ณ หอโทรทัศน์ไข่มุกตะวันออก
ในภัตตาคารลอยฟ้าหมุนได้ชั้นบนสุด
คนสองคนเดินเข้าไปในร้านอาหารและนั่งลงที่ริมหน้าต่างและมีพนักงานเสิร์ฟเดินตามพวกเขาไป
หลังจากอยู่ที่ประชุมทั้งวัน ลู่โจวก็หิวโหยเอาการ เขายืนขึ้นและเดินไปที่บริเวณบุฟเฟ่ต์ทันที
อาหารที่นี่ค่อนข้างดีสำหรับบุฟเฟ่ต์ แม้มันไม่ดีเท่าโรงแรมห้าดาว แต่ก็ดีอยู่
สิ่งเดียวที่ลู่โจวไม่ชอบคือเครื่องดื่มที่นี่ถูกเรียกเก็บเงินแยกต่างหาก และเครื่องดื่มฟรีมีเพียงอย่างเดียวคือน้ำเปล่าเท่านั้น
อะไรเนี่ย?
พวกเขากลัวแขกที่ดื่มมากเกินไปแล้วไปอ้วกในห้องน้ำหรือไง?
แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้สนใจเรื่องเงินมากนัก แต่มันก็ยังกระตุ้นต่อมของเขาอยู่เล็กน้อย
หลังจากหยิบอาหารของเขาแล้ว ลู่โจวก็เดินผ่านฝูงชนและนั่งลง เขาเริ่มกินข้าวข้าวพร้อมมองดูเส้นขอบฟ้าของเซี่ยงไฮ้ไปด้วย
หลังจากเคี้ยวไปสักพัก เขาก็ให้คะแนนร้านนี้
“สิบเต็มสิบสำหรับการวิว และสี่เต็มสิบสำหรับอาหาร”
เฉินยู่ซานมองไปที่ใบหน้าที่จริงจังของลู่โจว และยิ้ม
“เรามาที่นี่เพื่อชมวิวไม่ใช่อาหาร เรามาเพื่อเก็บบรรยากาศกันนะ”
เธอค่อยๆ ตักไอศกรีมคำหนึ่งเข้าปาก จากนั้นดวงตาของเธอก็สว่างขึ้นทันทีเมื่อเธอได้ลิ้มรสความหวานของมัน
“ว้าว! ไอศกรีมที่นี่ยอดเยี่ยมมาก!”
ลู่โจวมองดูไอศกรีมและพูดว่า “มันก็แค่ไอศกรีมธรรมดา ”
เขาสังเกตเห็นไอศกรีมตอนเขาไปตักอาหาร มันดูไม่ได้ดูน่ากินขนาดนั้น เขาถึงกับสงสัยว่าร้านอาหารต้องการให้แขกละลายไอศกรีมและใช้เป็นเครื่องดื่มหรือไม่เพราะร้านอาหารนี้งกเกินจะมีเครื่องดื่มอื่นๆ บริการ…
เฉินยู่ซานหน้ามุ่ยและไม่เห็นด้วย
“ไม่! มันดีมากจริงๆ ลองหน่อยมั้ย? เดี๋ยวฉันป้อนให้”
“ว่าไงนะ?”
ก่อนที่ลู่โจวจะตอบสนอง ช้อนพลาสติกก็บินเข้าไปในปากของเขาแล้ว…
พูดตามตรง ความรู้สึกหวานและเย็นในปากของเขานั้นค่อนข้างดี แต่เขาตกใจเกินกว่าจะชื่นชมรสชาติ…
เฉินยู่ซานยิ้มอย่างซุกซนและพูดว่า “เป็นไงบ้าง? เยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะ?”
ลู่โจวปิดปากของเขาและดูเหมือนจะเจ็บปวดขณะที่เขากำลังพูด “เธอแทงฟันของฉัน”
“ขอโทษนะ… เดี๋ยวเช็ดให้”
เฉินยู่ซานกำลังจะเอื้อมมือ แต่ลู่โจวหยุดเธออย่างรวดเร็ว
“ไม่…ไม่เป็นไร”
แม้ว่าเขาจะปวดฟันเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลต่อประสบการณ์การรับประทานอาหารของลู่โจว ปากของเขารู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยในตอนแรก แต่ไม่นานเขาก็รู้สึกดีขึ้น
การได้ชมวิวข้างนอกตอนกลางคืนขณะทานอาหารก็เพลินดี
เมื่อลู่โจวทานอาหารเสร็จไปได้ครึ่งทาง เขายังรู้สึกเสียดายกับบุฟเฟ่ต์ที่ไม่เสิร์ฟเครื่องดื่มนี้
“อาหารที่นี่ธรรมดา ลดจากสี่เป็นสาม”
เมื่อเห็นว่าลู่โจวยังคงจริงจังอยู่ เฉินยู่ซานจึงกล่าวว่า “โอเค หยุดพูดถึงอาหารได้แล้ว นี่แค่สถานที่ท่องเที่ยว… แล้วถ้าพูดถึงเรื่องนั้น ทำไมนายถึงกินแต่ข้าวผัดล่ะ?”
“ไม่ใช่ ฉันแค่ชอบกินข้าวผัดบุฟเฟ่ต์” ลู่โจวเริ่มพูดถึงผลการวิจัยบุฟเฟ่ต์ของเขา “เอาล่ะ โดยพื้นฐานแล้ว ถ้าบุฟเฟ่ต์มีข้าวผัดที่อร่อยมันก็คือบุฟเฟ่ต์ที่ดี”
เฉินยู่ซานกล่าวว่า “นั่นเป็นตรรกะแบบไหนกันเนี่ย?”
“มันเป็นวิทยาศาสตร์ มันเหมือนกับว่า ‘เธอเก่งพอๆ กับงานที่เลวร้ายที่สุดของเธอเท่านั้น’ และข้าวผัดมักจะเป็นอาหารที่แย่ที่สุด… อาหารที่นี่ไม่ดีเท่าซินรุ่ยหรือเชอราตัน”
“ซินรุ่ย?” เฉินยู่ซานกะพริบตาหนึ่งครั้งและพูดว่า “นี่นายไปที่ซินรุ่ยตอนไหน? ฉันไม่เห็นจะเคยได้ยินนายพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย”
ลู่โจวเช็ดปากด้วยผ้าเช็ดปากแล้วพูดว่า “อ๋อใช่ เมื่อวานฉันไปที่นั่นเพื่อประชุมเศรษฐศาสตร์มหภาคมา”
ดวงตาของเฉินยู่ซานเบิกกว้างขณะที่เธอถามว่า “นายกำลังค้นคว้าทางเศรษฐศาสตร์อยู่เหรอ?”
“อันที่จริงฉันไม่ได้ทำวิจัย เสี่ยวถงเป็นคนทำ เธอแค่ต้องการความช่วยเหลือในส่วนของคณิตศาสตร์”
แล้วครุกแมนไม่ใช่คนที่จะช่วยเสี่ยวถงเหรอ?
แต่ฉันใช้เวลาเพียงสองสามชั่วโมงเท่านั้น
“โอ้ เสี่ยวถง…” เฉินยู่ซาน มองออกไปนอกหน้าต่างและกล่าวว่า “ฉันสงสัยว่าจะไปได้ด้วยดีที่พรินซ์ตันนะ ที่นั่นค่อนข้างเงียบเหงา”
ลู่โจวกล่าวว่า “เธอทำได้ดีมาก เธอเป็นเหมือนฉันนี่แหละ ที่สามารถเติบโตได้ในทุกสภาพแวดล้อม เธอไม่ใช่เด็กสาวธรรมดานิสัยเสียแบบนั้น”
เฉินยู่ซานยิ้มและพูดว่า “โอ้… ฉันคิดว่าเธอคงจะชอบพี่ชายอย่างนายมากทีเดียว”
ลู่โจวถอนหายใจและกล่าวว่า “เธอเคยเป็นแบบนั้น ฉันเคยอุ้มเธอกลางสายฝนมาก่อน แต่ตอนนี้เธอโตมากแล้ว…”
“นั่นทำให้นายเศร้าเหรอ?”
“ไม่หรอก ฉันแค่คิดถึงวันเก่าๆ เฉยๆ”
จู่ๆ ลู่โจวก็จำบางอย่างได้
“จริงสิ ฉันลืมบอกไปว่าเมื่อบ่ายนี้ฉันไปดูสนามสตาร์ทอัพมา และเห็นโปรเจกต์หนึ่งที่ค่อนข้างดีเลยลงทุนไป”
เฉิน ยู่ซาน “โปรเจกต์อะไรเหรอ?”
ลู่โจว “มันชื่อว่าบี๊บบี๊บชาร์จจิง มันเป็นสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า”
“เหอะ…” เฉินยู่ซานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “นั่นมันชื่ออะไรกันน่ะ?”
“มันน่าจะเป็นสถานีชาร์จไร้สาย เธอรู้ใช่ไหมว่ามันหมายถึงอะไร?”
“ฟังดูน่าสนใจ แล้วนายลงทุนไปเท่าไหร่?”
“ไม่มากหรอก แค่สิบล้าน”
“ไม่มาก…” เฉินยู่ซาน ถอนหายใจและกล่าวว่า “คราวหน้าอย่างน้อยก็บอกฉันก่อนว่านายจะลงทุนครั้งใหญ่”
ลงทุนใหญ่? ใหญ่ตรงไหน?
ลู่โจวรู้สึกงุนงง
เฉินยู่ซานถอนหายใจและกล่าวว่า “ไม่ว่าสตาร์สกายเทคโนโลยีจะทำผลงานได้ดีเพียงใดแต่สิบล้านก็ยังค่อนข้างมาก นี่เป็นธุรกิจไม่ใช่องค์กรการกุศล นายรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาจะไม่ทิ้งเงินของนายเสียเปล่า?”
ลู่โจว “ไม่ต้องกังวลหรอก เด็กคนนี้ดูน่าเชื่อถือทีเดียว”
เฉินยู่ซานถอนหายใจและกล่าวว่า “มันไม่เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือหรอก สถานีชาร์จเป็นส่วนหนึ่งของแผนของฉัน แต่ไม่เหมาะสำหรับการเริ่มต้น ฉันอยากจะลงทุนกับธุรกิจที่มีประสบการณ์มากกว่านี้ แล้วเราจะช่วยขยายให้ง่ายขึ้น… แต่สตาร์ทอัพก็มีข้อดีว่ายืดหยุ่นกว่า…”
เมื่อพูดถึงธุรกิจ มันเหมือนกับว่าเฉินยู่ซานได้เปลี่ยนไปเป็นคนอีกคน เธอใช้นิ้วแตะบนโต๊ะราวกับว่าเธอเป็นผู้นำของประเทศ
แน่นอน เพราะเธอเป็นซีอีโอของบริษัทขนาดใหญ่…
จู่ๆ เฉินยู่ซานก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้และพูดขึ้น
“แล้วสถานีชาร์จไร้สายนี่มันเกี่ยวกับอะไร?”
ลู่โจว “ตามที่ผู้ก่อตั้งบอกมา เขาได้วางแผนที่จะสร้างสถานีชาร์จโดยตรงในที่จอดรถ… พูดง่ายๆ คือพื้นที่จอดรถจะเป็นที่ชาร์จไร้สายขนาดใหญ่ตัวเดียว”
แบตเตอรี่ “หมายความว่าแบตเตอรี่จะต้องได้รับการดัดแปลงใช่ไหม?”
ลู่โจวคิดเกี่ยวกับมันและพูดว่า “หรือเธอจะใส่เครื่องรับในแบตเตอรี่ล่ะ”
เฉินยู่ซาน “ฟังดูน่าสนใจ… แล้วมันเป็นไปได้ไหม?”
“ฉันคิดว่ามันค่อนข้างง่ายนะ แต่นั่นเป็นเพียงความเห็นของฉันเท่านั้น… ดังนั้นผมจะไปถามคนจากสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงดู ฉันคิดว่าที่นั่นต้องมีผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้แน่นอน”
เฉินยู่ซาน “เอาล่ะ ตราบใดที่นายคิดว่ามันจะได้ผล ฉันก็จะส่งคนไปเจรจาทางการเงินให้นะ แต่เราต้องลงทุนในไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสตาร์ทอัพหรือซื้อกิจการที่โตเต็มที่ ไม่ใช่แค่สถานีชาร์จเท่านั้น แต่อย่างอื่นด้วยเช่นกัน!”
ลู่โจว “อย่างอื่นเหรอ?”
“ใช่” เฉินยู่ซานกล่าวอย่างมั่นใจ “ใครก็ตามที่เป็นผู้นำด้านไฟฟ้า จะเป็นเจ้าแห่งอนาคต!”
…………………