเข้าไปได้ล่ะมั้ง จะให้ฉันพานายเข้าไปไหมล่ะ?”
ลู่โจวกำลังจะปฏิเสธคำชวนของเขา ก็พอดีกับที่ประตูโรงงานค่อยๆ เปิดออกมา กลุ่มคนในชุดสูทกำลังเดินออกมาจากโรงงาน
หวงกวงหมิงหันหลังกลับไปแล้วรีบโยนบุหรี่ที่สูบอยู่ลงพื้นทันที
คนที่นำกลุ่มมาคือหัวหน้าของโรงงานอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ไฮซิลิคอน เมิ่งจงเปี่ยว
ลู่โจว “นั่นใครน่ะ?”
หวงกวงหมิงกลืนน้ำลายแล้วตอบว่า
“…ผู้จัดการโรงงาน”
โดนจับได้ว่ามาอู้…
ฉันไม่ได้เงินโบนัสแล้วล่ะ…
………………..
Related