“ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ เรากำลังจะถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่งแล้ว เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกของท่าน โปรดนั่งอยู่กับที่นั่งของท่านและรัดเข็มขัด…”
ลู่โจวเก็บสมุดและปากกาเข้าที่
ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นเด็กผู้ชายวัยรุ่นที่นั่งถัดจากเขาซึ่งสวมหมวกเบสบอลกำลังจ้องมาที่สมุดของเขา
ลู่โจวเลิกคิ้วแล้วยิ้ม
“สงสัยเหรอว่าฉันกำลังเขียนอะไร?”
เด็กชายดูเหมือนจะจำลู่โจวไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า
“คุณลุงครับ ผมเคยเห็นสูตรนั่นมาก่อน”
ลู่โจวหัวเราะ
ไอ้เด็กบ้านี่…
เรียกฉันว่าลุงแล้วก็ทำมาเป็นพูดอวด
เคยเห็นนี่มาก่อนงั้นเหรอ?
นายไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร แต่นายเคย ‘เห็น’ สมการนี้มาก่อนเนี่ยนะ?
เชื่อก็โง่แล้ว!
ลู่โจวอยากจะเรียกเด็กคนนั้น แต่เขาก็ตัดสินใจฝืนไม่ทำ
ลู่โจวเลิกสนใจเขา และหลังจากสัญญาณไฟให้รัดเข็มขัดดับลง เขาก็ปลดเข็มขัดออกแล้วเดินออกจากบันไดเครื่องบินไปพร้อมกับหวังเผิงที่ถือกระเป๋าของเขาอยู่
เด็กชายดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องที่ลู่โจวเมินเฉย แต่เขากลับครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้น
“โอ้ นั่นคือ… ฟังก์ชันซีตาของรีมันน์!
“ผมนึกออกแล้วว่าผมเคยเห็นมันมาก่อน! ผมคิดว่ามันอยู่ในคำถามของ IMO ข้อสุดท้ายเมื่อปีก่อน…”
เดี๋ยวก่อนนะ…
คุณลุงคนนี้น่าประทับใจจริงๆ!
เขารู้เรื่องฟังก์ชันของรีมันน์ด้วยเหรอ?
แต่ทำไมผู้ชายแก่อย่างเขาจะต้องมาตอบคำถาม IMO ด้วยล่ะ?
ทันใดนั้นเด็กชายร่างเจ้าเนื้อที่อยู่ด้านหลังก็ตบเบาๆ ที่หลังของเขา
“พี่ เรากำลังจะลงจากเครื่องบิน หยุดฝันกลางวันซะ”
“โอ้!” เด็กชายรีบคว้ากระเป๋าเดินทางของเขาแล้วพูดว่า “ได้ รอฉันแป๊บหนึ่งนะ”
“เลิกเล่นได้แล้ว เราต้องไปแล้ว”
“ได้ ได้ มาแล้ว!”
…
หลังจากลู่โจวลงจากเครื่องบิน เขาก็เห็นใครบางคนที่คุ้นตาอยู่ที่สนามบิน
จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเฉินเป่าฮว่า พ่อของเฉินยู่ซาน ผู้ซึ่งทำงานอยู่ที่แผนกการจัดการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้เจอผู้ชายคนนี้มาสักพักแล้ว ชายสูงวัยที่แต่งกายสะอาดเรียบร้อยผู้นี้ก็จำเขาได้อย่างชัดเจน
ลู่โจวยิ้มแล้วพยักหน้า
“คุณลุงเฉิน… ยินดีที่ได้พบครับ”
“สวัสดี นักวิชาการลู่” เฉินเป่าฮว่าพยักหน้าแล้วผายมือเชื้อเชิญ “ขึ้นรถเถอะ”
เฉินเป่าฮว่ากำลังจะเข้าไปนั่งตรงที่นั่งคนขับรถ
แต่หวังเผิงกลับเดินออกมาข้างหน้า
“ผมจะขับให้เองครับ”
เฉินเป่าฮว่าจำหน้าที่ของหวังเผิงได้ชัดเจน ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าแล้วหลีกทางให้
“ได้เลย”
ดังนั้นลู่โจวกับเฉินเป่าฮว่าจึงนั่งด้วยกันที่เบาะหลัง
พวกเขาไม่ได้คุยกันระหว่างที่อยู่บนรถ และลู่โจวก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่ต้องนั่งตรงนี้
เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่คุณลุงเฉินเป่าฮว่าดูเหมือนจะสงวนท่าทีเล็กน้อยหรือเปล่า?
“ลูกสาวฉันไปที่บ้านนายตอนช่วงวันหยุดเหรอ?”
ลู่โจวนั่งตัวตรงแล้วพูดว่า “ใช่ครับ… แต่เธออยู่ที่นั่นแค่แป๊บเดียว”
“อ๋อ ฉันรู้แล้ว… มิน่าล่ะ”
ชายสูงวัยถอนหายใจแล้วเงียบไป
ลู่โจวอยากพูดคุยกับเขา แต่คุณลุงเฉินดูเหมือนไม่ค่อยอยากจะคุยด้วย เพราะฉะนั้นลู่โจวจึงเอาความสนใจกลับไปที่สมุดในกระเป๋าเสื้อของเขา
นี่เป็นการฆ่าเวลาที่เขาโปรดปราน
เมื่อเขาจมดิ่งอยู่ในโลกของคณิตศาสตร์ เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็รู้สึกเหมือนไม่กี่นาที…
…
การประชุมเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์นานาชาตินี้จัดขึ้นที่สภาเมืองของปักกิ่ง มีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 500 คนจากอุตสาหกรรมการบินและอวกาศและแวดวงฟิสิกส์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากประเทศที่เกี่ยวข้อง มาเข้าร่วมการประชุม
แม้ว่าการประชุมนานาชาตินี้จะจัดขึ้นโดยกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรและองค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน การเตรียมการโดยเฉพาะนั้นดำเนินการโดยฝ่ายกระทรวงการต่างประเทศ
โรงแรมต่างๆ สี่แห่งได้รับการจัดการโดยอ้างอิงตามภูมิหลังของผู้เข้าร่วม
ในช่วงระหว่างการประชุม การจราจรบนถนนวงแหวนที่สองทั้งสายถูกจำกัดไว้ ลู่โจวสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนว่ามีจำนวนรถน้อยลงบนถนน
รถหยุดตรงทางเข้าโรงแรม หลังลงจากรถเฉินเป่าฮว่าก็พูดกับลู่โจวว่า
“รถคนนี้เป็นของนายแล้วตอนนี้ นายคงจะอยู่ในปักกิ่งสักหนึ่งหรือสองสัปดาห์ แล้วมันคงจะสะดวกกว่าถ้ามีรถ”
ลู่โจวตอบอย่างสุภาพว่า “ขอบคุณครับ”
“ด้วยความยินดี ยังไงมันก็ไม่ใช่รถของฉันหรอก มันเป็นของเบื้องบนน่ะ”
เฉินเป่าฮว่ามองที่นาฬิกาข้อมือของเขาแล้วพูดว่า “จะสายแล้ว งั้นฉันจะไม่ทำให้นายเสียเวลาอันมีค่าไปมากกว่านี้ แวะมาดื่มชาที่บ้านนายสักครั้งนะไม่ต้องเกรงใจ”
เฉินเป่าฮว่าพยักหน้าแล้วมอบกุญแจรถให้หวังเผิง จากนั้นเขาก็หันหลังแล้วเดินจากไป
หวังเผิงใส่กุญแจในกระเป๋าเสื้อแล้วพูดกับลู่โจวว่า
“ผมจะยกกระเป๋าเดินทางไปให้คุณ คุณไปเช็คอินที่โรงแรมเถอะครับ”
ลู่โจวพยักหน้า
“โอเค ขอบคุณนะ”
แม้ว่าโดยปกติแล้วพนักงานที่โรงแรมห้าดาวจะเป็นคนยกกระเป๋าเดินทางของแขกขึ้นไปชั้นบน แต่กระเป๋าเดินทางของลู่โจวนี้มีความพิเศษ ถึงแม้จะเป็นพนักงานที่ผ่านการตรวจสอบภูมิหลังมาแล้วก็ไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้องกระเป๋าเดินทางของเขา
ลู่โจวกำลังจะเช็คอินที่แผนกต้อนรับของโรงแรมในทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นผู้ชายที่ดูคุ้นหน้าคนหนึ่งยืนอยู่ถัดจากเขา
ชายสูงวัยสังเกตเห็นลู่โจวเช่นกันเมื่อเขามองอย่างพิจารณาแล้วกำลังจะสบสายตากับลู่โจว
ชายสูงวัยยิ้มแล้วพูดออกมาว่า
“โอ้ นักวิชาการลู่ บังเอิญอะไรอย่างนี้ เราได้พักโรงแรมเดียวกัน”
“นักวิชาการหวัง?” ลู่โจวยิ้มและยื่นมือของเขาออกไป “ดีใจที่ได้เจอคุณนะครับ”
ผู้ชายคนนี้คือนักวิชาการหวังชื่อเฉิง อดีตประธานของสมาคมคณิตศาสตร์จีน หนึ่งในสุดยอดผู้นำในแวดวงคณิตศาสตร์ของจีน
อย่างไรก็ตามแม้จะทักทายกันอย่างกระตือรือร้น แต่ทั้งสองคนก็เป็นแค่เพียงคนรู้จักกันเท่านั้น
พวกเขาไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในอดีต
ครั้งหนึ่งคือในงานประกาศรางวัลคณิตศาสตร์เฉินเสิ่งเซินเมื่อนักวิชาการหวังถูกกดดันจากท่านผู้เฒ่าชิวและต้องมอบรางวัลให้แก่ลู่โจวครั้งที่สองคือในการเลือกตั้งนักวิชาการ เนื่องด้วยการกดดันทางการเมืองต่างๆ นักวิชาการหวังจึงต้องมอบคะแนนเสียงให้กับลู่โจว
อย่างไรก็ตามรัฐก็ต้องการให้ลู่โจวมีตำแหน่งทางวิชาการสองตำแหน่งเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณต่อการทำงานของเขา
ถ้าจะมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ลู่โจวไม่ได้รับตำแหน่งทางวิชาการ ก็คงจะต้องกล่าวโทษนักวิชาการหวัง
อันที่จริงแล้วนักวิชาการหวังค่อนข้างประทับใจในตัวลู่โจว
เขาอยู่ในแวดวงคณิตศาสตร์มาหลายทศวรรษ แต่แม้ว่าเขาจะสร้างงานวิจัยที่ดีในเรื่องทฤษฎีเงื่อน แต่สิ่งที่เขาทำมาทั้งชีวิตนั้นก็น้อยกว่าที่ลู่โจวได้ทำในหนึ่งปี
ลู่โจวสามารถที่จะใช้ภาพลักษณ์ของเขาในการยกระดับความประทับใจของแวดวงคณิตศาสตร์นานาชาติต่อนักคณิตศาสตร์จีนได้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่อัจฉริยะธรรมดาทั่วไปจะทำได้
เหมือนอย่างรามานุจัน จะต้องมีวันหนึ่งที่มีรางวัลลู่โจว ซึ่งอาจจะก่อตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนนักวิชาการรุ่นเยาว์ให้เจริญรอยตามเส้นทางคณิตศาสตร์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ถึงอย่างนั้นนักวิชาการหวังก็ไม่พอใจที่จะต้องพยายามอย่างยิ่งเพื่อเอาใจคนยุคมิลเลนเนียล!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะลู่โจวปฏิเสธที่จะทำงานที่มหาวิทยาลัยเหยียน เขาจึงสามารถคาดได้ว่ากลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยจินที่ยอดเยี่ยมนั้นจะกลายเป็นนักวิชาการที่โค่นล้มอาณาจักรมหาวิทยาลัยเหยียน…
สิ่งที่กระตุ้นเขามากที่สุดคือเขายังต้องทำหน้าสุภาพต่อหน้าเด็กคนนี้
“จะว่าไปแล้ว นักวิชาการหวังก็ได้รับเชิญให้มาร่วมประชุมด้วยเหรอครับ?”
“พอดีว่าสาขาการวิจัยของผมเกี่ยวข้องกับฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์อย่างใกล้ชิดน่ะ อีกอย่างผมก็เป็นผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์ของสมาคมฟิสิกส์จีนด้วย ฉะนั้นพวกเขาก็เลยส่งคำเชิญมาให้ผมด้วย ได้ยินมาว่าคุณกำลังจะไปพูดบนเวทีใช่ไหม? คุณพร้อมไหม?”
ลู่โจวยิ้มแล้วตอบว่า “พร้อมครับ หวังอย่างยิ่งว่าผมจะไม่ทำให้แวดวงวิชาการจีนต้องขายหน้า…”
“ฮ่าฮ่า คุณถ่อมตัวเกินไปแล้ว!” หวังชื่อเฉิงยิ้มแล้วพูดอย่างสุภาพว่า “การประชุมจะมีขึ้นในอีกสามวัน ถ้าคุณมีเวลา ทำไมไม่แวะไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยเหยียนสักหน่อยล่ะ? แผนกคณิตศาสตร์ของเราเลื่อมใสคุณมาพักใหญ่เลยนะตอนนี้ นักวิชาการเหล่านั้นคงจะยินดีอย่างยิ่งที่จะให้คุณไปนั่งที่มหาวิทยาลัยเหยียนแล้วสอนวิชาให้พวกเขา”
“มหาวิทยาลัยเหยียนเป็นมหาวิทยาลัยที่มหัศจรรย์แห่งหนึ่ง แล้วผมจะไปสอนอะไรพวกเขาได้?” ลู่โจวยิ้มแล้วพูดว่า “ผมไม่ได้รังเกียจที่จะไปเยี่ยมหรอกครับ ผมแค่ไม่อยากจะรบกวนพวกคุณ”
นักวิชาการหวังชื่อเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า “ศาสตราจารย์ลู่ คุณถ่อมตัวเกินไป ที่นั่นไม่ใช่มหาวิทยาลัยไหนในโลกที่จะปฏิเสธการไปเยี่ยมชมของคุณหรอก”
ลู่โจวยิ้มแล้วพูดว่า “ได้ครับ งั้นผมจะไปพรุ่งนี้เลย ผมคงจะยุ่งหลังจากนั้น”
“ไม่มีปัญหา! ประตูมหาวิทยาลัยเหยียนเปิดรอคุณเสมอ” นักวิชาการหวังชื่อเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า “โอเค เอาล่ะ คุณคงจะเหนื่อยจากการเดินทาง ผมคงจะได้เจอคุณพรุ่งนี้ใช่ไหม?”
“เจอกันพรุ่งนี้ครับ”
ลู่โจวคว้ากระเป๋าเดินทางแล้วเดินตรงไปที่ลิฟต์
………………………..