สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
ในออฟฟิศข้างในสถาบันคณิตศาสตร์
ลู่โจวกลั้นหายใจขณะเดินเข้าไปในออฟฟิศ เขาเปิดหน้าต่างทันที แล้วสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดไป เขามองไปรอบๆ และหันไปที่เฉินหยาง อีกฝ่ายกำลังยืนอยู่ข้างกระดานดำด้วยท่าทางมึนงง
“สมการที่คุณให้ผมมาเมื่อวันก่อนมันน่าสนใจนะ”
ลู่โจวกระแอม เขาถือกระดาษกองหนึ่งไว้ในมือ
“ผมไปทำวิจัยมา และนี่คือผลลัพธ์ที่ได้…อ้อใช่ สิ่งที่คุณเสนอมามันถูกต้องแล้วนะ ดูเหมือนว่าลางสังหรณ์ทางคณิตศาสตร์ของคุณจะค่อนข้างเฉียบแหลมเลยทีเดียว ถ้ามันยากกว่านี้สักหน่อยล่ะก็ มันจะกลายเป็นข้อคาดการณ์สุดคลาสสิกได้แล้วล่ะ”
เฉินหยางมองไปที่กระดานดำ แล้วเขาก็มองกองกระดาษในมือของลู่โจว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“คุณ…แก้ได้แล้วเหรอ?”
“ก็ใช้เวลาพักหนึ่งนะ แต่ก็ไม่ได้นานเกินไปหรอก ผมอาจจะอยู่โต้รุ่งไปด้วยแหละ…”
ลู่โจววางกองกระดาษนั้นบนโต๊ะแล้วทักว่า “จะว่าไปแล้วคุณมีกาแฟไหม? ช่วยชงให้ผมสักถ้วยได้ไหม”
เฉินหยางพยักหน้า
“โอเคครับ”
กาแฟหนึ่งแก้วถูกวางบนโต๊ะ
ลู่โจวมองผงชอล์กที่ติดอยู่กับแก้วกาแฟแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว
“คุณไม่ตามยุคตามสมัยกับเขาบ้างเหรอ? คุณไม่ชอบกระดานไวต์บอร์ด แต่ผมว่าเขียนบนกระดาษร่างมันก็เหมือนๆ กับใช้ชอล์กนะ”
เฉินหยางส่ายหัวแล้วตอบว่า “เขียนลงกระดาษร่างมันไม่มีจิตวิญญาณครับ”
ลู่โจว “…”
เฉินหยางพูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า “ผมขออ่านธีสิสนั้นได้ไหม?”
“…ได้สิ” ลู่โจวยักไหล่แล้วจิบกาแฟจากแก้วสกปรก “อ่านได้เลย ผมมาที่นี่เพื่อมาคุยเรื่องธีสิสกับคุณนี่แหละ”
ขอบคุณครับ”
เฉินหยางพุ่งความสนใจทั้งหมดไปกับธีสิสแล้วปล่อยให้ลู่โจวอยู่ในโลกภายนอก
ในขณะที่ศาสตราจารย์เฉินกำลังอ่านธีสิส ลู่โจวก็มองข้อความแต่ละบรรทัดที่อยู่บนกระดานดำในออฟฟิศ
ภาพการคำนวณบนกระดานดำนั้นเป็นความพยายามของอีกฝ่ายในการพิสูจน์สิ่งที่เขาเสนออย่างเห็นได้ชัด
น่าเสียดายที่เฉินหยางยังติดอยู่ที่หน้าทางเข้าเขาวงกตอยู่เลย
ลู่โจวถอนหายใจ
เขาเป็นคนมีพรสวรรค์นะ
แต่ก็ยังห่างจากระดับของฉันอยู่ดี
ถ้าฉันรู้ว่าข้อเสนอของเขามันจะยากกับตัวเขาเองขนาดนี้ ฉันจะไม่ลงทุนโต้รุ่งเพียงเพราะจะแก้มันให้ได้ก่อนหรอก ง่วงชะมัดเลย…
อา โลกใบนี้ช่างโดดเดี่ยวสำหรับอัจฉริยะอย่างฉันเหลือเกิน…
จู่ๆ เฉินหยางก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วพูดว่า
“น่าประทับใจมากครับ!”
นักวิชาการลู่เป็นคนระดับตำนานจริงๆ !
ศาสตราจารย์ลู่เขียนข้อพิสูจน์ต่างๆ ที่เฉินหยางเองก็ยังคิดไม่ออกลงไปได้
เฉินหยางมีความนับถือลู่โจวเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ
เขาเก่งเทพเกินไปแล้ว!
เฉินหยางประทับใจอย่างถึงที่สุด
ลู่โจวยิ้มแล้วเอ่ยว่า “คุณเข้าใจมันไหม?”
เฉินหยางพยักหน้าแล้วบอกว่า “ผมเข้าใจ…ส่วนใหญ่นะครับ ก็ยังมีบางส่วนที่ไม่เข้าใจอยู่ พอจะอธิบายให้ผมฟังได้ไหม?”
ลู่โจววางถ้วยกาแฟและพูดว่า
“ไม่มีปัญหา”
การตอบคำถามเฉินหยางมันไม่ได้ใช้แรงอะไรมากมาย
ถึงแม้ผู้ชายคนนี้จะดูเพี้ยนๆ นิดหน่อย เขาก็มีลางสังหรณ์ทางคณิตศาสตร์ที่เฉียบแหลม ลู่โจวแค่ต้องมอบทิศทางทั่วไปให้กับเขาเสียหน่อย แล้วเฉินหยางก็จะคิดส่วนที่เหลือได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ
นี่ทำให้ลู่โจวนึกถึงลูกศิษย์พรินซ์ตันคนหนึ่งของเขา ฉินเยว่คนนั้น ซึ่งเขาก็เป็นนักวิชาการที่เงียบขรึมและพึ่งตนเองเป็นหลัก แต่ฉินเยว่ก็ยังไม่เป็นขนาดเฉินหยาง
เอาตรงๆ ก็คือลู่โจวแอบสงสัยนิดหน่อยว่าเฉินหยางเอาตัวรอดมาถึงตอนนี้ได้อย่างไร
สำหรับคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำขนาดนี้แล้ว เขาหลีกเลี่ยงการโดนคนอื่นเล่นงานมาได้อย่างไร?
หลังจากตอบคำถามของเฉินหยางจนหมดแล้ว ลู่โจวก็แทบจะมั่นใจว่าธีสิสของเขาไม่มีอะไรผิดพลาด
พอเฉินหยางหันกลับไปดูกระดานดำของตัวเอง ลู่โจวก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“อ้อใช่ ปัญหานี้มันค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว มันสามารถนำไปบูรณาการกับวิธีการวิเคราะห์เส้นโค้งไฮเปอร์เอลลิปติกได้อย่างง่ายดาย…เหมือนกับที่คุณพูดไว้นั่นแหละ การวิเคราะห์เส้นโค้งไฮเปอร์เอลลิปติกมีวิธีอื่นเยอะมากกว่าที่ผมคิดไว้
ผมส่งธีสิสนี้ให้วิทยานิพนธ์ในคณิตศาสตร์ประจำปีไปแล้วนะ คุณโอเคไหม?”
เฉินหยางมีท่าทีสับสนเล็กน้อย “แล้ว…ทำไมผมถึงจะไม่โอเคล่ะครับ?”
ลู่โจวกระแอมแล้วอธิบาย
“ผมไม่สนเรื่องธีสิสอื่นหรอกนะ แต่มันควรจะส่งผลประโยชน์ให้กับคุณมากๆ … อย่างไรก็ตาม ในเมื่อผมเป็นคนที่แก้ปัญหานั้นได้ ผมจะเขียนชื่อคุณเป็นผู้ประพันธ์คนที่สองไปนะ…คุณโอเคไหม?”
เฉินหยางพยักหน้า
“อ๋อ”
ลู่โจว “…”
ผู้ชายคนนี้…เอาตัวรอดมาในวงการวิชาการมาจนถึงตอนนี้ได้อย่างไรกันนะ?
ทั้งออฟฟิศตกอยู่ในความเงียบ
ทันใดนั้น โทรศัพท์ในกระเป๋าลู่โจวก็เริ่มส่งเสียง
“ผมขอรับโทรศัพท์ก่อน”
“ได้ครับ” เฉินหยางพยักหน้าแล้วยังจ้องไปที่กระดานดำของเขาต่อ
ลู่โจวเดินออกจากออฟฟิศฝุ่นเขรอะ เขาได้สูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปในปอดอีกครั้ง เขาหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาแล้วกดรับสาย
“ฮัลโหล?
เสียงของผู้อำนวยการหลี่ดังมาจากปลายสาย
“ผมเอง!”
ผู้อำนวยการหลี่เหรอ?
ลู่โจวรู้ว่ารายงานเรื่องชิปคาร์บอนยังเขียนไม่เสร็จเลย ดังนั้น ผู้อำนวยการหลี่น่าจะโทรมาหาเขาเรื่องอื่น
“มีอะไรเหรอครับ?”
ผู้อำนวยการหลี่ยิ้มอย่างเจื่อนๆ แล้วพูดว่า “เอ่อ นักวิชาการลู่ คุณว่างไหม?”
ลู่โจวรู้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องการให้เขาช่วยอะไรสักอย่าง
มันจะชัดเกินไปแล้ว!
ลู่โจวกระแอมแล้วบอกว่า “ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะขอให้ผมทำอะไรน่ะนะครับ…”
ผู้อำนวยการหลี่ “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ถ้าคุณว่างก็เดินทางมาเซี่ยงไฮ้หน่อยแล้วกัน”
ลู่โจวถาม “ทำไมผมต้องไปที่นั่นด้วยล่ะ?”
ที่เซี่ยงไฮ้มันมีบ้าอะไรเนี่ย?
ผู้อำนวยการหลี่ยิ้มแล้วอธิบายว่า “นี่ก็ใกล้จะถึงสิ้นเดือนแล้ว ศูนย์บัญชาการหลักของ ILHCRC กำลังจะเสร็จแล้ว คุณเป็นประธานนะ จะไม่ไปดูหน่อยเหรอ?”
ลู่โจว “…?!”
……………………………
Related