เสียงปรบมือดังเหมือนพายุฝนฟ้าคะนองนั้นปกคลุมไปทั่วทั้งหอประชุม
ศาสตราจารย์คลิทซิ่ง ซึ่งนั่งอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของหอประชุม ปรบมือและพูดกับศาสตราจารย์แคริเบอร์ว่า
“ปาฐกถายอดเยี่ยม… คุณคิดว่าไง?”
ศาสตราจารย์แคริเบอร์ยิ้มแล้วตอบว่า “ผมเห็นด้วย แต่ผมคิดว่ามีอย่างอื่นที่เหลือเชื่อยิ่งกว่า”
คลิทซิ่งเอียงหัวและมองมาที่แคริเบอร์ด้วยความสงสัยใครรู้
“เหลือเชื่อเหรอ? อะไร?”
“ผมมักจะคิดเสมอว่าเขาเป็นนักวิชาการคนหนึ่งที่สนใจแต่งานวิจัยของตัวเองและไม่สนใจสิ่งอื่นที่เหลือในโลกนี้ ผมเลยไม่คาดคิดว่าเขาจะเป็นอย่างวันนี้
“ครั้งหนึ่งผมพยายามขอให้เขาให้โอกาสเรา”
“โอกาสแบบไหน?”
“โอกาสที่จะทำงานร่วมกันเพื่อแบ่งปันสันติภาพและความสำเร็จ” ดวงตาของแคริเบอร์หรี่เล็กลงขณะที่เขามองลู่โจวที่กำลังเดินลงจากเวที เขาพูดว่า “เมื่อเขาปฏิเสธผม ผมเลยคิดว่าเขามองโลกอนาคตในแง่ร้าย… แต่มันกลับกลายเป็นว่าผมคิดผิด”
ไม่ว่าประเทศใดก็ตามบนโลก พลังงานมักจะเป็นปัญหาเสมอ เมื่อปัญหาเรื่องการผลิตและแจกจ่ายพลังงานได้รับการแก้ไข ในที่สุดปัญหาอื่นๆ ก็จะแก้ไขได้ด้วยตัวมันเอง
พลังงานที่ราคาย่อมเยาและเข้าถึงได้จะส่งผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อสังคม และจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะล้ำหน้าไปกว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอดีต
ในทางตรงกันข้าม การสร้างสรรค์พลังงานประหยัดประเภทนี้อาจจะทำให้โลกแตกแยกไปในทางที่รุนแรง และทำลายสภาวะทางการเมืองอันสงบสุขของนานาชาติ
ปฏิกิริยาของประเทศต่างๆ ต่อเทคโนโลยีนี้คาดเดาได้ยากยิ่งกว่าการไหลของพลาสมาอันยุ่งเหยิง
ความผิดพลาดหรือการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างไม่รอบคอบของใครคนหนึ่งสามารถจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงได้…
คลิทซิ่งยิ้มและถามว่า “คุณกำลังพูดถึงนิวเคลียร์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้เหรอ?”
ในฐานะนักวิชาการคนหนึ่ง เขาไม่ได้ใส่ใจในเรื่องผลประโยชน์ทางการเมืองเลยจริงๆ เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ผมได้ยินว่าสหภาพยุโรปกับสหรัฐอเมริกาทุ่มเงินมากมายเพื่อซื้อแกนนิวเคลียร์จากจีน… มันไม่ใช่ว่าสถานการณ์จบลงด้วยดีหรอกเหรอ?”
แคริเบอร์สั่นหัวและอธิบายว่า “คลิทซิ่ง ประเทศต่างๆ ประกอบด้วยผู้คนและทุกๆ เสียงมีบทบาทที่แน่นอน ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือเสียงของบางคนนั้นเป็นเสียงเล็กๆ และไม่มีความสำคัญเหมือนกับยุง ขณะที่เสียงของบางคนดังเหมือนกับฟ้าร้อง
“ลู่โจวเป็นผู้นำของวงวิชาการจีน และเขาก็เป็นตัวแทนนักวิชาการจีนทั้งหมด เขายังเป็นหัวหน้านักออกแบบของโปรเจกต์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้ ผมมั่นใจว่าเขาเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ว่าทำไมการเจรจาต่อรองนิวเคลียร์ฟิวชั่นเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยมาก”
ในทางกลับกัน ที่อีกฝั่งหนึ่งของหอประชุม
ขณะที่ศาสตราจารย์แฟรงก์ วิลกเซค มองดูลู่โจวเดินลงจากเวที เขาก็พูดพึมพำทันทีว่า “แก้ปัญหาในอนาคตร่วมกัน”
เอ็ดเวิร์ด วิทเทน ซึ่งนั่งถัดจากเขา ถามขึ้นด้วยความอยากรู้ว่า “คุณหมายความว่ายังไง?”
“สิ่งที่เขาเพิ่งพูดไป…” วิลกเซคพูดต่อไปว่า “การประชุมนี้รวมถึงการที่จะจัดตั้งศูนย์วิจัยเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์นานาชาติเป็นการทำเพื่อให้เราเข้ามาแก้ปัญหาสำคัญร่วมกัน”
วิทเทนถามว่า “…เขาหมายความอย่างนั้นเหรอ?”
“คงงั้น…” วิลกเซคหาวและพูดว่า “จะว่าไปแล้วในที่สุดก็มีใครสักคนยินดีจะผลักดันสาขาของเราให้ก้าวหน้า… คุณพร้อมหรือยัง คุณวิทเทน?”
“ทำไมคุณถามผมล่ะ?”
“ทำไมล่ะ” วิลกเซคพูดว่า “คุณมักจะบ่นว่าเครื่องชนอนุภาคที่เซิร์นอ่อนด้อยเกินไป และไม่มีทางจะใช้ทดสอบทฤษฎีของคุณได้ มันกำลังจะมีเครื่องชนอนุภาคที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมในเร็วๆ นี้ และคุณก็เป็นเพื่อนที่ดีทีเดียวกับคนที่รับผิดชอบ”
วิทเทนสั่นหัว
“นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับสาขาฟิสิกส์ แต่ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะคิดถึงทฤษฎีสตริง”
“อย่ามองโลกในแง่ร้ายเกินไป”
“ผมไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย เราไม่มีหนทางไหนเลยที่จะพิสูจน์ทฤษฎีสตริง และเราก็ไม่สามารถจะใช้แค่เครื่องชนอนุภาคในการเปิดเผยความลึกลับของอีกมิติหนึ่ง…” วิทเทนพูดต่อไป “อย่างไรก็ตาม นี่ยังคงเป็นโปรเจกต์สำคัญ ทั้งในเชิงวิชาการและไม่ใช่เชิงวิชาการ”
“คุณหมายถึงนอกเหนือจากฟิสิกส์เหรอ?” วิลกเซคขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ผมไม่เข้าใจ”
วิทเทนยิ้ม
“สัญชาตญาณของผมบอกผมว่าทั้งโลกที่กำลังทำโปรเจกต์นี้จะผลักดันสาขาฟิสิกส์ให้ก้าวหน้า… แต่มันยังเร็วเกินไปที่จะพิจารณา ดังนั้นรอดูก่อนและคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
วิลกเซคพูดว่า “รอดูก่อนเหรอ? เราจะไม่อยู่ที่นี่นานหรอก”
วิทเทนยิ้ม
“ใครสนว่าเราจะได้เห็นมันด้วยตาตัวเองหรือเปล่า พรินซ์ตันจะคอยดูให้เรา!”
…
หลังจากลู่โจวลงจากเวที นางคราเมอร์ ประธานของเซิร์น ก็เดินขึ้นเวที
คุณยายสูงวัยท่านนี้กล่าวถึงการสนับสนุนของเธอต่อเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์ (หรือ ILHCRC) ที่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างช้าๆ
เนื่องด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่าตัวแทนจากแวดวงวิชาการได้ถูกกำหนดให้ขึ้นพูดก่อนเหล่าตัวแทนด้านการเมือง
หลังจากลู่โจวและเซิร์น ผู้ซึ่งล้วนมาจากโลกวิชาการ ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นของพวกเขาแล้ว ผู้อำนวยการหลี่จากกระทรวงป้องกันราชอาณาจักรก็ขึ้นพูดในลำดับถัดมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่างๆ จากรัสเซีย สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และประเทศอื่นๆ ก็ขึ้นกล่าวความเห็นของพวกเขาต่อโปรเจกต์
ไม่ว่าเจตนาของพวกเขาคืออะไร ในช่วงเวลานี้ ในหอประชุมแห่งนี้ ทั้งโลกกำลังทำงานร่วมกันในโปรเจกต์แห่งศตวรรษ
เหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้ได้รับการบันทึกด้วยกล้องต่างๆ จากทั้งสองด้านของหอประชุมและได้รับการถ่ายทอดไปสู่ผู้ชมหลายล้านคนที่อยู่หน้าจอโทรทัศน์ของพวกเขา
ไม่นานพิธีเปิดก็จบลง
การประชุมเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์ครั้งแรกกำลังจะเริ่มขึ้น
โลกของฟิสิกส์กำลังจะเข้าสู่บทใหม่…
…………………