[เรียน ศาสตราจารย์ลู่ ผมขออภัยที่มาแทรกตารางที่อันยุ่งเหยิงของคุณ!
[ผมทราบว่าก่อนที่คุณจะอ่านจดหมายฉบับนี้จบ คุณได้วางแผนที่จะปฏิเสธผมไว้แล้ว ผมขอให้คุณอย่าเพิ่งตัดสินใจ
[การแก้ปัญหาการจัดสรรทรัพยากรทางสังคมเป็นหนึ่งในข้อเสนอที่สำคัญที่สุดในด้านเศรษฐศาสตร์เสมอ คอมพิวเตอร์และคณิตศาสตร์ในศตวรรษที่ 21 ได้เปิดวิธีการใหม่ให้กับงานวิจัยของเรา อย่างไรก็ตาม มันก็หาได้ยากสำหรับนักวิชาการจากสาขาอื่นๆ ที่จะมีความสนใจในด้านเศรษฐศาสตร์ แล้วยิ่งหาได้ยากมากที่จะได้เห็นนักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่อย่างจอห์น แนช ผู้ซึ่งเต็มใจที่จะเสี่ยงผจญภัยในสาขาเศรษฐศาสตร์!
[ผมได้พยายามศึกษาสมการเหล่านี้ในอดีต แต่น่าเสียดาย เนื่องด้วยวัยของผม สิ่งต่างๆ จึงไม่เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป
[ผมทราบว่าคุณไม่สนใจจะให้ความช่วยเหลือ และคงจะเบื่อหน่ายกับการได้ยินเรื่องนี้จากผม อย่างไรก็ตามผมก็รู้สึกขอบคุณที่คุณอ่านจดหมายของผม
[ในอีกสองสัปดาห์จะมีการประชุมเศรษฐศาสตร์มหภาคนานาชาติในเซี่ยงไฮ้ ถ้าคุณมีเวลาจะเป็นการดียิ่งถ้าคุณมาเข้าร่วม
[ผมอยากพูดคุยกับคุณต่อหน้า และเพื่อให้คุณได้เห็นอิทธิพลของงานวิจัยที่คุณได้ทำขึ้น
[ผมตั้งตารอที่จะได้พบกับคุณ!]
ผู้ชายคนนี้กำลังสะกดรอยตามฉันอยู่หรือไง?
เขาไม่เคยยอมแพ้เลยจริงๆ เขาควรจะเป็นแค่พนักงานขาย
ลู่โจวกำลังนั่งอยู่ในห้องพักผ่อนของศูนย์การประชุม เขาอยู่ในชุดสูท นั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับแต่งหน้าไปด้วยระหว่างที่เขาอ่านจดหมาย
“เอ่อ… คุณช่วยเร่งหน่อยได้ไหม?”
สำหรับผู้ชายอย่างเขา การแต่งหน้าคือความทรมาน
การนั่งอยู่หน้ากระจกกับใครอีกคนที่กำลังสะบัดมือบนใบหน้าของเขา…
หญิงสาวรู้ว่าลู่โจวจะพูดแบบนี้ ดังนั้นเธอจึงยิ้มอย่างมืออาชีพและพูดอย่างอ่อนโยนว่า
“กรุณาอดทนหน่อยเถอะค่ะศาสตราจารย์ลู่ เราแต่งเกือบจะเสร็จแล้ว”
ให้ตาย เกือบเหรอ?
ลู่โจวไม่ยินดีที่จะรออีกต่อไป
“ผมคิดว่าผมหล่อพอแล้ว ใช้ได้แล้ว”
หญิงสาวเป่าลมออกมาทางจมูกและแทบจะวางดินสอเขียนคิ้วของเธอลง
“คะ คุณล้อเล่นหรือเปล่า…? แน่นอนค่ะว่าคุณหล่อแล้ว แต่สำหรับงานทางการแบบนี้คุณก็ต้องเสริมหล่ออย่างเหมาะสมและแต่งหน้าตามมาตรฐาน”
ลู่โจวไม่อยากเถียงกับหญิงสาว ฉะนั้นเขาจึงแค่บ่นพึมพำเบาๆ ว่า “ผมไม่เคยแต่งหน้าตอนเข้าร่วมประชุม”
“นี่ไม่ใช่งานประชุมวิชาการนะ” ผู้อำนวยการหลี่จากกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรเอ่ยขึ้น เขายิ้มแล้วเดินเข้ามา “นักวิชาการลู่ คุณเป็นหน้าเป็นตาของประเทศเรา ฉะนั้นเราต้องทำให้คุณดูดีพอที่จะอวดได้”
ลู่โจวมองไปที่ชายสูงวัยที่กำลังเดินผ่านประตูออกไปแล้วพูดว่า
“คุณแต่งหน้าด้วยหรือเปล่าครับ?”
ผู้อำนวยการหลี่ยิ้ม
“นิดหน่อย”
ลู่โจวขมวดคิ้วแล้วจ้องมองอยู่ครู่หนึ่ง
“ทำไมผมถึงมองไม่เห็น?”
“แค่ปกปิดพวกริ้วรอย… ผมเริ่มแก่ตัว มันไม่เหมือนเดิมแล้ว” ผู้อำนวยการหลี่กระแอมแล้วทำสีหน้าจริงจังขึ้นกว่าเดิม “คุณพร้อมไหม? คุณคือคนแรกที่ต้องพูด”
ลู่โจวจัดเนกไทแล้วยิ้ม
“ผมไม่เป็นไรครับ ผมชินกับมันแล้วตอนนี้ และที่นี่ก็ไม่ได้เหมือนสหประชาชาติ”
“คุณอยากเข้าร่วมการประชุมของพวกเขาไหม? ผมลองให้คุณเข้าไปได้นะ”
“ไม่เป็นไรครับ… ผมแค่ล้อเล่น”
ลู่โจวไม่ได้สนใจการประชุมของสหประชาชาติ
ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่นักการเมือง
จุดประสงค์ของการไปที่นั่นเพื่อโชว์หน้าของเขาคืออะไรกัน?
“โอเคแล้วค่ะ” ช่างแต่งหน้าสาววางดินสอของเธอลงแล้วถอยหลังออกมาขณะที่เธอยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “นักวิชาการลู่ คุณดูดีมาก คุณอยากให้ฉันถ่ายรูปให้ไหมคะ?”
“ไม่ครับ ไม่เป็นไร” ลู่โจวมองนาฬิกาข้อมือของเขาแล้วพูดว่า “ผมคิดว่าตอนไม่มีเครื่องสำอางผมดูดีกว่านี้”
ช่างแต่งหน้าสาว “…”
…
มีฝูงชนกล่มใหญ่อยู่ในศูนย์การประชุม
ทั้งนักฟิสิกส์ วิศวกรการบินและอวกาศ และนักการเมืองระดับสูงจากทั่วโลก ต่างนั่งอยู่ในหอประชุมแห่งนี้
ยังมีนักศึกษาหนุ่มสาวที่ถูกเหล่าอาจารย์ที่ปรึกษาของพวกเขาทอดทิ้งและพยายามที่จะเข้าไปในนั้น
ยังเหลือเวลาอีกสิบนาทีก่อนเริ่มพิธีเปิด ดังนั้นผู้คนจึงใช้โอกาสนี้ในการซุบซิบกับคนอื่นๆ
“เดาสิว่าผมเห็นใครตอนเดินเข้ามา?”
“ใคร?”
“ผู้อำนวยการนาซา คาร์สัน!”
“ไม่มีทาง ผู้อำนวยการคาร์สันอยู่ที่นี่เหรอ?”
“ผมมั่นใจ 100% ว่าเป็นเขา!”
“ผมไม่อยากจะเชื่อ… ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่แค่แวดวงฟิสิกส์ แต่อุตสาหกรรมการบินและอวกาศก็น่าจะได้รับผลกระทบด้วย”
“นี่คุณอยู่ในยุคศตวรรษที่ 18 เหรอ?”
“… คุณหมายความว่ายังไง?”
“คุณไม่รู้ได้ยังไงว่าอุตสาหกรรมการบินและอวกาศกำลังจะได้รับผลกระทบ?”
ทันใดนั้นไฟบนเวทีก็สว่างขึ้น
ผู้คนหยุดพูดคุยและมองตรงไปยังเวที
เสียงพูดคุยค่อยๆ เงียบลง
ลู่โจวเดินขึ้นมาบนเวทีในชุดสูท
เขาปรับไมโครโฟนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนว่า
“สวัสดีครับทุกท่าน ยินดีที่ได้พบกันที่นี่”
หลายคนมองลู่โจวอย่างสนอกสนใจ
ลู่โจวพูดขึ้นเสียงแล้วพูดต่อไปว่า “การได้พบทุกท่านที่นี่หมายความว่าเราค่อนข้างมีความเห็นพ้องต้องกันในหลายประเด็น ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีมาก
“นี่คือหนึ่งในการประชุมที่หาได้ยากที่ไม่ได้มีเนื้อหาทางวิชาการใดๆ
“ผมเชื่อว่าการเมือง เศรษฐศาสตร์ วัฒนธรรม และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกัน เราทุกคนล้วนมาจากสาขาที่แตกต่าง อาชีพที่แตกต่าง ประเทศที่แตกต่าง แต่เรามาที่นี่ด้วยเหตุผลเดียว…”
ลู่โจวมองไปรอบๆ สถานที่อันเงียบสงบนี้และพูดขึ้นอย่างช้าๆ
“นั่นก็คือเพื่อรับมือกับปัญหาในอนาคตด้วยกัน”
ปาฐกถาของเขาเกือบจะจบแล้ว
พิธีเปิดยาวเพียงแค่ 2 นาทีครึ่ง
ขณะนี้คำกล่าวเปิดก็จบแล้ว นี่คือเวลาของลู่โจวในการถ่ายทอดเนื้อหาที่แท้จริงของปาฐกถา
ลู่โจวกระแอมแล้วมองโน้ตในมือ จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและสงบนิ่ง “ในนามของแวดวงวิชาการจีน เราอยากจะนำเสนอวิสัยทัศน์ของโปรเจกต์เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์แก่ชาวโลก
“ผมหวังว่าพวกเราทั้งหมดจะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน”
สถานที่จัดงานมีเสียงปรบมือดังสนั่น
ลู่โจวโค้งคำนับเล็กน้อยและเดินลงจากเวทีไป
……………..