ตอนที่ 90 คิดเข้าข้างตัวเองเป็นอาการป่วย
ลู่โจวไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนชื่อแอพเท่านั้น แต่เขายังเปลี่ยนชื่อสมาคมและบริษัทอีกด้วย
แอพแคมปัสแอสซิสแตนท์จะได้รับการอัพเดทรอบแรก หลังจากอัพเดท แอพจะมีชื่อว่า’แคมปัสแอสซิสแตนท์ 1.0′!
แคมปัสแอสซิสแตนท์ที่ผ่านการอัพเดทแล้วจะมีฟังก์ชั่นแคมปัสเทรนด์ทั้งหมด นี่หมายความว่าพวกเขาจะต้องโยกย้ายและแก้โค้ดหลักและทำหน้าอินเตอร์เฟสผู้ใช้ใหม่
อย่างไรก็ตามครั้งนี้มันไม่ใช่แค่ลู่โจวคนเดียวที่ลงสนามรบ แต่เขามีทีมอยู่ด้านหลังเช่นกัน
ส่วนโค้ดส่วนใหญ่ผู้จัดการฝ่ายเทคนิค หรงไห่ ทำเสร็จไปแล้ว นอกจากนักศึกษาซอร์ฟแวร์ปีสามสองคน มีนักศึกษาซอร์ฟแวร์ปีหนึ่งที่เขียนอัลกอลิทึ่มง่ายๆและแก้ปัญหาบางอย่างด้วยเช่นกัน
การออกแบบอินเตอร์เฟสผู้ใช้เป็นผู้จัดการผลิตภัณฑ์ออกแบบด้วยตนเอง ลู่โจวค้นพบว่าหยวนลี่เหว่ยเคยได้รับรางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศในการแข่งขันนวัตกรรมธุรกิจมหาลัยระดับประเทศ ดังนั้นเขาจึงนับได้ว่าเป็นอัจฉริยะ
ตามการตัดสินใจในการประชุม ‘แคมปัสแอสซิสแตนท์’จะถูกสร้างใหม่ตามสไตล์ที่เรียบง่ายที่แคมปัสเทรนด์มี อินเตอร์เฟสหลักจะถูกแบ่งเป็นห้าโมดูล แต่ละโมดูลก็คือตารางเรียน บันทึกวิชา แผนการเรียน แคมปัสเทรนด์และแคมปัสมู้ด(campus mood)
นอกจากสี่ฟังก์ชั่นที่พูดในการประชุม แผนการเรียนถูกเพิ่มเข้ามาภายหลัง ฟังก์ชั่นนี้ถูกก๊อปมาจากแอพ’กลายเป็นนักเรียนอัจฉริยะ’ มันจะช่วยล็อคโทรศัพท์ตามเวลาที่ตั้งไว้และมันจะช่วยให้นักเรียนที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำมีสมาธิ ฟังก์ชั่นนี้จะทำให้ไม่เกิดสถานการณ์อย่างการที่นักศึกษาไปอยู่ในห้องสมุดทั้งวันโดยไม่ได้ทำอะไรเลย
อย่างไรก็ตามความแตกต่างระหว่างแคมปัสแอสซิสแตนท์และกลายเป็นนักเรียนอัจฉริยะก็คือแอพแคมปัสแอสซิสแตนท์จะไม่ล็อคกล้องของโทรศัพท์ ด้วยวิธีนี้ผู้ใช้ยังสามารถใช้โทรศัพท์ถ่ายโน๊ตได้อยู่
แม้ว่าฟังก์ชั่นใหม่ทั้งสี่จะดูซับซ้อน แต่งานที่ต้องทำนั้นไม่ได้ยุ่งยากเลย โค้ดจำนวนมากสามารถคัดลอกมาจากต้นแบบและหอสมุดโค้ด อย่างน้อยนี่คือสิ่งที่หรงไห่บอกลู่โจว
หรงไห่รับผิดชอบส่วนของ’ตารางเรียน’และ’บันทึกวิชา’ ส่วนที่ซับซ้อนขึ้นมาหน่อยอย่าง’แคมปัสมู้ด’กับ’แผนการเรียน’ลู่โจวจะทำด้วยตนเอง
ลู่โจวใช้แต้มทั่วไป 200 แต้มเพื่อพัฒนาโมดูลวันแรกโดยปราศจากความลังเล เขาใช้ระบบแก้ไขตรงส่วนที่ยากๆ ด้วยการใช้ระบบเข้าช่วย สิ่งเดียวที่เขาต้องทำก็คือการคัดลอกโค้ดจากสมองลงในคอมพิวเตอร์
แต้มทั่วไปเขาเหลืออยู่ 975 แต้ม
…..
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สายลมฤดูใบไม้ล่วงพัดผ่านไป เดือนตุลาคมผ่านไปอย่างเงียบๆ ไม่นานมันก็เป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดของปี
เดือนพฤศจิกายน เมื่้อการบรรยายคณิตวิเคราะห์ 3 จบลง เอกคณิตก็มีบรรยากาศชื่นมื่น
แน่นอนนี่ไม่ใช่เพียงเพราะคาบคณิตวิเคราะห์หมดแล้วเท่านั้น
มันมีอีกเหตุผลที่สำคัญ นั่นก็คืองานแสดงประจำปีของมหาลัย งานแสดงร้องเพลงฤดูใบไม้ร่วง กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
หัวหน้าห้องทุกคนจะมีใบลงทะเบียนอยู่ในมือและเดินไปทั่วหอพักเพื่อถามว่ามีใครอยากเข้าร่วมไหม จากปากอาจารย์ผู้รับผิดชอบ แต่ละห้องต้องมีนักศึกษาไปลงทะเบียนออดิชั่นอย่างน้อยหนึ่งคน แต่ละสมาคมต้องส่งอย่างน้อยสองคน หลังจากนั้นสภานักศึกษาจะเลือกคนที่ดีที่สุดเพื่อแสดง
เนื่องจากอิทธิพลของการแสดง บรรยากาศที่คึกคักก็เหมือนโรคระบาด แพร่ไปทั้งมหาลัย
สำหรับเหล่าคนโสดแล้ว นี่เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่จะแสดงความสามารถพิเศษ
ณ ทางเดินตามอาคาร ข้างทะเลสาบ หรือแม้แต่ใกล้ๆป่า…
มีเสียงเพลงดังออกมา
ณ หอพัก 201 ก็เช่นเดียวกัน
สือช่างขอให้หัวหน้าห้องลงชื่อเขา จากนั้นเขาก็หยิบกีตาร์ออกมาแล้วร้องเพลงที่เปี่ยมไปด้วยความโศกเศร้า
หวงกวงหมิงกำลังเล่นโทรศัพท์ แต่แล้วเขาก็ทนไม่ไหว นานๆทีเขาจะร้องเพลงไม่กี่ประโยคโดยหวังว่ามันจะแก้ไขระดับเสียงของสือช่าง
ส่วนหลิวรุ่ย เขาสวมที่อุดหูและกำลังเรียนฟิสิกส์ เพราะเขาไม่สนใจงานแสดงร้องเพลงฤดูใบไม้ร่วงนี่เลย…
ลู่โจวก็เช่นกัน เขาไม่สนใจงานนี้เลย อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะสวมหูฟัง เขาก็ได้ยินเสียงเสียดหูอยู่ดี เขากวาดสายตาดูแถวโค้ด เขากำลังตรวจสอบโค้ดของ’ทีมงานโปรแกรมเมอร์’เพื่อหาข้อผิดพลาดและปรับปรุงเท่าที่เป็นไปได้
ทันใดนั้นเอง QQ เขาก็กระพริบ
เมื่อลู่โจวมองมุมขวาล่าง เขาก็เห็นข้อความจากหวังเสี่ยวตง เขาจึงเปิดอ่าน
[งานแสดงร้องเพลงฤดูใบไม้ร่วง ฉันจะสารภาพรักกับเธอ]
ไม่แปลกใจเลยที่หมอนี่เป็นอัจฉริยะ ข้อความเขาไม่มีอะไรเลยนอกจากข้อมูล
ลู่โจวถอนหายใจแล้วพิมพ์ไปห้าคำ
[ขอให้นายโชคดี]
ฉันจะพูดอะไรได้อีก?
ภารกิจฆ่าตัวตาย?
อำลา?
ถ้าหมอนี่มีความกล้าบ้างแล้วสารภาพรักกับเธอช่วงซัมเมอร์ หรือก่อนการแข่งขัน บางทีอาจมีความหวังเล็กน้อย
แต่ตอนนี้…
มีโอกาสอยู่เหรอ?
ผู้หญิงคนนี้เข้าใจผู้ชายดีเกินไป เธอไม่สามารถสร้างสัมพันธ์กับใคร เธอจะชักใยผู้ชายเสมอแล้วเล่นกับพวกเขา…
นอกจากวันที่เธอเหนื่อยและพบคนดีในที่สุด
มันอธิบายได้ยากว่าชายคนนั้นต้องดีแค่ไหน
ใครจะรู้
เขาจะต้องหล่อและมีพรสวรรค์อย่างน้อยครึ่งนึงของฉันใช่ไหม?
โชคร้าย…
ลู่โจวส่ายหน้า แทนที่ออกความเห็น เขากลับมาตรวจสอบโค้ดต่อ
เขาไม่เก่งเรื่องความรู้สึก
สิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือการวิเคราะห์ไปเรื่อย
หวังเสี่ยวตงไม่ได้ตอบ บางทีเขาอาจได้รับความกล้าจากการตอบของลู่โจวแล้ววางแผนสารภาพรักอย่างพิถีพิถัน
ซีนสารภาพรักนั้นคงเลวร้าย…
ลู่โจวจินตนาการไม่ออกเลย
ทันใดนั้นเองไดอาล็อกบอกซ์ของเสี่ยวไอก็กระพริบ
ลู่โจวเปิด
เสี่ยวไอ : [คำถาม สารภาพรักคืออะไร?]
ลู่โจวส่ายหน้าแล้วยิ้มก่อนจะพิมพ์ลงไป
[มันเป็นความรัก]
[ท่านรักฉัน?]
ลู่โจว “…”
[…ฉันไม่ได้บอกให้อ่านข้อมูลแชทของฉันใช่ไหม? ไปวิเคราะห์ข้อความกลุ่มไป]
ลู่โจวกดปุ่มเอนเทอร์
บัดซบ นึกดูสิ มันเรียนรู้การหลงตัวเอง…บางทีมันอาจเรียนรู้จากผู้หญิงไร้ยางอายในกลุ่มแชท
พัดลมในเครื่องหมุนดังหึ่งๆอยู่หลายครั้งเหมือนกับว่ามันกำลังคำนวณอะไรบางอย่าง
หลังจากนั้นสักครู่ เสี่ยวไอก็ตอบ
[ค่ะ นายท่าน (เศร้า.jpg)]
ลู่โจว “???”
อะไรนะ? มันฉลาดขนาดนี้แล้ว?
มันใช้อิโมจิได้ด้วย?
แน่นอนลู่โจวรู้ว่าที่จริงเสี่ยวไอใช้การวิเคราะห์ตามบริบทแล้วตัดสินใจว่าภาพนี้เหมาะสมที่สุด
ส่วนเสี่ยวไอจะเข้าใจความหมายของภาพจริงไหมนั้น…
เขารู้สึกกังขา
ลู่โจว [อย่าส่งรูปมากนัก มันใช้งานซีพียูมากขึ้นจนทำให้ฉันช้าลง]
เสี่ยวไอ [ค่ะ นายท่าน (เศร้า.jpg)]
ลู่โจว “…”