การเข้าการประชุมนานาชาติอย่างนี้ก็มักจะเป็นอะไรที่เหนื่อยอยู่แล้ว
วันแรกจะทั้งน่าตื่นเต้นและน่าสนใจ แต่พอวันที่สองก็จะมีแต่การคุยกันเรื่องน่าเบื่อที่ไม่มีวันจบ
ส่วนเรื่องเงินทุนนั้นมีการตกลงกันเรียบร้อยแล้ว กระทรวงการต่างประเทศของจีนได้เจรจากับประเทศหลายแห่งมาตั้งแต่ก่อนการประชุมแล้ว ประเทศจีนจะลงทุนด้วยเงินจำนวนหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ สหรัฐต้องลงทุนห้าพันล้าน สหภาพยุโรปต้องลงทุนสองพันล้าน รัสเซียอีกหนึ่งพันล้าน ญี่ปุ่นอีกแปดร้อยล้าน…รวมเป็นสองหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ปัญหาเดียวที่พวกเขามีก็คือการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบงบประมาณของโปรเจกต์นี้
ด้วยสาเหตุอะไรบางอย่าง ทัศนคติของตัวแทนชาวอเมริกันในวันที่สองก็ได้เปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังมือ พวกเขากลายเป็นคนหยาบคายและเกรี้ยวกราดเสียอย่างนั้น
โดยเฉพาะผู้อำนวยการคาร์สัน ตอนที่เขาพูดเรื่องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบงบประมาณทีไร รอยยิ้มของเขาก็เลือนหายไปทุกที
แต่มันก็พอเข้าใจได้อยู่
เพราะคณะกรรมการตรวจสอบงบประมาณจะมีพลังทางการเงินครอบคลุมโปรเจกต์เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนของดวงจันทร์ ในทางทฤษฎีแล้ว ก็ถือว่าพวกเขาสามารถควบคุมได้ว่าจะนำเงินไปใช้กับอะไรและใช้ที่ไหน…ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเงินทุนจะต้องได้รับลายเซ็นจากคณะกรรมการตรวจสอบงบประมาณ
การที่ชาวอเมริกันจะได้อำนาจควบคุมเงินทุนโปรเจกต์ทั้งหมดไปก็ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว พวกเขาจึงหวังเพียงว่าจะได้มีสิทธิ์มีเสียงในเรื่องนี้เท่านั้น
เพื่อที่จะคานอำนาจของประเทศจีนในโปรเจกต์นี้ ทำให้แม้กระทั่งรัสเซียที่เคยอยู่ฝั่งเดียวของจีนก็ยังต้องตกลงสนับสนุนความต้องการของฝั่งอเมริกา
โดยฝ่ายลู่โจวก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอะไรพวกนี้อยู่แล้ว ยังมีคนอื่นที่คอยช่วยเขาอยู่
อย่างผู้อำนวยการหลี่จากกระทรวงป้องกันราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศ และยังมีเจ้าหน้าที่ยศสูงจากคณะกรรมการวงโคจรของดวงจันทร์อีกด้วย…
สิ่งที่ลู่โจวกังวลจะเป็นฝ่ายวิชาการเสียมากกว่า
ปีที่แล้ว หลัวเหวินเซวียนที่เป็นตัวแทนของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง ได้ทำการติดต่อกับสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน เซิร์น และสถาบันวิจัยใหญ่ๆ แห่งอื่น เขาได้รวบรวมตัวท็อปของวงการฟิสิกส์เชิงทฤษฎี วิศวกรรมเครื่องกล วัศดุศาสตร์ และวิศวกรรมการบินและอวกาศมาไว้ด้วยกัน ด้วยความช่วยเหลือจากคนกลุ่มนี้ พวกเขาจึงสามารถทำแผนดีไซน์เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์ได้สำเร็จ แต่ในเมื่อตอนนี้ ‘ทีม’ ได้ขยายใหญ่ขึ้นแล้ว มีนักฟิสิกส์กับวิศวกรจากทั่วทุกมุมโลกมาเข้าร่วมด้วย จึงต้องมีปัญหาเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา มีหลายคนที่เสนอให้เปลี่ยนแผนดีไซน์
เพราะนี่ถือเป็นโอกาสอันดีที่แต่ละคนจะได้โชว์ศักยภาพของตัวเองในเวทีระดับโลก
.
บริษัทอย่างสเปซ-เอ็กซ์ และโบอิ้งก็สนับสนุนแผนการเปลี่ยนดีไซน์เช่นกัน เพื่อที่จะให้แผนดีไซน์ฉบับไฟนอลสามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับบริษัทพวกเขา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม พวกเขาทำแม้กระทั่งยอมเสียเงินจ้างนักวิชาการมาหาจุดบกพร่องในดีไซน์…
ณ โรงแรมแกรนด์ปักกิ่ง
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากสาขาฟิสิกส์และวิศวกรรมการบินและอวกาศนั่งในห้องประชุมที่เป็นสไตล์หอประชุมใหญ่
ชายสูงวัยสวมแว่นตาที่ใส่เสื้อคอปกลายสก็อตยืนอยู่หน้าจอโปรเจกเตอร์ เขาพูดขึ้นอย่างกระตือรือร้นว่า “ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ แผนดีไซน์ดั้งเดิมจึงไม่สามารถใช้ได้จริงและต้องการการปรับปรุง
ถ้าพวกเราเพิ่มการปรับปรุงของผมไปล่ะก็ พวกเราจะสามารถลดงบประมาณได้ 13% และลดความเสี่ยงในการก่อสร้างลงด้วย
ลองคิดดูสิ 13% ของเงินสองหมื่นล้านมีค่ามากเท่าไร? เป็นตัวเลขมหาศาลเลยนะ! พวกเราควรจะเอาเงินนี้ไปให้คนที่ต้องการใช้จะดีกว่า…”
ลู่โจวไม่รู้ว่าคนตรงหน้านี้กำลังพล่ามพรรณนาอะไรอยู่
สุดท้าย เขาก็อดหาวออกมาไม่ได้ เขาหันหน้าไปคุยกับคราเมอร์ ประธานของเซิร์น
“เราไล่เขาลงจากเวทีแล้วให้คนถัดไปขึ้นมาพูดเลยได้ไหมครับ?”
คราเมอร์ยิ้มแล้วตอบว่า “ฉันเกรงว่าไม่นะ องค์การอวกาศยุโรปขอมาว่าให้ศาสตราจารย์แบนเดอรัสพูดเป็นเวลา 60 นาที”
ลู่โจวพูดเบาๆ ว่า “ทำไมถึงมีใครขออะไรงี่เง่าแบบนั้นนะ?”
คราเมอร์ยังคงยิ้มแล้วอธิบาย “เพราะก่อนที่เขาจะมาสอนที่เฟรย์อุนิเวอร์ซิเทต์บรุสเซิล (วียูบี) เขาเคยทำงานเป็นที่ปรึกษาทางวิชาการที่องค์การอวกาศยุโรป (อีเอสเอ) มาก่อน ก่อนเขาจะมาที่นี่ เขาก็ส่งพาวเวอร์พอยต์ฉบับสำเนาของเขาให้อีเอสเอแล้วด้วย”
ลู่โจวทำเสียงฮึดฮัดแล้วพูดว่า “เขามีคอนเนกชันด้วยเหรอครับ?”
คราเมอร์นิ่งไปแป๊บหนึ่ง ก่อนจะบอกว่า “…เหมือนจะเป็นอย่างนั้นนะ”
เห็นได้ชัดว่าศาสตราจารย์แบนเดอรัสใช้คอนเนกชันที่เขามีใน องค์การอวกาศยุโรปเพื่อหาโอกาสในการรายงานครั้งนี้
ตัวเลข 13% ที่เขาพูดมานั้นก็ไม่ใช่จำนวนน้อยจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม องค์การอวกาศยุโรปถึงให้โอกาสเขาได้ขึ้นพูดไอเดียของตัวเอง
เพราะอย่างไร ก็ยังมีโอกาสที่พวกเขาจะประหยัดเงินได้มากโขอยู่
หลังจากเหลือบมองพาวเวอร์พอยต์บนหน้าจอ ลู่โจวก็พลิกหน้ากระดาษสำเนาแผนการพัฒนาของแบนเดอรัสที่วางอยู่บนโต๊ะ
รายงานนี้เต็มไปด้วยช่องโหว่ แถมภาพวาดและการคำนวณในนี้ก็ดูไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด
แต่แน่นอนว่านี่เป็นเพียงผลจากลางสังหรณ์ทางวิศวกรรม ‘เลเวล 6’
ถ้าลู่โจวอยากจะหาปัญหาที่ชี้ชัดจริงๆ คงจะต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะวิศวกรรมนั้นแตกต่างจากคณิตศาสตร์มาก สิ่งต่างๆ มักจะไม่ได้มีเพียงขาวกับดำ
การที่จู่ๆ จะหาจุดบกพร่องในรายงานนี้ออกมาได้เลยนั้นเป็นเรื่องยาก
แค่ลู่โจวก็ยังมีกลเม็ดที่เก็บซ่อนไว้อยู่
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันต้องทำแบบนี้…
ลู่โจวถอนหายใจแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา เขาถ่ายภาพรายงานในมือแล้วส่งไปให้เสี่ยวไอ
[นี่คือรายงาน มันดูแย่มาก ฉันต้องการให้เธอจัดระเบียบและทำแบบจำลอง 3D ออกมา… จากนั้นก็พรีเซนต์องค์ประกอบและจุดบกพร่องให้ชัดเจนด้วย]
ถึงแม้ลู่โจวจะรู้สึกว่าคำสั่งของตนจะดูคลุมเครือไปเสียหน่อย แต่ก็ดูเหมือนเสี่ยวไอจะเข้าใจเขาดี
[ได้เลย นายท่าน! ~ (๑•̀ᄇ•́) و✧]
หลังจากเห็นข้อความตอบกลับแล้ว ลู่โจวก็วางโทรศัพท์ลงบนตักแล้วรออย่างเงียบๆ
ผ่านไปหลายวินาที ไฟล์ขนาด 2 กิกะไบต์ก็ส่งมาที่โทรศัพท์ของเขา
ลู่โจวเปิดไฟล์และพบกับภาพวาดพิมพ์เขียวสามมิติ
พารามิเตอร์ที่ซับซ้อนทุกอันก็ถูกใส่ลงไปในภาพวาดนี้ด้วย อย่างเช่น พารามิเตอร์ประเภทวัสดุและกายภาพในสภาวะแรงดูดต่ำและอุณหภูมิต่ำ คอมพิวเตอร์ควอนตัมก็สามารถคำนวณโมเดลที่สมบูรณ์แบบของสภาพแวดล้อมบนพื้วผิวของดวงจันทร์ออกมาได้
ลู่โจวจ้องไปที่พิมพ์เขียวแล้วก็ต้องตกตะลึง
เสี่ยวไอนี่เก่งมากจริงๆ
มันรู้ดีว่าฉันต้องการอะไร
ในขณะที่คนพรีเซนต์กำลังพูดไปเรื่อยๆ ลู่โจวก็หยิบปากกาออกมาจากกระเป๋าแล้วเริ่มเขียนข้อความบนกระดาษดราฟต์
ผ่านไปห้านาที ศาสตราจารย์แบนเดอรัสยังคงพล่ามพรรณนาต่อไป ลู่โจววางปากกาบนโต๊ะแล้วมองโทรศัพท์ของเขา จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้น
เมื่อเขายกมือขึ้น ทั้งห้องประชุมก็ละสายตาจากแบนเดอรัสมาทางเขาทันที
แบนเดอรัสไม่พอใจเล็กน้อย สัญชาตญาณของเขากำลังบอกว่ามีอะไรสักอย่างผิดพลาด
เขารู้สึกว่าศาสตราจารย์ลู่กำลังจะทำสิ่งที่เขาไม่ชอบออกมา…
แต่เขาก็คิดว่า ไม่มีทางที่ลู่โจวจะหาข้อผิดพลาดในรายงานของเขาเจอตอนนี้หรอก
“มีคำถามอะไรหรือเปล่า? ศาสตราจารย์ลู่”
ลู่โจวตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมพูดเลยก็แล้วกัน ไม่เกี่ยวกับพาวเวอร์พอยต์นะ แต่รายงานของคุณเต็มไปด้วยข้อบกพร่อง”
“ขอโทษนะครับ ผมไม่เข้าใจที่คุณพูด” ศาสตราจารย์แบนเดอรัสขมวดคิ้วระหว่างพูดว่า “มีข้อบกพร่องในรายงานของผมเหรอ? คุณช่วยระบุมาได้ไหมว่าตรงไหน?
ลู่โจวรู้สึกยินดี
แกก็รู้ดีอยู่แล้วว่ารายงานแกมันห่วยแตก ยังจะกล้ามาแหลใส่ฉันอีกเหรอ?
“ช่วยเปิดบลูทูธของโปรเจคเตอร์ด้วยครับ”
ศาสตราจารย์แบนเดอรัสชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ทำตามคำสั่งของลู่โจว
วินาทีที่โทรศัพท์ของลู่โจวเชื่อมต่อทางบลูทูธกับโปรเจคเตอร์ได้ มันก็ฉายภาพองค์ประกอบสามมิติขึ้นมาบนม่านฉาย
“ว้าว…”
ห้องประชุมเกิดความโกลาหลขึ้น ผู้คนต่างประหลาดใจเพราะพวกเขาไม่เห็นองค์ประกอบนี้ในรายงาน
ใบหน้าของศาสตราจารย์แบนเดอรัสเปลี่ยนเป็นสีเขียว
ไม่ใช่เพียงแค่เพราะลู่โจวนำพิมพ์เขียวของเขามารวมเลเยอร์กันเพื่อสร้างภาพวาด 3D แต่ยังเพราะมีสัญลักษณ์สีแดงปรากฏไปทั่วองค์ประกอบ 3D นี้ด้วย
สัญลักษณ์สีแดงแต่ละอันแทนค่าความผิดพลาดจุดหนึ่ง
ถึงเขาจะรู้ว่าพิมพ์เขียวนี้มันไม่ได้ ‘เพอร์เฟกต์’ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะมีจุดบกพร่องมากขนาดนี้…
เจ้าหมอนี่…
มันสร้างแบบจำลองขึ้นมาได้อย่างไร?!!
ศาสตราจารย์แบนเดอรัสไม่ใช่คนเดียวที่ประหลาดใจ คนอื่นในห้องก็หันไปมองศาสตราจารย์ลู่อย่างตกตะลึง
ลู่โจว…บ้าไปแล้ว…
คราเมอร์ที่นั่งอยู่ข้างลู่โจวก็รู้สึกทึ่งไม่แพ้คนอื่น เธอไม่รู้เลยว่าลู่โจวสามารถสร้างแบบจำลององค์ประกอบ 3D จากพิมพ์เขียวภายในเวลาไม่กี่นาทีได้อย่างไร…
แต่ลู่โจวก็ไม่ได้วางแผนว่าจะอธิบายอะไรอยู่แล้ว
เขาไม่ต้องอธิบายอะไรด้วยซ้ำ
จุดบกพร่องในรายงานนี้มันถูกพรีเซนต์ออกมาชัดอยู่แล้ว
ต่อให้วิศวกรที่ไม่ค่อยเก่งก็ยังสามารถดูออกถึงจุดบกพร่องที่ชัดเจนอย่างนี้ จึงเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าดีไซน์ของศาสตราจารย์แบนเดอรัสจะไม่ได้นำมาใช้แน่ๆ
“นี่มันเป็นไปไม่ได้ ต้องมีข้อผิดพลาดแน่ๆ คุณทำได้อย่างไร…”
“อย่างที่เห็นในแบบจำลอง ดีไซน์นี้เต็มไปด้วยช่องโหว่นับร้อยจุด”
ลู่โจวเอาปากกาเคาะโต๊ะอย่างไร้ความรู้สึก
“คนต่อไป”
………………………
Related